BlogGang.com : : เวียงแว่นฟ้า : สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม - บทที่ 11

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม - บทที่ 11

พระบัวเฮียวมองตามหลังรถเก๋งคันงามที่กำลังเคลื่อนตัวช้าๆออกจากลานวัด มุ่งสู่ถนนสายเอเซีย โดยมีผ่องพรรณเป็นคนขับ

"จ้องตาไม่กระพริบเชียวนะ" พระอุปัชฌาย์ค่อนขอด
"โธ่ ก็ผมสงสารเขานี่ครับ" พระใหม่ว่า
"อ้อ..สงสารเลยมองตามตาละห้อยเลย"
"ไม่สงสารได้ไงล่ะครับหลวงพ่อ ผู้หญิงหน้าตาสวย รวยความรู้ แต่ต้องมามีเวรมีกรรม" พระลูกศิษย์พูดจากใจจริง
"เธอเลือกสงสารแต่คนสวยๆงั้นหรือ" ท่านพระครูไม่วายยั่ว
"ก็ไม่เชิงหรอกครับ หรือว่าหลวงพ่อไม่สงสารเขา"

"ทำไมจะไม่สงสาร ก็ที่ฉันยอมตรากตรำทำงานจนลืมกินลืมนอนอยู่ทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะความสงสารหรอกหรือ จำไว้นะบัวเฮียว ว่าทั้งคนทั้งสัตว์ที่เกิดมาในโลกนี้ ล้วนน่าสารด้วยกันทั้งนั้น เมื่อเขามีทุกข์และเราพอจะช่วยเขาได้ก็ต้องช่วย ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร มาจากไหน จะสวยหรือไม่สวยก็ตาม เข้าใจหรือยัง"

"หมายความว่าเราต้องเป็นกัลยาณมิตรสำหรับทุกคนใช่ไหมครับ"

"ถูกแล้ว ต้องอย่างนี้ถึงจะเป็นศากยบุตรขนานแท้ เธอรู้ไหม เสด็จพ่อของพวกเรา ทรงเรียกพระองค์เองว่าเป็นกัลยาณมิตรของสัตว์ทั้งหลาย เพราะทรงเมตตาต่อสรรพสัตว์อย่างเสมอหน้ากัน มิได้เลือกที่รักมักที่ชังแต่ประการใด"

"หลวงพ่อครับ ที่ผมสงสารสองพี่น้องนั่นไม่ได้แปลว่าผมเลือกที่รักมักที่ชังอะไร เพียงแต่ผมคิดว่าคนที่มึบุญแล้วไม่น่าจะต้องมีกรรม" พระบัวเฮียวชี้แจง

"นั่นเพราะเธอยังไม่เข้าใจความหมายของกรรมอย่างถ่องแท้ ฟังให้ดีนะฉันจะอธิบายให้ฟัง คำว่า 'กรรม' หมายถึงการกระทำที่มีเจตนาเป็นพื้นฐาน ถ้าเจตนาดีกรรมนั้นก็เป็นกรรมดี ถ้าเจตนาชั่วกรรมนั้นก็เป็นกรรมชั่ว ดังนั้นกรรมจึงมีทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว แต่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกรรมไปในทางลบ คือไปเข้าใจว่ากรรมคือบาปหรือความชั่ว และที่ว่า...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม...ก็หมายความว่าใครทำกรรมดีก็ย่อมได้รับผลดี ทำกรรมชั่วก็ได้รับผลชั่ว เพราะกรรมย่อมเกิดจากผู้กระทำ เหมือนสนิมเหล็กเกิดจากเหล็ก ฉะนั้น..ถ้าไม่มีผู้กระทำ กรรมก็ไม่มี อย่างแม่หนูสองคนนั่น ถ้าเขาไม่ทำกรรมเขาก็ไม่ต้องรับผลของมัน" ท่านพระครูอธิบายละเอียดชัดเจน

"หลวงพ่อพูดราวกับว่าคนเราเลือกที่จะทำกรรมได้อย่างนั้นแหละครับ"

"ก็ทำไมจะเลือกไม่ได้เล่า จริงอยู่...กรรมในอดีตเราเลือกไม่ได้เพราะมันผ่านพ้นไปแล้ว เราต้องชดใช้ไปตามหน้าที่ แต่กรรมในปัจจุบันเราเลือกได้ บางคนไม่เข้าใจเรื่องนี้จึงปล่อยชีวิตให้เป็นไปตามยถากรรม โดยไม่แก้ไขปรับปรุง อย่างเช่นคนขี้เหล้าเมายาก็ไปโทษว่าเป็นเพราะกรรมจึงเลิกไม่ได้ อันนี้เป็นข้อแก้ตัวมากกว่า เพราะถ้าตั้งใจจะเลิกจริงๆเขาก็เลิกได้ หรืออย่างคนที่เกิดมายากจนเพราะกรรมเก่าส่งผล เนื่องจากชาติก่อนๆเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว ไม่ทำบุญบริจาคทาน เมื่อทำเหตุไว้ไม่ดีก็ต้องรับผลไม่ดี ถ้าเขาคิดว่าเพราะกรรมจึงทำให้เกิดมายากจน แล้วเลยงอมืองอเท้าเกียจคร้าน ไม่ชวนขวายทำมาหากิน เขาก็ต้องจนอยู่อย่างนั้น"

