๕. รัชทายาท
ทางด้านนครราชคฤห์ มีการจัดริ้วขบวนอย่างสมพิธี เนื่องด้วยมีองค์รัชทายาทประทับร่วมขบวน ก่อนออกเดินทางองค์เทวินทร์วรมันต์มีรับสั่งแต่งตั้งให้ภัทรเสนโอรสแห่งมเหสีองค์รองว่าราชการแทนจนกว่าจะนิวัติกลับพระนคร อำมาตย์ชราทูลขอเข้าเฝ้าในคืนก่อนเดินทางอย่างกังวล
แน่พระทัยหรือพะย่ะค่ะฝ่าบาท เรื่องอันใดหรือท่านอำมาตย์
ว่าที่กษัตริย์หนุ่มทวนถาม อำมาตย์ชราลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงทูลถวาย การมอบอำนาจให้พระอนุชาเวลานี้ ข้าพระองค์เห็นว่าไม่สมควรนัก
เจ้าชายนิ่งฟังอย่างเข้าใจในความหมาย ย้อนรำลึกไปถึงเหตุการณ์ภายในมหานครราชคฤห์ที่อำมาตย์ชราเคยพร่ำบ่นให้ฟังตั้งแต่ทรงพระเยาว์
ในรัชสมัยของพระเจ้าพิมพิสาร ประสูติกาลของพระราชโอรสเป็นอัปมงคลนัก เพราะตั้งแต่ครั้งพระมเหสีทรงพระครรภ์ ก็ทรงมีพระอาการแพ้ท้องคืออยากเสวยโลหิตในเข่าเบื้องขวาของพระสวามี ความทราบถึงองค์ราชา เหล่าโหรให้คำทำนายว่า พระโอรสพระองค์นี้เมื่อประสูติและเจริญเติบโตขึ้น
จะปลงพระชนม์ชีพพระราชบิดาแล้วขึ้นครองราชสมบัติ !
พระเจ้าพิมพิสารรับฟังด้วยพระทัยที่รักและผูกพันในองค์โอรสเป็นกำลัง ตรัสต่อคำแนะนำของโหรว่า
เรื่องนี้ไม่สำคัญอันใด เมื่อลูกของเราจะฆ่าเรา ชิงเอาราชสมบัติก็ช่างเถิด ไปจัดเตรียมจานทองมา เราจะเอาเลือดจากเข่าข้างขวาให้พระราชเทวีดื่ม
ตรัสแล้วก็ทรงกระทำดังนั้นและรับสั่งให้ข้าราชบริพารถวายการดูแลพระมเหสีด้วยดีเสมอมา เมื่อครบทศมาส พระนางก็ประสูติพระราชโอรส โหรหลวงถวายพระนามว่า อชาตสัตตุกุมาร แปลว่า กุมารผู้เป็นศัตรูต่อพระบิดาตั้งแต่ยังไม่ประสูติ
เหตุการณ์ไม่ผิดจากคำที่โหรทำนาย เพราะเมื่ออชาตสัตตุกุมารเติบใหญ่ขึ้น ก็หาทางโค่นล้มพระราชบัลลังก์ตามคำยุยงของพระเทวทัต ด้วยการจับพระราชบิดาของตนขังไว้ในคุกให้อดน้ำและอาหารรอวันตาย
พระเจ้าพิมพิสารถูกควบคุมพระองค์อยู่ในคุกยังสู้อุตส่าห์แผ่เมตตาให้แก่พระโอรสและระงับความทรมานด้วยการเดินจงกรมอยู่ในห้องขัง พระเจ้าอชาตศัตรูทรงทราบดังนั้นก็ให้นายทหารไปเฉือนข้อเท้าของพระราชบิดาเสีย เพื่อมิให้เดินจงกรมได้ พระเจ้าพิมพิสารได้รับความทรมานอย่างแสนสาหัสและสิ้นพระชนม์ในวันเดียวกันกับที่พระชายาของพระเจ้าอชาตศัตรูให้การประสูติราชโอรสพระองค์แรก นามว่าอุทัยภัททกุมาร
พระเจ้าอชาติศัตรูรู้ข่าวการเกิดก่อนการตาย ความรักลูกได้อุบัติขึ้นตามธรรมชาติและรำลึกถึงความรักของราชบิดาที่มีให้กับพระองค์เอง รับสั่งให้ทหารปล่อยตัวพระเจ้าพิมพิสารในทันใด แต่ก็สายเกินแก้ พระราชบิดาสิ้นพระชนม์ไปพร้อมกับความเศร้าโศกเสียใจของพระราชมารดาเป็นที่สุด ทรงตรอมพระทัยและสิ้นพระชนม์ตามพระสวามีไปในไม่ช้า
