======== ทางที่มัจจุราชจะมองไม่เห็นตัว =====
 
กรกฏาคม 2550
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
24 กรกฏาคม 2550
 
 

กระทู้จากห้องศาสนา เวบพันทิบ 2 พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนให้ "เมาบุญ" แต่สอนให้ "หลุดพ้น" จริงหรือ

//www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y5620935/Y5620935.html

ถามว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนให้ "เมาบุญ" แต่สอนให้ "หลุดพ้น" จริงหรือไม่ ?????

----------------------
ความคิดเห็นที่ 2

ถามว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนให้ "เมาบุญ" แต่สอนให้ "หลุดพ้น" จริงหรือไม่ ?????


--------- คิดว่าพระธรรมของพระพุทธองค์ เป็นไปเพื่อการพ้นทุกข์ เป็นเป้าหมายสูงสุด

หากแต่เมื่อสัตว์มีอินทรีย์ (ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา) ไม่เท่ากัน สัตว์ทั้งหลายพ้นทุกข์ให้ได้ตามลำดับตามกำลังของแต่ละคน

การทำดีด้วยทาน เป็นทางขั้นต้นในการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ (คือกรรมไม่ดำไม่ขาว เช่น
อริยมรรคมีองค์ 8
//84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=21&item=237&items=1&preline=0&pagebreak=0


โพชฌงค์ 7
//84000.org/tipitaka/read/byitem.php?book=21&item=238&items=1&preline=0&pagebreak=0

) มีผลดีต่อผู้ทำ แต่ต้องรู้เป้าหมายสูงสุดว่าคือการพ้นทุกข์ ด้วยการเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ต้องพยายามปฏิบัติไปสู่ความเป็นพระอริยเจ้า(เพื่อการทำให้ทุกข์น้อยลง จนถึงทุกข์หมดไป)ไม่ใช่การหลงติดผลแห่งบุญที่เป็นอามิส ไม่ติดสวรรค์


พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเทศนาให้บุคคลบางท่าน เห็นสูงขึ้นไปเป็นขั้นๆตามลำดับจนถึงอริยสัจจ์ 4 เพื่อการดับทุกข์ทั้งมวล


ทรงแสดงอนุปุพพิกถา
ทรงแสดงอนุปุพพิกถาและจตุราริยสัจ

//84000.org/tipitaka/pitaka_item/tipitaka_seek.php

-----------------

//84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=อนุปุพพิกถา

พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)


อนุปุพพิกถา เทศนาที่แสดงไปโดยลำดับ
เพื่อฟอกอัธยาศัยของสัตว์ให้หมดจดเป็นชั้นๆ จากง่ายไปหายาก
เพื่อเตรียมจิตของผู้ฟังให้พร้อมที่จะรับฟังอริยสัจจ์
มี ๕ คือ
๑. ทานกถา พรรณนาทาน
๒. สีลกถา พรรณนาศีล
๓. สัคคกถา พรรณนาสวรรค์ คือ ความสุขที่พรั่งพร้อมด้วยกาม
๔. กามาทีนวกถา พรรณนาโทษของกาม
๕. เนกขัมมานิสังสกถา พรรณาอานิสงส์แห่งการออกจากกาม
อนุปุพพีกถา ก็มีใช้
แก้ไขเมื่อ 18 ก.ค. 50 17:14:17

จากคุณ : วงกลม - [ 18 ก.ค. 50 17:10:42 ]

-------------------------------------------------


ขออาราธนาพระธรรมจากพระไตรปิฎก มาแสดงเพิ่มเติม นะครับ

ทรงแสดงอนุปุพพิกถา//84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=7&A=3557&w=อนุปุพพิกถา


พระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๗
จุลวรรค ภาค ๒


ทรงแสดงอนุปุพพิกถา


[๓๖๙] ครั้งนั้น บุรุษคนเดียวนั้นถือดาบและโล่ห์ผูกสอดแล่งธนู แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค กลัว หวั่นหวาด สะทกสะท้าน มีกายแข็ง ได้ยืนอยู่ในที่ไม่ไกล

พระผู้มีพระภาคๆ ได้ทอดพระเนตรเห็นบุรุษนั้น ผู้กลัว หวั่นหวาด
สะทกสะท้าน มีกายแข็ง ยืนอยู่

ครั้นแล้วได้ตรัสกะบุรุษนั้นว่า
มาเถิด เจ้าอย่ากลัวเลย

จึงบุรุษนั้นวางดาบและโล่ห์ปลดแล่งธนูวางไว้ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค ซบศีรษะลงแทบพระบาทยุคลของพระผู้มีพระภาคแล้วได้กราบทูลว่า

