ปฎิรูป-ถอยอย่างไรไม่ให้ล้ม*** WHITESPACE.CO.LTD

whitespace
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




เมื่อไม่มีสิ่งใดจริง จึงไม่ควรยึดมั่นถือมั่น
.....อ่านเรื่องพุทธบารมี
.....ลีลาสมเด็จพุฒาจารย์โต
.....ปฏิปัตติปุจฉาวิสัชนา-หลวงปู่มั่น

Google..
.....................พ่อของแผ่นดิน...
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add whitespace's blog to your web]
Links
 

 
เผลองมงาย





เรื่องสั้น …เผลองมงาย…
ศรีจันทารา




“จริงเหรอ..!!” อุทานตกใจ ยกเอามือที่ไม่ได้ถือโทรศัพท์มือถือขึ้นกุมศีรษะ คล้ายเรื่องที่ฉันได้ยินอยู่น่าหนักใจเสียเต็มประดา

ปลายนิ้วมือที่กุมหัวส่วนที่เลยหน้าผากซอนเข้าไปตามซอกโคนผม ขณะฟังเพื่อนเก่าโทรฯมาหาชนิดไม่มีปี่ขลุ่ย ระหว่างทางเดินกลับเข้าทำงานหลังออกมารับประทานอาหารกลางวัน เพื่อจะบอกเล่าเรื่องพี่ออม.. พี่สาวคนนึงซึ่งเคยรู้จักที่บริษัทเก่า เรื่องของเธอทำเอาฉันอยากจะเกาหัวแกรกๆ ด้วยความปวดขมองขึ้นมาเสียเดี๋ยวนั้น แต่กลัวผมยุ่งกระเซิงเลยระงับใจไว้..

“อืม.. เนี่ย พี่ออมไปพัทยากับจินแล้วเมื่อคืน พอแฟนจินรู้เข้า ก็รีบขับรถตามไปเลย เพราะจินตมัยอิดออดจะไม่ยอมแต่งงานขึ้นมา แถมยังจะถอนหมั้น..” เพื่อนเล่าฉอดๆ ด้วยน้ำเสียงเย็นเนิบนาบตามลักษณะนิสัยแสนเรียบร้อยของเธอ ทำฉันตัวเย็นๆ ตามเสียงของเพื่อน ร้อนๆ ตามความรู้สึกวูบวาบ ทำไมเรื่องราวบานปลายขนาดนี้ สองสาวนั่นอาจไปตกลงกันก็ได้ พี่ออมไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงที่มีแฟนแล้ว ถ้าฉันเป็นผู้ชายที่เป็นแฟนจิน จะตามไปไหมนะ?

ฉัน จิ๋วเพื่อนสมัยเรียน พี่ออม เคยทำงานร่วมกันที่บริษัทเก่า ไม่ได้สนิทอะไรกับพี่เขามากมาย แรกๆ พี่เขาออกจะเกลียดฉันโดยไม่เล่าแจ้งแถลงไขให้ได้ทราบ เหตุเพราะแอบไปนั่งเก้าอี้ข้างโต๊ะของพี่เขาและยังแอบใช้โต๊ะพี่ออมช่วงเช้าก่อนผู้เป็นเจ้าของจะมาถึง ซึ่งพี่เขาไม่ชอบใจเอามากๆ เลยพาลไม่ยอมเดินมาที่โต๊ะ เพราะไม่ชอบให้ใครเข้าไปวุ่นวาย ความเสร่อของฉันนั้นมันมากเอาการโดยไม่เจตนา ..จากนั้น ฉัน จิ๋ว และพี่ออม ต่างก็แยกย้ายไปทำงานที่อื่นตามกาลเวลาจัดสรร

“แล้วแฟนจินทำอะไรพี่เขาหรือเปล่า?” เสียงเบาโหวงของฉันแฝงความกังวลไม่แพ้สีหน้า ทั้งยังหวั่นว่าอาจจะตกท่อหรือชนใครเข้าเพราะมัวแต่คุยโทรศัพท์เครียดขณะเดิน รวมถึงเหนื่อยหน่ายกับเรื่องเหล่านี้อยู่ไม่น้อย เรื่องรักๆ ใคร่ๆ ที่ต้องพานพบไม่เว้นแต่ละวันในที่ทำงาน ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องหญิงรักหญิง แต่หมายถึงเรื่องเกลียวสัมพันธ์สวาท ที่ผูกคนเข้าไปร้อยรัดเกินคนสองคนจนวุ่นไปหมด

“ไม่รู้เหมือนกัน..!!” เป็นคำตอบสุดท้ายของเพื่อน..


