เส้นเลือดหัวใจตีบ/หัวใจวาย/ผ่าตัดใส่บอลลูลที่ SWITZERLAND
วิธีการผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจตีบที่Switzerland ดิฉันพึ่งจะผ่าตัดเส้นเลือดหัวใจตีบ ใส่บอลลูลให้เส้นเลือดขยายมาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2011 ค่ะ
เลยอยากจะมาเล่าเพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้เจ็บป่วยเรื่องโรคหัวใจ
ดิฉันอายุ 47 ปี ร่างกายแข็งแรงปรกติดีตลอดมา ครอบครัวของดิฉันไม่เคยมีใครมีประวัติเรื่องโรคหัวใจ
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว การตรวจร่างกายประจำปีพบว่าเลือดจาง สาเหตุที่เลือดจางคือมีประจำเดือนมามากเกินปรกติ ได้3-4 ปีมาแล้ว และหมอให้ยาวิตามินธาติเหล็กมากินดิฉันก็กินบ้างหยุดบ้างลืมบ้าง
ปีต่อมาก็ไม่ดีขึ้นเพราะการกินยาที่ไม่ได้อย่างแพทย์สั่ง หมอเลยบอกว่าถ้ากินแบบนี้ไม่ดีแน่เลยสั่งให้ดิฉันไปเข้าน้ำเกลือผสมธาติเหล็ก 3 กระปุก อาการเลือดจางก็ดีขึ้น
เมื่อไม่กี่เดือนมานี้มีอาการอ่อนเพลียขี้เกียจไม่อยากไปทำอะไรเลิกงานแล้วอยากนอนอย่างเดียว กินข้าวอิ่มง่วงเหงาหาวนอน ผลการตรวจ เลือดจางต่ำมากต้องให้ธาติเหล็กทางสายน้ำเกลืออีกแล้ว เมื่อเดืนที่แล้วอีก 3 กระปุกเลือดดีขึ้นแต่ยังไม่เต็มที่
ร่างกายกระปี้กระเป่าขึ้นไม่อ่อนเพลียมากเหมือนเมื่อก่อน
เมื่อวันที่ 22 ตุลาคมตื่นไปทำงานตี 3 มีอาการแปลกๆคลื่นใส้แต่ก็ขับรถไปทำงานได้ แต่มีอาการไม่มีความสุขในการทำงานเพราะมีอาการปั่นป่วนในท้องบ่อยครั้งและมีอาการจุกตรงกลางร่องอกไม่มากแต่รู้ว่าจุก
ราวๆเกือบ2ชั่วโมงที่มีอาการแบบนี้เลยไปเข้าห้องน้ำเพราะเหมือนจะอาเจียรเราเลยคุกเข่าก้มหน้าลงไปที่หัวส้วมและหลังจากนั้นเราก็ไม่รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น
จะกี่นาทีเราไม่ทราบอยู่ๆเรามีความรู้สึกเหมือนเรานอนอยู่ที่ใดที่หนึ่งแต่จับทิศทางและสถานที่ไม่ได้เราเลยพยายามควบคุมสติว่าตอนนี้เอยู่ที่ใดนอนอยู่ที่ใดพร้อมกับใช้มือคลำและพยายามลืมตาแต่สายตาพร่ามัวเห็นอะไรรางๆขาวๆอยู่ข้างหน้าเกือบจะชนจมูกเราเลยรวบรวมสติอีกครั้งพร้อมทั้งพรับสายตาว่าเราอยู่ที่ใดักันแน่ เราจึงได้รู้ว่าเรานอนหมดสติอยู๋ในห้องน้ำข้างหัวส้วม
เราพยายามที่จะลุกขึ้นนั่งพร้อมกับทบทวนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นพร้อมกับคลำที่หน้าฝากตัวเองพร้อมกับเหงื่อที่ชื้นเต็มหน้าผาก
เราซวนเซออกมาจากห้องน้ำโทรไปเรียกหัวหน้างานที่ทำงานอยู่อีกชั้นหนึ่งมาหา บอกว่าเราไม่สบายรู้สึกแย่มากหัวหน้าเลยให้พนักงานขับรถมาส่งที่บ้านและต้องจอดรถกลางทางเพราะเราเกิดจะอาเจียนมาแบบกลั้นไม่อยู่ เลยอาเจียนกลางทาง
กลับมาถึงบ้านรีบติดต่อหมอฉุกเฉินเพราะวันเสาร์อาทิตย์หมอประจำบ้านที่สวิสจะไม่ทำงาน
หมอตรวจอาการหลายอย่างพร้อมทั้งตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้าด้วยบอกว่าไม่ใช่โรคหัวใจแต่น่าจะเป็น
Magen-Darm-"Grippe" (virale Gastroenteritis) ระบบทางเดินอาหาร"ไข้หวัด"(กระเพาะและลำไส้อักเสบจากเชื้อไวรัส)
ให้ยาแก้ปวดหัวแก้ท้องร่วงแก้คลื่นใส้มากินที่บ้าน
วันที่ 22 อาการทรงตัวไม่ปวดมากแต่ยังมีอาการจุกตรงร่องอกและคลื่นใส้และอาเจียรอีกหนึ่งครั้ง และหมอนัดไปเอายาอีกตัว