"แปลว่าเขาต้องฝืนดวงใช่ไหมครับ คือต้องขยันหมั่นเพียรในการประกอบอาชีพ เป็นการสร้างกรรมใหม่ในทางที่ดี ที่เป็นกรรมเก่าก็ชดใช้ไปแล้ว คือการเกิดมายากจนขัดสน อย่างนั้นใช่ไหมครับ"

"ถูกแล้ว แต่ถ้าเขาขยันหมั่นเพียรจนร่ำรวยขึ้นมา ก็ยังตระหนี่ถี่เหนียว ไม่ทำบุญบริจาคทาน ชาติต่อไปเขาก็ต้องยากจนขัดสนอีก"

"หลวงพ่อครับ แล้วเรื่องของคุณโยมสองคนนั่นมีทางแก้กรรมไหมครับ"

"มี แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าเขามีความอดทนพอไหม มีความเพียรถึงขั้นหรือเปล่า วิธีแก้กรรมที่ดีที่สุดคือการเจริญสติปัฎฐาน 4 เช่นที่เธอปฏิบัติอยู่นั่นแหละ แต่ตอนนี้เขายังไม่สนใจเพราะยังไม่เห็นทุกข์ อีกแปดปีคนน้องจะแต่งงานแล้วก็จะเห็นทุกข์ ถึงตอนนั้นเขาจะนึกถึงฉันและมาให้ฉันช่วย คนพี่ก็เหมือนกัน"

"แต่คนน้องเขาบอกว่าจะมาตอนปิดเทอมหน้าไม่ใช่หรือครับ" พระบัวเฮียวท้วง

"เขาตั้งใจอย่างนั้นจริง แต่เชื่อสิว่าเขามาไม่ได้หรอก เพราะยังไม่ถึงเวลาของเขา ต้องรออีกแปดปีถึงมาได้"

"หลวงพ่อครับ คุณโยมคนน้องเขาทำกรรมอะไรไว้ครับ ถึงต้องมาเป็นอย่างนี้"

ถึงอย่างไรพระใหม่ก็ยังไม่วายสงสัย ตอนนี้ท่านบอกตัวเองได้แล้วว่าคนน้องน่าสนใจกว่าคนพี่ เพราะยังโสดอยู่ หน้าตนของเธอสะสวย สดใส ไม่ช้าไม่นานจะต้องเปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อยเพราะโศกศัลย์ น่าสงสารแท้

"มันพูดยาก ถ้าจะว่าไปแล้วมันมาจากทั้งกรรมเก่าและกรรมใหม่ กรรมเก่านั้นแก้ไขไม่ได้ คือแม่หนูวรรณวิไลกับผู้ชายคนนั้นเคยทำกรรมร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อน ยังไงเสียชาตินี้ก็จะต้องมาอยู่ร่วมกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนกรรมใหม่คือโรคขี้หึงกับเรื่องลูกเลี้ยง แม่หนูคนนี้เขาแปลกตรงที่อยากแต่งงานแต่ไม่อยากมีลูก เลยคิดจะเลี้ยงลูกเขาให้เหมือนลูกตัว แต่ทีนี้มันไม่เป็นยังงั้น เพราะเด็กคนนี้แกก็มีกรรมของแก คืออยากดีแต่ไม่อยากฝืนใจตัวเอง อย่าลืมนะบัวเฮียว ว่าการทำดีต้องฝืนใจตัวเอง ถ้าฝืนใจไม่ได้ก็ทำความดีไม่ได้ เพราะธรรมชาติของคนเรานั้นมักจะตามใจตัวเอง ซึ่งก็คือตามใจกิเลสตัณหา แล้วเธอคิดว่ากิเลสตัณหามันพาเราไปทางดีหรือทางชั่วล่ะ"

"ทางชั่วครับ"
"นั่นแหละถ้ใครฝืนใจตัวเองไม่ได้ก็เป็นคนดีไม่ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆเอาเรื่องใกล้ตัวเรานี่แหละ ไหนลองบอกมาซิว่าตอนตีสี่เธออยากนอนต่อหรืออยากลุกมาปฏิบัติกรรมฐาณ"
"อยากนอนต่อครับ"
"แล้วนอนหรือเปล่า"

"ไม่นอนครับ ผมฝืนใจลุกขึ้นมาปฏิบัติกรรมฐาน เพราะผมอยากเป็นคนดีครับ การเป็นคนดีต้องฝืนใจ" พระใหม่ตอบอย่างฉาดฉานก่อนจะถามต่อว่า "หลวงพ่อครับ แล้วคุณโยมคนน้องทำกรรมอะไรไว้อีกครับ"

