คิดถึงเอ็งโว้ย! ไอ้น้องตัวแสบ...
ถ้าจะเปรียบเทียบกับสัตว์แล้ว คนบางคนก็เหมือนแมว คือคบกับใครก็ได้ที่ถูกใจ ไม่เรื่องมากเท่าไหร่ ขอแค่ให้ความอบอุ่น ดูแลกัน และอย่าทิ้งกันก็พอ ถ้าเธอทิ้งก็ไม่เป็นไร ยังไงชั้นก็หาคนใหม่มาเติมเต็มช่องว่างได้อยู่แล้ว

แต่คนบางคนก็เหมือนกับหมา คือ ไม่ใช่แค่ใครก็ได้ แต่ต้องเป็นคนนั้นจริง ๆ และถ้ามันรักและคิดจะเชื่อใจแล้ว แม้ว่าจะถูกคน ๆ นั้นทอดทิ้ง แม้จะรู้ว่าเค้าไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่ความทรงจำที่มีค่าของเค้าคนนั้นจะยังคงอยู่ในใจ หมาไม่ได้โง่ที่จะไม่เข้าใจว่าเค้าหมดรักเรา แต่หมาพอใจที่จะรอ ที่จะมีความสุขอยู่กับความทรงจำดี ๆ ที่เคยมีร่วมกัน แม้จะทำตัวให้ร่าเริงเมื่อมีเจ้าของคนใหม่ แต่คงเป็นการยากที่จะยอมรับและให้ใจได้เหมือนคนแรกที่เคยผ่านอะไรมาด้วยกัน และนั่นเป็นหนึ่งในหลายสิ่งหลายอย่างที่เราทั้งคู่มีเหมือน ๆ กัน

ฝนตกปรอย ๆ กลางเดือนมกราฯเนี่ยนะ ธรรมชาติช่างมีเรื่องให้ประหลาดใจได้เสมอจริง ๆ แต่ก็เพราะความประหลาดกับความบังเอิญนี่แหละที่มักจะทำให้เกิดเรื่องราว ที่บางครั้งก็อาจเปลี่ยนชีวิตคนบางคนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้เลยทีเดียว พีนั่งคิดคนเดียวเรื่อยเปื่อยขณะเหม่อมองปรอยฝนริมหน้าต่าง ฝนตกแบบนี้ทำให้นึกถึงวันนั้น วันที่เจอกับเอ็มครั้งแรก

ตอนนั้นเป็นช่วงปลายเดือนกรกฎาฯ ฝนตกปรอย ๆ ขณะที่พีกำลังแต่งตัวเตรียมไปเที่ยวกับแฟน เสียงออดก็ดังขึ้น 2 ที พีเปิดประตูไปดูก็ต้องอึ้ง เด็กผู้ชายผิวเข้มตาคมอายุประมาณสิบสองท่าทางกวน ๆ ถามว่า "ป้าพรอยู่ไหมครับ" "อื้ออยู่ รอแป๊บนะ" พีตอบแบบงง ๆ 'ใครวะ?' แอบคิดไปพลางขึ้นไปเรียกแม่ "แม่! เด็กที่ไหนมาไม่รู้ ตัวดำ ๆ" "อ๋อ! เจ้าเอ็ม... แม่ลืมบอกไป ป้าดาที่เชียงใหม่เค้าฝากมา ลูกป้าน้ำที่เพิ่งเสียไปไง เราก็เคยไปงานศพป้าน้ำนะ จำไม่ได้เหรอ" "อ๋อ เณรที่บวชหน้าไฟป้าน้ำเมื่อตอนนั้นน่ะเหรอ จำได้ละ" พีนึกไปถึงเณรน้อยผิวเข้ม ๆ ที่บวชหน้าศพแม่ "พ่อมันป่วยนอนอยู่โรงบาลทรวงอกเนี่ยแหละ ป้าดาเค้าเลยขอให้อยู่กับเรา จะได้ไปเยี่ยมพ่อได้สะดวก ยังไงก็ดี ๆ กันไว้ละกัน" แม่สำทับ "แล้วให้นอนที่ไหนเล่าแม่" "ก็นอนห้องเดียวกันแหละ อยากมีน้องไม่ใช่เหรอ นี่ไง!" "...!?" อึ้งไปพลางลงไปเรียกเอ็ม "เข้ามาดิ พี่ชื่อพีนะ" ไม่มีคำตอบใด ๆ เอ็มเดินจ้ำพรวดขึ้นบ้านไปหาแม่พีเลย 'หนอย...ไอ้นี่มันน่าถีบจริง ๆ !' คือความประทับใจแรกของพี ซักพักเสียงมือถือดังขื้น โชว์เบอร์ว่าแนน 'เอ้า! ลืมเลยว่านัดแฟนไว้ โดนบ่นอีกแล้วตรู... '