วันที่ 23 ปวดไปหมดทั้งตัวเหมือนจะมีไข้พร้อมทั้งปวดหัวด้านซ้ายปวดเลยไปถึงขากรรไกรจนเรานึกว่าเราปวดฟันเพิ่มเข้าไปอีก ชาไปถึงแขนคือปวดร่างกายด้านซ้ายแบบไม่ปรกติวันนี้ปวดนานมากเราก็ได้แต่กินยาแก้ปวดไปมันก็จะทุเลาลงเรื่องอาการปวด แต่จะปวดมาอีกหลายๆครั้งที่ปวดไปจนถึงขากรรไกร
วันที่ 24 ไม่ปวดมากค่อยดีขึ้นเรื่องการปวดร่างกายด้านซ้ายแต่จะปวดจุกใต้ลิ้นปลี่ดึงไปถึงด้านหลังซีกซ้าย แต่จะปวดไม่นาน พอนั่งพักแล้วก็หายปวด
วันที่ 25 ก็ไม่ปวดมาก
วันที่ 26 มีนัดกับหมอคนที่ดูแลเรา อาบน้ำเสร็จแต่งตัวมีอาการหนาวสั่นจุกเสียดในท้องใต้ลิ้นปลี่และจุกปวดไปถึงด้านหลังตรงด้านซ้ายอีกแล้ว พอไปถึงหมอบอกทำใมหน้าตาเธอดูไม่ดีเลย เราบอกใช่ฉันไม่มีแรงเหมือนจะหมดแรง หมอรีบครวจคลื่นหัวใจและความดันและวัดชีพจร หมอตกใจมากเพราะหัวใจเต้นช้ามาความดันต่ำชีพจรไม่ปรกติ หมอเลยบอกว่าคุณคิดถูกแล้วล่ะคุณมีปัญหาเรื่องหัวใจ
ทั้งหมอทั้งผู้ช่วยวิ่งกันให้พล่านหมอบอกว่าฉันจะโทรเรียกรถหวอฉุกเฉิน 144 ของสวิส มารับตัวเธอไปที่โรงพยาบาลด่วนเพราะฉันไม่มีเครื่องมือ
สามีตกใจโกรธหมออีกต่างหากที่เราบอกตั้งแต่วันแรกว่าน่าจะเป็นอะไรที่เกี่ยวกับหัวใจแต่หมอกลับบอกเป็นโรคอื่น
รถฉุกเฉิน 144 มาพร้อมกับหมอและทีมงานฉุกเฉินแต่ละท่านทำงานแบบเร่งรีบแต่เราไม่เจ็บปวดมีความรู้สึกและสติดีอยู่มากแค่เหนื่อยๆ ไม่รู้สายอะไรต่ออะไรเต็มตัวเราไปหมด เรียบร้อยออกรถได้พร้อมกับการดูแลเอาใจใส่เราไปตลอดทาง
15นาทีถึงโรงพยาบาลทั้งหมอและพยายบาลแผนกหัวใจมารับช่วงต่อจาก 144 เกือบจะ 20 คน จากนั้นคนนั้นทำแบบนั้นคนนั้นทำอันนี้ช่างใส่ใจคนเจ็บแบบจริงใจจริงๆ เอ๊กซเรย์หัวใจ เช็คประหวัดการเจ็บป่วยเพิ่มเติม และหมอและทีมงานเข็ญเราไปที่ห้องพักรอเพราะหมอจะต้องประชุมเรื่องอาการของเราก่อน
ราวๆ 1 ชั่วโมงหมอเอาใบมาให้เซนต์บอว่าจะทำการผ่าตัดใส่บอลลูลขยายเส้นเลือด เราเซนต์ลงไปแบบงงๆ เพราะไม่เคยรู้เรื่องการผ่าตัดใส่บอลลูลขยายเส้นเลือดที่หัวใจ แต่เรามีความเชื่อและมั่นใจหมอสวิสมากมายเลยไม่รู็สึกกลัวแต่งงๆมากว่า
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2554 |
|
8 comments |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2554 22:57:21 น. |
Counter : 1902 Pageviews. |
|
|
|
เพื่อใสบอลลูล ไม่เคยอ่านเลยจริงๆ แม้จะผ่าตัดแบบไม่ได้เตรียมตัวหรือตั้งตัวเลยก็ตาม
การผ่าตัดเริ่มขึ้นโดยการฉีดยาชาเข้าไปที่ตรงขาหนีบช่วงบนๆ ไม่เจ็บมากเหมือนที่ท่านบอก และเราได้เห็นหารผ่าตัดการทำงานของท่านไปด้วยถ้าเครื่องเอ๊กซเรย์ไม่มาบังเราก้จะเห็นทั้งหมดแต่บางครั้งเครื่องเอ๊กเรย์มาบังเราก่ไม่เห็น
การผ่าตัดผ่านไปกี่นาทีไม่ทราบเราเกิดอาการจุกเจ็บในทรวงอกบอกไม่ถูกว่าเจ็บแบบใหน อึดอัดแบบเหมือนหายใจไม่เต็มปอด เราเลยทนไม่ได้เลยถามไปว่าอีกนานใหมกว่าจะเสร็จ หมอก็ไม่รีบร้อนเขาบอกว่าอาการที่คุณเป็นอยู่ตอนนี้คือการทำงานของพวกเราเองไม่ต้องกลัว
ระหว่างทำการผ่าตัดหมอจะบอกหายใจเข้าลึกๆแล้วหยุด บ่อยๆครั้ง อาการอึดอัดเพิ่มมากขึ้นจนเราต้องขยับตัวให้หมอรู้หงุดหงิดเพิ่มขึ้นพร้อมกับอาการเจ็บปวดลึกๆในทรวงอก