ปฎิรูป-ถอยอย่างไรไม่ให้ล้ม*** WHITESPACE.CO.LTD

whitespace
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เมื่อไม่มีสิ่งใดจริง จึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
.....อ่านเรื่องพุทธบารมี
.....ลีลาสมเด็จพุฒาจารย์โต
.....ปฏิปัตติปุจฉาวิสัชนา-หลวงปู่มั่น

Google..
.....................พ่อของแผ่นดิน...
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
13 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add whitespace's blog to your web]
Links
 

 
กุหลาบสีน้ำเงิน

*เรื่องสั้น กุหลาบสีน้ำเงิน
srijuntara



...ห ลั ง เดินไปปิดม่านและหน้าต่างที่ปลดปล่อยให้ลมพัดเข้ามาระบายในห้องชั้นหกบนคอนโดส่วนตัวตั้งแต่เช้า เพื่อเปิดเครื่องปรับอากาศให้ห้องฉ่ำเย็นสำหรับคืนนี้แทน วารินทร์ปรายตามองนิตยสารซึ่งมีคอลัมน์ซุบซิบนักธุรกิจสาวผู้กำลังจะเป็นม่ายอายุน้อยที่พ่ายแพ้ราบคาบกับชีวิตคู่ ก่อนนำมันไปเก็บบนชั้นหนังสือ

ข่าวนายสุธรรมลูกชายเจ้าพ่อวงการอสังหาริมทรัพย์ เตรียมหย่ากับเมียหลวงที่ครองรักกันมาเพียงแค่สองปีรายนั้น ทำเธอยิ้มขัน.. ก็คงจะบอกเล่ารายละเอียดซ้ำๆ ซากๆ ของผู้หญิงถูกทิ้งทั้งหลาย ซึ่งแทบไม่มีอะไรแตกต่างกันนัก สาเหตุหลักเรื่องผู้หญิงคนใหม่.. ของสามี

เฟรมผ้าใบสำเร็จรูปตรงหน้ายังว่างเปล่าไม่ได้ถูกแตะแต้มสีใดๆ เพราะคนจะวาดมัวแต่หวนถึงสมัยเรียนเพ้นท์ (paint) ที่ต้องขึงเฟรมกันเอง จนต้องช่วยกันลงแขกกับเพื่อนๆ หญิง ผลัดกันทำให้คนนั้นคนนี้ ต่างกับผู้ชายที่ทำกันเองสบายๆ แม้จะซื้อเฟรมวาดภาพสำเร็จรูปหรือสั่งทำได้เลยแต่ไม่มีนักศึกษาคนไหนทำ เงินดูเหมือนจะซื้อได้ทุกอย่างแต่ที่จริงไม่ เธอนั่งยิ้มเมื่อนึกถึงเพื่อนๆหญิงร่วมรุ่นที่พยายามตอกไม้ให้กลายเป็นกรอบ แล้วนำผ้าใบมาขึงให้ตึงก่อนยิงแม็ค รองพื้นเฟรมด้วยสีขาวพลาสติก ช่วยกันไป ทะเลาะกันไป ภาพแม็คยิงเฟรมอันใหญ่ในมือเพื่อนย้อนกลับมาทำให้น้ำตาไหล มันไม่ใช่ภาพอดีตอันเศร้าสร้อยอะไรสักหน่อย บรรยากาศแบบนั้นหายไปนับแต่ก้าวออกจากรั้วมหาวิทยาลัย

เธอนั่งนิ่งจนใกล้ค่ำถึงขยับตัว ภาพดอกกุหลาบสีน้ำเงินยังคงอยู่ในสมองอย่างเดิม กว่าจะรู้สึกตัวเดินออกจากห้องเพ้นท์มาจัดแต่งโต๊ะอาหารเพื่อรอคอยการมาของแขกคนสำคัญ เวลานัดก็จวนตัวแล้ว อากาศกำลังเย็นสบายได้ที่