พอถึงที่ทำงาน ฉันแอบเข้าไปนั่งโต๊ะเงียบๆ โดยไม่แวะคุยกับใคร ดึงกระดาษออกจากกองเพื่อจะเอามาเขียนงานให้เสร็จทันเย็นนี้ เร็วจนไม่ได้ระวังคมกระดาษแฉลบเข้าบาดอีกฝ่ามือ เสียวจี๊ดไปถึงทรวงในโดยเฉพาะที่ใจ.. สาวน้อยหน้าหวานจินตมัย ลูกสาวนักธุรกิจคนดัง เพิ่งย้ายเข้าไปทำงานบริษัทโฆษณาเจอาร์วายได้ไม่นาน พอมีกระแสข่าวออกมาให้รู้กันบ้าง แต่เธอเข้าไปนั่งอยู่กลางใจสาววัยใกล้สี่สิบอย่างพี่ออมได้อย่างไร รักแรกพบไม่เกิดขึ้นง่ายๆ กับคนผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก โลกไม่ได้สีชมพูอย่างวัยรุ่นแล้ว

แต่อะไรๆ ก็คงเป็นไปได้ ยิ่งถ้าไม่ตั้งใจแบบนั้น มันยิ่งกลับรุนแรงเป็นหลายเท่า เพราะความไม่ตั้งตัวนี่เองจึงไม่รู้จุดเริ่มของความรักที่ไม่ทันระวัง การตั้งใจจะชอบใครสักคนต่างหากกลับไม่รุนแรงเฉกเช่นนี้

นึกถึงผู้หญิงคนหนึ่ง.. เข้ามานั่งอยู่ในใจฉันได้รวดเร็วและรุนแรงอย่างไม่ทันตั้งตัว เธอเองก็เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ได้ไม่นาน ดีนะที่อยู่กันคนละกลุ่ม ตึกคนละชั้น แต่โชคชะตาก็เล่นตลก ที่ฉันดอดลงไปค้นหนังสือออกแบบที่ห้องสมุดของบริษัทฯ ซึ่งดันอยู่ชั้นเดียวกับกลุ่มของเธอ

คนเรานี่หากไม่ได้ตั้งใจจะรักกัน เวลาเห็นกันก็ไม่หลบ ยิ่งหน้าแปลกๆ ไม่เคยเห็น ทำให้สงสัยนักว่าเป็นใคร ลูกค้าหรือพนักงานใหม่? ฉันมองเธอด้วยความไม่คุ้นเคยแค่นั้น.. แค่นั้นเองจริงๆ ความพยายามที่เราต่างมองกันให้เต็มตา ก็เพราะเราไม่ได้ตั้งใจจะรักกันสักหน่อย บริษัทฯนี้คนสวยๆ หล่อๆ เพียบ ฉันเคยสนใจใครที่ไหน..

และก็เพราะการไม่ได้คิดว่าจะชอบกระมัง พอรู้ตัวอีกทีมันก็เลยอาการหนัก เล่นฉันหนักอกแทบหายใจไม่ไหว ไม่แน่ อาจเป็นการชดใช้บาปที่ฉันไม่บริสุทธิ์ใจกับผู้อื่นอีกต่อไป จมูกของเธอเป็นภาพติดตาครั้งแรก จากนั้นฉันก็เฝ้าแต่คิดถึงจมูกของเธอเสมอ จนวันนึงฉันก็ค้นพบด้วยว่ามีความปวดร้าวบางชนิดซ่อนตัวอยู่ภายในใจของตัวเอง ซ้ำยังเผลอออกอาการเซื่องซึม.. จนขาเม้าท์ในแผนกลอบสังเกตเห็น รีบกระจายข่าวออกไปว่าฉันอกหักจากชัยชนะ