พีเป็นคนโลกส่วนตัวสูงพอใช้ แม้จะดูร่าเริงในหมู่เพื่อนฝูงในมหาลัย แต่ความจริงแล้วก็ชอบขลุกอยู่กับเพื่อนสนิทไม่กี่คนที่คบกันมาตั้งแต่มัธยมมากกว่า เลยทำให้กระอักกระอ่วนมากเมื่อต้องมาแชร์ห้องกับเด็กม.ต้นที่ไหนก็ไม่รู้ "เอ็งนอนพื้นนะ เดี๋ยวพี่เอาถุงนอนมาปูให้หนา ๆ " พีชิงความได้เปรียบก่อน กลัวโดนแย่งเตียง "ครับ" โอ้ ตอบเป็นด้วยแฮะ... เสียงมือถือดังขึ้น แนนโทรมา "เป็นไงมั่งตัวเอง เล่นเกมอยู่รึเปล่า" "เปล่า... วันนี้มัวยุ่งเรื่องเจ้าเอ็ม ไม่มีเวลาหรอก" พีติดเกมมาก ตามประสาเด็กเนิร์ด เล่นทั้ง play 2 เล่นทั้งคอมฯ โดยเฉพาะเกม RPG นี่เล่นข้าวปลาไม่กินทั้งวันก็เคยมาแล้ว "งั้นไว้โทรไปใหม่นะ ไปทำงานก่อน" แฟนพีทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟที่แบล็คแคนย่อน พีชอบไปสั่งกาแฟแล้วก็นั่งเล่น psp เป็นประจำ จนมาวันนึงแนนเข้ามาชวนคุย "เล่นเกมเหรอคะ ท่าทางน่าสนุกจัง" "ลองเล่นดูไหมครับ" พีประทับใจรอยยิ้มของแนน "เล่นไม่เป็นอ่ะ เธอสอนเราหน่อยดิ" จากนั้นทั้งสองจึงได้เริ่มคบกัน พีชอบที่แนนสดใสร่าเริงดีแต่ก็ไม่รู้แนนชอบคนจีด ๆ อย่างพีที่ตรงไหนเหมือนกัน "พี่พีผมเล่นคอมได้ป่ะ" เจ้าเอ็มโพล่งขึ้นมา "เล่นเป็นด้วยเหรอเรา" พีถาม "อยากเล่น SF อ่ะ " "เอาดิ แต่อย่าไปเกรียนใส่คนอื่นนะ" "ว่าผมเกรียนเหรอ! :<" "555+ :D" เจ้าเด็กนี่ก็ตลกดีเหมือนกันแฮะว์

ตั้งแต่ประถมพีอยากมีน้องมาตลอด แอบอิจฉาลูกพี่ลูกน้องที่เค้ามีพี่น้องกันหลายคน เวลาเล่นบอลโกลหนูก็ตั้งทีม 3 คนพี่น้อง หาเพื่อนเล่นด้วยได้สบาย ส่วนพีได้แต่เป็นตัวสำรอง นาน ๆ จะได้ลงเล่นทีนึง นี่คงเป็นสาเหตุที่ทำให้พีไม่ชอบฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ทุกเย็นพีจะชอบไปขลุกอยู่บ้านลูกพี่ลูกน้องเสมอ เคยจะโดนพ่อตีเรื่องไม่ยอมกลับบ้านก็หลายหน แต่แม่ก็คอยห้ามพ่อไว้ เพราะแม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วพีแค่อยากมีพี่น้องบ้างเท่านั้นเอง หลังจากนั้นพ่อจึงหาวิธีที่จะทำให้พีอยู่บ้านได้สำเร็จ คือซื้อเครื่องเกมซูเปอร์แฟมิคอมให้ (ซึ่งก็ได้ผลมาจนถึงทุกวันนี้)

