พอมาถึงปูเน่ ละติจูดประมาณ จ.ลำปางของไทย
อากาศเย็น สบาย คืนนี้เราพักที่ Sayaji Hotel
ตกแต่งทันสมัย ควบคุมระบบต่าง ๆ ในห้อง ทีวี เครื่องเสียง ไฟฟ้า ด้วย iPod
เสีย 2 อย่าง อันแรกสบู่ แชมพู กลิ่นแขกมาก ยี่ห้อนี้เหมือนที่ Sandesh ที่ไมซอร์ใช้เลย
ของขวัญขอบคุณลูกค้าของบริษัทเรา ดีกว่าเยอะ หอมกว่าเยอะ น่าส่งออกซะจริง ๆ
อีกอันที่แย่ก็คือ Wifi มันจะห่วยไปไหน ติด ๆ ดับ ๆ
- - -
มีบุฟเฟต์ BBQ ลอยฟ้า เป็นรอบ ๆ ละ 2 ชั่วโมง เราได้รอบ 4 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืน
(อ้วนแน่ แต่อย่ากลัวไปเลยนก ไม่มีไรจะเสียแล้ว)
มีกุ้งแกะเปลือก เห็ด เนื้อ สับปะรด พริกหยวก เนื้อแกะผัดเครื่องเทศ ข้าวโพดผัด ไม่อั้น
เด็กเสิร์ฟผู้ชาย เริ่มมีขาว ๆ มั่งละ คนที่หล่อก็ไม่ทันได้ถ่าย หน้าอย่างกะนักเตะสเปน
(เมืองนี้ก็ยังไม่เห็นว่ามีพนักงานเสิร์ฟเป็นผู้หญิง)
อย่างที่เล่าไปแล้ว (หรือยังไม่รู้) ว่า ผู้หญิงอินเดียจะเอาสินสอดไปขอผู้ชาย และจัดงานแต่งงานให้
จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็ต้องดูแลเธอ หาเลี้ยงเธอไปจนตาย ตัวเธอว์ก็อยู่บ้านเป็นแม่บ้านไป
ผู้ชายก็ออกมาทำงานนอกบ้านซะ คุ้มจริง ๆ ลงทุนครั้งเดียว
แต่สามีอย่าตายนะ เพราะหญิงม่ายจะถูกส่งไปอยู่คอนโดแม่หม้าย
เว้นแต่จะเปลี่ยนศาสนา หรือย้ายออกนอกประเทศเพื่อแต่งงานใหม่ไปก่อน
พระไทยที่ไปเรียนที่อินเดียจะเป็นเป้าหมายของหญิงกลุ่มนี้เพราะเธอเชื่อว่า
พระเป็นคนดี ถูกสกรีนโดยศาสนาก่อนแล้วถึงได้บวช แม่ม่ายชอบนักแล
2 รูปแรกไร้แอลกอฮอล์ แต่รูปท้ายนั้นเบียร์ ไม่รู้รสชาติเพราะไม่ได้ลอง ตับไม่ดีแล้ว แหะ ๆ
อันสีฟ้าถ้ามันมีแอลกอฮอล์ มันใช่เลย กามิกาเซ่
(อันนี้คิดเป็น drink ไปนะ ไม่บุฟเฟต์)
สุดท้ายถ้าไม่ได้ล้างปากด้วยของหวานท่าจะไม่ใช้นกแน่ ๆ
เจ๊ยยยยยย เยอะมากกกกก ไอ่สีชมพูหน้าสตรอเบอรี่นั่นอร่อยสุด ฟินเห๊อะะะะ
กว่าจะได้นอนคืนนี้ ปาเข้าไปตีหนึ่งกว่าแล้ว
อ้วน ขอบตาดำ นี่มันหมี หรือนกเนี่ย
Day 6 วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2556
เจ้านายถ่ายจากห้องพักเช้านี้ เห็นโรงงาน volkswagen กับโรงงาน ฮุนไดติดกันเลย
(โตโยต้าอยู่บังกะลอร์นะเนส) ที่นี่ใช้รถ Eco-car เป็นส่วนใหญ่
ที่เห็นเยอะมาก ๆ คือ ซูซูกิ Maruti Swift
ไม่ค่อยมีใครใช้กระบะสักเท่าไหร่ น้ำมันแพง ดีเซลลิตรละ 43 บาท
ถ้ารวยไปเลย BMW Audi ก็เห็นแว๊บ ๆ ขับเร็วกว่า 80 kmh ฉิววววววเลย
- - -
อาหารเช้าวันนี้ กลายเป็น แท่นแท้นนนนนน ซีเรียลกับนมควายรสสตรอเบอรี่
แพนเค้ก กับคาราเมล และ ไส้กรอก
กรูกินเครื่องเทศไม่ไหวแล้ว
- - -
Plan วันนี้ต้องไปดู Head Office และ R&D ของ Supplier
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เค้าไม่แค่มี Dr. กว่า 200 ชีวิตในศูนย์วิจัยของเค้า ซึ่งจะคอยหาสิ่งใหม่มาวิจัย
แล้วจะส่งให้คนที่ทำงานวิจัยให้ขายได้จริง