พระพุทธเจ้าข้า โทษมาถึงซึ่งข้าพระพุทธเจ้าตามความโง่
ตามความหลง ตามอกุศล เพราะข้าพระพุทธเจ้ามีจิตคิดประทุษร้าย มีจิตคิดจะฆ่าเข้ามาถึงที่นี้ ขอพระผู้มีพระภาคโปรดรับโทษของข้าพระพุทธเจ้านั้น โดยความเป็นโทษ เพื่อความสำรวมต่อไป พระพุทธเจ้าข้า

พระผู้มีพระภาคตรัสว่า
เอาเถอะเจ้า โทษมาถึงเจ้าตามความโง่ ตามความหลง ตามอกุศล เพราะเจ้ามีจิตคิดประทุษร้าย มีจิตคิดจะฆ่า เข้ามาถึงที่นี้
เมื่อใดเจ้าเห็นโทษ โดยความเป็นโทษ แล้วทำคืนตามธรรม
เมื่อนั้น เรารับโทษนั้นของเจ้า เพราะผู้ใดเห็นโทษโดยความเป็นโทษ แล้วทำคืนตามธรรม ถึงความสำรวมต่อไป ข้อนั้น เป็นความเจริญในอริยวินัย

ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอนุปุพพิกถาแก่บุรุษนั้น คือ
ทรงแสดงทาน
ศีล
สวรรค์
และอาทีนพ ความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามทั้งหลาย
แล้วจึงทรงประกาศอานิสงส์ในการออกจากกาม


เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า
บุรุษนั้นมีจิตคล่อง
มีจิตอ่อน
มีจิตปลอดจากนิวรณ์
มีจิตสูงขึ้นมีจิตผ่องใส


จึงทรงแสดงพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดงด้วยพระองค์เอง คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

ดวงตาเห็นธรรมปราศจากธุลีปราศจากมลทินว่า
สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
สิ่งนั้นทั้งมวลมีความดับเป็นธรรมดา

ได้เกิดแก่บุรุษนั้น ณ ที่นั่นนั้นแล ดุจผ้าที่สะอาดปราศจากมลทิน
ควรได้รับน้ำย้อมเป็นอย่างดี ฉะนั้น

ครั้งนั้น บุรุษนั้นมีธรรมอันเห็นแล้ว
ได้บรรลุธรรมแล้ว
ได้รู้ธรรมแจ่มแจ้งแล้ว
มีธรรมอันหยั่งลงแล้ว
ข้ามความสงสัยได้แล้ว
ปราศจากถ้อยคำแสดงความสงสัย
ถึงความเป็นผู้แกล้วกล้าไม่ต้องเชื่อผู้อื่นในคำสอนของพระศาสดา

ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก
ภาษิตของพระองค์ไพเราะนัก
พระพุทธเจ้าข้า
พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยายอย่างนี้
เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำเปิดของที่ปิด
บอกทางแก่คนหลงทาง
หรือส่องประทีปในที่มืดด้วยตั้งใจว่าคนมีจักษุจักเห็นรูป ดังนี้

ข้าพระพุทธเจ้านี้ขอถึงพระผู้มีพระภาค
พระธรรม
และภิกษุ
สงฆ์ว่าเป็นสรณะ
จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคได้รับสั่งกะบุรุษนั้นว่า เจ้าอย่าไปทางนี้ จงไปทางนี้ แล้วทรงส่งไปทางอื่น ฯ

[๓๗๐] ครั้งนั้น บุรุษสองคนนั้นคิดว่า ทำไมหนอ บุรุษคนเดียวนั้นจึงมาช้านัก แล้วเดินสวนทางไป ได้พบพระผู้มีพระภาคประทับนั่ง ณ โคนไม้แห่งหนึ่ง แล้วเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง

พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอนุปุพพิกถาแก่บุรุษ ๒ คนนั้น ...
พวกเขา ... ไม่ต้องเชื่อผู้อื่นในคำสอนของพระศาสดา
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก
ภาษิตของพระองค์ไพเราะนัก
พระพุทธเจ้าข้า ...
ขอพระผู้มีพระภาคจงทรงจำข้าพระพุทธเจ้าทั้งสองว่า
เป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะ จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคได้รับสั่งกะบุรุษทั้งสองนั้นว่า เจ้าทั้งสองอย่าไปทางนี้ จงไปทางนี้ แล้วทรงส่งไปทางอื่น ฯ

[๓๗๑] ครั้งนั้น บุรุษ ๔ คนนั้น ...
ครั้งนั้น บุรุษ ๘ คนนั้น ...
ครั้งนั้น บุรุษ ๑๖ คนนั้น คิดว่าทำไมหนอ บุรุษ ๘ คนนั้นจึงมาช้านักแล้วเดินสวนทางไป ได้ไปพบพระผู้มีพระภาคประทับนั่ง ณ ที่โคนไม้แห่งหนึ่ง

จึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอนุปุพพิกถาแก่บุรุษ ๑๖ คนนั้น คือ ทรงแสดงทาน ศีล ... พวกเขา
... ไม่ต้องเชื่อผู้อื่นในคำสอนของพระศาสดา
ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก
ภาษิตของพระองค์ไพเราะนัก
พระพุทธเจ้าข้า ... ขอพระผู้มีพระภาคจงทรงจำข้าพระพุทธเจ้าทั้ง ๑๖ คนว่า เป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะ จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป

ครั้งนั้น บุรุษคนเดียวนั้นได้เข้าไปหาพระเทวทัต แล้วได้กล่าวว่า
ท่านเจ้าข้า กระผมไม่สามารถจะปลงพระชนม์พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้นได้ เพราะพระองค์มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก

พระเทวทัตจึงกล่าวว่า อย่าเลยเจ้า อย่าปลงพระชนม์พระสมณโคดมเลย เรานี้แหละจักปลงพระชนม์พระสมณโคดม ฯ

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๗ บรรทัดที่ ๓๕๕๗ - ๓๖๑๕. หน้าที่ ๑๔๘ - ๑๕๐.
//84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=7&A=3557&Z=3615&pagebreak=0


******************************


ทรงแสดงอนุปุพพิกถาและจตุราริยสัจ
//84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=7&A=3557&w=อนุปุพพิกถา

พระไตรปิฎก เล่มที่ ๕ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๕
มหาวรรค ภาค ๒

ทรงแสดงอนุปุพพิกถาและจตุราริยสัจ


ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาค ทรงทราบความปริวิตกแห่งใจของพวกเขาด้วยพระทัย แล้วทรงแสดงอนุปุพพิกถา คือ
ทรงประกาศ ทานกถา
ศีลกถา
สัคคกถาโทษ ความต่ำทราม ความเศร้าหมองของกามทั้งหลาย
และอานิสงส์ในความออกบรรพชา


เมื่อพระองค์ทรงทราบว่า
พวกเขามีจิตสงบ
มีจิตอ่อน
มีจิตปลอดจากนิวรณ์
มีจิตเบิกบาน
มีจิตผ่องใสแล้ว


จึงทรงประกาศพระธรรมเทศนาที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงยกขึ้นแสดงด้วยพระองค์เอง คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค

ดวงตาเห็นธรรม ปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน
ได้เกิดแก่พวกเขา ณ ที่นั่งนั้นเองว่า
สิ่งใดสิ่งหนึ่งมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
สิ่งนั้นทั้งหมดมีความดับเป็นธรรมดา

ดุจผ้าที่สะอาด ปราศจากมลทินควรได้รับน้ำย้อมเป็นอย่างดี ฉะนั้น

พวกเขาได้เห็นธรรมแล้ว
ได้บรรลุธรรมแล้ว
ได้รู้ธรรมแจ่มแจ้งแล้ว
มีธรรมอันหยั่งลงแล้ว
ข้ามความสงสัยได้แล้ว
ปราศจากถ้อยคำแสดงความสงสัย
ถึงความเป็นผู้แกล้วกล้า
ไม่ต้องเชื่อผู้อื่น ในคำสอนของพระศาสดา

ได้กราบทูลคำนี้ต่อพระผู้มีพระภาคว่า
ภาษิตของพระองค์แจ่มแจ้งนัก พระพุทธเจ้าข้า
ภาษิตของพระองค์ไพเราะนัก พระพุทธเจ้าข้า
พระองค์ทรงประกาศธรรมโดยอเนกปริยาย
เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ
เปิดของที่ปิด
บอกทางแก่คนหลงทาง หรือส่องประทีป
ในที่มืดด้วยตั้งใจว่า คนมีจักษุจักเห็นรูป ดังนี้

ข้าพระพุทธเจ้าเหล่านี้
ขอถึงพระผู้มีพระภาค
พระธรรม
และพระภิกษุสงฆ์ว่าเป็นสรณะ

ขอพระองค์จงทรงจำพวกข้าพระพุทธเจ้าว่า
เป็นอุบาสกผู้มอบชีวิตถึงสรณะ
จำเดิมแต่วันนี้เป็นต้นไป.

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๕ บรรทัดที่ ๕๔ - ๗๐. หน้าที่ ๓.
//84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=5&A=54&Z=70&pagebreak=0





 

Create Date : 24 กรกฎาคม 2550
3 comments
Last Update : 2 สิงหาคม 2550 9:51:14 น.
Counter : 823 Pageviews.

 

 

โดย: wbj 24 กรกฎาคม 2550 18:15:42 น.  

 

สวัสดีครับ คุณ wbj

 

โดย: วงกลม 31 กรกฎาคม 2550 16:51:52 น.  

 

บลอกคุณ wbj มีเรื่อง https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=wbj

พระศรีอาริยเมตไตร ด้วยครับ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=wbj&group=27

 

โดย: วงกลม 2 สิงหาคม 2550 10:02:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

วงกลม
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add วงกลม's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com