My Sweet Kitchen
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
29 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
แม่ผัวกับลูกสะใภ้

จะว่าไป แม่ผัวของดิฉัน เหมือนแม่ผัวในละครน้ำเน่าเลยคะ เธอเป็นคนชอบเอาชนะ ไม่ว่าจะเป็นลูกตัวเองแท้ๆ ก็ไม่เคยลดละ ไม่ได้เอามาแต่งเรื่องเล่านะคะ เรื่องจริงๆ ไม่อิงนิยายแต่อย่างใด

พี่สาวคนโต ของสะมี เล่าให้ฟังว่า เมื่อสมัยก่อน สะมีเธอไปทำงานต่างรัฐ และเกิดไม่สะบายอย่างหนัก อยู่ในห้อง ICU พอดีรถของเธอเสีย และคงขับไปไม่ถึงรัฐ ที่สะมีเธอป่วยแน่นอน เลยโทรไปขอยืมรถแม่ตัวเอง คุณแม่เธอมีรถ 2 คัน เพื่อไปรีบสะมีเธอกลับมารักษาตัวที่บ้าน รู้ไหมแม่แท้ๆ ของเธอบอกพี่สาวสะมี ว่าอย่างไร เห็นเธอเล่าให้ฟัง แล้ว ยังนึกว่าไม่ใช่แม่ลูกกัน แม่บอกว่า ให้ไปหายืมคนอื่น เธอไม่ให้เอารถเธอขับไปไกลๆ หรอก พี่สาวสะมี ได้ฟัง ร้องไห้เลยคะ เธอเล่าให้ฟัง เธอต้องไปยืมรถเพื่อนของเธอ ขับไปรับสะมีเธอกลับบ้าน

ฟังแล้วก็ขะหยาดคะ นี่แม่แท้ๆ นะ แล้วเราเป็นแค่สะใภ้ จะโดนอะไรหว่า... ตอนอยู่บ้านเฉยๆ ก็เคยไปนั่งเล่นกับ แม่และ พ่อสะมี ที่บ้าน แต่นั่งได้ไม่นานคะ เพราะแพ้ควันบุหรี่ ทั้งคู่แข่งกันสูบบุหรี่ ทั้งๆ อายุก็ปาเข้าไปกัน ตั้ง 70 75 ปีแล้ว ยังไม่เลิกสูบอีก ดิฉันโชคดีคะ พี่สะมีไม่สูบ และไม่ดื่ม สะมีก็ทนกลิ่นไม่ค่อยได้เหมือนกัน ไม่ชอบ แต่ทำไงได้ ก็พ่อแม่เค้าเนาะ...

เวลาไปนั่งเล่น จริงๆ ก็อยากจะสร้างความคุ้นเคยกับ พ่อและแม่สะมี พ่อน่ารักมากคะ แต่แม่ น่ากลัวมากเหมือนกัน เธอชอบถามอะไรที่ ไม่รู้จะให้ตอบอย่างไง เช่น ถามว่า บ้านเธอมีตู้นเย็นไหม บ้านเธอมีไมรโครเวฟ ใช้ไมรโครเวฟเป็นเหรือเปล่า กินข้าวด้วยมือ หรือเปล่า แล้วที่โน้นเค้าขี่จักรยานกันมากกว่ารถยนต์หรือเปล่า (นั้นมันประเทศจีนแล้วคะคุณแม่ขา) ถามอะไรแบบนี้ จนเราอึดอัด คุณแม่คงคิดว่า บ้านของหนูยังเป็น จังโก้ มั่งคะ

พอนานๆ ก็เลยไม่ไปหาอีกเลย เบื่อคะ ออ... ลืมอีกอย่างหนึ่งเรื่อง ตู้จดหมายหน้าบ้านของเราแท้ๆ อย่าเป็นแตะหรือเปิดเอาเอกสาร หรือจดหมายเชียวหน่า.. เธอโกรธ พล่านคนอื่นๆ ไปทั่ว คือ มีวันหนึ่งเราเห็น Mail Man มาส่งจดหมายที่ตู้เรา และดิฉียเห็นกล่องพัสดุ ดิฉันเดาว่าต้องมาจากเมืองไทยแน่ๆ เพราะ แม่ส่งของมาให้ ดีใจคะรีบวิ่งออกไปเปิดเอาที่ตู้จดหมายหน้าบ้าน แม่เธอเห็นเข้าคะ เปิดประตูหน้าบ้าน แหกปากตะโกน บอกว่า That's my job อะไรทำนองนั้นนะคะ บอกว่า เอกสารที่อยุ่ในตุ้จดหมาย เอามาให้ฉันทั้งหมด ฉันจะเป็นคนดูเองว่า อะไรเป็นอะไร ทำนองนั้นนะคะ

ไอ้เราก็ต้องหอบข้ามถนนไปที่บ้านเธอ เพื่อให้เธอดูว่ามีอะไรมาบ้าง เธอบอกดิฉันว่า เผื่อเป็นพวก บิลต่างๆ ของสะมีฉัน เค้าจะได้จัดการ (ฉันก็รู้ว่าว่าอะไรเป็นอะไร ไม่โง่นะจะบอกให้) บางทีก็อีดอัดมากคะ เลยอยากหางานทำ ไม่อยากอยู่บ้านเพราะอึดอัด ถึงจะอยู่คนละบ้านก็ตาม แต่ลูกหูลูกตาของเธอเหมือนสัปปะรด คอยสอดส่อง ดูว่าเราทำอะไรบ้างวันๆ นี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ต้องการหางานทำเหมือนกัน ในตอนนั้น

อึดอัดมาก แต่เวลาโทรหาแม่ตัวเองที่เมืองไทย ต้องบอกแม่ตลอดว่า แม่สะมีดี ไม่ต้องเป็นห่วง ถ้าขืนเล่าให้แม่ฟัง กลัวแม่คิดมากคะ ยิ่งมาอยู่ไกลๆ แบบนี้ แม่ก็คิดมากอยู่แล้ว เธอห่วงว่าสะมีจะทิ้งดิฉัน

พอทำงานได้เงินเป็นของตัวเอง ดิฉันขนซี้ออาหารไทยตุ่นไว้เยอะมากคะ จนแม่สะมีตาเขียวปัด แล้วอิจฉาฉันทำไมก็ไม่รู้ นั้นอาหารของฉันกินมาตั้งแต่เกิด อยู่ๆ จะให้หักดิบเลิกไปเลยเหรอไง บ่นๆ ว่า ฉันต้องหัดกินอาหารฝรั่งเหมือนคนอื่น มาอยู่บ้านเมืองเค้าต้องหัด อย่าทำตัวเหมือนแกะดำว่าไปนั่น...

ดิฉันไม่สน สะมีบอกว่า อย่าไปตอแตกับแม่เค้า เพราะยิ่งตอแย แม่เค้ายิ่งชอบ สงสัยเรียกร้องความสนใจมั้ง... ก็เลยเฉยๆ ดิฉันก็ได้แต่ทำงาน จนเดือนที่สะมีต้องออกจากงาน บริษัทก็ให้เงินมาก้อนโตสำหรับดิฉัน พอได้เช็คมา สะมีก็เอาไปเข้าบัญชีที่ดิฉันเปิดบัญชีร่วมกับสะมี คิดว่าเก็บไว้เป็นทุนหรือ ทำอะไรกันในอนาคต

พอแม่สะมีรู้ เธอเต็นไปเจ้าเข้าเลยคะ ด่าสะมีดิฉันซะไม่มีดี หาว่าทำไมไม่เอาเงินมาใส่บัญชีตัวกับเธอ เดี่ยวพอได้เงิน มาไม่นาน เดี่ยวดิฉันก็เปิดหนี หอบเงินสะมีหนีไปเท่านั้น โอ้ยคุณแม่ขา พูดออกมาได้ไงคะ ดิฉันไม่หอบแต่เงินหรอกคะ ถ้าจะหนี ดิฉันจะหอบลูกชายคุณแม่ไปด้วยอีกคน ฮ่าฮ่า.... เอาให้สะใจกันไปข้างหนึ่งกันซะเลย