"ปกติคนเราก็ทำกรรมอยู่ตลอดเวลานั่นแหละ สุดแต่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว นี่เรายังไม่พูดลึกลงไปถึงกรรมอีกประเภทหนึ่ง ที่เราเรียกว่ากรรมกลางๆ คือกรรมไม่ดีไม่ชั่วหรอกนะ เรื่องนั้นมันลึกซึ้ง เอาเป็นว่าขณะนี้เรารู้จักแต่กรรมดีกับกรรมชั่วก็พอ การทำกรรมนั้นไม่ว่าจะเป็นกรรมชั่วหรือกรรมดี ถ้ามันแรงมันก็จะให้ผลทันตาเห็นในชาตินี้ อย่างหนูวรรณวิไลเขาเป็นโรคหึงรุนแรงมาก ก็เลยทุกข์มาก ซึ่งข้อนี้เขาแก้ไขได้แต่ไม่ยอมแก้ไข แต่จะโทษฝ่ายหญิงข้างเดียวก็ไม่ถูกนัก เพราะผู้ชายที่จะมาแต่งงานกับเขา ก็เป็นคนที่ชอบทำให้เมียหึง เห็นเมียหึงแล้วเขามีความสุข คือเป็นความสุขของผัว แต่เป็นความทุกข์ของเมีย"

"แปลว่าถ้าคุณโยมเขาไม่หึง เขาก็ไม่มีความทุกข์ใช่ไหมครับ"
"แน่นอน"
"ถ้าผมเป็นเขา จ้างผมก็ไม่หึง เรื่องอะไรจะทำให้ตัวเองทุกข์"
"เธอไม่ได้เป็นตัวเขา เธอก็พูดได้สิ ลองไปเป็นเขาดูบ้างก็ต้องทำอย่างที่เขาทำ เชื่อไหมล่ะ"
"เชื่อก็ได้ครับ"
"ไม่เชื่อก็ไม่เป็นไรนะ"
"เชื่อดีกว่าครับ เป็นลูกศิษย์ไม่เชื่ออาจารย์แล้วจะไปเชื่อใครที่ไหน ผมไม่อยากเป็นคนอกตัญญูหรอกครับหลวงพ่อ"
"ดี คิดได้ยังงั้นก็ดี"
"ขอบคุณครับ"
"ขอบคุณเรื่องอะไร" ท่านพระครูไม่เข้าใจ
"ก็ขอบคุณที่หลวงพ่อชมว่าผมดีน่ะสิครับ"
"ฉันไปชมเธอตั้งแต่เมื่อไหร่" ท่านนึกไม่ออกจริงๆ

"เมื่อกี้นี้เอง แหม..หลวงพ่อไม่น่าลืมง่ายอย่างนี้เลย ก็ที่..ที่หลวงพ่อพูดว่า..ดี..คิดยังงั้นได้ก็ดี ที่หลวงพ่อว่าดีน่ะ ไม่ใช่ชมผมหรอกหรือครับ"

คราวนี้ท่านพระครูถึงรู้ว่าตกหลุมพรางของพระบัวเฮียวเข้าแล้ว ครั้นจะพูดโต้ตอบกลับไปก็เกรงจะเสียหน้า เพราะเดี๋ยวนี้พระลูกศิษย์ของท่านชักมีเล่ห์เหลี่ยมมากขึ้นทุกวัน จนท่านตามไม่ทัน ทางที่ดีก็คือนิ่งเสีย

"แต่..เอ หลวงพ่อครับ" พระใหม่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเรื่องที่ตนกำลังพูดถึงอยู่นั้น ไม่เกี่ยวกับกาย เวทนา จิตธรรม ดังที่พระอุปัชฌาย์เคยสอน "นี่เรากำลังเผลอสติอยู่หรือเปล่าครับ ที่พูดเรื่องของคนอื่น เพราะมันไม่เกี่ยวกับสติปัฏฐานข้อใดเลย"

"ทำไมจะไม่เกี่ยว นี่ละจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานเลยละ เพราะถ้าเรามีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาว่ากำลังพูดเรื่องอะไร ก็เท่ากับเรารู้ตัวในขณะนั้น ว่าจิตของเราปราศจากโมหะ เธอรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาในขณะที่คุยหรือเปล่าเล่า"

"บางครั้งก็รู้ แต่บางครั้งก็เผลอไปบ้างครับ" พระใหม่ตอบตามตรง

"แสดงว่าเธอยังฝึกสติไม่ถึงขั้น จะต้องใช้ความเพียรอีกมาก เรื่องที่เรากำลังคุยอยู่นี้ ไม่ใช่เรื่องเหลวไหลไร้สาระ เพราะฉันกำลังจะบอกเธอว่าหนูวรรณวิไลคนนี้จะมาเป็นกำลังสำคัญ ช่วยฉันเผยแผ่คำสอนของพระพุทธองค์ ฉันกับเขาเคยเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันมาแต่ชาติปางก่อน ชาตินี้ก็ต้องมาช่วยเหลือกันอีก"

พระใหม่ทำตาลุก พูดตะกุกตะกักว่า "หมาย...หมายความว่า...หลวงพ่อกับ..เอ้อ..กับโยมวรรณวิไลเคย...เคยเป็น.."

