<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 พฤษภาคม 2553
 
 
น้ำใจของคนนิวยอร์ค

เมื่อวาน เป็นวันที่เป็นที่มาของหัวข้อในวันนี้

มีน้องที่จะมาพักที่บ้านเดินทางจาก บัลติมอร์ ด้วยรถบัส ซึ่งเป็นการเดินทางระหว่างเมือง อีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกและราคาน่าคบ เมื่อเทียบกับ รถไฟที่เรียกว่า Amtrak

น้องจะเดินทางมาด้วย bolt bus https://www.boltbus.com/ ซึ่งจุดจอดรถอยู่ที่เดินทางค่อนข้างสะดวกคือ 33 street 7 Ave หน้าร้าน Sbarro pizza ที่มองเห็นได้ชัดเจนเวลาเดินออกจาก penn station หรืออยู่หัวมุมฝั่ง hotel pensylvania

นัดกันเรียบร้อยว่าน้องจะมาถึงช่วง หกโมงครึ่งตอนเย็น ซึ่งไม่มีปัญหาเพราะตอนนี้สองทุ่มถึงจะมืด

ชาลีออกจากบ้านไปทำงานตอนบ่ายสาม เราจึงกระโดดขึ้นรถไปด้วย เพื่อไปชอบปิ้งรอ ก่อนจะไปรับน้อง

long island railroad ที่ Jamaica station เป็นจุดเริ่มต้นของการเข้าเมืองของเรา



เนื่องจาก รถไฟจอดที่สถานี woodside ซึ่งเป็นบริเวณหนึ่งที่มีร้านอาหารและร้านขายของไทยอยู่ พอสมควร เราจึงถือโอกาสแวะที่สถานี นี้ก่อน

ร้านศรีประไพ ร้านอาหารไทยที่ขึ้นชื่อร้านหนึ่งของนิวยอร์ดก็อยู่ที่นี่ เรากับชาลีเคยมาทานแล้ว หนึ่งครั้ง อาหารรสชาติอร่อยสำหรับเรา แต่เคยอ่านเจอบางท่านบอกว่าเค็มไปหน่อย



ร้านนี้ขายอาหารและมีที่ขายของชำอยู่ด้วย


ร้านนี้ขายของชำ และมีอาหารสำเร็จรูปขายด้วย



ไม่กล้าถ่ายรูปในร้าน แต่เจอตั๊กแตนแช่แข็ง และของอื่นๆที่ไม่คิดว่าจะมีขาย ดังนั้นใครที่มานิวยอร์คไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอาหารแบบเมืองไทยรับประทาน ที่ต้องกลัวอาจจะเป็น ว่ามีเงินไม่พอรับประทานมากกว่า

ไปนั่งรอน้อง ที่ข้างห้างเมซี่ ที่มีที่นั่ง จัดให้นั่งได้ตามสบาย พร้อมเพื่อนๆ ที่มีปีกบืนโฉบและเดินแบบไม่กลัวโดนเหยียบ



จากที่นั่ง เงยหน้าขึ้นไปก็เจอ เอ็มไพน์เสตจ



พอไกล้เวลาก็เดินไปรอที่ ตำแหน่งที่จอดรถบัส



ขณะยืนรอเห็นรถตู้บริการที่เดินทางไป กลับ ระหว่าง ลากัวเดีย หรือ เจเอฟเค แอร์พอร์ตกับในเมืองแมนฮัตตัน ราคาไม่แพงเผื่อมีคนสนใจค่ะ





มีรถเข้ามาส่งคนและรับคนเป็นระยะ จนถึงเวลาที่รถที่น้องเดินทางมา น่าจะมาถึง แต่ยังไม่เห็น จึงยืนรอจนหนึ่งทุ่ม แล้วลองโทรไปหาน้อง เนื่องจากไม่มีโทรศัพท์มือถือจึงต้องใช้โทรศัพท์สาธารณะที่หาไม่ยากในแมนฮัตตัน แต่ราคาสุูงตามค่าของชีพ คือต้องหยอดเหรียญครั้งละ หนึ่งเหรียญ ถึงจะต่อได้ ถ้าเป็นรอบน้องเช่นแถวควีนส์หยอด ห้าสิบเซนต์ก็โทรได้แล้ว

เราหยอดเงินโทร แต่ไม่มีคนรับสาย มีเสียงตัดเข้าฝากข้อความ เงิน ของเราก็หายเข้าไปในเครื่อง บางทีหยอดไม่ทันเงินก็หายไปเฉยๆ จนเงินเหรียญหมด จึงได้เวลาพิสูจน์น้ำใจคนแปลกหน้าในนิวยอร์ค

