เมื่อกลัวที่แคบแล้วต้องนั่งเครื่องบินจะทำไงดี???
เหตุเกิดเนื่องจากมีคนเคาะหลังบ้านมาถาม และทิ้งคำถามไว้หน้าบล็อกด้วยว่า
คนกลัวที่แคบ+ทึบ จะเดินทางด้วยเครื่องบินอย่างไรดี???
เนื่องจากเสียงลมหนาวไม่ใช่คุณหมอ ไม่ใช่จิตแพทย์ แต่มีกลัวที่แคบอยู่มากพอควร ซึ่งมีอาการคล้ายๆกับ หลายคน ที่เคาะถามมา และอาจจะมากกว่าบางคนด้วยซ้ำ เพราะเรากลัวลิฟต์ด้วย ไม่ว่าจะลิฟต์แก้วหรือไม่แก้ว ถ้าต้องขึ้นลิฟต์แก้วหรือลิฟต์ที่เล็กแบบขึ้นได้ 4 -5 คน นี่ถึงขั้นเหงื่อแตก
เที่ยวถ้ำแคบๆ มืดๆ นี่ไม่ต้องพูดถึง
รถตู้นี่ออกแนวอึดอัด แต่พอทนได้
จริงๆ จากเท่าที่ปรึกษานักจิตวิทยามา พบว่า อาการประมาณเรานี่เกิดจากความรู้สึกที่รู้ว่า
มันกำลังอยู่ในสภาวะที่ไม่มั่นคงปลอดภัย ทำให้ร่างกายแสดงอาการระวังภัย
คือไม่ใช่อาการทางจิตซะทีเดียว เพราะมีสติรู้ตัวอยู่
คล้ายๆ อารมณ์คนเจองูที่มีพิษ ที่กลัวมากเพราะรู้ว่ามันมีพิษ
เป็นความกลัวที่เกิดจากสมอง+จิต ไม่ใช่ความผิดปกติทางจิต
หากเป็นคนที่ผิดปกติทางจิตด้วยอาการกลัวที่แคบ จะต้องถึงขั้นคุมสติตัวเองไม่ได้ ซึ่งต้องให้แพทย์รักษา
ปัจจุบันอาการของเราค่อนข้างดีขึ้นเยอะ สำหรับการนั่งเครื่องบิน แต่ถ้าเป็นลิฟต์กับรถตู้...ยังใช้วิธีเลี่ยงหรือหลับตาภาวนาเอา (แก้ปัญหาเครื่องบินก่อน เพราะสำคัญกับหน้าที่การงานมาก)
ทางแก้ที่เราใช้ปฏิบัติมาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน
แรกๆ เลยจะใช้วิธีตั้งแต่การวางแผนตั้งแต่ตอนซื้อตั๋ว โดยจะซื้อผ่านบัตรเครดิตที่ได้เงินประกันสูงสุด คือมองแง่ร้ายไปเลยแบบสุดๆๆ
"เอาฟะ ตูตายไปสบายกันทั้งบ้าน"
แล้วก็นึกถึงประโยคนี้ทุกครั้ง เวลาเครื่องเจออากาศแปรปรวน (มันช่วยได้เยอะเหมือนกันนะ มันทำให้เรายอมรับความตายได้ง่ายขึ้น)
ตอนเช็คอินก็พยายามที่จะให้ได้ที่นั่งริมทางเดิน และไม่ใช่แถวหลังสุดที่ปรับเอนไม่ได้
ส่วนตอนขึ้นเครื่องคือจะไปนั่งหน้า gate ทางขึ้นเร็ว แต่ขึ้นเครื่องเป็นกลุ่มกือบๆจะเป็นคนสุดท้าย เหตุเพราะยิ่งขึ้นแรกๆ ก็ยิ่งต้องใช้เวลาบนเครื่องมาก
หลายครั้งโดยเฉพาะ TG เรารู้สึกว่าอากาศก่อนเทคออฟ มันแย่ๆ ยังไงไม่รู้ หายใจไม่ค่อยออก ยิ่งทำให้รู้สึกตื่นตระหนกมากขึ้น
แถมขึ้นเร็วก็ต้องต่อคิว ยืนในงวงช้างนาน เพราะต้องรอให้คนข้างหน้าจัดการภารกิจให้เสร็จก่อน
พอนั่งปุ๊บ ก็จะหยิบแผนที่ประตูฉุกเฉินบนเครื่องมาดูเลย มองให้ทั่วอะไรอยู่ตรงไหน ถ้ามันมืดเราต้องไปข้างหน้าหรือข้างหลังระยะประมาณแค่ไหน ทั้งหมดก็เพื่อแก้ความรู้สึกว่าตัวเองอยู่ในที่ๆ ไม่ปลอดภัย
แล้วก็เริ่มจัดการที่นั่งตัวเองให้เรียบร้อย รัดเข็มขัดนิรภัยแล้วก็หลับตา เริ่มสวดมนต์ภาวนา กำหนดลมหายใจให้ผ่อนคลาย แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ไปเรื่อยๆ
(ถ้าไม่ใช่ชาวพุทธ ก็น่าจะมีบทสวดอื่นที่ใกล้เคียงกัน)
วิธีการนี้จะทำให้ผ่อนคลายขึ้น จิตจะนิ่งขึ้น บางคนจะหลับไปเลย แต่เราไม่หลับแต่จิตจะนิ่งๆ
ช่วงที่น่ากลัวสุดมันอยู่แค่ช่วงเทคออฟกับแลนดิ้ง เราก็ใช้วิธีนี้ตลอด
แต่ถ้าต้องนั่งเครื่องนานๆ แล้วรู้สึกอึดอัด เวียนหัว จะใช้วิธีทำร่างกายให้ผ่อนคลาย จิบน้ำบ่อยๆ ถ้ามีน้ำส้มหรือน้ำชาร้อนๆ ช่วยก็จะดีมาก
ถ้ายังอึดอัดไม่หาย ก็อย่าได้แคร์คนอื่น หากต้องนั่งเป็นระยะเวลานานๆ เราใช้วิธีลุกเดินไปมาบนเครื่อง (ถึงได้เลือกที่นั่งใกล้ทางเดิน) เป็นการผ่อนคลายร่างกายและสำรวจเครื่องบินไปด้วย
วิธีนี้คงไม่ได้แก้ให้หายในครั้งเดียว แต่จะช่วยปรับสภาพ "ใจ" ของเรา ให้รู้สึกผ่อนคลายเวลาเดินทาง และให้สมองเราประมวลผลจากข้อมูลที่ได้เห็น เพื่อให้รู้ว่า การอยู่บนเครื่องบิน มันก็ปลอดภัยในระดับหนึ่ง
ป.ล. หวังว่าจะพอช่วยให้คนที่กลัวที่แคบ กล้าจะลั๊ลลาด้วยเครื่องบินได้เนอะ
Create Date : 07 พฤศจิกายน 2553 |
|
6 comments |
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2553 13:42:23 น. |
Counter : 4865 Pageviews. |
|
|
|
มีเพื่อนเป็นเหมือนกัน เค้าชอบหลับตาเมื่อนั่งที่นั่งแล้วน่ะค่ะ
ต้องใช้เวลาในการปรับตัวทีเดียว เป็นกำลังใจให้นะคะ