สุดยอดกองทุนปี 54
รอบปี 2554 ที่ผ่านมา กองทุนไหนบริหารฝีมือดีที่สุด ทั้งกองทุนหุ้น ตราสารหนี้ ผสม ไปจนถึงกองทุนแอลทีเอฟและอาร์เอ็มเอฟ คลิกเข้าไปดู

ปี 2554 ที่ผ่านพ้นไปนั้น ถือเป็นอีกปีที่เต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยงในการลงทุนทั้งในและนอกประเทศ ตลาดการลงทุนทั่วโลกมีความผันผวนค่อนข้างสูงปีหนึ่งเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมของธุรกิจกองทุนรวมของไทยในปี 2554 ที่ผ่านมา กองทุนรวมประเภทต่างๆ ที่มีนโยบายลงทุนในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังคงสามารถสร้างผลตอบแทนได้ในเกณฑ์ค่อนข้างดี

ในขณะที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยรวม ในปี 2554 บวกไปเล็กน้อย 3.69% “กองทุนหุ้น” ที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทนสูงถึง 17.79%

เช่นเดียวกับ “กองทุนผสม” ให้ผลตอบแทนสูงสุดถึง 14.43% ในส่วนของ “กองทุนตราสารหนี้” เองก็ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดตั้งแต่ 2.56 - 3.10%
Fundamentals สัปดาห์นี้ จะเปิดสุดยอด Top-5 ของกองทุนรวมแต่ละประเภทในปี 2554 มาฝากกัน
……………………..
กองหุ้นขนาดใหญ่ได้ 16.90%

ในปี 2554 ที่ผ่านมา ผลตอบแทนของ “ดัชนีตลาดหุ้นไทยรวม (SET TR)” บวกไปเล็กน้อย 3.69% ในขณะที่ “กองทุนหุ้น” ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย ติดลบ 0.43% โดยกองหุ้นที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 16.90% ในขณะที่กองที่แย่ที่สุดให้ผลตอบแทน ติดลบ 14.47% หรือต่างกันอยู่ 31.37%

สำหรับ “กองทุนหุ้นขนาดใหญ่” ที่มีผลงานดีสุด 5 อันดับแรก ในปี 2554 ที่ผ่านมานั้น นำมาโดย
อันดับ 1. “กองทุนเปิดบัวหลวงธนคม (BTK)” ของ บลจ.บัวหลวง ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 16.90%
2. “กองทุนเปิดบัวหลวงร่วมทุน (BCAP)” ของ บลจ.บัวหลวง ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 14.95%
3. “กองทุนเปิดบัวหลวงทศพล (BTP)” ของ บลจ.บัวหลวง ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 14.64%
4. “กองทุนเปิดบัวแก้ว 2 (BKA2)” ของ บลจ.บัวหลวง ได้ 5 ดาว ให้ผลตอบแทน 14.48% และ
5. “กองทุนเปิดทรัพย์บัวหลวง (B-SUB)” ของ บลจ.บัวหลวง ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 14.46%

กองหุ้นขนาดกลาง-เล็ก 8.57%

ส่วนกลุ่ม “กองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็ก” ที่มีผลงานดีสุดในปี 2554 ที่ผ่านมา นั้น ได้แก่
อันดับ 1. “กองทุนเปิด อเบอร์ดีนโกรท (ABG)” ของ บลจ.อเบอร์ดีน ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 8.57%
2. “กองทุนเปิดอเบอร์ดีนสยามลีดเดอร์ส (ABSL)” ของ บลจ.อเบอร์ดีน ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 8.54%
3. “กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นแวลู (KFVALUE)” ของ บลจ.กรุงศรี ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 8.30%
4. “กองทุนเปิดอเบอร์ดีนไทย เอคควิตี้ ดีวิเด็น (ABTED)” ของ บลจ.อเบอร์ดีน ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 8.25% และ
5. “กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผล (KFSDIV)” ของ บลจ.กรุงศรี ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 8.16%

