๒๖. กลับข้าง

สวัสดีวันวิสาขบูชาค่ะ ^__^




เวลาพลบค่ำภายในเขตพระราชวัง

พระชนกและชนนีเข้าไปปลอบอยู่นาน จันทราวตีจึงจะพระทัยอ่อน ด้วยข้อต่อรองของวณิพกพเนจรที่ทูลขอแก่องค์ราชานั้นดูอาจเอื้อมเหมือนกระต่ายหมายจันทร์ แต่แท้จริงโง่เขลานัก พระราชาเข้าไปตรัสแก่จันทราวตีว่าเพียงรับปากให้เขาอยู่ร่วมที่ประทับเท่านั้น มิได้ให้เข้าไปจนใกล้ชิดสักหน่อย ว่าแล้วก็เรียกบาทจารีมาช่วยกางม่านกั้น บอกขอทานว่าพระธิดาประทับอยู่หลังม่าน อยู่ร่วมห้องได้แต่มิได้รับอนุญาตให้ล่วงล้ำเขตม่านกั้นภายใน

ฝ่ายพระมเหสีรู้สึกเห็นใจขอทานเนื้อตัวสกปรก แม้แต่ทหารหรือนางกำนัลในยังรังเกียจ จันทราวตีนั้นไม่แม้แต่จะชายตามอง ก่อนเหนือหัวจะรับสั่งให้พาเข้าห้องบรรทม องค์ราชินีจึงให้มหาดเล็กพาไปชำระล้างร่างกายเสียก่อน ครั้นพอชำระล้างและแต่งกายเสียใหม่ พระมเหสีมองผ่านพระบัญชรออกไปเห็นชายหนุ่มที่เพิ่งจะก้าวเข้าห้องบรรทมไม่ถนัดนัก เพ่งพระเนตรดูให้ชัดจึงอุทานเรียกหาพระราชาไม่พ้นเสียง

จันทราวตีหลบอยู่หลังม่าน ได้ยินเสียงปิดประตูของคนแปลกหน้า ก็กลั้นพระทัยนั่งนิ่งไม่ยอมตรัสคำใด ที่น่าแปลกใจกว่าคือบุรุษผู้เข้ามาก็เพียงถวายบังคมแล้วไม่กล่าวคำใดเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างเห็นเพียงเงาของกันและกันโดยมีม่านกั้นและความเงียบปกคลุมอยู่รายรอบ

พากันนิ่งอยู่ครึ่งชั่วยามจันทราวตีเป็นฝ่ายอดรนทนไม่ไหว
“เจ้าเป็นใบ้หรือ เจ้าขอทาน”
“เปล่านี่พระเจ้าข้า”
เสียงนั้นเหมือนดังมาจากที่ไกลแสนไกล พระธิดาสดับฟังไม่ถนัดนัก

“เช่นนั้นเราขอถามเจ้า ว่าเมื่อสู้พเนจรไปจนเก็บสังวาลได้กลางป่า เหตุใดไม่เรียกหาสมบัติแก้วแหวนเงินทอง นำเงินไปสร้างเนื้อสร้างตัวเสีย จะได้ไม่ต้องมาเป็นวณิพกอยู่อย่างนี้”

วณิพกได้ฟังแล้วนั่งนิ่งไปเหมือนลังเลแล้วค่อยตอบด้วยน้ำเสียงเหมือนยิ้มยั่ว
“กระหม่อมไม่ทันคิดพ่ะย่ะค่ะ”
“เช่นนั้นเราจะช่วยเจ้าคิดเสียใหม่ เจ้าอยากได้แก้วแหวนเงินทองเท่าใดก็บอกมา เรามีให้เจ้ามากพอจะใช้ได้ตลอดชีวิตของเจ้า ถือว่าเราขอซื้อสังวาลเส้นนี้ ดีไหม”
หลังม่านนั้น เจ้าหญิงเหมือนได้ยินเสียงขอทานหัวเราะแว่วอยู่ในลำคอก่อนตอบ

“ไม่ต้องหรอกพ่ะย่ะค่ะ ขอเพียงได้ยลโฉมพระธิดาใกล้ๆ กี่โกฏิกหาปณะกระหม่อมก็มิได้ถวิลหา”
สดับเสียงตอบเป็นคำราชาศัพท์ที่ชัดถ้อย หนำซ้ำยังมีร่องรอยยียวนอยู่ในที น้ำเสียงที่ได้ยินก็คุ้นหูนัก เจ้าหญิงลังเลแล้วตรัสถามอย่างระแวดระวังกว่าเดิม

“แล้วเหตุใดจึงอยากเห็นหน้าเรานัก”
“คนที่กระหม่อมรักหายตัวไปกลางป่า กระหม่อมวาดภาพของนางเอาไว้ ใครเห็นก็พากันบอกว่า นางหน้าตาคล้ายกับพระธิดาไม่มีผิดพระเจ้าข้า”
“แล้วคนรักของเจ้าชื่ออะไร...”
“ชื่อวตีพ่ะย่ะค่ะ”

ประโยคเดียวก็ทำให้พระธิดาทรงชะงัก ตระหนักแล้วว่าถูกลองพระทัยบ้าง จันทราวตีพินิจมองร่างนั้นผ่านเงาม่านไม่ถนัด จึงเอื้อมพระหัตถ์ปลดเชือกที่คล้องผ้าแพรออก เผยพระพักตร์งามเด่นแข่งแสงจันทร์ที่เริ่มหลบเร้นไปอยู่หลังเงาไม้

“แล้วเราใช่วตีของเจ้าหรือไม่”

พระเนตรงามสบกับแววตาคมกล้า อาภรณ์ของวณิพกก็มิอาจบดบังความงามสง่าของเจ้าชาย เทวินทร์วรมันต์ถอนพระทัยแล้วตรัสเรียบ

“หามิได้พ่ะย่ะค่ะ...”
“นางเป็นเพียงสาวชาวป่า กระหม่อมมาเพียงเพื่อได้เห็นเงาเมื่อยามเธอเป็นเจ้าหญิง ใกล้แค่ได้ยินเสียงเมื่อยามเธออยู่ในฐานันดรที่สูงศักดิ์...”

‘หากเลือกได้ เจ้าจะเลือกเป็นใคร วตี’

คำถามที่องค์ชายถามหญิงสาวชาวดินในกระโจมกลางป่าดังขึ้นอีกครา เพียงแต่ในเวลานี้สลับฐานันดรกลับข้าง

หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง นางกำนัลหน้าห้องแอบมองลอดทวารของห้องบรรทม ได้ยินเสียงสนทนาในนั้นไม่ถนัดนัก แต่ภาพที่ประจักษ์คือวณิพกเข้าไปโอบกอดพระธิดาเอาไว้ ฝ่ายจันทราวตีก็ซบพระปรางลงกรรแสงกับไหล่กว้าง

นางกำนัลก็รีบถลาไปลั่นระฆังเรียกทหารร้องว่า ‘เจ้ายาจกล่วงเกินพระธิดา’ เสียลั่นวัง เมื่อทหารกรูกันเข้ามาล้อมไว้ พระราชากับราชินีก็เสด็จเข้ามาทันเวลาก่อนทหารทั้งหลายจะเงื้ออาวุธฟาดฟันเจ้ายาจกทั้งที่มีพระธิดาออกมายืนขวางหน้าไว้



Create Date : 17 พฤษภาคม 2554
Last Update : 17 พฤษภาคม 2554 17:58:43 น. 0 comments
Counter : 741 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รุริกะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




users online
pageviews
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2554
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
17 พฤษภาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add รุริกะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.