พอเงินไม่มีเข้าบัญชีร่วมกันกับแม่สะมี แล้ว สะมีดิฉันก็ทวงบัญชีคืนคะ เพราะต่อไปนี้ เค้าจะให้ดิฉันเป็นคนจัดการ เธอทำทางบ่ายเบี่ยงเกือบ 2 เดือน จึงคืนให้ คืนให้แต่เช็คนะคะ ไอ้สมุดรายละเอียดที่เขียนพวกค่าใช้จ่าย หรือ เงิน Balance ในบัญชีไม่คืนให้คะ ถ้าคนอยู่เมกาจะทราบคะว่าเวลาเปิดบัญชี checking เค้าจะมีสมุดแนบมาให้อีกเล่มเพื่อสะดวกในการจดค่าใช้จ่าย และเงินคงเหลือเท่าไร เค้าไม่มีสมุดฝากเหมือนบ้านเรา

ดิฉันไม่ยอมคะ บอกอย่างไงต้องเอามาคืนให้หมด เพราะอยากรู้ว่าเค้าทำกันอย่างไง ขออ้างคะ แค่อยากรู้ว่าแม่เค้าอุบอิบเงินหรือเปล่า และแล้วแม่สะมี ก็ต้องจำใจให้คะ เพราะกลัวไปถึงทนาย และแล้วความจริงก็ปรากฎ เงินในบัญชี สะมี เหลือ แค่ 75 เหรียญ 59 เซ็นต์ ดิฉันจำได้มาถึงทุกวันนี้คะ

สะมีแทบร้องไห้คะ เงินเกือบ 50,000 เหรียญ ตั้งแต่เค้าเริ่มทำธุรกิจมา และทำงานบริษัท เก็บเกือบ 15 ปี เหลือมาถึงวั้นนี้แค่ 75 เหรียญ 59 เซ็นต์ แล้วเงินมันหายไปไหนหมด แม่สะมีบอกว่า ก็สะมีเอาเงินไปเมืองไทยไปแต่งเมีย เค้าบอกว่า เค้าถือไปแค่ 10,000 เหรียญเอง แล้วต่อเติมบ้านก่อนที่ดิฉันจะมาอยู่หมดไปเกือบ 7000 เหรียญ แถมเงินเดือนก็จ่ายค่าบิลต่างๆ ไม่เกี่ยวกับเงินก้อนนี้เลย เธอบอกว่า ก็ซื้อรถให้ลูกสาวสะมี แต่เป็นชื่อแม่สะมีนะคะ

พอเราไปเยี่ยมน้องชายคนสุดท้องสะมี ที่บ้านน้องชาย มีโทรทัศน์ 52 นิ้ว คอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ แถมอุปกรณ์พวกเครื่องมือต่างๆ ใหม่หมด ลำพังน้องชายสะมี บ้านก็ต้องผ่อน รถก็ต้องผ่อน แถมช่วยเมียผ่อนบัตรเครคิดอีก เงินเดือนเกือบไม่เหลือ ทำไมมีเงินซื้อของเข้าบ้านใหม่ๆ ทั้งนั้น ถามไปถามมา เค้าบอกว่า แม่ซื้อให้ แล้วแม่เอาเงินมาจากไหน เงินเดือนปลดเกษียณ ที่รัฐบาลจ่ายให้ทุกเดือน แค่ 800 เหรียญ จ่ายค่าบิลที่บ้าน ค่าอาหาร ค่าบุหรี่ ค่ายา ก็แทบไม่เหลือแล้ว แล้วเอาเงินมาจากไหนไปซื้อของให้ลูกชายคนเล็ก มันก็น่าสงสัยอยู่นะ...

