สะพายกล้องท่องขุขันธ์ เที่ยวปราสาทตาเล็ง ภาค 2
สะพายกล้องท่องขุขันธ์ เที่ยวปราสาทตาเล็ง



จูงก๊ะ...สวัสดีครับ แม โอว บอง ประโอน..แซมซาย มนาย โอวปุ
สะพายกล้องท่องขุขันธ์วันนี้ ทีมงานคนเซราะกราว โดยเด็กชายสังวีดจีวจีว
ขอนำท่านผู้ชมมาท่องเที่ยวที่ปราสาทตาเล็ง
ซึ่งเป็นโบราณสถานอันเก่าแก่ที่สุดในอำเภอขุขันธ์ มีอายุประมาณพันปีมาแล้ว
ตั้งอยู่ที่บ้านปราสาท ต.ปราสาท อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ
ปราสาทตาล็งอยู่ห่างจากตัวอำเภอขุขันธ์ประมาณ 20 กม.
ทางด้านทิศตะวันตกตัวอำเภอขุขันธ์ออกมาทางอำเภอสังขะ


กำลังมุ่งสู่ ตัวเมืองขุขันธ์อยู่เบื้องหน้า


ป้ายชี้ทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่อยู่ใน อ. ขุขันธ์

เพื่อไม่ให้เสียเวลา ขอตั้งต้นกันที่ ที่ว่าการอำเภอขุขันธ์ ก็แล้วกันครับ เพราะว่าสถานที่แห่งนี้ทุกคนคงรู้จักกันดี เวลาไปถ่ายบัตรประชาชนต้องไปกันที่นี่



อนุสาวรีย์พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน (ตากันจ๊ะ) ผู้สร้างเมืองขุขันธ์ ก่อสร้างประดิษฐานอยู่ข้างที่ว่าการอำเภอ เมื่อ ปี 2547


รูปปั้นช้างครอบครัว อยู่ข้างที่ว่าการ เช่นเดี่ยวกัน


บรรยากาศ 2 ข้างทาง ในตัวอำเภอ (ด้านหน้าที่ว่าการ)

เริ่มเดินทางตามถนนหน้าที่ว่าการอำเภอ ผ่านโรงพักขุขันธ์ ออกมาทางบ้านแทรง พอถึงสามแยกแล้วเลี้ยวซ้ายมาทางบ้านราษีพัฒนา ถึงสามแยกก่อนที่จะถึงบ้านราษีให้เลี้ยวขวาแล้วตรงมาเรื่อยๆตามถนนลาดยางเลย ก็จะผ่านทุ่งนาอันกว้างใหญ่ไพศาล


เห็นควายข้างทางที่หากินอยู่ตามทุ่งนาชะเง้อคอแหงนมองก็ไม่ต้องสนใจ เพราะว่าชาวบ้านแถวนี้ ประกอบอาชีพเป็นชาวนา ย่อมมีวัวควายไว้ใช้งาน หรือเลี้ยงเชิงพาณิชย์ เป็นธรรมดา
ขับรถตรงมาเรื่อยๆ ก็จะผ่านบ้านคะนาสามัคคี – บ้านขนุนตาวัง -บ้านเสลา นาก๊อก
(เซราะเสลา เซราะก๊อก ) ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านสะพานข้ามห้วยสำราญ (คนแถวนั้นเรียกสะพานนี้ว่า สะเปียนหาล )


แล้วก็เข้าเขตบ้านกันทรารมย์ (เซราะรึมปุก)




จะเห็นประตูทางเข้าวัดและกำแพงเป็นศิลปะขอมโบราณ ออกแบบได้สวยงามมาก เวลาขับรถผ่านตรงนี้ ความรู้สึกจะคล้ายๆกับกำลังขับรถผ่านนครธมของกัมพูชากันเลยเชียวหล่ะ ให้ตรงไปเรื่อยๆ จะผ่านบ้านตาไอ





บริเวณหมู่บ้านนี้ถนนค่อนข้างเป็นหลุมเยอะหน่อย ให้ขับรถอย่างระวัดระวังด้วย เพราะรถท่านอาจจะพังจากการตกหลุมได้ ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านตระเปียงกบาลตันเร็ย (หนองหัวช้าง) ผ่านหมู่บ้านศรีอุดม ผ่านเวียลเซรา (ทุ่งนา) อีกครั้ง