กองทุนผสมผลงานดีสุด 7.80%

ในปี 2554 กองทุนผสมให้ผลตอบแทนเฉลี่ย ติดลบ 1.28% โดยกองที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.80% ส่วนกองที่มีผลงานแย่สุดให้ผลตอบแทน ติดลบ 15.78% หรือต่างกัน 23.58%

โดยกองทุนผสมที่มีผลงานดีที่สุด 5 อันดับแรก ในปี 2554 นำมาโดย
อันดับ 1. “กองทุนเปิด อเบอร์ดีนเฟล็กซิเบิ้ลแคปปิตอล (ABFC)” ของ บลจ.อเบอร์ดีน ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 7.80%
2. “กองทุนเปิด อเบอร์ดีนแวลู (ABV)” ของ บลจ.อเบอร์ดีน ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 7.78%
3. “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อิสลามิก ฟันด์ (MIF)” ของ บลจ.เอ็มเอฟซี ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 5.98%
4. “กองทุนเปิด เฟล็กซิเบิ้ล คอร์ปอเรท (FCF)” ของ บลจ.วรรณ ให้ผลตอบแทน 3.32% และ
5. “กองทุนเปิดยูโอบี สมาร์ท มิเลนเนียม โกรว์ธ (UOBSMG)” ของ บลจ.ยูโอบี (ไทย) ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.89%

กองตราสารหนี้ระยะสั้น 2.91%

สำหรับกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.27% โดยกองที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทน 2.91% และกองที่มีผลงานแย่สุดให้ผลตอบแทน 0.90% หรือต่างกันอยู่ 2.01%

โดยกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่มีผลงานดีที่สุด 5 อันดับแรก ในปี 2554 ได้แก่
อันดับ 1. “กองทุนเปิดไอเอ็นจีไทย ตราสารหนี้ (ING TFIF)” ของ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.91%
2. “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี สมาร์ท ฟิกซ์อินคัม (SMART)” ของ บลจ.เอ็มเอฟซี ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.88%
3. “กองทุนเปิดแอสเซทพลัสตราสารหนี้ปันผล 2 (ASP-DI2)” ของ บลจ.แอสเซท พลัส ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.78%
4. “กองทุนเปิดทีแฟมชอร์ท เทอม ฟิกซ์ อินคัม (TFSF)” ของ บลจ.กสิกรไทย ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.73% และ
5. “กองทุนเปิดเคเค ตราสารหนี้มั่นคง (KK FMUNKONG)” ของ บลจ.เกียรตินาคิน ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.60%

กองตราสารหนี้กลาง-ยาวบวกไป 3.10%


ในส่วนของกองทุนตราสารหนี้ระยะกลางให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.72% โดยกองที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.10% ในขณะที่กองที่แย่สุดนั้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.39% หรือต่างกัน 0.71%

โดยกองทุนตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาวที่มีผลงานดีสุด 5 อันดับแรกของปี 2554 นำมาโดย
อันดับ 1. “กองทุนเปิดรวงข้าวตราสารหนี้ (RKFC)” ของ บลจ.กสิกรไทย ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 3.10%
2. “กองทุนเปิดฟินันซ่า ตราสารหนี้ (FAM FI)” ของ บลจ.ฟินันซ่า ได้ 5 ดาว ให้ผลตอบแทน 3.09%
3. “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ พลัส (SCBFP)” ของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ให้ผลตอบแทน 2.86%
4. “กองทุนเปิดทีแฟมคอร์เปอเรท บอนด์ (TFCB)” ของ บลจ.กสิกรไทย ได้ 1 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.81% และ
5. “กองทุนเปิดเค แพลน 1 (K-PLAN1)” ของ บลจ.กสิกรไทย ให้ผลตอบแทน 2.80%

กองตราสารตลาดเงิน 2.56%

ส่วนกองทุนตราสารตลาดเงินให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.35% โดยกองที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.56% ในขณะที่กองที่แย่ที่สุดให้ผลตอบแทน 2.08% หรือต่างกัน 0.48%