วารินทร์เปิดคอนโดมิเนียมแห่งนี้เป็นส่วนตัว นอกจากไว้พักบางค่ำคืน กันอีกห้องหนึ่งไว้วาดรูป ยังเตรียมไว้เผื่อการรับรองอาคันตุกะในแผน หรือว่าเพราะแผนการนั่นต่างหากที่ทำให้เธอเปิดห้องที่นี่ขึ้น โรงแรมนั้นดูประเจิดประเจ้อเกินไป ภายในถูกตกแต่งด้วยผ้าม่านลายลูกไม้แต่ไม่ใช้ผ้าลูกไม้ เธอไม่หวานขนาดนั้น ที่จริงเธอเกลียดผ้าลูกไม้ทั้งที่ชอบ น้อยคนนักจะรู้จักว่าหญิงสาวคนนี้ซ่อนความอ่อนหวานไว้ขนาดไหนภายใต้การเลี้ยงดูเพื่อให้เป็นนักจัดการบริหาร ยังมีคอนโดอีกหลายแห่งที่ซื้อเก็งกำไรแต่ทำให้เธอขาดทุนไม่น้อย แต่อีกหลายแห่งก็มีกำไรมหาศาล เรื่องคนในแผนการก็เช่นกัน บางคนช่วยทำให้ทุกอย่างลุล่วง แต่บางคนอาจทำให้แผนพังพินาศ

บทเพลงรุ่มร้อนแต่อ่อนหวานแนวไอริชด้วยน้ำเสียง Andrea นักร้องของวงพี่น้อง The Corrs ถูกเปิดขึ้น คงเหมาะจะกระตุ้นให้แขกสาววัยใกล้สี่สิบอย่างพันดาราหวั่นไหว น่าเสียดายที่ไม่มีดอกกุหลาบสีน้ำเงินบนโต๊ะ แต่สีแดงเพลิงใต้ไฟระย้านวลเหลืองกลับขับผิวผ่องของวารินทร์ให้เนียนละมุน เชิงเทียนที่ตั้งเทียนจำนวนสามสิบสามเล่มบนโต๊ะถูกจุดขึ้นช้าๆ ด้วยเปลวเทียนในมือหญิงสาว วารินทร์กลับคืนสู่สถานการณ์เต็มไปด้วยลูกล่อลูกชนที่เธอครุ่นคิดสร้างขึ้นเพื่อก้าวไปสู่จุดหมายต้องการ การวางแผนตามน้ำโดยปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ บางครั้งมีผลให้แผนการคล้ายไม่เหมือนแผนการ ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นอย่างน่าประหลาด ทุกอย่างไม่ใช่ละครเสียทีเดียว แต่อย่าปล่อยให้ความหวั่นไหวทำลายแผนได้ รอยยิ้มบนมุมปากอิ่มปรากฏขึ้นหลังเธอได้ยินเสียงกดออด

ผู้มาเยือนตามนัดพิเศษหน้าตาตื่น พันดาราทำตาโตเล็กน้อยเมื่อมองลอดเข้ามาเห็นภายในห้องสลัวด้วยแสงนวลจากโคมไฟระย้าบนเพดาน ส่วนแสงจากเปลวเทียนสามสิบสามเล่มก็ช่างวูบไหวล้อยั่วความประหม่าของหัวใจเธอยามนี้ ก่อนจะรักษาอารมณ์นิ่งสงบหลังเธอปิดประตูห้องเพื่อไล่ลมหวนจากหน้าห้องไปเสีย เปลวเทียนก็โชนแสงนิ่ง เสียงเพลงที่เปิดนั่นมันช่างนิ่มนวลแต่เร่าร้อนอยู่ในที

“เซอร์ไพรส์ค่ะ!!” สาววัยกลางคนร่างสูงสันทัดหน้าตาสะอาดอุทานลืมตัว แทนจะกล่าวสุขสันต์วันเกิดพร้อมมอบดอกไม้ที่เตรียมไว้ให้เจ้าของวันเกิด ไม่คิดว่าวารินทร์ผู้แสนเล่นตัวจะทำเธอแปลกใจได้ถึงขนาดนี้

“ขอโทษค่ะ พี่หมายถึงให้คุณมีความสุขมากๆน่ะค่ะ” เธอแก้เก้อ ส่งดอกไม้ให้หญิงสาวเจ้าของห้อง ก่อนเดินตามเข้ามาในห้องอย่างผิดคาดหมาย ประกายหวังจากเปลวเทียนฉายคุโชนอยู่ในดวงตา

