๒๐. จำพราก



แม้ทุกคนที่มาจากนครสาวัตถีจะล่วงรู้ถึงการเลื่อนพิธีอภิเษก แต่ทุกอย่างก็ต้องเป็นไปตามกำหนดการที่นัดหมาย กำหนดกลับไว้วันใดก็ต้องให้เป็นไปตามนั้น เมื่อเจ้าหญิงจันทราวตีและภาวิณีมาถึงที่พักเหล่าองครักษ์ก็มารอท่าทูลเสด็จเพื่อนำทางกลับแคว้นโกศล ก่อนเดินทางนั้นจันทราวตีทรงรู้สึกวุ่นวายในพระทัย ที่จะต้องทรงหนีออกไปโดยมิได้บอกกล่าว เมื่อรับสั่งกับเพื่อนหญิงภาวิณีจึงเรียกหัวหน้าองครักษ์วิภูทะมาไหว้วานธุระอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกลับมาทูลพระธิดาว่าขอให้ทรงวางพระทัยได้ จากนั้นทั้งหมดจึงออกเดินทางออกห่างจากขบวนอย่างเงียบเชียบ ระหว่างทางนั้นจันทราวตีประทับนั่งอยู่บนหลังม้าจึงมิได้ตรัสปรึกษากับภาวิณีแต่ประการใด ได้แต่วุ่นวายในพระทัยอยู่ผู้เดียวอย่างเงียบเหงา

“เจ้าชายจะเป็นห่วงเราไหมหนอ…”

ดำริแล้วว้าวุ่นในพระทัยกับคำถามที่เจ้าชายตรัสเมื่อไม่กี่ชั่วยามที่ผ่าน…หากเลือกได้ เจ้าจะเลือกเป็นแบบไหน คนไร้ยศถาบรรดาศักดิ์หรือเจ้าหญิงที่มีพร้อมทุกสิ่ง…เจ้าหญิงเงยหน้ามองจันทราแล้วรำพึงอย่างหม่นหมอง

“ข้าแต่จันทรา หากข้าเลือกจะเป็นอะไรก็ตามที่ขอเพียงได้อยู่เคียงข้างกับเทวินทร์วรมันต์ เช่นนั้นจะผิดไหม”

ดวงจันทรายังคงทอประกายสุกใสให้แสงสว่างนำทางดุจเดิมแต่ไร้ซึ่งคำตอบ ปล่อยให้เจ้าหญิงตั้งคำถามอยู่เพียงลำพังกระทั่งเข้าใกล้ชายแดนแห่งแคว้นโกศลจนไปถึงนครสาวัตถี…

แล้วเสร็จจากการคุยธุระกับเจ้าชายในที่ประทับ ศรีรามจึงกลับเข้าที่พักของตนบ้าง เมื่อล้มตัวลงนอนอย่างอ่อนแรงไปจนถึงรุ่งเช้า แสงแดดอ่อนๆสาดส่องเข้ามากระทบ กับเสียงนกพิราบกระพือปีกบินมา ศรีรามจึงลืมตาขึ้นดูจึงเห็นนกพิราบขาวตัวหนึ่งบินมาเกาะอยู่บนราวแขวนผ้า ปากคาบธนูลูกหนึ่ง ส่วนตรงขาของมันมีแผ่นหนังชิ้นเล็กๆมัดติดอยู่

เมื่อศรีรามหันมองมันก็ไม่บินหนีไปไหน ผงกหัวอยู่ปะหลกๆ คล้ายเชื้อเชิญให้มาหยิบเอาลูกธนูออกจากปาก กับแกะแผ่นหนังจากขามันเสียก่อนแล้วค่อยบินจากไป แต่เหลนชายของอนาถบิณฑิกะฉลาดพอที่จะหยิบลูกธนูและแกะแผ่นหนังออกมา แล้วก็กลับจับตัวนกพิราบเอาไว้ ผูกติดไว้กับขื่อในกระโจมของตนนั่นเอง

“อยู่ด้วยกันก่อนเจ้านกน้อย เราสังหรณ์ใจว่าหากปล่อยให้เจ้าบินจากไปแล้วจะไปลับ ไม่อาจติดตามหาผู้ที่ส่งข่าวมาให้เราได้”

แผ่นหนังจารึกเนื้อความไว้ไม่กี่ประโยค ศรีรามอ่านรวดเดียวแล้วลุกพรวด วิ่งออกจากกระโจมแล้วมองไปรอบกองคาราวานอย่างเคว้งคว้างก่อนทอดถอนใจด้วยความอาลัย

เนื้อความในสาส์นนั้นเป็นข้อความอำลาด้วยความจำเป็นที่จะต้องจากไปทำธุระ ขออย่าให้เจ้าชายและผู้คนในขบวนเป็นกังวล ส่วนลูกธนูที่นกพิราบคาบมาให้นั้นเป็นของผู้ติดตามที่มาลอบช่วยเหลือจันทราวตีไว้ในคราวที่เจอเสือป่า ขอให้เจ้าชายทรงระวังอันตรายรอบด้านให้จงหนัก แม้องครักษ์จากในวังก็มิอาจไว้พระทัยได้ ปิดท้ายด้วยคำอำลาและหวังว่าจะได้พบกันใหม่ เจ้าชายอ่านแล้วกลับพอพระทัยและขอบใจศรีรามที่นำข่าวสารมาส่งให้

“อันตรายมีอยู่รอบด้าน ให้นางกลับไปรอท่าที่สาวัตถีก็ดีเหมือนกัน”
“พระองค์ตรัสราวกับว่ามิได้ทรงกังวลที่ต้องแยกจากองค์หญิงเลยพระเจ้าข้า”
“จะกังวลไปใย ในเมื่อเรากลับไปก็ต้องไปเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับนางอยู่แล้ว เจ้าสิศรีราม หักห้ามใจไม่ให้คิดถึงภาวิณีได้หรือ”

เหมือนตอกซ้ำลงในความหวั่นไหว เมื่อเทวินทร์วรมันต์ตรัสย้ำถึงคำว่า ‘ภาวิณี’ ขึ้นมาครั้งใด จิตใจของศรีรามก็ไหวเอนออกไปนอกทางเสียแทบทุกครั้ง แท้จริงแล้วศรีรามก็มีเยื่อใยกับภาวิณีอยู่มาก หากแต่พยายามระลึกได้หน้าที่ย่อมสำคัญกว่า หากเป็นเนื้อคู่กันด้วยบุพเพสันนิวาส อยู่ห่างจากกันเพียงใดย่อมไม่แคล้วคลาดและกลับมาหากันจนได้ในวันหนึ่ง ชายหนุ่มจึงกราบทูลอย่างมั่นใจ

“ได้ พ่ะย่ะค่ะ”



Create Date : 25 เมษายน 2554
Last Update : 25 เมษายน 2554 7:22:32 น. 0 comments
Counter : 645 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

รุริกะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




users online
pageviews
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
25 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add รุริกะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.