โดยกองทุนตราสารตลาดเงินที่มีผลงานดีสุด 5 อันดับแรก ในปี 2554 ได้แก่
อันดับ 1. “กองทุนเปิดฟินันซ่าเพิ่มพูนทรัพย์ (FAM VF)” ของ บลจ.ฟินันซ่า ให้ผลตอบแทน 2.56%
2. “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารรัฐตลาดเงิน (SCBTMF)” ของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ให้ผลตอบแทน 2.52%
3. “กองทุนเปิดไอเอ็นจี ไทย เทรเชอรี (ING TTRY)” ของ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.50%
4. “กองทุนเปิดฟิลลิปบริหารเงิน (PCASH)” ของ บลจ.ฟิลลิป ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.49% และ
5. “กองทุนเปิดธนชาตบริหารเงิน (T-CASH)” ของ บลจ.ธนชาต ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.48%

กองทุน LTF ดีสุด 17.79%

ด้านกองทุน LTF ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย ติดลบ 1.08% โดยกองทุนที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 17.79% ในขณะที่กองที่แย่ที่สุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย ติดลบ 13.89% หรือต่างกันประมาณ 31.68%

โดยกองทุน LTF ที่มีผลงานดีสุด ในปี 2554 ได้แก่
อันดับ 1. “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อิสลามิก หุ้นระยะยาว (MIF-LTF)” ของ บลจ.เอ็มเอฟซี ได้ 5 ดาว ให้ผลตอบแทน 17.79%
2. “กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว (B-LTF)” ของ บลจ.บัวหลวง ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 14.94%
3. “กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 (BLTF75)” ของ บลจ.บัวหลวง ได้ 2 ดาว ให้ผลตอบแทน 12.78%
4. “กองทุนเปิดฟิลลิป หุ้นระยะยาว (P-LTF)” ของ บลจ.ฟิลลิป ได้ 2 ดาว ให้ผลตอบแทน 10.69% และ
5. “กองทุนเปิด อเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว (ABLTF)” ของ บลจ.อเบอร์ดีน ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 8.95%

RMF-หุ้นได้ 15.18%

สำหรับกองทุน RMF-หุ้น ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย ติดลบ 1.30% โดยกองทุนที่มีผลงานดีที่สุดให้ผลตอบแทน 15.18% และกองที่มีผลงานแย่สุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย ติดลบ 26.54% หรือต่างกันประมาณ 41.72%

โดยกองทุน RMF-หุ้น ที่มีผลงานดีสุด 5 อันดับแรก ในปี 2554 นำมาโดย
อันดับ 1. “กองทุนเปิดบัวหลวงตราสารทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (BERMF)” ของ บลจ.บัวหลวง ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 15.18%
2. “กองทุนเปิดอเบอร์ดีน สมาร์ท แคปปิตอล เพื่อการเลี้ยงชีพ (ABSC-RMF)” ของ บลจ.อเบอร์ดีน ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 9.11%
3. “กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นปันผลเพื่อการเลี้ยงชีพ (KFDIVRMF)” ของ บลจ.กรุงศรี ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 7.97%
4. “กองทุนเปิด JUMBO 25 เพื่อการเลี้ยงชีพ (JB25RMF)” ของ บลจ.ทหารไทย ได้ 3 ดาว ให้ผลตอบแทน 6.03% และ
5. “กองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ (IN-RMF)” ของ บลจ.บัวหลวง ได้ 1 ดาว ให้ผลตอบแทน 5.39%

RMF-ผสมสูงสุด 14.43%

ด้านกองทุน RMF-ผสม ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย ติดลบ 0.01% โดยกองทุนที่มีผลงานดีสุดนั้นให้ผลตอบแทน 14.43% ส่วนกองที่มีผลงานแย่สุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย ติดลบ 8.33% หรือต่างกันประมาณ 22.76%