พอพีขึ้นม.ต้นแม่ก็ตั้งท้อง ไปตรวจดูพบว่าเป็นเด็กผู้ชาย พีโคตรดีใจเลย! เพราะอยากได้น้องชายจะได้เล่นอะไร ๆ ด้วยกันได้ทุกอย่างที่เคยฝันไว้ แต่ช่วงนั้นแม่พีค่อนข้างอารมณ์แปรปรวนมาก บางทีอยู่ ๆ ก็นั่งซึม บ่อยครั้งที่ร้องให้ขึ้นมาเฉย ๆ เป็นแบบนี้ประจำ จนทำให้พีพลอยกลุ้มใจไปด้วย พอถามว่าแม่เป็นอะไรบ่อย ๆ เข้า แม่เลยเล่าให้ฟังว่าจับได้ว่าพ่อไปแอบมีเมียน้อย พีรู้เข้าก็สงสารแม่ แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรพ่อเพราะก็รักพ่อเหมือนกัน และตอนนี้มัวแต่ดีใจที่จะได้มีน้องชายด้วย ทุกครั้งที่พีว่าง จะคอยคิดชื่อให้น้องชาย คิดเป็นร้อย ๆ ชื่อ จนได้ชื่อนึงที่เพราะมาก และพ่อกับแม่ก็ชอบด้วย ตั้งใจว่าเกิดมาก็จะให้น้องชื่อนี้แหละ

แม่ตั้งท้องได้ย่างเข้าเดือนที่ 7 แล้ว คืนนึงแม่ปวดท้องมากต้องไปหาหมอ พ่อขับรถพาแม่ไปโรงพยาบาล หมอบอกว่าแม่ต้องทำคลอดก่อนกำหนด หลังจากผ่าออกแล้วน้องพีต้องอยู่ในตู้อบ และได้รับการดูแลตลอดเวลา หมอแนะนำตัวยาพิเศษจากต่างประเทศราคาหลายแสน แม่ยอมทุกอย่าง ขอให้น้องรอดก็พอ พีก็คิดเหมือนแม่ เขาได้มีน้องแล้ว น้องจะตายไม่ได้! หลังจากนั้นอีก 3 วัน พีกลับมาจากโรงเรียนตามปกติ เห็นแม่ใส่ชุดดำร้องให้สะอึกสะอื้นมีพ่อคอยปลอบอยู่ข้าง ๆ พีเหมือนจุกในคอหอย เหมือนรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น น้องชายพีตายไปแล้ว! ตั้งแต่นั้นมาพีไม่เคยคิดอยากได้น้องชายอีกเลย...

เอ็มใช้เวลาไม่นานก็เริ่มทำตัวตามสบายเหมือนเป็นบ้านตัวเองไปเรียบร้อย บางครั้งพีกลับเข้าห้องมายังอึ้ง ที่นอนยับยู่ยี่ เสื้อใช้แล้วกองสุม ๆ กัน จานชามกินแล้วไม่เก็บมดขึ้นยั้วเยี้ย แถมเปิดคอมฯค้างไว้อีกแหน่ะ ส่วนไอ้ตัวดีไม่รู้หายหัวไปไหน 'ไอ้เอ็มแมร่ง... กลับมาต้องเตะมันซักป้าป คอยดู๊!' แต่นาน ๆ เข้าก็เริ่มชิน พีเลยได้อาชีพเสริมเป็นคนทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ฯลฯ เอ็มเรียนม.ต้นอยู่ไกล้ ๆ บ้าน เดินไปไม่กี่สิบเมตรก็ถึง แต่บางครั้งก็กลับบ้านดึกเพราะไปเยี่ยมพ่อที่โรงพยาบาล พ่อเอ็มเป็นมะเร็งในหลอดลมระยะที่ 3 เอ็มเล่าว่าพ่อสูบบุหรี่จัดมาตั้งแต่วัยรุ่นแล้ว เอ็มเลยเกลียดบุหรี่มากและพลอยไม่ชอบคนสูบบุหรี่ไปด้วย บางวันเอ็มก็ขอตังค์พีไปซื้อของอร่อย ๆ ไปฝากพ่อ