ชัยชนะมีตำแหน่งอาร์ตไดเร็คเตอร์ฝ่ายสร้างภาพ คู่ขางานกับฉัน ซึ่งมีตำแหน่งก็อปปี้ไรเตอร์ฝ่ายสร้างคำ เราต้องทำงานคู่กัน (partner) เพื่อให้งานมีทั้งภาพและภาษาต่อการกำหนดภาพพจน์ให้สินค้าชิ้นหนึ่งๆ

“ฉันแอบรักชัยซึ่งมีแฟนอยู่แล้ว” โอเค เป็นข่าวลือพอมีมูล เพราะบางงานต้องตรากตรำทำงานร่วมกันหลายวันหลายคืน แถมยัยลูกหมีแฟนของชัยชนะก็ห้าวประดุจทอมเสียขนาดนั้น ฉันหวานกว่าแน่ๆ อย่างนั้นข่าวลือก็พอมีเค้า..!!

แต่ความลับของคู่ขางานของฉันคนนี้ ก็คือ หมอนี่แอบปิ๊งสาวสวยอยู่อีกคน ฉันจำต้องรับรู้.. เพราะต้องเป็นที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ให้ระหว่างที่ต้องทำงานด้วยกันยามดึกหลายคืน พูดคุยกันตั้งแต่เรื่องงาน คนรัก หนังสือ เพลง จิปาถะ ซ้ำความที่ไม่ใช่ขาเม้าท์ เก็บความลับเป็นยอด จนชัยคู่หูวางใจฉันกว่าใครทุกคนในที่ทำงาน ซวยจริงๆ !! ที่ฉันกลับต้องกลายมาเป็นข่าวคาวที่ไปแอบรักชัยเสียเอง

คิดไปก็ขำๆ นะ แต่พวกขาเม้าท์นี่พยายามเห็นเป็นเรื่องจริงจังมาก แล้วพวกเขาก็จริงจังกับมันจริงๆ ประดุจความเชื่อที่ฝังเข้าไปในกระดูกของชนเผ่าบางกลุ่ม ถอนไม่ออก.. ทั้งที่อาจจะคิดกันขึ้นมาเองแท้ๆ แต่นานวันเข้ามันก็กลายเป็นถ้อยคำพระเจ้าทรงประทานมา


“พี่ออมเป็นไงมั่ง!!” ถามจิ๋วเรื่องนั้นไป เมื่อได้ติดต่อกันอีกครั้ง ก็นานๆ จะโทรฯหากันที เพราะความห่างไกล อายุที่มากขึ้น คนรอบตัวและสภาพแวดล้อมซึ่งต่างกันไปแล้ว เลยไม่รู้จะคุยกันเรื่องใคร-อะไรไปโดยปริยาย เพราะอีกฝ่ายก็คงจินตนาการไม่ออก ไม่ก็ต้องสาธยายให้รายละเอียดจนคนเล่าหงุดหงิดเองเปล่าๆ กว่าอีกฝ่ายจะรู้เรื่องด้วย เรื่องที่คุย.. นอกจากเรื่องงาน แล้วก็คงเป็นคนเก่าๆ ที่เราทั้งคู่รู้จักร่วมกัน

“ตกลงจินมาอยู่กับพี่ออม หรือแต่งงานไปแล้ว” ถามต่อช่วงเพื่อนยังเงียบอยู่ ข่าวพี่ออมคงดังกระหึ่มไปหลายเอเจนซี่ทีเดียว ที่เข้าไปพัวพันกับหญิงสาวสวยซึ่งถูกตีตราจองมาก่อน

“ไม่รู้ซิ คงอกหักมั๊ง”

“แล้วตอนจีบสาว ไม่รู้เหรอว่าเค้ามีคู่หมั้นแล้ว”