พระอุทัยภัททกุมารเมื่อมีพระชนมายุได้ 32 พรรษา ก็ปลงพระชนม์พระราชบิดาและขึ้นครองราชย์ก่อนจะย้ายราชธานีไปตั้งไว้ที่กุสุมาปุระ ขึ้นเป็นที่ประทับบนฝั่งแม่น้ำคงคาห่างจากกรุงปาฏลีบุตรไปไม่ไกล
ในเวลาต่อมาพระเจ้าอุทัยภัทรก็กลับถูกพระโอรสนามว่าอุนุรุทธะปลงพระชนม์ และกษัตริย์พระองค์ใดเสวยราชย์อยู่ไม่ช้าก็ถูกพระโอรสปลงพระชนม์ซ้ำรอยเดิม เป็นเรื่องกรรมสนองกรรมเรื่อยมาจนไพร่ฟ้าประชาชนให้สมญานามราชวงศ์นี้ว่า
ราชวงศ์ปิตุฆาตหรือราชวงศ์ลูกฆ่าพ่อ
เวลาล่วงเลยจนเกือบร้อยปีหลังพุทธปรินิพพาน ในที่สุดประชาชนทนอยู่ภายใต้การปกครองกษัตริย์วงศ์ปิตุฆาตไม่ไหว ก็พากันปฏิวัติขึ้นจับองค์กษัตริย์สำเร็จโทษ แล้วเชิญอำมาตย์ผู้หนึ่งชื่อ สุสูนาค ขึ้นครองราชสมบัติ วงศ์กษัตริย์สายพระเจ้าพิมพิสารสิ้นสุดลงในเวลานั้น พระเจ้าสูสุนาคได้ทำการย้ายราชธานีอีกครั้ง ได้ขยายอำนาจของมคธให้แผ่ไปถึงแคว้นโกศล แคว้นวัชชี และแคว้นอวันตี ล้วนตกเป็นเมืองขึ้นของแคว้นมคธทั้งหมด ต่อมาจึงให้การสถาปนาพระโอรสนามว่า กาฬาโศก ขึ้นครองราชสมบัติ
แม้ว่าจะมีการผลัดเปลี่ยนเชื้อสายกษัตริย์ที่ขึ้นครองราชย์ ร่องรอยจารึกของราชวงศ์แห่งการทำปิตุฆาตและการแก่งแย่งราชบัลลังก์ก็ยังเป็นเรื่องอาถรรพ์และเล่าลือกันไปทั่วทุกสารทิศ ในยามที่พระราชบัลลังก์จะผลัดเปลี่ยนอีกครั้ง เหตุการณ์ในอดีตจึงดูเหมือนจะตามมาเฝ้าคอยหลอกหลอน ให้คนในราชสำนักประหวั่นพรั่นพรึงอยู่ซ้ำซาก
เห็นพระโอรสทรงนิ่งเงียบไป อำมาตย์ชราจึงทูลถามซ้ำอีกครั้ง เทวินทร์วรมันต์ทอดถอนพระทัยแล้วจึงตรัส
อำนาจอยู่กับผู้ใดก็น่ากลัวทั้งนั้น ท่านเกรงว่าน้องเราจะใช้ไปในทางที่ผิดหรือ พะย่ะค่ะ ขอให้เสด็จกลับมาโดยปลอดภัย ข้าพระองค์เป็นห่วงนัก เราไปไม่นาน ท่านพูดอย่างกับกลัวเราจะไม่ได้กลับ
สุรเสียงที่ตรัสเจืออาการยั่วเย้า แต่กลับทำให้อำมาตย์ชรามีทีท่ากังวลใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม ครู่หนึ่งองครักษ์เข้ามาขัดจังหวะ ทูลขออนุญาตนำองค์อนุชาเข้าเฝ้า เทวินทร์วรมันต์รับสั่งให้เชิญเข้ามาพร้อมหันไปกระซิบกับอำมาตย์
เจ้าตัวมาพอดี
ถวายบังคมเสด็จพี่พะย่ะค่ะ หม่อมฉันคงมิได้มารบกวน รัชทายาทองค์รองทรุดกายลงถวายความเคารพอย่างนอบน้อม เทวินทร์วรมันต์ลุกไปต้อนรับอย่างไม่ต้องให้มากพิธี