คนแรกเป็นหญิงสาวที่กำลังรอขึ้นรถ ในมือคีบบุหรี่ และมีมือถือในมือ ดูท่าทางเป็นมิตร เราขอความช่วยเหลือเธอไม่รอช้ารีบยื่นให้เราทันที แต่โทรไม่ติด

จนทุ่มครึ่ง เราตัดสินใจวิ่งไปตึกเอ็มไพน์สเตจเพื่อหาน้องที่พักอยู่ด้วยซึ่งเป็นเพื่อนของน้องที่มาใหม่ว่า เราหากันไม่เจอ

การเข้าตึกเอ็มไพน์สเตจ ต้องมีตั๋ว เราตัดสินใจเข้าไป และโชคดีเจอหนุ่มผิวดำที่ทำงานอยู่ ถามไถ่และอำนวยความสะดวกพาเราขึ้นไปในตึกส่วนที่น้องทำงานอยู่จนเรียบร้อย เป็นคนใจดีมีน้ำใจอีกคนที่เราได้พบ

หลังจากน้องโทรถามให้พบว่าเพื่อนเพิ่งมาถึง คงเพราะรถติด เราก็รีบบอกว่าให้ไปรอที่ที่ลงรถ แล้ววิ่งออกจากตึกเอ็มไพน์ฯ มาที่หน้าร้านพิซซ่า

แต่พอมาถึงกลับไม่เจอใครอีก ต้องควานหาเบอร์โทรศัพท์ที่่ไม่แน่ใจว่าเหน็บไว้ไหน ถ้าไม่เจองานนี้คงต้องวิ่งกลับไปหาหนุ่มคนเดิมเป็นแน่แท้

โชดดีที่หาเจอ แล้วก็ต้องหาชาวนิวยอร์ดผู้มีน้ำใจอีกรอบ คราวนี้ผู้โชคร้ายที่โดนเราเข้าไปรบกวน แต่ใจดีมีน้ำใจเป็นสาวสวย เดินอย่างมั่นใจ ที่สำคัญมีมือถืออยู่ในมือ เธอดูท่าทางระวังตัวแต่ไม่ปฏิเสธ ถามเราว่าเราชื่ออะไรแล้วจัดการหมุนโทรศัพท์พร้อมทั้งคุยกับน้องปลายสายก่อน แล้วจับมือถือไว้ในมือแต่ยื่นมาแนบหูให้เราพูดต่อ ถึงแม้เธอจะไม่ไว้ใจให้เราถือโทรศัพท์ แต่ก็มีน้ำใจถามย้ำว่าเราติดต่อคุยกับน้องรู้เรื่องแล้วน่ะ

เราติดต่อน้องได้อีกรอบและพบว่ารถไปส่งที่ 8th Ave

งานนี้ได้ประสพการณ์ว่าถ้าจะนัดใครในแมนฮัตตันควรระบุ street และ Avenue รวมทั้งชื่อร้านที่จะยืนรอ เพราะรถบัสอาจจะเลื่อนไปจอดที่อื่น ถึงแม้ไม่ไกล แต่ก็ทำให้หากันไม่เจอได้

งานนี้สงสารน้องที่ต้องลากกระเป๋าใบใหญ่สองใบไปมา กว่าจะหาพี่เจอ

หลังจากเจอกัน พวกเราก็ลากกระเป๋า ลง subwayสาย E ที่มีทางเข้าอยู่ที่ 33 street 8th Ave หรือจะเดินลงไปใน penn station ก็จะมีป้ายชี้ไปทางsubway



นั่งสาย E มาต่อสาย J ที่ sutphin blv มาถึงสถานีที่บ้านอย่างเรียบร้อย

คนเมืองใหญ่อย่างนิวยอร์คมีคนมีน้ำใจอยู่มากมาย และคงเป็นเพราะที่นี่เป็นเมืองที่มีคนทุกชาติทุกภาษา มาทำงาน ท่องเที่ยว ตั้งถิ่นฐาน ทำให้ การที่เขาเห็นคนผมดำหน้าตาแปลกๆ อย่างเราเข้าไปขอความช่วยเหลือ เขาก็ไม่รู้สึกแปลกใจ และพร้อมช่วยเหลือ

ย้อนกลับไปเมื่อวันเสาร์พวกเราไปเยี่ยมพ่อ เพราะวันอาทิตย์เป็นวันแม่ คาดว่าคนคงไปที่เนอร์สซิ่งโฮมเพื่อเยี่ยมแม่กันเยอะ