“ผู้หญิงไม่บอก ก็คงไม่รู้นะ” เพื่อนใช้เวลาสักครู่ก่อนตอบ ท่าทางคงกำลังใช้ความคิด ฉันก็คิดตามที่ตัวเองอยากคิดอย่างไม่รีรอ ของใหม่มักมีอานุภาพรุนแรง ทุกคนล่ะ ใครมาจีบคงหวั่นไหว แต่ชอบขนาดรักกันได้นี่ แสดงว่าพี่ออมน่าจะมีเสน่ห์ไม่หยอก ขนาดจินตมัยมีแฟนหนุ่มหล่อเป็นตัวเป็นตนอย่างนั้น

“มีเสน่ห์ยังไงวะ..” ผู้หญิงผอมๆ คนนึงที่ฉันพอนึกภาพออก สนใจแต่เรื่องงาน แล้วก็ดุบรรลัย ไม่แน่.. เวลาจีบสาว อาจจะโรแมนติกกับคนที่เธอรักก็ได้ คนนอกอย่างเราจะไปรู้ได้อย่างไร รู้เพียงแค่ตอนนี้ห่วงพี่เขาตามประสาคนเคยรู้จัก


คืนวันงานเลี้ยงปีใหม่ที่ทำงานเก่า จำได้ว่า วันนั้นพี่ออมดีกับฉันเป็นพิเศษ หลังจากหายงอนเรื่องที่คนต๊องส์อย่างฉันแอบไปนั่งเก้าอี้ข้างโต๊ะเธอ แล้วถือวิสาสะใช้โต๊ะเธอบ้าง

“ทำไมถา.. เป็นคนตลกจัง” พี่ออมพูด ตักอาหารส่งให้ถึงจานอีกต่างหาก มาดีด้วยขนาดนี้ เล่นเอาใจคอไม่สู้ดี แต่ที่จริงแอบเดาว่า หลังจากฉันได้ทำงานคู่กับน้องชายพี่ออมมาสักระยะ น้องชายคงไปรับประกันกับพี่สาวของเขา ทำนองฉันมันเป็นคนไม่มีอะไรซับซ้อนหรอก ไม่ใช่คนไร้มารยาทอย่างที่พี่ออมขัดเคือง ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ซ้ำยังเซ่อซ่า.. ยิ่งเวลาเมา คุยแต่เรื่องชวนหัว ท่าทีที่ดูขรึม ไม่น่าเข้าใกล้นัก.. หายไปหมด เสียบุคลิกจริงๆ

หลายปีมาแล้วซิ ที่ฉันเพิ่งได้ยินข่าวพี่เขาอีกครั้ง

เรื่องของพี่กับเรื่องของฉันมันช่างต่างราวดินกับฟ้า.. ฉันรักใครไม่เคยมีใครรู้ ถ้าฉันไม่สามารถรับผิดชอบชีวิตของผู้หญิงคนที่ฉันรักได้ล่ะก็ ปล่อยให้เธอไปมีครอบครัวอบอุ่นและมีความมั่นคงต่อตัวเธอเองเสียดีกว่า แต่ก็ไม่ได้คิดขนาดว่าผู้ชายที่ฉันจะแต่งงานด้วยจะต้องเลอเลิศหรอกนะ นั่นล่ะ ความรักของฉัน หรือว่าฉันไม่ได้รักใครจริงๆ

ความรักของฉันมันเป็นอย่างไรกันแน่?

ที่สำคัญ เธอคนนั้นก็มีแฟนหลายคนอีกต่างหาก ทำเอาหัวใจดวงน้อยของฉันเจ็บแปลบแทบทุกนาทีที่รู้ตัว ตอนนี้ ฉันไม่สามารถมองเธอของฉันได้เต็มตาเหมือนเคย แก้มมันร้อนผ่าวแถมแดงเหมือนคนกินเบียร์ อายจนต้องคอยหลบ ฉันคงหลบความเจ็บปวดด้วย ..จะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างไร ถ้าไม่ใช้สัจธรรมเข้าข่ม ที่ใดมีรัก..ที่นั่นมีทุกข์.. ที่ใดมีรักแท้.. ที่นั่นไม่มีทุกข์...

