Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
13 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

ปลาจ่อม
























lozocatlozocat





ปลาจ่อมคนอีสานจะรู้จักดี
ปลาจ่อมคืออาหารหมักดอง
คือการแปรรูปอาหารไว้กินหลายๆวัน
ปลาจ่อมวิธีการทำจะทำคล้ายๆกัน
กับ ปลา ส้ม ปลาร้า

ไปร้านแขกมาเจอปลาซิวแก้วตัวใสสวยมาก
เลยนึกอยากกินปลาจ่อม
เลยซื้อมาทำปลาจ่อมกินดู

ปลาจ่อมคืออาหารพิเศษ
ไม่ได้กินบ่อยๆหรอกนะคะ
เกือบจะ 20 ปีไม่เคยได้กินปลาจ่อม
เลยนึกอยากกินเพราะเจอปลาซิวแก้ว
ที่สวยและดูสะอาดมาก

สูตร
ปลาซิว 1 กิโล
ปลาซิวตัดหัวทิ้ง
ควักท้องของปลาออกมาล้างให้สอาด
วันนี้ไม่ต้องทำมาก
เพราะเขาทำมาสะอาดมาก
เราเลยแค่ล่างด้วยน้ำเย็น
ให้ได้หลายๆครั้งและพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ

คั่วข้าวสารเหนียวราวๆ 3 ช้อนโต๊ะ
ข้าวสารเหนียวแช่น้ำไว้ให้ออ่นราวๆ 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือราวๆ 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม 5 กลีบ
ผงทำแหนมโลโบ้ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ

ทำใมต้องใส่ผงทำแหนม
เพราะสูตรดั้งเดิมจะไม่ใส่
ที่ใส่เพราะว่า เกลือที่ต่างประเทศ
ไม่ใช่เกลือจากธรรมชาติของบ้านเรา
และที่ประเทศสวิสอากาศไม่ร้อน

การหมักดองอาหารต่างๆ
จึงทำยากที่จะให้เหมือนเมืองไทย
ไม่เปรี้ยวแถมจะเน่าเสียอีกต่างหาก
เลยต้องดัดแปลงใส่ผงทำแหนม

วิธีทำ

คั่วข้าวคั่วให้เหลือง
แล้วเอามาตำหรือบดด้วยเครื่อง
กระเทียมทุบให้แตกหยาบๆ
เอาทุกอย่างที่เตรียมไว้ลงไปคลุกเข้าด้วยกัน
ขยำให้เข้ากันแรงๆหน่อยหนึ่ง


การชิมดูว่าพอเกลือหรือไม่
พอเครื่องหรือเปล่า
ให้เอากระทะตั้งไฟ
ตักปลาซิวที่เราผสมไว้
ใส่ลงไปที่กระทะคั่วด้วยไฟให้สุก
แล้วชิมดูว่ารสชาติออกเค็มหน่อยหนึ่ง
แต่อย่าให้เค็มมาก
เพราะว่าการทำอาหารไม่ได้วัดและตวงมากนัก
แบบว่า กะๆ เอา

หาขวดแก้วที่มีฝาปิดใส่ปลาจ่อม
ทิ้งไว้ในที่มีความอบอุ่นเช่นในครัว
สามวันผ่านไปปลาจ่อมจะมีน้ำออกมา
มองเห็นได้ชัด
ทื้งไว้ราวๆ 3-5 วัน รอจนปลาจ่อมออกรสเปรี้ยว


แล้วเอาเก็บไว้ในตู้เย็นไว้กินได้นานหลายวัน
วิธีปรุงปลาจ่อมคือ
มะเขือขื่นที่มีสีเหลือง
หรือมะเขือธรรมดาก็ได้ถ้าไม่มี
มะเขือขื่น
ตะใคร้หั่นฝอย
พริกขี้หนูแซม
แซบหลายเด้อค้า ไทบ้านเฮาซาวอีสาน



lozocatlozocat








 

Create Date : 13 มิถุนายน 2552
11 comments
Last Update : 13 มิถุนายน 2552 23:25:18 น.
Counter : 21067 Pageviews.

