เมษายน 2554

 
 
 
 
 
1
2
3
4
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
คำถามที่ไม่ต้องตอบ
ก่อนอื่นต้องบอกว่าสภาวะอารมณ์ในวันนี้ มันช่างแตกต่างจากเมื่อวาน ก็ขอให้มันผ่านพ้นไปโดยเร็ว อันที่จริงกลับบ้านอารมณ์ก็กลับคืนมาแล้ว แต่อยากให้อารมณ์แง่ลบแบบนี้หายไปจากห้วงความคิดเร็ว ๆ

ขอให้พื้นที่ตรงนี้ระบายความในใจออกมาสักหน่อย

เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่หวังว่า สักวันเมื่อตัวเองกลับมาอ่านมันอีก จะได้เตือนสติและยิ้มได้กับสิ่งที่เข้ามาระบายในวันนี้

คำถามที่ไม่ต้องตอบ เกิดขึ้นในห้องทำงาน
บางคนสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเอง บางคนชอบให้คนอื่นชี้แนะแนวทาง บางคนชอบอยู่เฉย ๆ แล้วรอให้ความรู้นั้นลอยมาหา บางคนชอบวิเคราะห์และปั้นแต่ง ริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ

แต่สิ่งที่ข้าพเจ้าได้เจอกับตัวเองในวันนี้ มันเป็นสิ่งที่ต้องขอระบายและให้พื้นที่สาธารณะนี้ในการเขียนความในใจ

เรื่องของเรื่องคือ มีเพื่อนร่วมงานท่านหนึ่ง ท่านคนนี้เป็นประเภท เรียนรู้จากคนอื่น รอให้ความรู้ลอยมาปะทะใบหน้าแล้ว ดูกลืนความรู้นั้น โดยมักจะตั้งคำถามที่ตัวเองสามารถหาคำตอบได้อยู่แล้ว เพียงแต่วิเคราะห์, ดูและอ่านเอกสารให้ครบถ้วนก่อน ทำการตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนการตั้งคำถาม

ท่านมักจะมีคำตอบที่ข้าพเจ้าไม่ต้องการตอบอยู่หลาย ๆ เรื่อง ซึ่งคำถามเหล่านั้น ไม่ใช่ "หน้าที่" ของข้าพเจ้า เพียงแต่ข้าพเจ้าเป็นแค่ส่วนหนึ่งที่ไม่คาบเกี่ยวก็เท่านั้นเอง เกี่ยวข้องแค่ไหนนะหรอ 10% แต่ทุก ๆ คำถามที่ท่านสอบถามมา มันเป็นคำถามที่สามารถหาคำตอบได้จากการดูเอกสารให้ครบถ้วน

แต่สิ่งที่ติดตามมาจากคำถามเหล่านั้น คือสีหน้าที่แสดงออกมาว่า ทำไมงานถึงออกมาเป็นแบบนี้ ข้าพเจ้าไม่รู้เลยหรือว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วท่านจะรู้ได้อย่างไรว่ามันผิด

อ้าว สรุปว่างานที่ผิดของท่านเป็นความผิดของข้าพเจ้าอย่างนั้นหรือ คำตอบที่ข้าพเจ้าส่งมอบไปให้ด้วยน้ำใจอันดีงามก็คือ "ไม่ทราบ" แผนกที่เกี่ยวข้องโดยตรงเค้าทำมาแบบนี้ ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นคนทำ เพียงแค่มีส่วนเล็ก ๆ เท่านั้น ที่ไปเกี่ยวกับงานของท่าน

พยายามทำความเข้าใจมาหลายครั้งหลายหน ทำใจให้เปิดรับว่าเราทุกคนก็มีส่วนดี ส่วนเสียปะปนกันไป ต้องมองในมุมที่ดีของท่านเสมอ การมองในแง่ลบมันมีแต่จะก่อให้เกิดความแตกแยก ไม่พอใจด้วยกันทั้งสองฝ่าย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ข้าพเจ้าก็ได้แต่นั่งคิดอยู่คนเดียว ว่าจะทำอย่างไรดี อยู่ ๆ กันไป ทำงานกันไป คุยกันเฉพาะเรื่องงานเท่านั้น จะเอาแบบนั้นหรอ (อันที่จริงก็ทำอยู่ 555)

บางทีก็คิดว่ามันไร้สาระนะ แต่เจอบ่อย ๆ มันก็เริ่มกลายเป็นมีสาระ เพราะทำให้นั่งคิดว่า ทำไม ท่านต้องทำแบบนั้น แสดงกิริยาแบบนั้น พื้นฐานและประสบการณ์การทำงานของท่านเป็นมาอย่างไร ถึงได้เกิดมาเป็นลูกอีช่างถาม ถามโดยไม่ศึกษาให้ละเอียดก่อน ต้องรอให้มีคนป้อน รอความรู้ให้ลอยมาเข้าสมอง จะเอายังงั้นหรือ

ท้ายที่สุด มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพียงได้แต่นั่งรอ รอว่าสักวันบาดแผลในใจที่เก็บอยู่ลึก ๆ ตรงนี้จะจางหายไป หรือว่าอักเสบจนต้องไปหาหมอ อ่านหนังสือธรรมะบอกว่า "ทุกข์ที่ไหนให้ตัดที่นั้น" ขอบอกว่าอยากทำมาก ๆ แต่ทำไมแค่คน ๆ เดียวถึงต้องทำให้เรามาสละหน้าที่การงาน สละเพื่อนร่วมงานที่ดี ๆ ไป

ดังนั้น ตอนนี้ก็ทำได้เพิ่งเขียนมาระบายตรงนี้ และขอให้ตัวเองในอนาคต ถ้าไปกลับมาอ่านบทความนี้อีก จงจำไว้นะว่า "ไม่มีทำอะไรให้เราทุกข์ได้ นอกจากตัวเราเอง"

กลับไปทำงานซะ น่าเกลียดมาก ๆ เอาเวลางานมาเขียนเรื่องอะไรก็ไม่รู้

ขอให้มีวันที่ดีนะ บุญรักษา



Create Date : 06 เมษายน 2554
Last Update : 6 เมษายน 2554 13:05:17 น.
Counter : 3562 Pageviews.

1 comments
  
ชีวิตทำงานเจอหลายรูปแบบ บางทีเราก็พอใจบางทีเราก็โกรธ อารมณ์เสียสารพัด แต่ก็ต้องทำต่อไป เพื่อนร่วมงานก็ยังเป็นเพื่อนร่วมงาน ยิ้มไว้ สู้ๆ

ปล. อย่างนี้ก็เคยเจอ รู้แต่แกล้งโง่ ถาม แต่ไม่ทำ เจอเราด่าประจำเลย ด่าใส่เลย ชอบเอาเปรียบคนอื่นอะ หลอกใช้คนอื่น เราไม่ปลื้ม 55 (มันต่างกะช่วงแรกๆ ไงอยู่นะ)
โดย: Summer Flower วันที่: 6 เมษายน 2554 เวลา:19:02:21 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ในวันที่เราเติบโต
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]