"ไม่ใช่..ไม่ใช่ยังงั้น อย่าเข้าใจผิด" ทานพระครูรีบปฏิเสธ ด้วยรู้ว่าพระบัวเฮียวเข้าใจไปอีกทางหนึ่ง "เอาละ...อยากรู้ก็จะบอก แต่เธอต้องไม่เอาไปพูดต่อนะ ใครเขาไม่เชื่อจะเป็นบาปเป็นกรรมกับเขาเปล่าๆ เรื่องนี้ฉันยังไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อน เธอรับปากได้ไหมล่ะ ว่าจะไม่เอาไปเล่าต่อ"

"ได้สิครับ" คนอยากรู้รีบรับคำหนักแน่น

ท่านพระครูหลับตาเพื่อลำดับเรื่องราวก่อนจะเริ่มเล่า "ชาติที่แล้วฉันเป็นแม่ทัพสมัยกรุงศรีอยุยาตอนปลาย หนูวรรณวิไลเป็นทหารคนสนิทของฉัน ในชาตินั้นเขาชื่อนายจันสม"

"แล้วหลวงพ่อเล่าครับ ชื่ออะไร"

"อ้าว..ก็ชื่อเจริญน่ะสิ นี่เธอยังไม่รู้จักชื่อฉันอีกหรือ" ถึงคราวต้องแก้เผ็ด ท่านพระครูก็ต้องทำไปตามหน้าที่

"ผมหมายถึงชื่อหลวงพ่อเมื่อชาติที่แล้วน่ะครับ"

พระใหม่อดคิดไม่ได้ว่า 'กรรมช่างส่งผลเร็วเหลือเกิน หลวงพ่อท่านฉลาดหลักแหลมไปเสียทุกด้าน เราอยู่ใกล้ท่านยังรู้ว่าตัวเองฉลาดขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้เศษธุลีของท่าน ดูซิ..เมื่อกี้เราหลงลำพองว่าเถึยงชนะท่าน ยังไม่ทันถึงห้านาทีกลับแพ้อย่างไม่เป็นท่า'

"อันนี้บอกเธอไม่ได้จริงๆ ที่บอกไม่ได้เพราะมันถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ ฉันไปพิสูจน์มาแล้วที่หอสมุดแห่งชาติ มีชื่อฉันอยู่ด้วยในฐานะแม่ทัพก่อนกรุงแตก"

"ถ้างั้นก็เชิญนิมนต์เล่าต่อเถิดครับ"

"ฉันกับนายจันสมเคยออกรบด้วยกันหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2310 ก่อนหน้ากรุงแตกเล็กน้อย กองทัพของฉันพ่ายแพ้แก่พม่าเพราะขาดขวัญและกำลังใจ ฉันบอกนายจันสมให้หนีเอาตัวรอด ครั้งแรกเขาจะไม่หนี ฉันจึงให้เหตุผลว่าถ้าไม่หนีก็คงต้องตาย แต่ถ้าหนีก็อาจจะไปรวบรวมผู้คนมากู้ชาติบ้านเมืองได้ในภายหลัง เขาก็เลยหนึขึ้นไปทางนครสวรรค์ ต้องตกระกำลำบากมาก จึงรำพึงกับตัวเองว่าเกิดเป็นชายชาติทหารต้องทุกข์ยากลำบากแสนสาหัส ชาติหน้าขอให้เกิดเป็นผู้หญิง เขาก็เลยไปตายที่นครสวรรค์แล้วได้เกิดเป็นผู้หญิงสมใจ เนื่องจากฉันกับเขายังมีจิตผูกพันห่วงหากัน ก็ต้องมาพบกันอีก มาช่วยเหลือเกื้อกูลกันอีก"

"แล้วหลวงพ่อหนีมาที่นี่หรือครับ"

"ฉันเป็นถึงแม่ทัพ ถ้าหนีก็เสียชื่อหมดสิ ฉันรบกับพม่าจนขาดใจตาย แต่ฉันก็ตายอย่างมีสติ ขออโหสิกรรมกับคนที่ฉันฆ่า และอโหสิกรรมให้คนที่ฆ่าฉัน เพราะถือว่าเราต่างทำหน้าที่ ไม่ได้มีความอาฆาตมาดร้ายกันส่วนตัว ก็เลยไม่ค่อยบาปมาก ฉันไปใช้กรรมอยู่ 161 ปี จึงได้มาเกิดเป็นมนุษย์อีก เธออย่าถามนะว่าไปใช้กรรมอยู่ที่ไหน อย่างไร มันเป็นเรื่องละเอียดลึกซึ้ง รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์ ฉันจึงไม่บอกเธอ"