บ่อยครั้งที่เอ็มชอบโดดเรียน อยู่บ้านนั่งเล่นคอมฯ บางทีพีก็ต้องบังคับให้ไปเรียน และก็มักจะทะเลาะกันทุกที ถ้าพีไม่มีเรียนแต่เช้าก็ยังบังคับได้ แต่บางครั้งมีเรียนคาบเช้า พีต้องใช้วิธีเอาสายไฟคอมฯไปซ่อนไว้ ซึ่งก็ได้ผล เอ็มเกลียดพีไปหลายวันเลย :D แต่พีก็ไม่ได้ดีไปกว่าเอ็มนัก เอาแต่เล่นเกมออนไลน์จนต้องดร็อปวิชาหลักไปตัวนึง 'บางเกมก็เล่นตามไอ้เอ็มมันอ่ะแหละ' (แอบโทษน้อง) เลยอาจต้องจบช้ากว่าเพื่อน ยังดีที่แม่ไม่ว่าอะไรเท่าไหร่ แต่ก็กำชับให้ตั้งใจเรียนให้ดีกว่านี้ พีนึกตำหนิตัวเองและตั้งใจว่าจะปรับปรุงตัว ไม่อยากให้เอ็มเอามาว่าด้วยว่าทีพี่ก็ยังไม่ตั้งใจเรียนเหมือนกัน ส่วนแฟนพีกลับไม่ค่อยทุกข์ร้อนเท่าไหร่ บอกว่า "ถ้าพีขี้เกียจเรียนก็ไปเทรนเป็นบาริสต้าสิ จะได้มาทำด้วยกันกับแนนไง" "ไม่เอาอ่ะ อีกปีกว่าก็จบละ เราจะพยายาม" "ดีมาก ค่อยสมกับเป็นแฟนแนนหน่อย ^w^"

ขึ้นม.3 มาได้อย่างทุลักทุเล เอ็มเริ่มเป็นหนุ่มแล้ว ผมลงแว๊กซ์ แอบเอาน้ำหอมพีมาใส่ด้วย! เริ่มปรึกษาเรื่องหญิงกับพีนิดหน่อย บางเรื่องก็ติดเรท บางครั้งนั่งเล่นเกมกันอยู่ก็ถามโพล่งขึ้นมา "พี่พี ถ้าเราคุยกับเค้าแล้วเค้าชอบทำท่าโกรธใส่นี่แสดงว่าเค้าชอบเราป่ะ?" "ไม่รู้ดิ ถ้าเค้าไม่ชอบเค้าคงไม่มานั่งคุยกะเอ็งหรอก..." "พี่พี ๆ นับวันปลอดภัยนี่เริ่มจากวันไหนเหรอ?" "เอ็งเอาถุงยางไปใส่เลยแล้วกัน!" "พี่พี ๆ แฟนผมเมนส์ไม่มาหลายเดือนแล้ว ทำไงดีอ่ะ" "เฮ้ยจริงดิ! อิ๊บอ๋ายแล้ว...:S" "เปล่าผมล้อเล่น แค่ผมสอบตก 3 วิชาแล้วอ่ะ :p " "โอ้! ค่อยยังชั่ว ไปขออาจาร์ยสอบซ่อมซะ หรืออยากลาออกไปเป็นแมงดา เลือกเอา" "lolz :D" "พี่พี วันเกิดซื้อ BB ให้เอ็มหน่อยดิ จะเอาไว้แชทกับแฟน" "ฝันเหอะ ไม่เอามันแพง... กรูจน!" "น๊า ๆ ขอร้องล่ะ คำขอข้อเดียวในชีวิต" "ทั้งปีแหละมรึงอ่ะ ถ้าปีนี้ทำเกรดได้เกิน 2.5 กับไม่ตกซักตัวจะซื้อให้ก็ด๊ะ" "โห! 2.0 ตกไม่เกินสองตัวได้ป่ะ" "งั้นมรึงก็ไปทำงานหาตังค์ซื้อเองละกัน" "โอเค๊ 2.5 ห้ามตกใช่มะ สัญญานะ!" "เออน่า!" แล้วพีก็ต้องเสียตังค์จนได้สิน่า...

