Singapore - # 10 Esplanade, สัมผัสน้ำพุแห่งความโชคดี Fountain of Wealth

หายเหนื่อยกันรึยังคะ  หลังจากตอนที่แล้วพาไปถ่ายรูปคู่กับ เมอร์ไลออน พ่นน้ำกันมาแล้ว  เราจะพาไปต่อกันค่ะ  เพียงแค่เดินข้ามไปยังฝั่งตรงกันข้าม  เราก้อจะพบกับ โรงละคร เอสพลานาด (Esplanade) อาคารทรงแปลกตา มีหนามเหมือนกับทุเรียนแห่งนี้  ค่ะ ซึ่งที่นี้เปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการ ในปี ค.ศ. 2002  ซึ่งเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่ 06.00-03.00 น. โดยด้านในแบ่งเป็น ค่ะ คือ  เธียเตอร์ ซึ่งเป็นที่สำหรับจัดแสดงคอนเสิร์ต และการแสดงละคร และคอนเสิร์ตฮอลล์ค่ะ   นอกนั้นยังมีลานกลางแจ้ง สำหรับงานแสดงอื่นๆ อีกด้วย

ต่อมาข้าง ๆ กัน คือ Singapore Flyer เป็นชิงช้าสวรรค์ สูงถึง 165  เมตรเป็นลักษณะของแคปซูลที่จุผู้โดยสารโดยประมาณที่ 15 คน ค่ะ  โดยชิงช้าจะหมุนไปอย่างช้าๆ  ประมาณรอบละ 30 นาทีได้ค่ะ  ชมวิวเมืองสิงคโปร์อย่างช้าๆ  แบบ 360 องศาเลยทีเดียว ขอแนะนำว่า มาตอนเย็นเนี่ย  กำลังโรแมนติกเชียวค่ะ


ส่วนด้านหลัง ของ โรงละครเอสพลานาด จะพบกับ ซิตี้ลิงก์มอลล์ค่ะ   จะเป็นทางเดินใต้ดินไปยังตึก ซันเทก ซิตี้ (Suntec City) อย่าคิดว่า ทางเดินใต้ดินนี่จะดูน่ากลัว  ๆ นะคะ   เพราะที่นี่ ล้วนเต็มไปด้วย ร้านขายของ, ร้านอาหาร, รวมไปถึงร้านสินค้าแบรนด์เนมอีกด้วยค่ะ ระหว่างทางนี่สาว  ๆ อาจจะเหมือนจะอยู่ในดงดอกไม้ซะหน่อย   หากใครต้องการทำเวลาในการเที่ยว  ก้อมุ่งหน้า ตรงไปก่อนนะคะ  ค่อยมาช๊อปทีหลังเนอะ เพราะจุดมุ่งหมายของเรา ก้อคือ ซันเทค ซิตี้ 1-5  ซึ่งอย่างที่รู้ๆ กันนะคะ  ที่สิงคโปร์นี่  จะเชื่อเรื่องฮวงจุ้ยเป็นอย่างมาก  โดยเฉพาะที่นี่ ก้อถูกสร้างและออกแบบตามหลักฮวงจุ้ยของจีนกันเลยค่ะ และเชื่อว่า เป็นจุดที่มีฮวงจุ้ยที่ดีที่สุดอีกด้วย  ซึ่ง ซันเทค ซิตี้นี้ ประกอบไปด้วย ศูนย์แสดงสินค้า  Singapore International convention  & Exhibition Centre และห้างสรรพสินค้า อย่าง Suntec City Mall ประกอบด้วยแหล่งช๊อปปิ้ง  ร้านอาหาร  โรงภาพยนตร์ รวมไปถึง ซันเทก ทาวเวอร์ 1-5  อีกด้วยค่ะ


มีร้านอาหารไทยด้วยนะคะ  แหม เวลาไปต่างประเทศนี่  เจอภาษาไทยแล้วรู้สึกอุ่นใจยังงัยไม่รู้