"แล้วคุณโยมเขาทราบไหมครับ ว่าเคยเกิดมาร่วมชาติกับหลวงพ่อ"
"ไม่ทราบหรอก แล้วเธอก็ไม่ต้องไปบอกเขาล่ะ"
"ครับ ผมรับรองว่าไม่บอก แล้วเนื้อคู่คุณโยมเมื่อชาติที่แล้วเป็นอะไรครับ"
"ก็เป็นเมียนายจันสม ถูกผัวซ้อมประจำ แกก็อาฆาต บอกชาติหน้าขอให้เกิดเป็นผู้ชาย จะได้แก้แค้น ก็มาตามล้างตามแค้นกันไม่จบไม่สิ้น ยังกะนิยายเลยนะ"

"ครับ ผมว่านิยายก็คงมาจากเรื่องจริงแหละครับ"

"คงงั้นมั้ง เธอเห็นหรือยังล่ะ ว่าชีวิตคนเราต้องเวียนว่ายตายเกิดไม่รู้กี่ภพกี่ชาติ ฉันถึงเบื่อหน่ายการเกิด ไม่อยากเกิดอีกเลยแม้แต่ชาติเดียว"

"การที่พระพุทธเจ้ามาบวชก็เพราะเบื่อหน่ายการเกิดใช่ไหมครับ"

"ถูกแล้ว เมื่อพระองค์ตรัสรู้และได้ญาณ 3 ไหนเธอตอบมาก่อนซิว่าญาณ 3 มีอะไรบ้าง"
"ญาณ 3 หรือ วิชชา 3 หรือ เตวิชชา ใช่ไหมครับ"
"นั่นแหละ จำได้หรือเปล่าว่ามีอะไรบ้าง ฉันเพิ่งสอนเธอไปเมื่อวานนี้เอง"

"จำได้ครับ ญาณ 3 ได้แก่ ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ จุตูปปาตญาณ และ อาสวักขยญาณ ครับ"

"ดีมาก ลองแปลให้ฟังซิว่าแต่ละญาณมีความหมายอย่างไร"
"แปลไม่ได้ครับ"
"ทำไมถึงไม่ได้ล่ะ"
"ก็หลวงพ่อยังไม่ได้สอนแปลนี่ครับ"
"อ้าว ก็เห็เธอไม่ถาม ฉันเลยนึกว่าเธอรู้แล้ว"
"บางทีก็ไม่รู้ แต่ผมไม่ถามครับ"
"ก็ดี งั้นฉันก็จะไม่บอก เอาไว้เธอไปศึกษาเอาเอง"
"โธ่ บอกเถอะครับหลวงพ่อ ผมไหว้ละ" พระบัวเฮียวยกมือขึ้นไหว้ปะหลกๆ

"ไม่บอกแน่นอน ฉันบอกว่าไม่บอกก็ไม่บอก ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าพอบอกเธอแล้วเธอก็จะย้อนว่า..ไหนหลวงพ่อบอกว่าจะไม่บอกไงครับ แล้วบอกทำไม...จริงไหม"

คนเป็นศิษย์เลยได้แต่ยิ้มแหยๆ เพราะตั้งใจอย่างนั้นจริงๆ

"เอาละ ทีนี้ก็มาต่อเรื่องที่พูดค้างเอาไว้ คือเมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้และได้ญาณ 3 ทรงเห็นทุกข์ของการเวียนว่ายตายเกิดอย่างแจ่มแจ้ง ของทั้งพระองค์เองและสรรพสัตว์ เวลาสอนพระองค์ก็จะย้ำเสมอ โดยทรงอุปมาอุปไมยไว้ว่า...ในพื้นปฐพีนี้ ไม่ว่าจะเอาเข็มแทงลงไป ณ ที่ใด ก็ไม่พ้นหลุมศพของตถาคต หากเอากระดูกแต่ละชาติมารวมกัน ก็จะสูงเท่าเขาพระสุเมร และน้ำตาที่ร้องไห้คร่ำครวญเพราะความทุกข์ ความพลัดพรากก็ยังมากกว่าเอาน้ำในมหาสมุทรทั้งหมดมารวมกัน ตถาคตเบื่อหน่ายการเกิดเสียนัก ตถาคตจะไม่เกิดอีก...พระองค์ตรัสเช่นนี้บ่อยครั้ง เพื่อให้สรรพสัตว์ได้เห็นโทษเห็นภัยของการเวียนว่ายตายเกิด แต่กระนั้นก็ยังมีคนอีกมากที่ไม่เชื่อฟัง จึงต้องเวียนเกิดเวียนตายกันอยู่อย่างนี้มิรู้จบรู้สิ้น"