ควายหลบมุม พักร้อนอยู่สองข้างทาง เป็นบรรยากาศ ที่หาได้ไม่ยากนัก



ประตูทางเข้าบ้านปราสาท ก่อสร้างเป็นปราสาทจำลอง

ตรงมาเรื่องๆ ถึงทางเลี้ยวหักมุมตรงหน้าประตูทางเข้าหมู่บ้านปราสาท ให้เลี้ยวขวาเข้าเขตหมู่บ้านปราสาทเลย จะผ่านสถานีอนามัยตำบลปราสาท




ถึงสี่แยกกลางหมู่บ้านเลี้ยวขวาอีกครั้ง ก็จะพบกับโบราณสถานเก่าแก่ที่คนแถวนั้นเรียกว่า “ปะเร็ยปราสาท” ซึ่งอยู่คู่หมู่บ้านนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ที่ชาวบ้านแถวนี้เขาเรียกว่าปะเร็ยปราสาท ก็เพราะว่ารอบๆบริเวณปราสาทหิน ถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ อายุหลายร้อยปี (ต้นสำรอง ต้นตระแบก ต้นมะขาม) ยืนสูงตระหง่านอยู่เคียงข้างตัวปราสาทตาเล็งอย่างเข้ากันดีมากในเรื่องของอายุปราสาทที่เก่าแก่กับต้นไม่ที่สูงใหญ่ สัญนิฐานว่าต้นไม้ใหญ่เหล่านี้คงเกิดมาพร้อมๆกับการสร้างปราสาทแห่งนี้เลยทีเดียว ยิ่งถ้าหากว่ามาชมตัวปราสาทยามเย็นๆใกล้พลบค่ำแล้วด้วย บรรยากาศของต้นไม้ใหญ่กับตัวปราสาทหินดูแล้วเข้ากันดีทำให้ขลังน่ากลัวดีมาก




ตัวปราสาทตาเล็งใครเป็นคนสร้างไม่อาจทราบได้ เพราะว่าเราเกิดที่หลังเขา เคยได้ยินสมัยปู่ย่ายังมีชีวิตอยู่ท่านเล่าให้ฟัง ว่าท่านเกิดที่หมู่บ้านแห่งนี้ ตั้งแต่เด็กเกิดมาก็เห็นปราสาทเป็นอย่างนี้แล้วก็เลยไม่รู้ว่าใครเป็นคนสร้าง แต่เมื่อก่อนตัวปราสาทจะสูงกว่านี้ก่อนที่ปราสาทจะพังอยู่ในสภาพเช่นทุกวันนี้




ปราสาทตาเล็งเป็นปราสาทขนาดเล็กหลังเดี่ยว อยู่ท่ามกลางป่าใหญ่ทางด้านตะวันออกเขตหมู่บ้าน ตัวปราสาทมีการแกะสลักหินเป็นลวดลายสวยงามมากแห่งหนึ่ง ก่อด้วยหินทราย และอิฐบนฐานศิลาแลง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนยอดด้านบนหักพังกระจัดกระจายอยู่รอบๆตัวปราสาทหมดแล้ว ที่เหลือคือส่วนเรือนธาตุที่ก่อด้วยหินทรายเป็นกรอบประตูปราสาท เฉพาะด้านทิศตะวันออก อีกสามด้านก่อเป็นผนังทึบเป็นประตูหลอก คือแกะสลักหินรูปร่างคล้ายกับประตูแต่ไม่สามารถเข้าออกได้ เรียกว่าประตูหลอก