อีกไม่ถึงปีพีก็จะจบแล้ว ส่วนเอ็มตั้งแต่ได้ BB มาก็เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาแชทกับแฟนข้าวปลาไม่ค่อยกิน แต่คอยถามอีกฝ่ายตลอด 'ตะเองกินข้าวรึยัง' 'กลับบ้านดี ๆ น๊า' 'ฝันดีน๊า' 'นอนแล้วอย่าลืมตื่นตอนเช้าน๊า' (จะพูดทำไม) 'อย่าตายน๊า' (อันนี้ประชด) ช่วงนี้ทั้งคู่กำลังเห่อเล่นเกมส์ Guitar Heroes วัน ๆ เอาแต่ดีดกีตาร์กันไม่หลับไม่นอน แต่ยังไง๊ยังไงเอ็มก็เก่งกว่าพีหลายขั้น พีมัวยุ่งกับเรื่องเรียนแล้วก็มัวแต่เล่นเกมอยู่ตลอดเลยค่อนข้างห่างกับแนนไปบ้าง แต่สองสามวันแนนก็โทรมาที ก็คุยกันเหมือนปกติ พีเคยวางแผนกับแนนไว้ว่าถ้าเรียนจบแล้วพีจะหางานดี ๆ ทำ ส่วนแนนจะลาออกมาช่วยงาน smes ที่แม่พีเป็นเจ้าของอยู่ แต่ด้วยความที่พียังเหมือนเดิมทุกอย่าง และคิดว่าแนนก็คงเหมือนเดิมเช่นกัน พีไม่รู้เลยว่าแนนแอบคบอีกคนมาได้ซักพักแล้ว...

วันปีใหม่ของเทอมสุดท้าย แนนเรียกพีออกมา บอกมีเรื่องสำคัญมาก ๆ จะคุยด้วย แม้ไม่ต้องเป็นคนมีญาณวิเศษก็พอจะรู้ได้ว่าต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ พีไปหาแนนด้วยความหวั่นใจ "พี แนนขอโทษ แนนเจอคนที่ใช่แล้ว" พีอึ้ง พูดไม่ออก 'เวลาที่คบกันมา 5 ปี... 5 ปี! มันไม่มีความหมายเลยรึไง?' เคยผ่านเรื่องดีเรื่องร้ายด้วยกันมาก็มาก พีไม่ได้อยากได้ความรักที่หรูหราอะไรมากมายเลย แค่ขอใครซักคนที่จะคอยเป็นกำลังใจให้กันแค่นั้นเอง แค่ใครซักคน "ทำไม?" พีถาม "เราไม่ได้รักพีแล้ว เท่านั้นเอง เรามีคนใหม่แล้ว!" "เราจบกันแค่นี้นะ ถ้าเหงาก็โทรมาคุยได้" "อื้อ ขอบคุณ ไม่เป็นไรเราคงไม่โทรไปแล้วล่ะ" "พี! แล้วพีจะอยู่ยังไง เราเป็นห่วงนะ" แนนเริ่มเป็นฝ่ายร้องให้ก่อน "ไม่เป็นไร เราอยู่มาได้ยังไง เราก็อยู่ของเราไปยังงั้นแหละ แนนไปเหอะ อย่ามาเสียเวลากับเราเลย โชคดี" "งั้น... ลาก่อนนะพี!" "อื้อ!" แนนหันหลัง เดินจากไป พีมองตามไป จดจำทุก ๆ ท่าทาง ภาพหลังของแนนในตอนนั้น ผมยาวประบ่าสะบัดซ้ายทีขวาทีอย่างแผ่วเบาระเดรสสีชมพูตัวโปรดที่แนนชอบมากตัวนั้น พีคงลืมภาพนี้ไม่ได้ง่าย ๆ แน่นอน พีร้องให้ไปพลางก้มหน้าเดินอย่างไร้จุดหมาย จากสยามมาถึงอนุสาวรีย์ชัยฯ พอน้ำตาแห้งแล้วก็ขึ้นแท็กซี่กลับบ้านอย่างใจลอย...