Fountain of Wealth หรือน้ำพุแห่งความโชคดีค่ะ  ถูกสร้างขึ้นในปี 1997 และได้มีการบันทึกจากกินเนสส์บุ๊กว่าเป็นน้ำพุดที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี ค.ศ. 1998 โดยมีความสูงประมาณ 13.8 เมตรค่ะ โดยสร้างไว้ตรงกลางระหว่างตึกซันเทกทั้ง 5  ซึ่งหากเราแหงนหน้าขึ้นไปมองจะเห็นเหมือนตึกทั้งห้า เป็นนิ้วมือชี้ขึ้นไปบนฟ้า  ซึ่งก้อเป็นไปตามหลักฮวงจุ้ยอีกเช่นเคยค่ะ

เชื่อว่าหากใครได้สัมผัสละอองของน้ำพุแล้วจะโชคดีโดยมีเวลาด้วยนะคะ คือ 09.00-12.00, 14.30-18.00, 19.00-19.45, 21.30-22.00 และจะมีการแสดงเลเซอร์ด้วยนะคะ ที่เวลา 20.00,20.30 และ 21.00 น. ค่ะ วิธีการสัมผัสน้ำคือให้ใช้มือขวาสัมมผัสน้ำพร้อมกับอธิษฐาน แล้วเดินวนตามเข็มนาฬิกา 3 รอบค่ะ  (ไม่รู้เค้าจะหรอกเรารึเปล่าเนอะเอาเป็นว่าใครเคยขอแล้วสมหวังมาบอกกันบ้างนะคะ)

.




เอาหล่ะค่ะ ทีนี้ สาว ๆ คนไหนอยากจะช๊อป ก้อเดินช๊อปกันได้ตามสบายค่ะ หรือว่าจะเลือกเดินช๊อปปิ้ง ย่านดัง อย่างออร์ชาร์ด ก้อไม่ว่ากัน สามารถเดินเล่น ซิตี้ลิงก์มอลล์  แล้วขึ้นรถไฟใต้ดินที่ สถานี City Hall  ไปยัง สถานี Orchard ได้เลยค่ะ ขอบอกว่า เตรียมสตางค์ หรือบัตรเครดิตไว้ให้พร้อมเลยนะคะ  โดยเฉพาะคุณหนุ่มๆ ที่ไปกับคุณแฟน เตรียมกระเป๋าเบาได้เลยค่ะ  อ่อ  ๆ  อีกซักนิดนะคะ  อย่ามัวช๊อปปิ้งกันเพลิน ให้ดูด้วยว่า  มีป้าย Tax Free Shopping รึเปล่า หรือสอบถามได้จากร้านค้าได้เลยค่ะ เพราะ ว่าเราสามารถขอคืนภาษีได้ ซึ่งเราสามารถแจ้งพนักงานเพื่อขอเอกสารได้เลย แต่ต้องยื่นพาสปอร์ตให้พนักงานดูด้วยนะคะ    พอวันกลับ ให้นำเอกสารไปให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบที่สนามบินค่ะ  และควรเตรียมของไว้เผื่อว่าเจ้าหน้าที่จะขอดูด้วยนะคะ   เมื่อตรวจสอบเรียบร้อย เจ้าหน้าทีจะให้เราไปรับเงินคืนได้ที่ Gst Cash Refund ค่ะ ซึ่งอยู่ บริเวณ Duty Fee ค่ะ







Create Date : 09 ตุลาคม 2555
Last Update : 15 ตุลาคม 2555 16:28:29 น.
Counter : 2561 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

วิปครีมรสมะนาว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




เรื่องราวของคนชอบเที่ยว เป็นชีวิต จิตใจ ว่างเป็นไม่ได้ ต้องหาเรื่องออก "เดินทาง"

+++......................................+++
ตุลาคม 2555

 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
MY VIP Friend