“นั่นก็ย่อมขึ้นอยู่กับพี่ด้วยนะคะ” วารินทร์ยิ้มหวานเป็นนัย แววตาเชิญชวนจนพันดาราใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

หลังอาหารค่ำมื้อพิเศษ สเต็กปลากับไวน์ขาวหมักบ่มเทียบเท่าอายุของวารินทร์แสนนุ่มลิ้น พันดาราก็เกินจะอดใจไหว เธอเข้าหาเมนูสุดท้ายและเริ่มละเลียดเนื้อตัวสาวร่างแบบบางไม่ต่างจากอาหาร วารินทร์อาจเห็นว่าเธอเป็นผู้ใหญ่พอจะยอมปลดปล่อยอารมณ์ใคร่ด้วยความไว้วางใจ ไม่งั้นคงไม่เสียเวลากระตุ้นอารมณ์ฝ่ายตรงข้ามเสียเต็มประดา ทั้งที่ตนเองเป็นฝ่ายเล่นตัวมาตลอด แต่นั่นก็เพียงยวนยั่วให้เหยื่อติดกับดักชนิดดิ้นไม่หลุดต่างหาก แค่แสร้งเป็นหวงเนื้อตัว สำหรับสาวเจ้าของห้องแสดงภาพศิลปะอย่างพันดาราผู้ชอบเอาชนะ ถ้าง่ายเกินไปเจ้าหล่อนก็จะเป็นฝ่ายหนีหาย นี่พันดาราคงกระหยิ่มว่าคนหยิ่งยโสยอมศิโรราบให้แล้ว หรือว่าวารินทร์เกิดหวั่นไหวเข้าจริงๆ

“พี่ไม่ต้องการมากกว่านี้” พันดาราซุกจมูกลงไปบนซอกคอของหญิงสาวที่นอนหันหลังให้ บนเตียงนุ่ม ทำคล้ายซื่อเซ่อ ทั้งที่รู้ว่าบทรักเร่าร้อนขนาดนั้น รินทร์คงไม่ได้นอนกับใครมานาน เธออาจเป็นตัวจริงบนเตียงกับสาวซึ่งหวงตัวไปด้วยความแค้น

“ทำไมคุณไม่เลิกทำทุกอย่าง แล้วกลับไปอยู่ในตำแหน่งภรรยาแบบเดิม ไม่มีใครเชื่อข่าวลือหรอก ใครกล้าทิ้งคุณคงจะบ้า...”

“ทำอะไร?” วารินทร์หันมาแสร้งฉงน ได้กลิ่นไวน์จากลมหายใจของสาวใหญ่คู่นอน

“ทำแบบที่ทำอยู่ ลอยชาย..”

“ก็แล้วถ้ารินทร์กลับไปเป็นแม่บ้านหัวกระเซิง พี่จะรู้สึกอย่างไร ที่พี่เข้ามาหารินทร์ไม่ใช่เพราะภาพลักษณ์ของศิลปินที่น่าค้นหาหรอกหรือ” วารินทร์ต่อคำกับสาวใหญ่เจ้าของห้องแสดงภาพศิลป์ที่เข้ามาติดพันจนยอมติดกับเธอ แล้วสามีเธอจะไปต่างอะไร คนเราก็เหมือนๆกันนั่นล่ะ ไม่ชอบของตาย และมันไม่ใช่ข่าวลือ!!

พันดาราเม้มปากอ้ำอึ้งเมื่อถูกท้วง ทราบว่าวารินทร์คงไม่ได้กลับมาเขียนรูปหลังจากมีปัญหากับสามีอย่างไร้จุดหมาย หญิงสาวผู้มีบุคลิกเงียบนิ่ง กลายเป็นหวานดุอย่างพลิกผัน ภาพกุหลาบสีน้ำเงินมากมายก่ายกองซึ่งถูกวาดขึ้นเพียงไม่กี่เดือนด้วยพลังเร้นลับบางอย่างกำลังจัดแสดงอยู่ที่พันดาราแกลเลอรี่ ยังบ่งบอกถึงฝีมือสมัยเรียนของนักศึกษาสาวผู้มีอนาคตทางศิลปะ แต่หลังจบการศึกษาด้านศิลปกรรม เธอกลับเรียนต่อด้านบริหารเพื่อทำงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ให้ที่บ้าน เป็นนักธุรกิจซึ่งประสบความสำเร็จพอประมาณก่อนต้องแต่งงานกับคนในวงการเดียวกันฐานะทัดเทียมกัน สุดท้าย.. ครอบครัวก็พังครืนภายในเวลาเพียงสองปี