หลังจากไปเยี่ยมพ่อ พวกเราก็ไปทานอาหารเวียดนามร้านประจำที่ elmhurst



เราสั่งแหนมเนือง ชาลีสั่งเนื้อย่างที่เสริฟมาพร้อมกับเส้นเล็กและน้ำจิ้ม



อาหารอร่อย และไม่แพง สองจาน ยี่สิบเหรียญ




วันอาทิตย์ เป็นวันแม่ ที่นี่ให้ความสำคัญมาก ในข่าวว่า เป็นวันที่มีการให้ของขวัญมากเป็นอันดับที่สองรองจากเทศกาลคริสมาตย์

นอกจากของขวัญแล้วที่สังเกตุได้คือดอกไม้ มีการตั้งขายดอกไม้ตามข้างทางอย่างเป็นล่ำเป็นสัน



สี่แยกไฟแดงก็มี



บนจาไมก้าเอเวนิว ใต้รางรถไฟใต้ดิน



บางบ้านก็เอามาขายหน้าบ้าน



อาทิตย์ที่แล้ว ชาลีเริ่มขนต้นไม้ออกมาจากบ้านเพื่อเตรียมลงดิน



เมล็ดที่เพาะไว้เริ่มงอกแล้ว



แต่ตอนนี้อากาศที่นี่กลับมาเย็นอีกครั้ง ยังดีที่ไม่ถึงขนาดเป็นน้ำแข็ง แต่ก็สงสารต้นไม้ไทยๆของเราที่เพิ่งขนออกไป

ต้นบลูเบอร์รี่เริ่มเห็นแล้วว่าจะมีลูก



เชอร์รี่



อาหารวันอาทิตย์ เป็นฝีมือพ่อครัว เพราะแม่ครัวขี้เกียจ



ตอนนั่งรถไปที่ jamaica station เห็นเฮลิคอบเตอร์แบบแปลกๆบินผ่าน พร้อมมีสำอื่นบินตาม ชาลีบอกว่าเป็น airforce one รีบคว้ากล้องมาถ่าย ไม่ได้ซูมเลยเห็นไกลๆ บนยอดเสาไฟ



ปิดท้ายด้วยภาพหุ้นตกที่ต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ เห็นว่า เทรดเดอร์ พิมม์ยอดการขายหุ้นจาก M คือ millions เป็น B คือ billions







ต่อด้วยภาพของกินที่ถ่ายจากซุบเปอร์มาเกตุที่ elmhurst วันที่ไปทานอาหารเวียดนาม ซึ่งบางอย่าราคาก็น่าคบ แต่บางอย่างต้องรอไปทานที่เมืองไทย









สาวน้อยในสวน



ชาลีกับน้องแมวผู้น่าสงสารเพราะไม่มีคนรัก



ภาพสุดท้ายเป็น น้ำใจจากน้องที่ไม่เคยพบ ได้แต่คุยกันทางตัวหนังสือ ขอบคุณน้องปุ้ยสำหรับของฝากค่ะ



ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน และน้ำใจที่มีให้ค่ะ

โชคดีมีความสุขทุกคนค่ะ



Create Date : 12 พฤษภาคม 2553
Last Update : 12 พฤษภาคม 2553 8:04:17 น. 9 comments
Counter : 1644 Pageviews.

 
อรุณสวัสดิ์ต้อนรับเช้าวันใหม่ ขอให้ทำงานอย่างมีความสุขนะคะ ^__^


โดย: หาแฟนตัวเป็นเกลียว วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:01:58 น.  

 
น้ำใจคนนิวยอร์คยังมีอยู่จริงๆด้วย
อ่านไปก็ลุ้นไป กลัวว่าคนนิวยอร์คจะไม่สนใจใคร ต่างคนต่างอยู่ แต่โชคดีีที่ได้เจอแต่คนที่พร้อมให้ความช่วยเหลือนะคะ

คนนิวยอร์คน่ารักจริงๆ

วันแม่คุณแม่ที่นั่นคงเ็ป็นปลื้มอีกวันแน่ๆเลย
มีดอกไม้เต็มเมืองไปหมด ทั้งได้รับ ทั้งได้ดู

ได้เห็นเฮลิคอปเตอร์ของพี่โอบาม่าด้วยเหรอคะ ถ่ายรูปได้ในจังหวะดีจังค่ะ

ขอบคุณที่พาชมนิวยอร์คในวันนี้ด้วยนะคะ



โดย: Shallow Grave วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:9:09:03 น.  