พีกลับบ้านก็ล้มตัวลงนอน เอ็มกำลังนั่งเล่นเกมอยู่ ได้ยินเสียงเอ็มทัก ชวนคุยอะไรซักอย่าง "...." " ..." แต่พีไม่รู้ ไม่สนใจ เหมือนไม่ได้ยินว่าพูดว่าอะไร และจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตอบไปว่าอะไรบ้าง ที่พีรู้สึกตอนนี้มีแค่ความสูญเสีย ไม่เคยนึกมาก่อนว่าโดนทิ้งมันจะเจ็บขนาดนี้ แล้วจะเอาไงกับชีวิตต่อดี ไม่อยากไปเรียน ไม่อยากเจอใครทั้งนั้น เหมือนมีโพรงดำ ๆ ลึกอยู่กลางอก ทรมาณจนแทบอยากจะตายไปให้พ้น "ไอ้พี!" โป๊ก! เจ้าเอ็มเอากีต้าร์ฟาดหัวพี "อะไรวะ? ไอ้ ัตว์!" "เอ็มเรียกตั้งหลายหนแล้วพี่ไม่ตอบอ่ะ เป็นอะไร? ทำหน้าอย่างกับหมาถูกทิ้ง" "เออ ก็โดนทิ้งอ่ะดิ หนักหัวพ่องรึไง?" เอ็มทำหน้าสลด พีนึกเสียใจไม่น่าเล่นพ่อกับเอ็ม "เออ กรูอยากอยู่คนเดียวว่ะ กำลังเฮิร์ท" "อยู่คนเดียวเดี๋ยวก็ฆ่าตัวตายพอดี มา! กินเบียร์กัน เอ็มเลี้ยง!" "มีตังค์เหรอ" "มีหน่อยนึง เอ็มเลี้ยงกับแกล้ม พี่พีออกค่าเบียร์แล้วกัน" "เอ๊ะไอ้นี่! หัวหมอตลอด" "555+"

วันประกาศผล พีสอบผ่านทุกวิชา เหลือแค่ตัวที่ดร็อปไว้ค่อยไปตามเก็บตอนภาคฤดูร้อน ถ้าโชคดีอาจได้รับปริญญาพร้อมเพื่อน ๆ เริ่มทำใจเรื่องแนนได้แล้ว ส่วนเจ้าเอ็มกำลังอยู่ในช่วงสวีทสุดขีดกับแฟน รวมแล้วน่าจะคบกันมาได้ 2 ปีกว่า ถือว่านานพอดู "พี่พีรู้ป่ะ กัญสวยเหมือนแม่ผมตอนสาว ๆ เลย ผมว่าคนนี้แหละเนื้อคู่ล่ะ" แฟนเอ็มชื่อกัญ "เออ ๆ พยามเข้า ตั้งใจเรียนให้ได้เกรดดี ๆ จะได้ทำงานเลี้ยงเค้าได้ รู้เปล่า!" พีเริ่มสอน "โห่ ไม่มีใครเค้าชอบเด็กแว่นติ๋ม ๆ บ้าเรียนหรอก มันไม่แนวอ่ะพี่" เอ็มสอนกลับ 'ก็จริงของมันแฮะ เอ๊ะเราก็แว่นนี่? มันหลอกด่าเราป่าววะเนี่ย...' พีทำหน้าหมาสงสัย