ที่เสาประดับผนังของกรอบประตูด้านทิศตะวันออก ต่อเนื่องขึ้นไปจนถึงกรอบหน้าบันมีการแกะสลักลวดลายอย่างสวยงาม โดยบริเวณเสาประดับผนังทั้งสองข้างมีการ แกะสลักเป็นลายก้านขดในแต่ละโค้งตรงกลางสลักเป็นรูปหงส์ บริเวณหัวเสาแกะสลักเป็นลายกลีบบัว ลายใบไม้ ส่วนหน้าบันที่เหลืออยู่เฉพาะปลายกรอบทั้งสองข้าง สลักเป็นรูปนาคห้าเศียรสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่านาคยังมีเขี้ยวเหมือนเขี้ยวเหมือนงูอยู่ด้วย ซึ่งเป็นลวดลายแกะสลักที่ละเอียดปราณีตมาก และที่หน้าบันทับหลังที่ตกอยู่หน้าปราสาทมีการแกะสลักเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัญ ยืนอยู่บนหัวยักษ์


พญานาคอยู่บนหัวเสาแกะสลักได้งดงามมาก ถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นเขี้ยวนาค เห็น เกล็ด ยังอยู่ชัดเจนเลยครับ



อันนี้น่าจะเป็นลายหงส์ บินครับ เท่าที่เคยไปเห็นปราสาทหินหลายแห่งมา เห็นมีที่ปราสาทตาเล็งแห่งเดียวที่ประดับลวดลายนี้

และโดยรอบตัวปราสาทมีหินมีส่วนประกอบของปราสาทตกอยู่หลายชิ้นกระจัดกระจาย ทับหลังอีกชิ้นหนึ่งตกอยู่ที่พื้นดินเป็นรูปพระอินทร์ทรงหงส์ ทับหลังชิ้นอื่น มีลักษณะคล้ายกัน แต่ภาพใบหน้าหน้าเทวรูปตรงกลางถูกกะเทาะออกไปหมด คิดว่าที่เป็นเช่นนี้น่าจะเกิดจากฝีมือคนขโมยกะเทาะเอาไปมากกว่าจากสามาเหตุอื่น





ต้นไม้ที่อยู่ล้อมรอบบริเวณตัวปราสาท น่าจะมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับปราสาทหินแน่นอน



ต้นไม้ บางต้นยื่นตระหง่านผ่านเวลามาหลายชั่วอายุคนแล้ว ก็ผุพังไปเป็นธรรมดา






ทางด้านทิศตะวันออก เป็นแนวศิลาแลง ที่ เป็นขอบฐานของซุ้มประตู และมีคูน้ำอยู่ล้อมสามด้าน ยกเว้นด้านทิศตะวันออก ตรงไปจากฐานซุ้มประตูทิศตะวันออก มีแนวคันดินคล้ายถนนเป็นแนวตรงไปสู่สระน้ำขนาดใหญ่ที่คนแถวนั้นเรียกว่า (ตระเปียงละเบิก) ซื่งเป็นแหล่งน้ำใช้สอยที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนคนในชุมชนรอบๆ ปราสาทตาเล็งแห่งนี้ได้อย่างดี



จากลักษณะทางศิลปกรรม กรมศิลปากรได้สันนิฐานว่าปราสาทตาเล็งได้สร้างขึ้น โดยมีรูปแบบศิลปะเขมรแบบปาปวน มีอายุอยู่ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๖ - ๑๗ (สร้างขึ้นก่อนการตั้งกรุงสุโขทัยของไทยซะอีก) ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๕ โดยมีขอบเขตโบราณสถาน เป็นพื้นที่ประมาณ ๓ ไร่ ๒ งานเศษ ปราสาทตาเล็งจึงเป็นโบราณสถานที่น่ามาเที่ยวชมเพื่อศึกษาอารยธรรมความเจริญรุ่งเรืองของดินแดนอีสานใต้ในอดีตได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียวครับ


เป็นอย่างไรบ้างหละครับมาเที่ยวปราสาทตาเล็ง กับผมเด็กชายสังวีด..จีวจีว....ครั้งนี้ คิดว่าคงทำให้คุณผู้ชมทุกท่านได้เห็นภาพความเจริญรุ่งเรืองในอดีตบรรพบุรุษของชุมชนบ้านเราได้อย่างดีนะครับ แต่ถึงผมจะบรรยายได้ดีเพียงไรก็คงไม่เหมือน ท่านมาสัมผัสสถานที่แห่งนี้ด้วยตัวของท่านเองนะครับ เพราะปราชญ์ผู้รู้ท่านบอกว่า “คนอ่านหนังสือสิบเล่มไม่เท่าคนเดินทางมาดูดูตาตนเองเพียงหนึ่งครั้ง”วันนี้ผมเด็กชายสังวีด..จีว..จีว... พร้อมทีมงาน คนเซราะกราว ขอลาทุกท่านไปก่อนครับ ท่านใดที่สนใจก็มาเที่ยวปราสาทตาเล็งที่นี่ ก็มาได้เลยนะครับเพราะคนที่นี้ใจดีมีน้ำใจ มีรอยยิ้มทุกคน รับรองว่าท่านมาเที่ยวแล้ว ท่านต้องประทับใจอย่างแน่นอน ชาวบ้านปราสาทยินดีต้อนรับทุกท่านครับ



Create Date : 13 มีนาคม 2552
Last Update : 13 มีนาคม 2552 19:10:11 น.
Counter : 3718 Pageviews.

24 comments
  
เห็นภาษา ขแมร์ แล้วคิดถึงอดีต ซีบาย
โดย: น้ำเค็ม วันที่: 13 มีนาคม 2552 เวลา:20:07:31 น.
  
จุงกะ ยังไม่เคยได้ยินปราสาทนี้เลย มันไกลนะ แล้วก็เล็ก คงไม่ค่อยมีใครได้เข้าไปเยี่ยมชมนะค่ะ
โดย: พนมรุ้ง12 วันที่: 15 มีนาคม 2552 เวลา:19:26:07 น.
  
เล็กมากเลยเนาะ
ไม่เคยไปเล้ย
แต่วัดที่ว่า ผ่านเมื่อไหร่
รู้สึกว่าตัวเองเป็นนางอัปสราทุกที ฮา

ซี บาย ออย เดง กึด
^
^
อืมๆๆๆ เห็นด้วยๆ
โดย: fonrin วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:23:40:08 น.
  
สวัดีคับคิดถึงบ้านจัง
เคยไปแล้วบ่อยด้วยผ่านทุกวันเลยตอนเรียนม.ต้นที่ ร.ร บ้านปราสาท
เป็นปราสาทที่มองดูแล้วมีอำนาจลึกลับและมีมนตน์คลัง
ไปเที่ยวกันหน่อยนะคับ
โดย: นับ IP: 192.168.32.20, 202.29.30.241 วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:24:26 น.
  
กึดดอลบะเตียร
จังเลย
โดย: กรวด IP: 192.168.32.20, 202.29.30.241 วันที่: 26 กรกฎาคม 2552 เวลา:13:26:25 น.
  
เกิดมาก็ได้เห็นตอนพี่ชายปันจักยานพาไปเที่ยวไม่นานหรอกสัก27ปีมาแล้ว เองครับ
คิดถึงบ้านเหมื่อนกัน ผมเป็นคนบ้านมะขามครับเกิดที่นั้นแต่มาโตที่ปากเกร็ดงงมั้ย บ้านผมอยู่ซ้ายมือถ้ามาจากบ้านสกุลหลังแรกเลยครับพี่น้อง
โดย: นามสกุล เกษมงคล อยู่บ้านมะขาม IP: 124.120.73.11 วันที่: 7 ตุลาคม 2552 เวลา:21:52:57 น.
  
ได้ดูรูปพวกนี้แล้วคิดถึงบ้านจัง
โดย: คนขุันธ์ IP: 192.168.1.158, 127.0.0.1, 202.29.42.234 วันที่: 11 พฤศจิกายน 2552 เวลา:10:23:21 น.
  
ซีบาย ออย เดงกึด เบอ ทา ซี มินเดง กันนึด ซี เฮย จุ๊ฮฺ จอล

แปลว่าอะไรค่ะ?
โดย: งง IP: 113.53.48.135 วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:14:30:12 น.
  
ซีบาย ออย เดงกึด เบอ ทา ซี มินเดง กันนึด ซี เฮย จุ๊ฮฺ จอล
แปลว่า เมื่อเรากินข้าวไปแล้วควรทำตัวให้เกิดประโยชน์ด้วย ไม่ใช่กินไปแล้วย่อยสลายกลายเป็นขี้ออกมาเฉยๆ โดยไม่ทำประโยชน์อะไรเลย
โดย: เจ้าของบล๊อก IP: 118.173.243.185 วันที่: 11 ธันวาคม 2552 เวลา:10:44:12 น.
  
