Bloggang.com : whiteuniform :

เ พิ่ ง จ ะ เ ข้ า ใ จ กั บ คำ พู ด ที่ ว่ า ' ใ ห้ มี ค ว า ม สุ ข กั บ ก า ร ใ ช้ ชี วิ ต ทุ ก วั น ที่ มี '

In the past, my life seemed to be busy loafing on the job as I thrived on working hard for more earnings.

I was juggling between two jobs - a regular one within a NHS hospital and another extra one with a private employer.

I felt very exhausted and had no pleasure in life. I then questioned myself why I was greedy and became a slave to a mighty pound.

It cannot deny the fact that we live in a world that thrives on money as it is a necessity to make our lives easier in many ways.

However, after my relationship went through patches and recently came to an end as to partly not having enough time for it, this was like an alarm to make me get wise to no longer hastening my work life.

Life does not stand like stone so as long as I still have a life, I should get more out of my life and learn to appreciate the little things.

When I have walked into the wrong path and I am no longer happy, my life has an impact so I need to fix it.

Also, as life is not paved with roses, failure is a part of life and it happens naturally, I will not keep moaning about it.

What I am about to do is to ensure that I have enough money to live off whereas having more time to enjoy life as it is my life and it is my wish.

ในอดีต ชีวิตของฉันดูเหมือนจะยุ่งวุ่นวายเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ไปกับงาน เพราะว่าฉันดิ้นรนพยายามทำงานหนักเพื่อรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น

ฉันวิ่งรอกระหว่างงานสองงาน - งานประจำหนึ่งงานของโรงพยาบาลรัฐบาล และอีกงานพิเศษหนึ่งกับนายจ้างเอกชน

ฉันรู้สึกเหนื่อยล้ามากๆและก็ไม่มีความเพลิดเพลินในชีวิต ฉันครั้นแล้วก็ถามตัวเองว่า ทำไมฉันจึงละโมบโลภมากและกลายเป็นทาสของเงินปอนด์ที่มีอำนาจอย่างนั้น

มันไม่สามารถปฎิเสธความจริงได้ว่า พวกเราอยู่ในโลกที่ดิ้นรนขวนขวายเพื่อเงิน เนื่องจากเงินคือสิ่งจำเป็นที่ทำให้ชีวิตของพวกเราง่ายขึ้นในหลายๆรูปแบบ

อย่างไรก็ดี ภายหลังจากที่สัมพันธภาพของฉันได้เข้าไปสู่ช่วงเวลาที่ยากลำบากและไม่นานมานี้ก็ได้มาถึงจุดจบ เนื่องด้วยส่วนหนึ่งมาจากการที่ไม่มีเวลาเพียงพอสำหรับมัน สิ่งนี้เหมือนกับสัญญานเตือนที่ทำให้ฉันตระหนักถึงการไม่รีบร้อนเร่งรีบไปกับชีวิตการงานของฉันอีกต่อไป

ชีวิตไม่ได้จะยั่งยืนเหมือนกับหินผา ดังนั้นตราบนานเท่าที่ฉันยังคงมีชีวิตอยู่ ฉันควรที่จะได้มีความสุขเพลิดเพลินมากขึ้นในชีวิตของฉัน และก็เรียนรู้ที่จะให้คุณค่ากับสิ่งเล็กๆน้อยๆ

เมื่อฉันได้เดินเข้าไปในทางเดินที่ผิด ฉันก็จะไม่มีความสุขอีกต่อไปและชีวิตของฉันก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย ดังนั้นฉันจึงต้องแก้ไขมัน

เช่นกัน เนื่องด้วยชีวิตไม่ได้ปูไปด้วยดอกกุหลาบ ความล้มเหลวคือส่วนหนึ่งของชีวิตและมันก็เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ดังนั้นแล้วฉันก็จะไม่คร่ำครวญเกี่ยวกับมันอีกต่อไป

อะไรที่ฉันกำลังจะทำก็คือ แน่ใจว่าฉันมีเงินเพียงพอที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้ ในขณะที่ก็มีเวลามากขึ้นเพื่อที่จะได้มีความสุขไปกับชีวิต เนื่องจากมันคือชีวิตของฉันและมันคือความปรารถนาของฉันนั่นเอง

Create Date : 07 ตุลาคม 2554

6 comments

Last Update : 12 ธันวาคม 2554 4:56:29 น.

Counter : 1233 Pageviews.

แต่งบล็อกสวยจังค่ะ

สู้ๆนะคะ

โดย: นาฬิกาสีชมพู 7 ตุลาคม 2554 5:27:29 น.

กาลเวลาเปลี่ยนความคิด อิสระภาพของชีวิตก็เปลี่ยนตาม

โดย: idea4thai 7 ตุลาคม 2554 5:28:23 น.

Finding work and life balance is a challenge and a continuous process as your priorities change. I've found that building downtime into your schedule as well as devoting more time /attention to people and things that matter most to you are the keys to prevent burnout in your life. Good luck kha

โดย: AnnaBanana 7 ตุลาคม 2554 7:02:10 น.

เงินเป็นอีกปัจจัยนึงที่บันดาลสุขให้เรา
หลายคนเชื่ออย่างนั้น
เพราะไม่ใช่แค่ตัวเราแต่มันหมายถึง
ทุกคนในครอบครัว..อิ่ม มั่นคง
ทำให้คนส่วนใหญ่ลืมนึกถึงปัจจัยความสุขแบบอื่นไป

โดย: หลงฟองเบียร์ (เรื่องเล่ายามราตรี ) 7 ตุลาคม 2554 8:39:11 น.

เพลงซึ้งจัง..ชีวิตที่รู้จักพอ.เกิดมาในยุคทุนนิยมเงินคือสิ่งบันดาลทุกสิ่ง..

โดย: Jeab bu IP: 192.168.101.37, 203.170.246.250 10 ตุลาคม 2554 11:00:42 น.

It's hard to say which path is right or wrong because we are
different and have our own ways to live.

We don't know when it will be the last day of our life.

Some people like to have fun, enjoy life and see the wold before they are too old too do it. As the result, they cannot save enough money to feel secure.

Some people are more cautious and would like to ensure they will be alright when they are old. They are not burden or relay on the kindness of others. At least they have money to buy the goods and survives to make their life more comfortable.

I fall into the second group. Why can't we find the balance? It's a good question but it's difficult to answer. I think it's because We are different and we don't know when will be our last day.

I try the best for today to achieve what I've plan for next year, next 5, 10 years and the end of my life.

โดย: Doggies IP: 203.129.61.66 10 ตุลาคม 2554 14:38:54 น.