คนทั่วไปคงไม่มาวาดรูปเล่นๆ เพราะลำพังปากท้องตัวเองและครอบครัวคงไม่เอื้อให้มาล้อเล่นกับอนาคต มันหมายถึงถ้าไม่จริงจังเพราะรักจะสร้างสรรค์งานศิลป์ด้วยใจ คงไม่มีใครมาเสี่ยงเป็นศิลปิน ยอมละทิ้งความฝันที่ถูกลบหายไปกับกาลเวลา

แต่สำหรับสาวเงินหนาอย่างวารินทร์ ณ ขณะนี้ จะวาดไม่วาด จะขายรูปได้ไม่ได้ นั่นไม่มีผลกระทบอะไรกับชีวิตเลยแม้แต่น้อย เธอรื้อฟื้นชีวิตศิลปินครั้งถูกขัดขวางในวัยเยาว์จากครอบครัวที่ไม่เห็นว่าอาชีพนี้จะเลี้ยงตัวเองได้กลับมาอีก และทำได้ดีทีเดียว ดีจนน่าหลงใหล แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าท่วงท่ากิริยาของเธอในวันเปิดงานมันคือตัวตนแท้ หากแต่เธอต้องการเป็นศิลปินจริงๆหรือไม่ บางทีเธออาจยังไม่รู้จักตัวเองดีพอ ไม่ต่างจากคนอีกหลายคนที่เป็นไปตามกระแสเชี่ยวของสังคม ไม่เคยมีชีวิตตามจิตวิญญาณตัวเองเรียกร้องได้อยู่แล้ว ซ้ำยังปล่อยให้เรื่องอื่นๆเข้ามาครอบงำชีวิต

พันดาราเอามือเกี่ยวผมยาวสลวยข้างแก้มของหล่อนเล่น เธอม้วนผมของวารินทร์ให้เกี่ยววนกับนิ้วชี้ตัวเองไปเรื่อยๆ

“คุณแค่จะทำให้สามีหึง เพราะอยากให้เขากลับมาง้อใช่ไหมคะ” ถ้อยคำที่อยากถามแต่ไม่ได้เอื้อนเอ่ยออกมา พันดาราทำทีเป็นแค่หมากที่ไม่รู้ทัน แกล้งเป็นไม่รู้และเดินตามแผนเธอจะดีกว่า ช่วยให้ผัวเมียคืนดีกันคงได้บุญไม่หยอก ยังมีหนุ่มใหญ่หนุ่มน้อยเข้ามาติดพันวารินทร์ แต่สาวศิลปินกลับเลือกเธอซึ่งเป็นผู้หญิง นั่นก็เพราะยังมีเยื่อใยกับสุธรรมคนรัก

แต่หลังจากคืนนี้ไปแล้วเธอเองก็ไม่มั่นใจว่าจะไม่หึงหวงผู้หญิงคนนี้ คนที่ทำตัวพราวเสน่ห์ไม่หยุดยั้ง

“พี่น่าจะชอบ เพราะกับรินทร์พี่ไม่ต้องมีข้อผูกมัด” วารินทร์เอ่ยขึ้นมาลอยๆ ยั่วสาวใหญ่จอมเจ้าชู้ ที่ใช่ว่าจะยอมหยุดอยู่กับหญิงคนไหน ยังเป็นข่าวกับสาวน้อยสาวใหญ่อยู่ไม่สร่าง คิดว่าพันดาราเข้ามาข้องแวะกับชีวิตเธอก็เพียงเพราะต้องการเอาชนะเท่านั้น และเธอก็ต้องการผู้ช่วยแผนที่เหมาะสมอยู่พอดี ต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์ในเกมที่ตัวเองต้องการ ถ้าขนาดพันดาราเธอยังหว่านเสน่ห์จนสามารถเอาชนะได้ กับสุธรรมก็คงไม่ยากอีกต่อไป