พี่กำลังปรึกษาราชการกับท่านอำมาตย์ เจ้ามาก็ดี จะได้มาช่วยกันหารือ หม่อมฉันก็มาด้วยเหตุนี้เองพระเจ้าข้า เรื่องกระแสรับสั่งแต่งตั้งให้หม่อมฉันรับมอบอำนาจแทนพระองค์ เกรงว่าจะไม่สมควรนัก
ฟังคำตรัสที่ออกจะพ้องกับที่อำมาตย์เอ่ยเมื่อครู่ สร้างความแปลกพระทัยให้มิใช่น้อย เจ้าชายจึงรับสั่ง
ด้วยเหตุอันใดลองว่ามา หม่อมฉันอ่อนด้อยประสบการณ์ เกรงจะบริหารบ้านเมืองไม่ดีนัก เหตุใดไม่ทรงมอบหมายให้หม่อมฉันไปร่วมงานสังคายนาแทน ส่วนฝ่าบาทควรจะทรงว่าราชการอยู่ที่นี่พะย่ะค่ะ การที่องค์รัชทายาทจะเสด็จไปรอนแรมอยู่กลางป่าในเวลาใกล้พิธีสถาปนา ย่อมมีอันตรายมากกว่าคราประทับอยู่ในราชวังมากนัก หม่อมฉันไปแทนน่าจะปลอดภัยกว่า
กษัตริย์ผู้พี่และผู้น้องปรึกษาหารือกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย สร้างความประหลาดใจแก่อำมาตย์ชราเป็นยิ่งนัก อย่าเลย นี่เป็นความตั้งใจของพี่ มิได้มีผู้ใดมาบังคับ เช่นนั้นก็แต่งตั้งพระอนุชาองค์อื่นว่าราชการแทนเถิดพระเจ้าข้า หม่อมฉันใคร่ขอติดตามไปกับขบวนของฝ่าบาทด้วย สิ้นคำตรัส อำมาตย์และกษัตริย์ผู้พี่จึงพอเข้าใจ
เรื่องนี้ไม่ได้ ออกไปกันหมด ราชคฤห์จะได้กลายเป็นนครร้าง อยู่แต่ในวังไม่น่าพิศมัย ได้ติดตามเสด็จพี่ไปผจญภัยน่าเพลิดเพลินกว่า ให้หม่อมฉันติดตามไปดูแลฝ่าบาทด้วยคนเถิดพะย่ะค่ะ เจ้าก็เห็นเป็นเรื่องสนุกไป พี่ไปร่วมขบวนสังคายนา มิใช่ไปล่าสัตว์หรือออกรบ ยกผู้คนออกไปมากมายจะกลายเป็นเรื่องเอิกเกริก แต่ฝ่าบาท
ขอบใจที่เป็นห่วง แต่ขอให้เจ้าอยู่ช่วยงานเสด็จพ่อที่นี่และรอพี่กลับ หากมีเหตุการณ์คับขันพี่จะให้ม้าเร็วมาส่งข่าวแล้วเจ้าค่อยตามไปช่วย อย่างนี้จะดีกว่า เทวินทร์วรมันต์รับสั่งตัดบท พระอนุชารับคำแล้วทูลลา พระโอรสจึงหันไปตรัสกับอำมาตย์ ท่านมองน้องเราผิดไปไกลโข แม้จะยังรู้สึกตะขิดตะขวงในใจแต่อำมาตย์ชราก็ยอมรับผิด พะย่ะค่ะ ข้าพระองค์ขอพระราชทานอภัย
อย่างมิได้ถือโทษแต่ประการใด ตรัสให้อภัยและอยู่ปรึกษาราชการกับอำมาตย์ภายในห้องอีกเนิ่นนาน เมื่อถึงวันออกเดินทาง เหล่าเสนาอำมาตย์และข้าราชบริพารตามออกมาส่งเสด็จ พระอนุชาถวายการรับใช้ใกล้ชิดกระทั่งขบวนเคลื่อนออกจากประตูเมือง อำมาตย์ชราเข้าร่วมขบวนส่งเสด็จ เงยหน้าถวายบังคมพระโอรสที่ประทับอยู่ห่างไกลนัก ถวายพระพรลาแล้วรำพึงกึ่งกระซิบ
รักษาพระองค์ด้วยพระเจ้าข้า
Create Date : 25 มีนาคม 2554 |
Last Update : 25 มีนาคม 2554 9:40:32 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1616 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|