กลุ่มนี้เมืองไทยยังไม่มี เป็นคนที่จะคอยคุยภาษาทฤษฎีของนักวิจัย ออกมาเป็นภาษาปฏิบัติ
ถ้ากลุ่มนี้ Run Model วิเคราะห์แล้วโอเค สามารถพัฒนาให้เป็นของจริง
ทำขายได้ ก็จะส่งวิศวกรไปออกแบบต่อ
แต่ถ้าไม่ได้ก็จะบอกให้ Dr. นักวิจัยทั้งหลายว่า หยุดฝัน เอาเวลาไปคิดเรื่องอื่น เพราะมันทำไม่ได้
เอกชนลงทุนทำเองประมาณ 800 ล้านบาท รัฐบาลอินเดียไม่ได้ช่วยเหลือเลย
ดร.เดินชนไหล่กันไปมา เครื่องมือไฮเทคมากอ่ะ
วันนี้กินข้าวเที่ยงที่โรงอาหารที่ศูนย์วิจัยนี้เลย แน่นอน โรตี นาน แกงไก่
(ฉันเริ่มมีกลิ่นเครื่องเทศออกจากตัวแล้วสิ แต่อร่อยนะ อร่อยกว่าโรงแรมอีกนะ)
เมืองเดียวกันแต่ความเป็นอยู่แตกต่างกันสิ้นเชิง
Uniform ของนักเรียนที่ปูเน่ เริ่มจะทันสมัยมากขึ้นละ ไม่เป็นสาหรีละ
มาอินเดียมันต้องเห็นภาพนี้ พวกเธอเก่งกว่าแอร์ฝึกหัด ที่ต้องหัดเดินคอตรง โดยการเทินของไว้บนหัว
จากนั้นก็ตาลีตาเหลือก รีบเดินทางไปมุมไบ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
วิวสองข้างทางจากปูเน่ไปมุมไบ เค้าว่าเป็นแกรนด์แคนยอนอินเดีย
เสียดายถนน ใช้ความเร็วได้แค่ 80 kmh มาถึงมุมไบเกือบไม่ทันน่ะ
มาม่าที่เอา ยกให้คนขับรถเย็นวันนี้หมดเลย
ของฝากซื้อที่สนามบินมุมไบนี่แหละ สะระตะแล้ว ได้ผ้าพันคอแคชเมียร์ 3 ผืน
กำไลอินเดียฝากน้อง ๆ ของเล่นรถซื่งของลูก
ถูกกว่าเมืองไทยนะอยากซื้อหลายอันหอบไม่ไหว โหลดของไปหมดแล้ว
ยังสามารถหิ้วน้ำมะม่วงกลับมาอีก 7 ขวดแน่ะ เหอ ๆ ในสนามบินมียี่ห้อ Slice พอได้ ๆ
ที่เหลือก็บูชาพระพุทธรูปทองเหลืองปางนอนกลับมา ว่าจะเอามาเบิกเนตรแล้วไปไว้บ้านเชียงใหม่
กับได้ของแต่งบ้านอินเดีย คือปลอกหมอนผ้าฝ้าย มีกระจก
ได้ชาอัสสัมมาฝากพ่อ กับน้องจัน
อ่อ แล้วก็ช็อกโกแลตฝากน้อง ๆ ผู้ชาย รูปขวดเหล้า ไม่รู้มีเหล้าอยู่ข้างในมั๊ย
ตรงนี้ต้องเร่งใช้เงินรูปี เพราะออกไปเงินคุณด้อยค่าทันที
แลกมา 0.586 บาทต่อ 1 บาท
แลกคืนสุวรรณภูมิ ข้างในห้องพักผู้โดยสาร 0.28 ต่อบาท
ข้างนอกตรงอาคารก่อนออกประตู 0.40 ต่อบาท
ในสนามบินรับเครดิตการ์ด รับเงินดอลล่า รับเงินไทยด้วย แน่ะ บาทแข็งสิท่า
สนามบินเรา สวย สงบสุขสะอาดกว่าเยอะ
กลับมาถึงก็เช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ วันตรุษจีนพอดีเลย
ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้
- - -
แต่เรานอนชดเชยเป็นตายไปวันครึ่ง
หลังจากนั้นอาหารของเราในเกือบทั้งอาทิตย์ถัดมาก็คือ ส้มตำ ยำวุ้นเส้น
ประเทศไทย อาหารไทย ดีที่สุด
จบ 6 วัน 6 คืน ประสบการณ์แปลกใหม่ในอินเดีย ก็ไม่เลวร้ายซะทีเดียว
อ่ะ คอมเม้นท์ได้ เปิดให้คอมเม้นท์แล้วนะคะท้ายบล็อกนี้
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจบค่ะ
เจอกันใหม่ เมื่อไหร่ไม่รู้เน่อ แล้วแต่จะว่าง จะมีโอกาส ปลา นุ่น ห้ามทวงพี่นะ
Index of India Trip Blogs
เห็นแล้วน่าแบกเป้ ไปเที่ยว น่าจะมีอะไรให้เรียนรู้อีกเย๊อะเลยเนอะ
ปล. น้องไม่ได้ทวงนะ แค่คิดถึง NY OK เอง เห็นใน facebook ไม่จุใจจ้า