ไออุ่น ลมหนาว กำลังใจ และเวลาของเรา
เมื่อก่อนเมื่อถึงเดือนนี้จะเป็นเดือนที่ผมตื่นเต้นที่สุด
เพราะมีอะไรหลายๆอย่างดีที่มักจะเกิดขึ้นในเดือนนี้ อากาศหนาวขึ้น
เดือนแห่งการเที่ยวและหยุดพัก เดือนที่ผมจะมีความสุขที่สุด
แต่ปีนี้ทำไมนะ ความสุขหาไม่ได้เลยจากบนใบหน้าผม
เหมือนแบกโลกไว้ทั้งโลกจนปวดบ่า หนักหัวไปหมด ใครหลายๆคนบอกว่า
ผมกำลังกำเศษแก้วไว้ในมือ ยิ่งผมกำแน่นเท่าไหร่มันก็พร้อมจะบาดมือผม
ให้เลือดไหลออกมามากเท่านั้น ก็คงจะจริง แต่ทำไงใจ คนเอาเศษแก้วมา
ยันใส่มือผม คือคนที่ผมคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนแบบนี้ เมื่อวานผมบอก
หลายๆในใจผมกับคุณหนิงชนิดที่คุณเองคงตกใจว่าผมมีอะไรอยู่ในหัวบ้าง
ใครบ้างที่ผมรู้สึกแย่ด้วย ใครบ้างที่ผมไม่เคยคิดร้ายกับเค้าเลย ใครบ้างที่
บอกว่าไม่อยากให้ผมไปยุ่งกับเค้า แล้วเค้ามายุ่งกับผมทำไม หลายคำพูดที่
เค้าถ่ายทอดออกมา มันเหมือนเศษแก้วที่แตกเป็นปากฉลามคอยปักและทิ่ม
แทงตามร่างกายผม ความเจ็บปวดมันมักจะเกิดขึ้นเมื่อผมเงียบและอยู่คน
เดียว มันอดคิดไม่ได้ว่า ผมไปทำอะไรให้ ทำไมต้องเป็นผม เพราะอะไร
มันวนเวียนอยู่แค่นี้ สิ่งที่ผมเขียนมันอาจจะแค่ในมุมมองของความความคิด
เห็นของผมคนเดียวแน่นอนเพราะผมเองก็ต้องมองเห็นและเข้าข้างความรู้สึก
ตัวเองสิ อย่างน้อยคนที่เข้าใจทุกเรื่องในตัวผมก็คงเป็นผมเองจริงไหม
เหนื่อยจัง กับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ อยากไปไหนก็ได้หลบความุว่นวาย
ลุ้นกันไปลุ้นมาก็คงไปไหนไม่ได้แล้วละครับ อาจจะเพราะเหตุผลหลายๆ
อย่าง ทั้งที่ผมอยากมากที่จะไปไหนไกลๆ หลีกหนีจากเรื่องวุ่นวายไปตั้ง
หลักก่อน แต่ก็นะผมเข้าใจในสิ่งที่คุณหนิงพูดดี ผมเองคิดและอดทนรอจน
ถึงเดือนนี้เพราะคิดว่าจะได้ไปพักผ่อนไกลกัน 2 คนอีกครั้งหลังจาก 2-3
เดือนมานี้เราเจอเรื่องหนักๆมาตลอด จนผมเองล้มลงนั่งหลายครั้งหลายหน
แต่ทำไงได้เมื่อ........... ช่างเถอะ วันนี้ไม่ได้ไปวันอื่นก็คงได้ไป (มั้ง)
ตอนนี้ตอนเช้า ลมหนาวที่เชียงใหม่เริ่มพัดมาแล้ว ไออุ่นของความรักก็ยังวน
เวียนอยู่รอบๆตัวผมเสมอ แต่กำลังใจนี้สิที่ผมต้องการ ผมเองจมอยู่กับ
ปัญหาหลายๆเรื่องที่มันเกี่ยวของกับตัวผม ที่หลายคนพยายามยัดมาใส่มือ