จูงกะ..กราบสูรบองปีโอนเรือนคะเนียบาด ....บ้านกันทรารมย์ (เซราะรึมปุก) มีสิมที่สวยงามมากเป็นศิลปะชาวบ้านที่งามจริง.....ไม่เห็นเอามาลงบ้างเลย ปราสาทก็ถ่ายมานิดเดียว....บารายด้วย...จะไปทำไมอะนะ.....น่าเสียดายจริง.......เอาแต่มุมมองมากไปหน่อยนะสาระมะค่อยมีเลย...
โดย: แขมร์เซราะโสเร็น IP: 203.144.144.164 วันที่: 19 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:11:57:01 น.
  
กึดดอลเปตี๊ยะสรอกโคกสวาย
โดย: เนียงปุ๊ สรอกโคกสวาย IP: 118.173.157.36 วันที่: 23 เมษายน 2553 เวลา:17:00:05 น.
  
เคยเฮยกึดดอลแม้ดำลวกซัตจรูกเนาตลาดขุขันธ์ กึดดอลแม้ เอา บอง ประโอน มันบานลพปะเตียยูรเฮย โกนขุขันธ์
โดย: โกนแดง ท่าบ่อ หนองคาย IP: 125.26.222.222 วันที่: 19 พฤษภาคม 2553 เวลา:17:24:50 น.
  
สาวบ้านปราสาทละออจะนับเลย
โดย: อ้น IP: 113.53.230.146 วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:10:23:49 น.
  
รักบ้านปราสาทมากค่ะอ้นม.ร.ฎ.ภ
โดย: อ้นคนบ.ปราสาท IP: 113.53.230.146 วันที่: 26 สิงหาคม 2553 เวลา:10:29:54 น.
  
ต้องการซ้อที่นาแถว ตำบลหนองฉลอง
โดย: คนขุขันธ์ IP: 58.9.157.204 วันที่: 29 สิงหาคม 2553 เวลา:9:32:06 น.
  
ภาพสวยจริงๆ แต่เป็นสถานที่ีที่คุ้นตามากเหมือนเคยไปมาแล้วจัง
โดย: ticha IP: 117.47.103.43 วันที่: 29 ธันวาคม 2553 เวลา:20:10:44 น.
  
แนะนำเว็บท่องเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม
โดย: attractions (loveyoupantip ) วันที่: 7 สิงหาคม 2554 เวลา:10:00:55 น.
  
//www.youtube.com/watch?v=LXr9bxnpt7o
โดย: เซราะกราว IP: 118.175.78.120 วันที่: 4 ตุลาคม 2554 เวลา:15:58:25 น.
  
กึ่ตดัอลปะเปี้ยเลย
โดย: sit IP: 124.120.8.220 วันที่: 28 มิถุนายน 2555 เวลา:8:13:10 น.
  
กึ่ตดัอลปะเปี้ยเลย
โดย: sit IP: 124.120.8.220 วันที่: 28 มิถุนายน 2555 เวลา:8:18:41 น.
  
กึดดอลปะเตียรเน
โดย: datkunrum@hotmail.com IP: 58.8.228.46 วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:21:56 น.
  
ขมาดเนาวสรกจะดอยบาด
กึดดอลปะเตียรเน้
โดย: datkunrum@hotmail.com IP: 58.8.228.46 วันที่: 18 กรกฎาคม 2555 เวลา:22:24:47 น.
  
คิดถึงขุขันจัง
โดย: พล IP: 183.88.36.42 วันที่: 24 กันยายน 2555 เวลา:12:28:31 น.
  
ขอบคุณ สำหรับข้อมูลดีๆ
โดย: pop IP: 223.205.248.146 วันที่: 6 สิงหาคม 2557 เวลา:20:15:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

tangkaodong
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ซีบาย ออย เดงกึด เบอ ทา ซี มินเดง กันนึด ซี เฮย จุ๊ฮฺ จอล
มีนาคม 2552

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31