เข้าเดือนเมษาฯ ขณะที่พีกำลังเรียนซัมเมอร์วิชาสุดท้าย หมอก็โทรมาให้แม่พีไปรับพ่อเอ็มมาบ้าน เอ็มดีใจใหญ่ จะได้อยู่กับพ่อ แต่หมอบอกกับแม่พีว่า "ให้คนใข้ได้ใช้เวลาช่วงสุดท้ายกับครอบครัวจะดีกว่า..." พีกับเอ็มเลยระเห็จมานอนห้องรับแขก ให้พ่อเอ็มนอนห้องพี (ซึ่งรกมากกก) เอ็มคอยกลับบ้านมาดูแลพ่อทุกวัน ซักผ้าเอง กวาดบ้าน ล้างจาน จนพีแอบแซวว่า "ทำตัวดีเหมือนโดนผีแม่บ้านเข้าสิง" แต่ในใจก็รู้สึกภูมิใจเล็ก ๆ บอกไม่ถูก เอ็มพากัญมาให้พ่อเห็นครั้งนึง บอกพ่อว่าผมจะแต่งงานกับคนนี้ พ่อหัวเราะแล้วบอก "หางานทำให้ได้ก่อนเหอะลูก แล้วค่อยไปขอเค้าแต่ง" พ่อเอ็มอาการดีขึ้นมากจนเอ็มนึกว่าพ่อจะหายในไม่ช้าแล้ว เอ็มแอบหวังไว้เล็ก ๆ ว่าจะได้กลับไปอยู่เชียงใหม่กับพ่ออีกครั้ง

วันนึงพ่อเอ็มเรียกพีเข้าไปหา พูดกับพีว่า "พี ลุงฝากเอ็มด้วยนะ ลุงคงอยู่ได้อีกไม่นาน ช่วยรักมันเหมือนเป็นน้องแท้ ๆ นะลูกนะ..." "ครับ ลุงหมาน" ถึงไม่พูดพีก็ตั้งใจอย่างนั้นมาตลอด หลังจากนั้น 3 วัน พ่อเอ็มก็จากไป เท่ากับเอ็มเหลือตัวคนเดียวแล้ว คืนนั้น เอ็มนั่งนิ่งหน้าศพพ่อ ไม่มีน้ำตาซักหยด พีค่อย ๆ เดินไปหา เอามือวางบนใหล่เอ็ม เอ็มหันมาทำหน้าเบ้ ร้องให้แล้วพูดว่า "เอ็มไม่เหลือใครแล้ว! ไม่เหลือใครอีกแล้ว!" สองพี่น้องกอดคอกันร้องให้อยู่นานสองนาน

งานศพพ่อเอ็มจัดขึ้นแบบเงียบ ๆ ญาติ ๆ ทยอยมากันจนครบทุกคน ต่างก็ปลอบใจ-ให้กลังใจเอ็ม งานมีพระสวด 3 วัน เผาวันที่ 4 เอ็มบวชหน้าไฟให้พ่อ พีนึกสงสารที่เด็กอายุแค่นี้ต้องมาเจอการสูญเสียไม่หยุดหย่อน เอ็มดูสงบมาก กัญแฟนเอ็มมาแค่วันเผาวันเดียว วันถัดมาเอ็มจึงลาสิกขา หลังจากนั้นได้ไม่ถึงเดือนก็มีเบอร์แปลก ๆ โทรเข้ามาหาเอ็ม แต่เอ็มไม่ได้รับ จากนั้นก็มีโทรเข้ามาอีก 2-3 หน พอเอ็มรับก็เป็นเสียงผู้ชายพูดว่า "มรึงเลิกยุ่งกับแฟนกรูเดี๋ยวนี้เลยนะ! กรูกับมันคบกันมาก่อนมรึงตั้งนานแล้วรู้รึเปล่า" เอ็มกำลังงง จับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก พูดละล่ำละลักกลับไปว่า "หมายถึงใครครับ แฟนคุณอ่ะ" "ก็กัญไง กัญแฟนกรูไง มรึงโง่รึเปล่าเนี่ย?" แล้วก็วางหูไป เอ็มทั้งงงทั้งโกรธ รีบโทรไปเล่าให้กัญฟัง กัญก็ยอมรับแต่โดยดีว่าตัวเองคบกับอีกคนนึงมานานแล้ว "แล้วกัญจะเลือกใคร" "เอ็ม! อย่าบังคับกัญเลย" "โอเค! งั้นเราจบกันแค่นี้ ไม่ต้องโทรมาอีกนะ" "เอ็ม! เอ็ม!" แล้วก็ตัดสายไป เอ็มต้องแบกรับการสูญเสียอีกครั้ง นับเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต ซึ่งเอ็มรับมันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อเลย...