“ทำตัวเป็นแม่เนื้อหอมด้วยภาพของศิลปิน ระวังภาพพจน์ของศิลปินจะเสียเพราะคุณ...” สาวรุ่นพี่ตาปรือก่อนจะหลับใหลด้วยเสียงคล้ายละเมอ

“หึ.. ต้องเป็นศิลปินแห่งชาตินั่นเลยหละค่ะถึงจะมีภาพลักษณ์ที่ดี เพราะถูกยกย่องว่ามีความสามารถและทำคุณประโยชน์ให้ชาติ ส่วนศิลปินทั่วๆ ไป.. ใครเขาว่ามีภาพที่ดีกันเล่าคะ..” วารินทร์ตอบกลั้วหัวเราะเบาๆกับคนไม่รู้สึกรู้สมปดีแล้ว ก้มลงจูบเปลือกตาอุ่นๆเรื่อๆของคนดื่มไวน์ด้วยแรงยุของเธอเข้าไปโขอยู่ นึกถึงบทรักร้อนๆแต่อ่อนโยนเมื่อครู่ ก่อนลอบถอนใจเฮือกใหญ่

ถ้าความรักราบรื่นเป็นเพียงจุดจบอันบัดซบ เป็นเหตุให้คนข้างตัววิ่งหนีไปสู่เส้นทางที่ตื่นเต้นกว่า มันก็คงต้องสร้างคุณค่าให้ตัวเองเกินจะยอมจำนนต่ออีกฝ่ายด้วยความจริงใจ วารินทร์เริ่มสับสนว่าตัวเองรักสามีหรือแค่ต้องการเอาชนะคะคาน

สุธรรมขับรถมาตามเส้นทางอย่างอารมณ์ดี นัยน์ตายิ้มฝันราวคนกำลังมีความรัก เขาไม่เข้าใจว่า วารินทร์ภรรยาผู้จืดชืดกลายมาเป็นศิลปินเสน่ห์แรงไปได้อย่างไร เหมือนเพิ่งตกหลุมรักเข้าอย่างจังเมื่อวันเห็นเธอแสดงภาพศิลปะที่พันดาราแกลเลอรี่ ทั้งก่อนนี้หน้าอยากจะหย่ากับเธอเต็มกลืน หญิงสาวผู้เงียบเชียบไม่แสดงอาการรู้สาอะไรกับชีวิตนักนอกจากทำแต่งาน แต่สายตาและรอยยิ้มของเธอในวันนั้น นำพาเขาสู่การค้นพบอีกด้านของวารินทร์ที่ยากจะลืมลง เธอช่างน่าหลงใหลไม่ต่างจากภาพกุหลาบสีน้ำเงินที่เธอวาด ดูอ่อนหวานเศร้าสร้อยและร้อนแรงสง่างาม ทุกอย่างรวมอยู่ในดอกไม้อัศจรรย์นั่น นึกอยากให้ด้านนี้ของเธอโดดเด่นออกมาโดยมีเขาเป็นผู้ผลักดัน แล้วโลกจะได้รู้ว่าวารินทร์เป็นคนมีชีวิตชีวาขนาดไหน

ความที่ไม่ได้ติดต่อและหนีหายจากกันไปหลายเดือนจนน่าอายเกินจะพบเธอเพียงเพราะเธอกลายเป็นศิลปิน แต่โชคก็เข้าข้างให้เขามีโอกาสจนได้ เขาเหยียบคันเร่งเพิ่มขึ้นเพื่อจะไปให้ถึงคอนโดของภรรยาตามเวลานัด เค้กวันเกิดสั่งทำประณีตพิเศษถูกจัดเตรียมไปมอบให้หลังได้รับข้อความตอนเย็นจากเธอเพื่อนัดไปคุยเรื่องหย่าให้เรียบร้อย แต่ไม่ใช่ไปเพื่อหย่า เขาร้อนรุ่มจะกลับไปขอคืนดีและพร้อมจะเรียนรู้อีกมุมชีวิตอันพราวไปด้วยเสน่ห์ของวารินทร์ซึ่งไม่เคยล่วงรู้มาก่อน เธอคงจะซาบซึ้งบ้างที่เห็นเขาจำวันเกิดของเธอได้

