ขออนุญาตเล่าถึงเรื่องแรงบันดาลใจ.. แค่ไม่กี่บรรทัดนะคะ..

ฉันได้พบกับ - - โลก อีกใบหนึ่ง ของฉัน..ที่ซึ่งเป็นเหมือน "จิ๊กซอว์" ของชีวิต :)

เติมเต็มให้ฉันได้รู้จักรัก และรักเป็น - - รู้จักวิธีที่จะรัก ตนเอง.. และผู้อื่น..

อันที่จริง ฉันรู้จักเธอมานาน.. แต่ไม่ทราบได้ว่า จะเข้าไปรู้จักเธอจริงๆ ได้ยังไง..

Aikido...

ภาพนี้ฉันจะคิดว่าเป็น นีน่า ฟอลต์เนอร์ละกัน ^_^,,

ย้อนกลับไปสักประมาณ 10 ปีก่อน ฉันได้รู้จัก นีน่า ฟอลต์เนอร์ จากเรื่อง Monster โดย อ.นาโอกิ อุราซาว่า

นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง ผู้มีแนวเรื่องที่หลากหลาย ผลงานที่เป็นที่รู้จักก็ได้แก่ Yawara, 20th Century Boys, Pluto และก็เรื่อง Monster นี่แหละ การ์ตูนเรื่องนี้ดำเนินเรื่องในเยอรมันตะวันออกและตะวันตก..แต่จุดเริ่มต้นอยู่ที่เยอรมันตะวันออก ถึงกรุงปราก ของสาธารณรัฐเชโกสโลวะเกีย.. นีน่า ฟอลต์เนอร์ หรือ แอนนา ลีเบลท์ ใช้ไอคิโดเอาตัวรอดจากสถานการณ์ฉุกเฉินจนฉันประทับใจ..

จริงๆแล้ว ในเรื่องมีฉากเล่นไอคิโดน้อยมาก ที่มีก็แค่เล่ม 2 (Birthday Party) เท่านั้น.. นอกนั้นเป็น story อื่นๆ ที่ปรากฏตามท้องเรื่องที่เป็นแนวลึกลับ สยองขวัญ แต่อ่านแล้วกลับไม่คิดว่ามันสยองขวัญเท่าไหร่ จะเรียกได้ว่าเป็น เทคนิค จะดีกว่า ที่ทำให้คุณไม่สามารถที่จะไม่ติดตามตอนต่อไปได้...

มาในวันนี้ ฉันได้รู้จักไอคิโดได้ดียิ่งขึ้น.. คงเป็นเพราะฉันได้ซ้อมกับพี่ที่ฝึกฝนตัวเองมาเป็นอย่างดี.. และอยู่ในกลุ่มของคนที่มีไฟ :))

มันทำให้ไฟนั้นลุกโชน..

ไอคิโดเป็นศาสตร์แห่งความรัก.. ความรักที่จะไม่ใช้กำลังปะทะกำลัง แต่จะให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนทิศทางแรง.. ที่จะทำให้ทั้งตัวเรา และผู้อื่น ไม่ได้รับผลกระทบจากแรงที่เข้าปะทะ.. ฉันได้อ่านปรัชญาเกี่ยวกับไอคิโดจากหนังสือและเว็บไซต์ จนกระทั่งรู้สึกว่าได้ค้นพบกับสิ่งที่ตามหามานาน.. ปรมาจารย์ Morihei Ueshiba เป็นผู้ค้นพบศาสตร์นี้ (จากภาพ เป็นการซ้อมของอาจารย์  Kisshomaru, O-Sensei คนปัจจุบัน)

ท่าซ้อมและวอร์ม และการเก็บเครื่องแบบ (Hakama)

ในตอนนี้ ฉันคงจะบอกเล่าอะไรมากไม่ได้ เพราะคิดว่ามันเป็นพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่จะทำความเข้าใจและรู้จักบางอย่างอย่างจริงจัง.. ฉันเพียงแค่ เขียนสิ่งที่อยู่ในใจออกมาเท่านั้น.. ถึงจะไม่มากมาย แต่ก็สามารถตอบคำถามของตัวเอง และความสงสัยหลายๆอย่างที่มีในใจให้หายไป.. ฉันยังคงต้องเรียนรู้อีกมาก แต่คงเพราะมีเพื่อนๆ และมีพี่ๆ คอยให้คำแนะนำและกำลังใจ.. ฉันก็เลยมีกำลังใจ และมีความพยายามมากขึ้น ดังนั้น..ต่อให้ทางอีกยาวไกลสักเท่าไร แต่ฉันก็พยายามจะฟันฝ่าอุปสรรคไปให้ได้ เพราะฉันรู้ว่า ที่ปลายทางนั้น คือความสงบสุข และการรู้แจ้งแห่งพลังชีวิต (Ki) ของตน โดยที่ฉันสามารถเรียนรู้ที่จะใช้มันได้อย่างถูกต้อง และคุ้มค่ากับที่ได้พลังชีวิตนี้มาตั้งแต่กำเนิด..

ฉันเคยเขียนแต่เรื่องของความรัก.. แต่ว่ามันอาจจะดูตื้นไปสำหรับใครหลายๆ คน ซึ่งฉันก็พร้อมจะเข้าใจว่า คนเรามีความซับซ้อนต่างกัน..สิ่งที่ฉันสนใจ อาจจะไม่เป็นที่สนใจของคนอื่นๆ - - :) แต่ฉันก็ภูมิใจ ที่เราต่างมีเรื่องสนุกเป็นของตนเอง..

-- ขอบคุณภาพจาก Google และ วีดีโอจาก Youtube นะคะ --