 
ดีจังค่ะ อย่างน้อยก้อทำให้ได้รู้ว่า คนทั่วโลก แตกต่างภาษา แตกต่างเชื้อชาติก้อยังพอหาคนมีน้ำใจได้เหมือนกันนะคะ
เห็นท่าคุณชาลี แกคงชอบแหนมเนืองนะคะ (น้อยเข้าใจผิดไปหรือเปล่า) ดูแค่ในรูป น่าทานดีจัง มีผักซะท่วมจานเชียว เครื่องเคียงเพียบด้วย ว่าแล้วก้อให้คิดถึงรสชาด ฮะฮ่าฮ่า (ชิมทางสายตาไปพลาง ๆ )
นึกไปอาหารการกินของคนเอเชีย ก้อมีกระจายไปทั่วโลกนะคะ ผัก ผลไม้ และ แหม ขอแอบยิ้ม เคยได้ยินมาบ้างเหมือนกัน แต่ไม่เคยเห็นของจริง ๆ คือ ตั๊กแตนกระป๋อง ก้อยังมี (คนคิดไอเดียนี้ น่านับถือ ช่างคิดจริง ๆ)
แวะมาอ่านบล้อกค่ะ ขอบคุณที่นำทัวร์ค่ะ ได้ความรู้จากอีกมุมโลกหนึ่งเยอะเลยค่ะ


โดย: น้อยค่ะ (GLA_GAW ) วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:16:59:53 น.  

 
ตั๊กแตนแช่แข็ง โหเอาเข้ามาใน เมกา ได้ไงนี่ไว้จาลองไปดู .. อาหารเวียดนามร้านนี้อร่อยครับ ชอบชอบ


โดย: everything on วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:28:22 น.  

 
เพิ่งเข้ามาอ่านบล็อกนี้ค่ะ ชอบรูปสุดท้ายที่สุด ไม่นึกว่าพี่จะเอามาโชว์ อิอิ ถือว่าเป็นน้ำใจเล็กน้อยจากคนไทยค่ะ (จะได้ไม่แพ้คนนิวยอร์ก ) สินค้าพื้นเมืองจากไทย (หาซื้อได้ที่ตลาดนัดจตุจักร) ได้โกอินเตอร์ไปเมืองมะกัน ที่เลือกสีนี้จะได้ตัดกับสีสันสดใสของบ้านพี่ค่ะ

พูดถึงคนนิวยอร์ก ตอนไปนิวยอร์กครั้งแรกก็รู้สึกตื่นตากับเมืองใหญ่(มาก) ตึกสูง ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติและรู้สึกกลัวๆ ไม่กล้าคุยกะคนแปลกหน้า แต่แฟนบอกว่า you ไม่ต้องกลัวหรอก ที่เดินๆ อยู่ตามถนนน่ะก็คนต่างถิ่นทั้งนั้น หาคนนิวยอร์กจริงๆ หายาก อันนี้คิดว่าจริง ไปครั้งหลังๆ นี่เริ่มจะิชินแล้ว


โดย: ปุ้ย (PizzaBKK ) วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:21:17:14 น.  

 
ดีจังเลยค่ะ มีร้านค้าไืทยๆเพียบเลย
เห็นร้านเวียดนามผักเยอะๆแบบนี้แล้วอยากหาที่นี่ให้ได้ซักที่จัง ดูเหมือนจะแพงกว่าปกติแอ๋นถึงไม่นิยมไป ดีจังที่นั่นราคาน่าคบ เป็นเราก็คงต้องไปบ่อยๆอ่ะ อาหารสุขภาพนี่เนาะ


โดย: anigia วันที่: 12 พฤษภาคม 2553 เวลา:23:58:10 น.  

 
หวัดดีค่าพี่รัตน์ สบายดีนะคะ

ท่าทางอากาศที่นู่นเริ่มอุ่นบ้างแล้ว

ดีจ้งเลยนะค่า


โดย: kiriya วันที่: 14 พฤษภาคม 2553 เวลา:10:49:20 น.  

 
แหนมเนืองน่ากินจังเลยค่ะ ขนาดอยู่เมืองไทยก็ไม่ค่อยได้ซื้อมาทานตั้งนานแล้ว เดี๋ยวต้องไปหามาหม่ำซักหน่อยแล้ว....

โชคดีนะคะที่เค้าไม่เหยียดผิวและพร้อมจะช่วยเหลือ เคยไปซานฟรานกับฟลอริด้า คนที่นั่นก็น่ารักเกือบทุกคนเหมือนกันค่ะ


โดย: เพียว (123zarender ) วันที่: 14 พฤษภาคม 2553 เวลา:19:55:24 น.  

 
ร้านเวียดนามที่ขายแหนมเนือง ชื่อร้านอะไรเหรอคะ พอดีเพิ่งย้ายมา แล้วอยากแวะไปทานคะ ขอบคุณคะ


โดย: bank IP: 24.186.176.251 วันที่: 17 สิงหาคม 2553 เวลา:0:15:59 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

Charlie^^
Location :
new york United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 19 คน [?]




[Add Charlie^^'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com