พันดาราค่อยๆลืมตาขึ้นมองศิลปินสาวตรงหน้าเมื่อเงียบเสียงไปนานอย่างเอ็นดู คงหลับไปแล้วด้วยฤทธิ์ยานอนหลับชนิดอ่อนและออกฤทธิ์ช้าที่เธอแอบใส่ลงในแก้วไวน์

“อย่าคิดนะว่าพี่ไม่รู้ใจคุณ คุณเลือกพี่ แทนจะเลือกนายแพทย์หนุ่มองครักษ์ผู้เพียบพร้อม หรือเด็กหนุ่มกัลป์ตรัยว่าที่ดอกเตอร์ในอนาคต ก็เพราะคุณอยากให้นายสุธรรมกลับมาง้อ อยากให้สามีคุณร้อนไปด้วยไฟหึง และเพิ่งสำนึกได้ว่ากำลังจะสูญเสียสิ่งมีค่าที่สุดในมือไป แลกกับผู้หญิงอื่นที่เทียบกับคุณไม่ได้เลย”

วารินทร์หายใจสม่ำเสมอไม่โต้แย้งใดๆ ใบหน้ายิ้มอย่างมีความสุขทั้งที่นอนหลับ แต่พันดารายิ้มราวเป็นสุขยิ่งกว่า

“แต่เมื่อนายสุธรรมมาถึง เขาจะไม่ได้พบคุณที่ไปเปิดประตูให้ ไม่ต้องบุ่มบ่ามเข้ามาเพราะเห็นโต๊ะอาหารมีร่องรอยของแขกยามวิกาล จะไม่ได้มาเห็นพี่ซึ่งเป็นผู้หญิงจนเขาถอนใจด้วยความโล่งอก เสียใจที่ทอดทิ้งคุณทั้งยังระอุไปด้วยแรงตัณหาต่อคุณมากขึ้น คุณจะไม่ได้คุยกันเรื่องหย่าซึ่งที่จริงเป็นแผนให้สามีกลับมาขอคืนดีตามหมากที่คุณวางไว้ และพี่เชื่อค่ะ ว่าคุณทำสำเร็จ...” น้ำเสียงช่างร่าเริงเหมือนเด็กน้อยได้ลูกโป่ง เธอใช้หลังมือไล้แก้มเนียนของวารินทร์อยู่ไปมา กระซิบให้คนหลับฝันดีฟังต่อ

“เพราะคนที่จะเปิดประตูให้เขากลับเป็นน้องชายของพี่ที่เข้ามาในห้องตอนคุณไร้สติอยู่แบบนี้ไง น้องชายพี่คาดแค่ผ้าขนหนูตัวเดียวขณะไปเปิดประตูให้สามีคุณ.. แล้วก็ปิดประตูใส่หน้าพร้อมไล่ตะเพิดเขาออกไป..” พันดาราหัวเราะกิ๊ก.. ดวงตาแวววาวเมื่อสาธยายถึงช่วงนี้

“คิดดูซิ ว่าสามีหน้าบางของคุณจะคิดยังไง กับศิลปินที่มั่วทั้งพี่สาวและน้องชายในเวลาเดียวกัน คงสับสน อับอาย อาจเตลิดกลับบ้านแทบไม่ทัน” เธอเริ่มฮัมเพลง At Your Side ของวง The Corrs ที่วารินทร์เปิดให้ฟังตอนหัวค่ำอย่างสบายอารมณ์ เมื่อได้ยินเสียงกดออด

When the daylight's gone and you're on your own
And you need a friend just to be around, I will comfort you, I will take your hand
And I'll pull you through, I will understand And you know that
I'll be at your side, there's no need to worry
Together we'll survive through the haste and hurry I'll be at your side
If you feel like you're alone, and you've nowhere to turn

“ขอโทษนะคะ เอาไว้ให้พื่เบื่อลูกไก่อ่อนหัดอย่างคุณก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที” พันดาราก้มลงจูบหน้าผากวารินทร์ที่เผยอยิ้มตอบให้อีกครั้งเมื่อถูกตะกองกอดทั้งหลับ

ฟังเพลงกันดีกว่า







Create Date : 13 มิถุนายน 2551
Last Update : 15 มิถุนายน 2551 10:11:59 น. 0 comments
Counter : 426 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.