ผมเองแบกบ้างทิ้งไปบ้างแต่ก็นั่นแหละมันก็ไม่จบสักที มันกลับทำให้ผมเอง
หมดกำลังใจและเริ่มพูดน้อยลงเรื่อย จนจมอยู่กับตัวเองและคิดวนเวียน
อย่างเดียวที่ผมต้องการคือกำลังใจ คนที่ผมรักบอกผมว่า ไม่เป็นไรนะเค้า
พร้อมที่จะเดินไปพร้อมกับ หรืออะไรก็ได้ ผมเคยรู้เลยว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิด
ขึ้นคุณหนิงเชื่อผมบ้างหรือเปล่า หรือว่าคุณหนิงยังอยากจะเดินข้างผมอยู่
มั้ย ไม่มีคำพูดใด แต่ผมก็โมเมเอาเองว่าคุณหนิงอยากเดินข้างผมอยู่เพราะ
คุณหนิงเองก็ยังเหมือนเดิมทุกวัน ผมก็รู้นะว่าคุณหนิงทำแบบนี้หมายความว่า
ยังไง แต่บางทีคนเราอะนะมันก็อยากได้ยินบ้างแหละ (จริงมั้ยละ)
ตอนนี้อย่างเดียวที่ผมต้องการคือหยุดนิ่งสักพัก ออกไปในที่ๆไม่มีคนอื่นสัก
วัน 2 วัน เพื่อไปเติมกำลังใจให้กัน ไปชาร์ทแบตให้แกกันเพื่อพร้อมกับมา
ยืนข้างกันและสู้กันอีกรอบ ผมก็คิดนะถ้าเรายังวนเวียนอยู่แบบนี้คงไม่จบ
แน่ๆ ไม่จบในที่นี้หมายถึงไม่จบจากความคิดของเราไม่หลุดพ้นในวงเวียน
สักที แต่ถ้าเราได้ไปไหน เห็นอะไรหลายๆอย่างมันอาจจะทำให้อะไรดีขึ้นมี
เรื่องอื่นคุยมากขึ้นที่ไม่ใช่วนเวียนแต่เรื่องพวกนี้ ได้เจอพบเห็นอะไรใหม่ๆ
บ้าง ผมคิดอย่างงั้นนะ แต่ก็นะ ผมจะพยามทำตัวให้ร่าเริงขึ้นเรื่อยๆแล้วกันนะครับ
P.s ตอนแรกที่รู้ว่าจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกบอกตรงๆดีใจมาก ถึงไม่ไปเที่ยวละเลก็เถอะ แต่คุณหนิงก็บอกผมหลายๆเหตุผล ตะเกียงก็หรี่ลงเรื่อยๆ ผมก็ไม่รู้ทำได้พูดได้แต่ว่าถ้าเราไม่พร้อมก็ยังไม่ไปก็ได้ครับ ท่าทางจะเป็นแค่ฝัน ผมเข้าใจครับ
P.s 2 กอดผมแน่นๆเพราะไออุ่นมันจะทำให้ผมไม่กลัวถึงแม้ว่าจะเจอมรสุม ฝนตกกระหน่ำในใจแค่ไหน ผู้ชายก็อ่อนไหวได้เหมือนกัน แต่ไม่ใช่อ่อนแอ
Create Date : 08 ตุลาคม 2553 |
|
9 comments |
Last Update : 8 ตุลาคม 2553 17:37:36 น. |
Counter : 764 Pageviews. |
|
|
|
นายช่างโชคดีนะคะ..ที่ไม่ว่าจะทุกข์เทาไหร๋..เหนื่อยล้ายังไง..
ก็ยังมีคนๆ นึงอยู่เคียงข้างเสมอ...
อะไรจะสำคัญไปกว่า
มือของคนสองคนที่จับกันไว้
ใจของคนสองคนที่รวมเป็นหนึ่ง...
โชคดีของคุณนะคะ..
ที่มีคนที่ได้ชื่อว่าเป็น
"คนรัก" ที่"รักกัน"
แวะมาซึมซับความรักเหมือนเคยค่ะ