"แล้วหลวงพ่อจะเกิดอีกไหมครับ"
"ก็ต้องแล้วแต่เหตุปัจจัย" ท่านพระครูตอบ
"เหตุปัจจัยที่ทำให้เกิดมีอะไรบ้างครับ"

"มีสามอย่างคือ กมุม์ เขตุต์ - มีกรรมเป็นนา วิญญาณ์ พีช์ - มีวิญญาณเป็นพืช และ..ตณุหา สิเนห์ - มีตัณหาเป็นยางเหนียวที่สามารถจะนำพืชไปเพาะให้งอกงาม ถ้าเหตุปัจจัยสามอย่างนี้มาประจวบกันเข้า การเกิดก็จะต้องมีขึ้น"

"แล้วหลวงพ่อดับเหตุปัจจัยเหล่านี้หมดหรือยังครับ" คนเป็นศิษย์พยายามจะหยั่งรู้ภูมิธรรมของอาจารย์

"เรื่องอย่างนี้จะพูดสุ่มสี่สุมห้าไมได้ ฉันจึงจะไม่ตอบเธอ ถ้าอยากรู้ต้องปฏิบัติให้ได้มากๆ ของอย่างนี้จะต้องรู้ด้วยตัวเอง บอกกันไม่ได้ อย่าลืมว่าคติกรรมฐานคือ กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทำความเพียรมาก จำเอาไว้แล้วปฏิบัติให้ได้ตามนี้"

"ถ้าอย่างนั้นผมขออนุญาตถามอีกเรื่องเดียว เรื่องเดียวจริงๆ และผมเชื่อว่าหลวงพ่อต้องตอบได้"

"ไม่ต้องถาม เอาละ..เมื่ออยากรู้ก็จะบอกให้" ท่านรู้สึกขัดเขินเพราะรู้ว่าพระบัวเฮียวจะถามเรื่องอะไร เป็นเรื่องที่ท่านรู้แต่ผู้เดียวและยังไม่เคยบอกใครเลย พระบัวเฮียวจะเป็นคนแรกและคนสุดท้ายที่รู้เรื่องนี้ "ภรรยาเมื่อชาติที่แล้วของฉันจะมาช่วยสร้างกุศลที่วัดนี้ เขาจะมาสร้างหอระฆังให้ ตอนนี้เขาแต่งงานกับหมอ เขาสวยยังกับนางฟ้าแน่ะเธอ สวยกว่าเมื่อชาติที่แล้วเสียอีก"

"สวยเท่าอาภัสราไหมครับ" พระบัวเฮียวหมายถึงนางสาวไทยที่ชนะการประกวดนางงามจักรวาลเมื่อห้าหกปีที่แล้ว
"สวยกว่า สวยกว่าหลายเท่า แล้วยังใจบุญใจกุศลอีกด้วย"
"แล้วหลวงพ่อไม่เสียดายหรือครับ ที่คุณหมอเขามาแย่งเอาไปเสียแล้ว" คนเป็นศิษย์ยั่ว

""เสียดงเสียดายอะไรกัน ก็มันคนละภพละชาติ ถ้าเสียดายฉันคงไม่มาบวชอย่างนี้ เอาละ ไม่ต้องถามอะไรอีก เราคุยกันนานพอสมควรแล้ว เธอกลับไปปฏิบัติที่กุฏิของเธอได้แล้ว มีอะไรสงสัยก็มาถาม อย่าลืมล่ะ กินน้อย นอนน้อย พูดน้อย ทำความเพียรมาก จะได้ไม่ต้องเกิดอีก"

พระบัวเฮียงกราบสามครั้งแล้วจึงลุกออกมา ความรู้สึกของพระใหม่ขณะเดินกลับกุฏินั้น เป็นสิ่งที่บรรยายไม่ถูก มันหดหู่ ขัดข้องและหวิวโหวงในอารมณ์ อย่างที่ไม่เคยเป้นมาก่อน แม้จะพยายามใช้สติกำหนดอิริยาบทอยู่ตลอดเวลา หากก็ไม่อาจสลัดความรูสึกเช่นนั้นออกไปได้ จะว่าสงสารสองพี่น้องก็คงไม่ใช่ เพราะรู้แล้วว่ามันเป็นไปตามกฏแห่งกรรม ท่านจะต้องค้นให้พบว่าความรู้สึกที่เป็นอย่างนี้ มันมีสาเหตุมาจากอะไร