ดิฉันกับสะมี ก็ถึงบ้างอ้อกัเลยคะ ไม่ต้องบอก และไม่ต้องเดาเลยว่า เงินไปไหนหมด ก็บอกสะมีว่า ช่างมันเถอะ แม่ยูนะ ถือว่าแม่ก็แล้วกัน เค้าก็ไม่เข้าบ้านแม่เค้าเลยนะคะ ตั้งเกือบเดือน สงสัยโกรธและน้อยใจ เสียใจ ที่แม่ตัวเองแท้ๆ ทำกับลูกตัวเองได้ขนาดนี้

สะมีตกงานคะ แล้วเมืองเล็กๆ อย่างงี้ ไม่ต้องบอกเลยคะ งานไม่มี แถมเป็นเมืองที่กำลังจะตาย ร้านขายของต่างๆ ก็ปิดตัวกันเป็นแถว ดิฉันก็พยายามหางานคะ เพราะอีกแค่ เดือนเดียวก็หมดสัญญาว่าจ้างแล้ว ไม่รู้เค้าจะให้ทำต่อหรือเปล่า ถ้าได้ก็ดีไป แต่ถ้าไม่ได้ก็ต้องหางานใหม่

และแล้ววันสิ้นสุดการทำงานก็มาถึง ตกลงดิฉันก็ยังหางานทำไม่ได้ สะมีก็ตกงาน ทำไงดีหล่ะ อย่าหวัง พ่อ กับแม่จะช่วยเลย แม่ช่วยอยู่คะ ช่วยสมหน้าพวกเรา เพราะเค้าคิดว่า พวกเราขาดเธอไม่ได้ เดี่ยวจะต้องมาขอร้องให้เธอช่วย สะใจเธอคะ

บางครั้ง ก็ไม่ค่อย เข้าใจแม่สะมีเหมือนกันคะ บางวัน ก็ตะโกนเรียกดิฉัน ที่หน้าบ้านเธอ ให้ดิฉันไปเรียน ทำพวก บิสกิต พวก อาหารฝรั่งที่สะมีดิฉันชอบทาน แม่บอกว่าหัดทำไว้ จะเอาไว้ทำให้สะมีกิน เพราะตอนนี้แม่ คงไม่ได้ทำให้กินแล้ว พูดเหมือนน้อยใจ นะคะ เฮ้อ... ยังไง ยังไง เค้าก็แม่สะมี ก็เหมือนแม่เราเหมือนกัน จะว่าไปแล้ว.....




Create Date : 29 พฤษภาคม 2550
Last Update : 30 พฤษภาคม 2550 7:36:14 น. 0 comments
Counter : 716 Pageviews.

ผ้าไหมไทย
Location :
The Natural State, United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 107 คน [?]




ช่วยแม่ทำอาหาร และ ขนมขาย ถ้าจำไม่ผิด ตั้งแต่ตัวเองอายุ 12 ปี หลังจากเลิกเรียนมา ต้องช่วยแม่เตรียมทำกับขาวขายทุกวัน สิ่งที่แม่เลี้ยง ตัวเราและน้องๆ มาไม่ใช่เงินราชการที่แม่ได้รับทุกๆเดือน แต่เป็นเงินที่แม่ทำกับข้าวขายเลี้ยงพวกเรามา ในตอนนั้นบอกได้เลยว่าเกลียด การทำอาหาร และทำขนมมาก แต่ต้องทำ เพราะถ้าไม่ทำก็ไม่มีเงินไปเรียนหนังสือกัน แม่เป็นคนที่อดทนมาก และทำอาหารกับขนมอร่อย เป็นที่เลืองลือ จนมาบัดนี้ สิ่งต่างๆ ที่ได้เรียนรู้จากแม่ มันซึมเข้าไปในสายเลือดแล้ว ขอบคุณ คุณแม่ที่ให้ความรู้ต่างๆ รักแม่มากที่สุด ห้องนี้ทำให้แม่คะ .



Taste of Home's
New Comments
Friends' blogs
[Add ผ้าไหมไทย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.