55 ม่อนแจ่ม : เชียงใหม่
(นอกเรื่องหน่อย มีคนถามว่า ทำไมยังอัพบล็อกอยู่ แม่บอกว่า
บล็อกมันมีเสน่ห์กว่า Social Network ใหม่ ๆ เพราะมันมีเวลาให้เราเรียบเรียง
โดยไม่จำกัดสิ่งที่เราอยากเขียน อยากเล่า จัดหน้าตาได้อย่างที่เราอยากทำ
และอีกอย่าง คือ แรงบันดันบาลใจในการอัพบล็อกโดยเฉพาะบล็อกท่องเที่ยว
นอกจากจะให้คนที่เค้ากำลังหาข้อมูลไปเที่ยวได้มาอ่านข้อเท็จจริงที่เราไปเจอแล้ว
ยังเพราะ ต้องการบันทึกเรื่องราวเอาไว้ เพราะเราไม่รู้ว่าเราจะได้มีโอากาสกลับไปเที่ยวที่นั่นได้อีกหรือเปล่า)
. .
ปิดเทอมเล็ก ตุลาคม 55 ตามระเบียบครับ พาเด็ก ๆ กลับบ้านตายายที่เชียงใหม่
แม่นกก็โครตจะเชย ยังไม่เคยไปม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
ซึ่งมันอยู่ใกล้บ้านตายาย มาก แค่ 18 กิโลเมตร
เพียงเลี้ยวเข้าไปที่แยกสะเมิง ถ้ามุ่งหน้า อ.แม่แตง คือให้เลี้ยวซ้ายเข้าไป
หาไม่ยาก GPS 18.935551, 98.823335 (มีคนให้ไว้ในเน็ท)
หรือพิมพ์ม่อนแจ่มใน GPS การ์มินรู้จักดี ตามมันไปตลอดทางก็จะมาถึง
ด้วยความประมาทของแม่นก เพราะบ้านยายไม่หนาว เราออกจากบ้านยายราว 7 โมงเช้า
ถึง 8 โมงกว่า ๆ เลยไม่คิดว่าบนนี้จะหนาว ที่ไหนได้ หมอกลอยผ่านหน้า ผ่านจมูกเลยครับ
ต้องรีบเอาผ้าอ้อมมาพันคอลูก และให้ใส่เสื้อยืดทับไปอีกชั้นนึงทั้งสองคน
ตรงสันภูเขานี่เลย เป็นแลนด์มาร์ก
ที่นั่งทางอาหารเป็นจุดเบอร์ 2 ในแผนผัง
ก่อนที่จะมาถึงตรงนี้ จะมีด่านกั้นไม่ให้เอารถขึ้นมาจอดข้างบนสันเขามากเกินไป
เราผ่านขึ้นมาได้ เพราะคนเฝ้าเขาเห็นว่ามีทั้งคนแก่ และเด็ก อย่างละ 2 คนแน่ะ
เขาอนุญาตให้ขึ้นมาส่ง แล้วสัญญาปากเปล่า ว่าจะต้องเอารถกลับมาจอดที่ลานจอด ห่างราว 500 เมตรนะ
แต่เราไม่รักษาสัญญาซะงั๊น อนาคตเทคโนโลยีอาจทำให้เขาติดตามทะเบียนเราได้ (ค่อยลงเดินนะ)
. .
จุดที่มีกระต๊อบนั่งเป็นหลัง ๆ นี่คือส่วนของร้านอาหาร เป็นพื้นที่โครงการหลวง
ดำเนินการโดยชาวเขา อีกเช่นกัน ขอโทษเน่อ ขาหมูม่อนแจ่ม ผักตับพริกหยวก และWaffle คู่ไอติม อร่อยใช้ได้เลย
แต่ราคาก็ไม่ถูกนะจ้ะ เอาน่า เพื่ออุดหนุนโครงการหลวง และเอาบรรยากาศประเด็นนี้จะตัดไป
ลูกก็แฮ๊ปปี้เพราะอากาศเย็น และมีสัญญาณ 3G DTAC ทั่วบริเวณ
(ไม่ต้องชมว่าหน้าใส ของจริงริ้วรอยมันก็มีบ้าง เราก็ใส่App ลงไป ใครมันจะเอารูปไม่สวยลงอ่ะนะ 555)
วันนี้ที่ม่อนแจ่มมีกิจกรรมร่มร่อน แม่ก็ไม่ได้ถามเค้านะ ว่ามีทุกวันหรือเปล่า
คือ จะมีเวิ้งเขาที่สามารถโดดร่มลงมาได้ โดยให้เด็ก ๆ ชาวเขาช่วยกัน คลี่ร่มให้
กีฬาผาดโผนแบบนี้ลูกแม่จะเล่นสักคนมั๊ยน่ะ 555 (จุด 3 ในผัง)
แรก ๆ โอเคก็ดูเหมือนว่าจะไม่กลัวอะไร ตอนนี้เริ่มกลัวละ
แค่กระดานลื่น ยังกลับมาให้ต้องจับมือลื่นลงมาเหมือนเอ็นไวร์เลย
หรือว่าลูกโตขึ้นรู้จักความไม่ปลอดภัยแล้วก็ไม่รู้
