เทวินทร์วรมันต์อุ้มร่างที่สลบไสลไม่ได้สตินั้นไปยังที่ประทับแล้วบรรจงวางลงกับพรมอันอ่อนนุ่ม ใบหน้าของโฉมงามซีดเผือดและมีหยดเหงื่อเกาะพราวบนหน้าผากและไรผม เจ้าชายเอื้อมพระหัตถ์ซับแล้วไล้แก้มบางด้วยความรักและห่วงใยท่วมท้นในพระอุระ ประจักษ์ชัดว่าหากเมื่อครู่นางสิ้นใจใต้คมดาบของผู้ประสงค์ร้าย พระองค์ก็คงเสียพระทัยแทบวางวายได้ในบัดเดี๋ยวนั้น ตั้งพระทัยมั่นว่าหากกลับจากงานสังคายนาจะพาหญิงสาวกลับไปแต่งตั้งเป็นอัครมเหสี แม้พระธิดาที่เป็นบรรณาการแห่งแคว้นโกศลจะเลอโฉมเพียงใด ก็มิใช่สตรีที่พระองค์พึงประสงค์เลยแม้แต่น้อย ครู่หนึ่งริมฝีปากบางก็ครวญแผ่วดังร้องขอความช่วยเหลือ เจ้าชายเข้าพระทัยว่าเธอฟื้นคืนสติจึงบีบพระหัตถ์กระชับมือน้อยนั้นไว้
เป็นอย่างไรบ้างวตี เราอยู่ที่นี่แล้ว
สองเนตรนั้นยังหลับตาพริ้ม มือน้อยเกาะกุมพระหัตถ์นั้นไว้อย่างไขว่คว้าหาที่พึ่ง
เสด็จพ่อ
เสด็จแม่
ช่วยลูกด้วย สรรพสำเนียงนั้นเป็นคำราชาศัพท์ที่ใช้ในราชสำนัก เทวินทร์วรมันต์เริ่มคลางแลงสงสัย
เจ้าเรียกหาใคร
วตี ดังว่าพระดำรัสหลุดลอยไปกับสายลม หญิงสาวยังเพ้อไม่ได้สติ ลูกอยากกลับสาวัตถี เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ช่วยลูกด้วยเพคะ เทวินทร์วรมันต์จับร่างน้อยนั้นเขย่าให้ได้สติ ในเวลานั้นสังวาลที่คล้องคอหญิงสาวก็หลุดตกลงบนพรม เจ้าชายจึงหยิบขึ้นมาพินิจ สังวาลนั้นมีจี้ชิ้นเล็กๆที่เป็นตรารูปดวงจันทร์ประทับ พลิกด้านหลังเป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นเชื้อพระวงศ์ของเมืองสาวัตถี
เจ้าหญิงจันทราวตี
นี่เจ้า
?
หญิงสาวเริ่มขยับตัวใกล้ฟื้นคืนสติ เจ้าชายจึงรีบเก็บสังวาลซุกไว้ในฉลองพระองค์ ทอดพระเนตรจับจ้องสาวน้อยร้อยชั่งที่พบกันอย่างไม่คาดฝัน แท้ที่จริงเป็นคู่หมั้นหมายที่ต้องทรงเข้าพิธีอภิเษกในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นี่คงคิดจะมาหลอกดูพระทัยพระองค์ตรงกลางป่า ดีว่าทรงจับได้เสียในเวลานี้ พินิจดูสตรีที่ค่อยๆลืมตาขึ้นด้วยดวงพระเนตรซ่อนเล่ห์
หมายจะซ้อนกลเช่นเดียวกับครั้งที่จันทราวตีพบพระพักตร์และยินยอมติดตามเจ้าชายมาจากกลางป่าในคืนแรกนั่นแล้ว
Create Date : 18 เมษายน 2554 |
Last Update : 18 เมษายน 2554 6:54:47 น. |
|
0 comments
|
Counter : 702 Pageviews. |
|
|