ถึงกุฏิท่านก็จัดการสรงน้ำชำระร่างกายจนสะอาด รู้สึกสดชื่นขึ้น หากความหวิวโหวงในอารมณ์ยังไม่เหือดหาย ท่านเริ่มต้นเดินจงกรมจากระยะที่หนึ่งไปจนถึงระยะที่หก ซึ่งกินเวลาประมาณสองชั่วโมง จากนั้นจึงกำหนดนั่ง เมื่อจิตสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิดีแล้ว จึงใช้ปัญญาพิจารณาหาสาเหตุของความอึดอัดขัดข้องในหัวใจ ก็ได้ความว่าคำพูดของท่านพระครูที่บอกว่าท่านไม่มีเนื้อคู่ ทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ นี้ขึ้น สัญชาติญาณของมนุษย์ปุถุขนย่อมต้องการมีความรัก มีคู่ครองและชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น มีทายาทไว้สืบสกุล เมื่อรู้ว่าดวงชะตาของท่านไม่อาจมีสิ่งนี้ได้ จึงเกิดความรู้สึกเก็บกดอยู่ภายใต้จิตสำนึก จนกลายเป็นความหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ในจิตใจ เออหนอ..ขนาดท่านเป็นชายอกสามศอก ทั้งยังดำรงเพศบรรพชิต เจ้าความรู้สึกนี้ยังทำร้ายท่านได้ถึงเพียงนี้ แล้วพวกผู้หญิงซึ่งเป็นเพศอ่อนแอนั้นเล่า หากหล่อนรู้ว่าตัวเองไร้เนื้อคู่ จะต้องอยู่เดียวเปลี่ยวดายไปตลอดชีวิต หล่อนจะทุกข์ทรมานสักปานใดเล่าหนอ

ผู้แต่ง : ดร. สุทัสสาอ่อนค้อม
หมวด Book Blog

Create Date : 03 มิถุนายน 2557

Last Update : 3 มิถุนายน 2557 7:29:20 น.

33 comments

Counter : 2010 Pageviews.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
เตยจ๋า Dharma Blog ดู Blog
ปีศาจความฝัน Movie Blog ดู Blog
lovereason Literature Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
อรุณสวัสดิ์ขอรับ

โดย: ขุนเพชรขุนราม

วันที่: 3 มิถุนายน 2557 เวลา:5:18:40 น.

ตามอ่านต่อ
กรรมอดีต ตามมาสู่กรรมปัจจุบันเลยครับ
เวียงแว่นฟ้า Book Blog

รูปในบล๊อกเอามาจากกูเกิลตรับผม

โดย: moresaw

วันที่: 3 มิถุนายน 2557 เวลา:6:14:00 น.

สวัสดีค่ะคุณแว่นฟ้า
ชอบภาพประกอบจังเลยค่ะ

ขอบคุณที่แวะไปชมบานชื่นนะคะ
ไว้มาใหม่อีกทีค่ะ

โดย: mambymam

วันที่: 3 มิถุนายน 2557 เวลา:15:02:22 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Dharma Blog ดู Blog

อ่านแล้วได้ข้อคิดดี ๆ ค่ะ

โดย: AppleWi

วันที่: 3 มิถุนายน 2557 เวลา:15:22:30 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เตยจ๋า Dharma Blog ดู Blog
ALDI Klaibann Blog ดู Blog
Sweet_pills Travel Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
ส่งกำลังใจจ้ะ

โดย: Opey

วันที่: 3 มิถุนายน 2557 เวลา:17:55:44 น.

ขอบคุณนะคะ

กรรมกลางๆ นิคก็ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ
มีแต่ดี หรือชั่วไปเลย
อันนี้เห็นชัดกว่านะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
anigia Parenting Blog ดู Blog
Sweet_pills Travel Blog ดู Blog
ALDI Klaibann Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: ที่เห็นและเป็นมา

วันที่: 3 มิถุนายน 2557 เวลา:22:37:48 น.

นทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ได้เลยคุณเอามาทำกล่องคอมเม้นได้เลยค่ะ

โดย: ยายเก๋า (ชมพร

) วันที่: 3 มิถุนายน 2557 เวลา:23:30:57 น.

สวัสดีค่ะคุณแว่นฟ้า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปีศาจความฝัน Movie Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: mambymam

วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:8:15:43 น.

ขออภัยค่ะกดผิดหมวด อิอิ
เอาใหม่นะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปีศาจความฝัน Movie Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: mambymam

วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:8:16:28 น.

มาอ่านต่อ แต่ยากจนบุ๊คซะแล้ว
พรุ่งนี้มาใหม่เด้อครับ

โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า

) วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:12:58:29 น.

แวะมาเยี่ยมเยียนทักทายค่ะ
วันนี้ยังไม่มีโควต้า หมดตัวเช่นเดียวกับพี่หนูหล่อเลยค่ะ ^__^
ไว้มาใหม่อีกทีค่ะ

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:13:38:11 น.

การทำดีต้องฝืนใจตัวเอง...

ไม่ปล่อยชีวิตไปตามยถากรรมด้วยนะคะ

...ขอบคุณค่ะ

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 4 มิถุนายน 2557 เวลา:19:00:08 น.

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

สมาชิกหมายเลข 750163 Travel Blog ดู Blog
เศษเสี้ยว Photo Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
..................