 

ว้าวๆๆๆ....ปลาจ่อม เราชอบทานมากเลยค่ะ
ไม่ได้ทานเกือบสิบปีแล้วนะเนี่ย เห็นรูปแล้วน้ำลายไหลเลย
เราเริ่มทานตอนอยู่ชลบุรีค่ะ ที่ตลาดสัตหีบมีร้านขายปลาจ่อมอร่อยมาก
แม่เราซื้อมาบ่อยๆ ติดกันทั้งบ้านเลย พอย้ายขึ้นเหนือก็ไม่ค่อยได้ทาน
ยิ่งมาอยู่ต่างเมืองนี่ลืมไปได้เลย สงสัยต้องลองทำบ้างแล้วค่ะ
แต่คงออกมาไม่น่าทานของคุณเจ้าของบล๊อกแน่ๆ..โอ้ย น้ำลายไหล

 

โดย: ปลาทอง9 13 มิถุนายน 2552 2:04:31 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณ ปลาทอง9

มาเด้อค่ะมากินนำกัน
รับรองว่าสะอาดไม่ท้องเสียแน่นอนค่ะ อิอิ

กินกับข้าวหนียวร้อนๆเด้อจ้า

 

โดย: Willkommen 13 มิถุนายน 2552 2:15:34 น.  

 

โอโห สามารถมากค่ะ ว่าแต่จะหาปลาซิวจากไหนค่ะ ใช้ปลาอย่างอื่นแทนได้ไหม แล้วเวลากินต้องเอาไปคั่วหรือทำอะไรก่อนไหมค่ะ ท่าทางอร่อยจัง

 

โดย: marabout 13 มิถุนายน 2552 2:49:25 น.  

 

ตาแซ่บแท้น้อ กินแต่จ่อมกุ้งค้า ขนาดอยู่เมืองนอกก็ได้กินปลาจ่อมดีจังเลย

 

โดย: marinus 13 มิถุนายน 2552 3:55:58 น.  

 

เป็นตาแซ่บหลายเด้ ปลาจ่อมเห็นแล้วกะอยากกิน

 

โดย: kitasornciao (kitasornciao ) 13 มิถุนายน 2552 4:30:36 น.  

 

แค่เห็นชื่อมิรอช้าคลิกเข้ามาแบบเห็นรูปและสูตรแล้วไม่ผิดหวังจริง ๆ พูดไปก็ไม่ได้กินปลาจ่อมนานจนจำไม่ได้เสียแล้วว่าสุดท้ายกินเมื่ออายุยี่สิบกว่า ๆ ตอนนี้ ดับเบิ้ลกว่า ๆ แล้วอ่ะ ถ้าเจอปลาประเภทนี้ที่ไหนจะลองเอามาทำดู ขอบคุณสำหรับสูตรค่ะ

 

โดย: เสียงซึง 13 มิถุนายน 2552 7:16:19 น.  

 

ไม่เคยลองเหมือนันกันคร้าบ.. อยากลอง

 

โดย: หลั่มหมั่นเหม่ง 13 มิถุนายน 2552 7:56:57 น.  

 

โอ๊ย เปรี้ยวปากมากมายเลยค่ะ
น่าอร่อยมากๆ เลย

 

โดย: บ้านหวานเย็น 13 มิถุนายน 2552 11:31:58 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...แล้วรสชาดเหมือนปลาร้าหรือเปล่าคะ อยากลองชิมจัง

 

โดย: หนูดำจำมัย 13 มิถุนายน 2552 18:08:59 น.  

 

ไม่เคยทานมาก่อนเลยคะ อาหารประเภทนี้แทบไม่รู้จักเลยอ่ะ

 

โดย: Sweet Forever 13 มิถุนายน 2552 22:24:05 น.  

 

แวะมาทักทายค่ะ

 

โดย: CrackyDong 14 มิถุนายน 2552 5:51:47 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Willkommen
Location :
ขอนแก่น

Switzerland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]





free counters
Friends' blogs
[Add Willkommen's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.