อีกด้านของสันดอยม่อนแจ่ม จะเป็นลานชมวิว ด้านนี้หน้าจะหันหน้าลงใต้ (จุด 4 ในผัง)
เหมือนเรากำลังมองไปทางอำเภอเมืองเชียงใหม่
มีสวนหย่อมปลูกดอกไม้ไว้ให้ถ่ายรูป โดยด้านหลังของรูปจะเป็นวิวภูเขา
หัวโล้นบ้าง เพราะถูกถางไปทำไร่ จะมีแค่หญ้าเตี้ย ๆ ให้เห็นว่ามีไรเขียว ๆ คลุมดินเอาไว้บ้างเท่านั้นเอง
กล้องเราไม่เทพเท่าไหร่ เลยได้รูปมาประมาณหนึ่ง
เห็นคนอื่นไปกล้องเท๊พเทพ รุปเค้าก็สวยกลับมาจริง ๆ นะ
การสะพายกล้องถ่ายรูปแบบนี้ 5 ปีมาแล้วที่ไม่ได้ทำ เพราะไปไหนกันทีนึงเป็นพรวนเลย
กล้องใหญ่ถูกทิ้ง ถ่ายด้วยกล้อมมือถือซะเยอะ
มีเด็กชาวเขาแต่งชุดประจำเผ่า มาคอยโพสต์ท่าถ่ายรูปกับเราด้วยนะ
ถ่ายเสร็จก็ได้สินน้ำใจจากนักท่องเที่ยวไม่น้อยเหมือนกัน
เอ็นไวร์กับโอเคไม่ยอมถ่ายกะเค้า ยายเลยได้ถ่ายกับสาวดอยอยู่คนเดียว
สาย ๆ มา หมอกก็จางลงเริ่มเห็นภูเขาด้านหลังชัดเจนขึ้น
รูปคู่พ่อแม่ เอ็นไวร์เป็นคนถ่ายให้ ได้รับเสียงปรบมือจากผู้พบเห็น 555 เพราะกล้องใหญ่กว่าตัวมาก
วิ่งไปวิ่งมาจนเหนื่อย ถ่ายคนอื่นบ้าง คนอื่นถ่ายบ้าง ก็หมดมุขบนลานด้านหน้านี้แล้ว
ตายาย ก็เริ่มเมื่อยวิ่งไล่จับโอเค เพราะแม่นกเอาแต่ถ่ายรูป
เหมือนกiะหายการท่องเที่ยว กระหายการถ่ายรูป
การกลับมาบ้านเกิด กลับเชียงใหม่ ช่างเป็นความสุขของแม่จริง ๆ
พออกจากสันดอย ผ่านลานจอดรถ (จุด 6) ไป ก็จะเจอป้าย "ม่อนแจ่ม" กับนวัตกรรมยานยนต์ (จุด5)
ที่ไม่ใช้เชื้อเพลิงในการขับเคลื่อน อาศัยแรงโน้มถ่วงของโลก และมวลของรถและคนขับ
หล่อ (แปลวว่า ลื่นลงมาตามทาง) ลงมาจากดอยชัน ความยาวสัก 400 เมตรได้
แม่อยากเล่น แต่ตาห้ามเอาไว้ 555 ไว้โต ๆ มาลองเล่นกันเองเน่อลูก ๆ ท่าจะม่วน
. .
อ่อ ลืมบอกว่า ตรงคิวรถไม้นี้ มีคนแนะนำให้ซื้อชาติดลงมาชิมด้วย แต่แม่รู้ทีหลังครับ
ส้มดอยก็อร่อย เสียดายซื้อมานิดเดียว ระหว่างทางกลับบ้านก็หมดแล้ว
อีกอย่างคือ จุด 7 ในผังเค้ามีบริการกางเต๊นท์ และที่พักสำหรับค้างคืนบนยอดดอยด้วยครับ
มีจัดคอนเสิร์ตในสายลมหนาวด้วยนะ
(อยากมาก อยากดูคอนเสิร์ต ชีวิตนี้เชื่อมั๊ย จะ 35 ปีอยู่แล้ว ฉันไม่เคยดูคอนเสิร์ต)
ลงมาจากม่อนแจ่ม มาแวะที่โครงการหลวงหนองหอย ที่นี่ปลูกผักไฮโดรโฟรนิกส์
หรือปลูกผักปลอดสารพิษไม่ใช้ดิน ใช้หินภูเขาไฟให้รากพืชเกาะไว้
โดยใช้น้ำ และธาตุอาหารเลี้ยงให้โต ปลูกไว้ในมุ้งจะได้ไม่มีแมลงรบกวน เพื่อไม่ต้องใช้ยาฆ่าแมลง
โครงการหลวงไปตรงไหน ชาวเขา ชาวไทยรู้หนังสือ มีอาชีพตรงนั้น
อย่าทะเลาะกันเลยคนไทย
ยังไงเราก็รักสงบ แค่อย่ามารบกับเอง
(วันนี้มีเหตุชุนุมทางการเมือง อีกแล้ว 24/11/55)
- - -
จบดื้อ ๆ งี้แหละนะ ม่อนแจ่ม ในสองสามชั่วโมง มีความสุขดี ไว้ค่อยมาใหม่ พาน้าเนสมาด้วยเนอะ
Create Date : 23 พฤศจิกายน 2555 |
|
5 comments |
Last Update : 12 มิถุนายน 2556 6:12:10 น. |
Counter : 3138 Pageviews. |
|
|
|