โดยกองทุน RMF- ผสม ที่มีผลงานดีสุด 5 อันดับแรกในปี 2554 ได้แก่
อันดับ 1. “กองทุนเปิดบัวหลวงเฟล็กซิเบิ้ลเพื่อการเลี้ยงชีพ (BFLRMF)” ของ บลจ.บัวหลวง ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 14.43%
2. “กองทุนเปิดฟิลลิปผสมเพื่อการเลี้ยงชีพ (PMIXRMF)” ของ บลจ.ฟิลลิป ได้ 1 ดาว ให้ผลตอบแทน 10.99%
3. “กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้น 25% เพื่อการเลี้ยงชีพ (B25RMF)” ของ บลจ.บัวหลวง ได้ 2 ดาว ให้ผลตอบแทน 6.59%
4. “กองทุนเปิดเคเค บาลานซ์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KK BLRMF)” ของ บลจ.เกียรตินาคิน ได้ 5 ดาว ให้ผลตอบแทน 4.78% และ
5. “กองทุนเปิดฟินันซ่าเพิ่มพูนทรัพย์ ฟอร์เรน เบลนด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (FAM FBVRMF)” ของ บลจ.ฟินันซ่า ให้ผลตอบแทน 2.32%

RMF-ตราสารหนี้ดีสุด 2.74%

ในส่วนกองทุน RMF-ตราสารหนี้ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.04% โดยกองที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.74% ในขณะที่กองที่มีผลงานแย่สุดให้ผลตอบแทน ติดลบ 0.70% หรือต่างกันอยู่ 3.44%

โดยกองทุน RMF-ตราสารหนี้ ที่มีผลงานดีสุด 5 อันดับแรก ในปี 2554 ได้แก่
อันดับ 1. “กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย พันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ (INGGBRMF)” ของ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ได้ 4 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.74%
2. “กองทุนเปิดทหารไทย ธนไพศาล เพื่อการเลี้ยงชีพ (TMBBFRMF)” ของ บลจ.ทหารไทย ให้ผลตอบแทน 2.57%
3. “กองทุนเปิดเคเค อินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ (KKINRMF)” ของ บลจ.เกียรตินาคิน ได้ 2 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.47%
4. “กองทุนเปิดไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาลเพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRM2)” ของ บลจ.ไทยพาณิชย์ ได้ 2 ดาว ให้ผลตอบแทน 2.42% และ
5. “กองทุนเปิดเคเค ตลาดเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ (KK MMRMF)” ของ บลจ.เกียรตินาคิน ให้ผลตอบแทน 2.36%

RMF อื่นโชว์ผลตอบแทน 24.13%

สำหรับกองทุน RMF-อื่นๆ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.29% โดยกองที่มีผลงานดีสุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 24.13% ในขณะที่กองที่มีผลงานแย่สุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 0.94% ต่างกันประมาณ 23.19%

โดยกองทุนที่มีผลงานดีสุด 5 อันดับแรก ในปี 2554 ได้แก่
1. “กองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (KFGOLDRMF)” ของ บลจ.กรุงศรี ให้ผลตอบแทน 24.13%
2. “กองทุนเปิดวรรณโกลด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ (GOLD-RMF)” ของ บลจ.วรรณ ให้ผลตอบแทน 19.58%
3. “กองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (BGOLDRMF)” ของ บลจ.บัวหลวง ให้ผลตอบแทน 12.80%
4. “กองทุนเปิดเอ็มเอฟซีอินเตอร์เนชั่นแนล โกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (I-GOLDRMF)” ของ บลจ.เอ็มเอฟซี ให้ผลตอบแทน 10.99% และ
5. “กองทุนเปิดเค โกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ (K-GOLD RMF)” ของ บลจ.กสิกรไทย ให้ผลตอบแทน 8.97%

ทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของผลการดำเนินงานของ “กองทุนรวม” ประเภทต่างๆ ในปี 2554 ที่ผ่านมา แม้ว่าผลการดำเนินงานในอดีต จะไม่ได้การันตีถึงผลงานในอนาคต แต่ “กองทุนรวม” ก็ยังถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือการลงทุนที่สามารถนำคุณไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เพื่อโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีในระดับความเสี่ยงที่เหมาะสมได้เป็นอย่างดี



Create Date : 09 มีนาคม 2555
Last Update : 9 มีนาคม 2555 23:27:53 น.
Counter : 4673 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Wild Rabbit
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 45 คน [?]



มีนาคม 2555

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31