ส่งกำลังใจและส่งเข้านอนด้วยค่ะ

โดย: Sweet_pills

วันที่: 5 มิถุนายน 2557 เวลา:0:36:15 น.

มาส่งกำลังใจครับ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า

) วันที่: 5 มิถุนายน 2557 เวลา:10:30:24 น.

หวัดดีค่ะ ไม่ได้มาอ่านนานเลย
สบายดีนะคะ

โดย: คนสวยที่ไม่เคยสวย

วันที่: 6 มิถุนายน 2557 เวลา:9:20:37 น.

มาทักทายและส่งกำลังใจค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

โดย: เนินน้ำ

วันที่: 6 มิถุนายน 2557 เวลา:10:05:03 น.

มาอ่านต่อค่ะ.....ภาพสวยมากกกกกกกก

โหวตเลยค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: ร่มไม้เย็น

วันที่: 6 มิถุนายน 2557 เวลา:15:59:58 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

แวะมาปิดโหวตให้ค่า

โดย: ฟ้าใสวันใหม่

วันที่: 6 มิถุนายน 2557 เวลา:20:17:23 น.

ตาม มา อ่าน ช้า .. ช้า .. ค่ะ ..

ชาติที่่แล้ว .. ชาติ นี้ ...

พัวพัน กันไปนะคะ ...

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: foreverlovemom

วันที่: 6 มิถุนายน 2557 เวลา:20:37:33 น.

มาอ่านซ้ำอีกครั้งครับ ธรรมนิยายชุดนี้ชอบมาก ๆ
น่าจะอ่าน ที่เป็นเล่ม 7 ครั้งแล้วครับ

โดย: ไวน์กับสายน้ำ

วันที่: 6 มิถุนายน 2557 เวลา:20:57:49 น.

สวัสดียามค่ำคืนครับ

โหวต ส่งกำลังใจไปให้คุณเวียงแว่นฟ้าด้วยครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

โดย: **mp5**

วันที่: 6 มิถุนายน 2557 เวลา:22:55:20 น.

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะคุณเวียงแว่นฟ้า
นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ

โดย: Sweet_pills

วันที่: 7 มิถุนายน 2557 เวลา:0:36:01 น.

หะ .. หะ ..

ไม่เกิน มะรืน ..

มีเสียงฝน ครืน ครืน ด้วยล่ะ ..

รอ .. นะคะ ..

จุ๊บ .. จุ๊บ .. ค่ะ ..

โดย: foreverlovemom

วันที่: 7 มิถุนายน 2557 เวลา:21:04:21 น.

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

เวียงแว่นฟ้าBook Blogดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: pantawan

วันที่: 7 มิถุนายน 2557 เวลา:21:22:40 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
หอมกร Movie Blog ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
กะว่าก๋า Parenting Blog ดู Blog
อุ้มสี Hobby Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
----------------
แวะมาส่งกำลังใจค่อนข้างดึกราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณเวียงแว่นฟ้า

โดย: เกศสุริยง

วันที่: 8 มิถุนายน 2557 เวลา:0:27:31 น.

สวัสดีค่าคุณเวียง

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
anigia Parenting Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
multiple Funniest Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: schnuggy

วันที่: 8 มิถุนายน 2557 เวลา:2:46:28 น.

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

โดย: หอมกร

วันที่: 8 มิถุนายน 2557 เวลา:12:20:32 น.

สวัสดีวันหยุดค่ะ คุณเวียงแว่นฟ้า

นทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
sirivinit Hobby Blog ดู Blog
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
ปีศาจความฝัน Movie Blog ดู Blog
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ

วันที่: 8 มิถุนายน 2557 เวลา:13:27:24 น.

สวัสดีตอนบ่ายค่ะคุณแว่นเวียงฟ้า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

โดย: เฉลิมลาภ ทราบแล้วเปลี่ยน

วันที่: 8 มิถุนายน 2557 เวลา:15:19:51 น.

ขอบคุณค่ะ ป้าก็ชอบหมดคนที่ผลิตศิลปกระดาษ เขาเก่งจริงๆ

โดย: ป้าเก๋า (ชมพร

) วันที่: 8 มิถุนายน 2557 เวลา:20:32:32 น.

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
ดรสา Blog about TV ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
Opey Art Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
-------------------
แวะมาส่งกำลังใจค่ะคุณเวียงฟ้า

โดย: จารุพิชญ์

วันที่: 8 มิถุนายน 2557 เวลา:21:53:58 น.

แวะมาอ่านต่อค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

newyorknurse

โดย: newyorknurse

วันที่: 9 มิถุนายน 2557 เวลา:4:00:40 น.

อยากรู้จังว่าสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย หลวงพ่อคือใครที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่คู่กับนายจันสม

โดย: ดอกพุดตาน IP: 101.109.246.113 วันที่: 24 มิถุนายน 2559 เวลา:9:32:10 น.