วันนี้ปลาวาฬน้อยครบ 10 เดือนแล้วครับ กับการป่วยครั้งแรก "ส่าไข้" ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้วครับ มาอัพเดทอาการของปลาวาฬหน่อย เริ่มจากวันพฤหัสที่ผ่านมา ปู่ทวดของปลาวาฬเสีย คุณปู่คุณย่าที่เลี้ยงปลาวาฬต้องไปงานศพด่วน จะเอาไปด้วยก็ไม่ได้ เด๋วจะช่วยงานไม่สะดวก เลยทิ้งปลาวาฬไว้ให้พ่อกับแม่ แต่วันนั้นแม่มีงานเข้า ลาไม่ได้ เลยต้องเป็นพ่อที่ต้องดูแลปลาวาฬ ตอนเช้าปลาวาฬก็ยังดีอยู่ แม่ก้โทรหาเป็นระยะๆ พอเริ่มบ่ายแก่ๆ พ่อโทรมาบ่อยมาก แม่คุยไม่ได้ติดประชุมอยู่ พอเสร็จประชุมสี่โมงเย็น รีบโทรกลับ พ่อบอกว่าปลาวาฬเป็นไรไม่รู้ร้องไห้ไม่หยุดเลย แม่ก็เลยถามลูกตัวร้อนป่าว หิวนมป่าว ไรกัดป่าว ปวดท้องป่าว ลองเอามหาหิงส์ทายัง แล้วแม่ก็กลับบ้านทันที กลับไปถึงบ้านสี่โมงครึ่ง เห็นพ่ออุ้มลูกเดินรอบ้าน ลูกหลับคาไหล่พ่อ พ่อบอกว่าอุ้มอยู่เกือบชั่วโมง ร้องไห้จนหลับ ตอนนั้นปลาวาฬเริ่มเป็นไข้แล้ว ตัวก็รุมๆ แม่เลยให้พ่อไปซื้อยาลดไข้กับแผ่นเจลลดไข้ เด็กกับยาไม่ถูกกัน ป้อนยาก แต่ร้องยังไงก็ต้องป้อน พอกลางคืนปลาวาฬก็เป็นไข้ แม่ก็เช็ดตัว ให้กินยา แปะแผ่นเจลลดไข้  (พ่ออยากได้คาร์ซีทขึ้นมาทันที ทั้งๆที่ๆม่เคยสนใจมาก่อนเลย บอกว่าถ้าอยู่คนเดียวจะได้พาลูกไปหาหมอได้ จริงๆน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว เคยบอกให้ซื้อแต่ก็บอกว่าไม่ต้องหรอก ยังไม่เคยเจออเหตุการณ์ที่ต้องอยู่กับลูกสองคนไง ปกติอย่างน้อยต้องอยู่ด้วยกันสามคนมีย่าอยู่ด้วยตลอด ) วันศุกร์เป็นหน้าที่แม่ต้องลาหยุดมาดูแลปลาวาฬ ให้พ่อไปเคลียร์งาน เพื่อเตรียมไปงานศพกันวันเสาร์ ตอนเช้าก็ยังซึมๆ ทานข้าวน้อยมาก แต่ยังทานนมได้ดี  ยังเล่นได้ยังสนุกได้เป็นพักๆ  จะงอแงเป็พักๆตอนที่ไข้ขึ้น สงสารเค้ามากเลย เค้าไม่สบายตัว เจะชอบมาให้กอด วางไม่ได้เลย ต้องอุ้มตลอดเวลา แม่ก็เช็ดตัว ให้ทานยาทุกสี่ชั่วโมง เย็นวันศุกร์ปลาวาฬก็เป็นไข้ทั้งคืน แม่ก็ไม่ได้นอนทั้งคืนเหมือนกัน พอเช้าวันเสาร์ ปลาวาฬก็อาการดีขึ้น ถามว่าทำไมต้องไงปงานศพทั้งที่ลูกไม่สบาย เพราะว่าต้องเอาปลาวาฬไปส่งปู่ย่า เพราะไม่มีคนดูแลปลาวาฬ จะให้คนที่ไม่เคยเลี้ยงปลาวาฬมาเลี้ยงก็ไม่ได้ แล้วอีกอย่าพ่อของปลาวาฬก็ต้องร่วมงานศพปู่แท้ๆด้วย ถามว่าทำไมไม่พาไปหาหมอ เพราะไม่มีเวลาจริงๆ วันศุกร์ว่าจะพาไป แต่พ่อเลิกค่ำ เอารถไปเช็คเพื่อเตรียมเดินทางไกล แล้วอีกอย่าปลาวาฬก็ไม่ได้ไข้ขึ้นสูงมาก พอเช็ดตัวไข้ก็ลด แม่ก็ยังใจเย็นได้อยู่ พอวันเสาร์เราก็เดินทางแต่เช้า ไปรับญาติไปด้วย วันเสาร์ปลาวาฬอยู่ในรถทั้งวัน อารมณ์ดีทั้งวันจนถึงปลายทาง ไม่งอแงเพราะอาารไข้เลย  แต่ตัวยังรุมๆเป็นพักๆ แต่ไม่มีไข้แล้ว เริ่มดีขึ้นแล้ว เพราะไข้ขึ้นมาสองคืน พอเย็นวันเสาร์ก็นอนหลับปกติ ตัวยังรุมๆนิดหน่อย แม่ก็ยังไม่ได้พาไปหาหมอ ไปงานศพทุกคนวุ่นมาก แม่ต้องดูแลปลาวาฬ แต่โชคดียังไม่ยายกับน้ามาช่วยอุ้มปลาวาฬบ้าง ที่งานร้อนมาก ปลาวาฬผื่นขึ่นตามฟอร์ม เพราะแพ้อากาศร้อน แต่พอเข้าห้องแอร์ก็หาย เช้าวันอาทิตย์ ปลาวาฬผื่นขึ้นเต็มตัว แม่ก็นึกว่าเป็นเพราะอาการศร้อนมากเมื่อวานรึป่าว หรือออกหัด หรือเป็นส่าไข้ ในใจคิดว่าต้องเป็นอาการส่าไข้แน่เๆลย เพราะเคยอ่านในหนังสือมาแล้ว แต่ปู่บอกว่าตุ่มแบบนี้ออกหัด แม่บอกว่าปลาวาฬฉีดวัคซีนมาสองสัปดาห์แล้ว หมอบอกว่าจะเป็นไข้หลังจากฉีดวัคซีนหนึ่งสัปดาห์  นี่มันสองสัปดาห์แล้วนะ ตอนนี้ปลาวาฬไม่มีไข้แล้ว ไม่ต้องกินยาแล้ว แม่ยังใจเย็นได้อยู่ไม่พาปลาวาฬไปหาหมอซักที วันนั้นเลยโทรไปหาหมอประจำตัวของปลาวาฬ บอกอาการที่ปลาวาฬเป็น คุณหมอเลยบอกว่า ปลาวาฬเป็นส่าไข้ ไม่ได้ออกหัด สองอาการต่างกันยังไง คุณหมอบอกว่าถ้าส่าไข้จะเป็นไข้ก่อน 3-5 วัน พอไข้ลดแล้วเป็นผื่นนั่นแปลว่าอาการดีขึ้นแล้ว ผื่นจะหายไปภายใน 48 ชั่วโมง คุณหมอบอกว่าไม่ต้องพาไปหาหมอหรอก ยกเว้นว่ายังไม่หายดี แต่ถ้าออกหัด มันจะมีผื่นขึ้นพร้อมกับอาการไข้ เลยถามว่าปลาวาฬฉีดวัคซีนแล้วทำไมยังเป็น คุณหมอบอกว่า ฉีดตัวไหนก็ป้องกันตัวนั้นค่ะ แม่ก็เลยเข้าใจ ถึงแม้แม่จะใจเย็นไม่พาปลาวาฬไปหาหมอ แต่แม่ก็ทรมานใจทุกครั้งที่ลูกไม่สบายร้องไห้งอแง ให้แม่เป็นแทนได้แม่ก็จะเป็น สรุปแล้วปลาวาฬอาการดีขึ้นแล้วค่ะ ตอนนี้ปลาวาฬอยู่กับปู่ย่าที่ ตจว เพื่อเคลียร์อะไรต่างๆ ให้เสร็จก่อน ส่วนพ่อกับแม่ก็ต้องกลับมาทำงานที่ กทม แต่สงสารปู่ย่ามากเลย ตลอดงานพักผ่อนน้อย วิ่งวุ่นกับงาน เห็นแล้วเหนื่อยแทน พ่อปลาวาฬก็ช่วยงานจนหัวหมุน  ส่วนแม่ก็ดูแลปลาวาฬอยู่ห่างๆ ปลาวาฬจะกลับมากหาแม่ เมื่อปู่ย่าเคลียร์งานทางโน้นจนเสร็จ แม่คิดถึงปลาวาฬนะลูก แข็งแรงนะครับ ปลาวาฬเก่งมากเลยที่ผ่านจุดนั้นมาได้โดยไม่ต้องไปหาหมอ แม่รักปลาวาฬมากๆครับ