แล้วก็มาถึงวันที่พีรับปริญญา ญาติเกือบทุกคนให้เกียร์ติมางานกัน คนที่มาไม่ได้ก็ฝากการ์ดมาอวยพร ป้าดาก็อุตส่าห์ขึ้นเครื่องบินมาจากเชียงใหม่ เพื่อน ๆ สมัยมัธยมก็มากันหลายคน พีเรียกเอ็มมาถ่ายรูปกับเพื่อน ๆ เหลือบไปเห็นเอ็มกับป้าดาคุยตกลงอะไรกัน หลังจากกินเลี้ยงเสร็จ เอ็มบอกพีว่า "พี่พี จบม. 3 แล้วผมจะไปอยู่เชียงใหม่กับป้าดานะ" พีรู้สึกใจหาย ถามไปว่า "อ้าว เบื่อกรุงเทพแล้วเหรอ?" "อื้อ ไม่อยากเห็นภาพเดิม ๆ ด้วย อยากเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ บ้าง" เอ็มหมายถึงอยากลืมเรื่องกัญ "เออ! งั้นคืนนี้ต้องเลี้ยงส่งกันหน่อย เอาให้เมาหัวราน้ำไปข้างเลย!" "งั้นพี่เลี้ยงแบล็คผมนะ" "เอ๊ะ! ไอ้นี่... เล่นของแพง"

บางครั้งเวลาผมนึกถึงช่วงเรียนมหาลัย นึกถึงเรื่องสำคัญที่มีความหมาย และจะไม่มีวันลืมได้ลงในชีวิตของผม เรื่องนั้นกลับไม่ใช่เรื่องแฟน ไม่ใช่เรื่องเพื่อน แต่เป็นเรื่องของน้องชายที่เป็นลูกผู้ชายซึ่งเข้มแข็งที่สุดเท่าที่ผมเคยเจอมา และนึกภูมิใจว่า "ครั้งหนึ่ง ผมก็เคยมีน้องชายที่ดีกับเค้าเหมือนกัน"




Create Date : 20 มกราคม 2555
Last Update : 20 มกราคม 2555 9:35:14 น.
Counter : 806 Pageviews.

2 comments
  
เข้ามาอ่านโดยบังเอิญ
แต่อ่านจนจบ ด้วยความตั้งใจ

แอบสงสัยตัวเอง ว่ามีน้องตั้งสองคน ผู้หญิง 1 ผู้ชาย 1
กลับไม่ค่อยรู้สึกผูกพันซักเท่าไหร่ มีเบื่อๆ ด้วย
บางที ... คงต้องทบทวนตัวเองบ้างแล้ว

ป.ล. เล่าเรื่องได้ดีมาก อ่านแล้วนึกจินตนาการได้ชัดเจน
โดย: iloveham IP: 58.9.100.162 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:17:23:40 น.
  
มีต่ออีกหรือป่าว...
โดย: รักแมว IP: 101.108.185.63 วันที่: 3 เมษายน 2555 เวลา:10:26:13 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รบชนะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



มกราคม 2555

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31