“ถา..ถา..” เสียงเรียกจากวรรณวดี เออีสาวคนสวย คนที่ใครๆ ก็ล้อว่าเป็นแฟนฉัน ไม่นับชัยชนะคู่ขางานที่ทำให้ฉันอกหัก

ดีนะอกหักจากชายก็ไปมีแฟนหญิง ข่าวลือมากมายย่อมเกิดขึ้นกับคนซึ่งไม่ชอบร่วมเม้าท์กับใคร หรือฉันคงเป็นคนคาดเดายาก คิดในแง่เลิศเลอ ฉันคงดูเป็นคนดีจนน่ารำคาญ เพราะไม่ชอบร่วมวงนินทากับผู้ใด การไม่ฝักใฝ่เม้าท์กับฝ่ายใด เท่ากับไม่ต้องการเข้าพรรคเข้าพวกหรือต้องการมีที่คุ้มกะลาหัว ..และถือเป็นแกะดำอย่างวายร้าย สังคมมองหาแกะดำเสมอเพื่อจะมีอะไรร่วมวจีกรรมใส่สัตว์เคราะห์ร้ายให้เป็นที่ครึกครื้นสนุกสนาน เพื่อนรักคนนึงเคยปลอบใจฉันแบบนั้น

“ว่าไง” เหลือบตาขึ้นมองวรรณขณะนั่งทำงาน ทำทีว่าเรียกทำไม และทำเป็นขัดใจที่เธอมาทำลายอาณาจักรความคิดของฉันสั่นคลอน ความคิดของฉันน่ะมันเป็นงานทั้งนั้น ไม่ห่วงหรอก ที่วางท่าไม่สบอารมณ์แบบนั้นออกไป เพราะความหญิงจัดของเธอจะมาเหนือเมฆจนฉันต้องยอมศิโรราบแพ้ทางเธอทุกที

เธอจะเริ่มด้วยรอยยิ้มหยาดเยิ้ม ก่อนเปิดปากออดอ้อนให้ต้องหลวมตัวไปทำงานให้เธอจนได้ มายาหญิงหลายล้านเล่มเกวียนอย่าว่าแต่ชายจะพลาดท่า หญิงบื้อๆ อย่างฉันก็ไม่อาจหลุดกับดักนี้ คงไม่ยอมไปขายงานกับลูกค้าคนเดียวอีกแล้ว

“ไปเป็นเพื่อนหน่อยน้า..” ทั้งหวานเศร้า ร้องขอและวิงวอน ผู้หญิงบางคนมั่น..ขนาดไหน แต่พอจะต้องทำอะไรสักอย่างกลับขอให้มีเพื่อนไว้อุ่นใจก่อน

“ไม่ ขี้เกียจ.. งานแก้ก็อปปี้ง่ายๆ เออีไปขายคนเดียวก็ได้” ก็ปฏิเสธห้วนไปอย่างนั้นแหละ เพราะรู้อยู่แล้ว ยังไงก็ต้องไปกับวรรณสาวเออีฝ่ายดูแลลูกค้า ที่เก่งพรีเซ้นต์ฉกาจฉกรรจ์ แต่ถึงเวลาลงมือทำงานขึ้นมา ถ้าฉันหรือชัยชนะไม่ไปด้วยล่ะก็ มีหวัง งานขายเฟอร์นิเจอร์อาจกลายเป็นงานขายลูกอมได้ง่ายๆ

“คุณ...อะ..” เธอเริ่มบทกระเง้ากระงอดขึ้นแล้ว น่ารักน่าใคร่ชะมัด ค้อนเป็นวงๆ ให้ตายเถอะ ถ้าเป็นเธอคนนั้นของฉัน ฉันคงอ้ำอึ้ง.. หรือไม่.. ก็รับไม่ได้ เพราะกลัวหยุดใจตัวเองไม่ได้..

“ดูซิ อีคู่นี้ออกไปด้วยกันอีกละ” ยังไม่ทันเดินออกจากบริษัท ก็เจอเสียงเหน็บดังขึ้นกลางห้องอย่างไม่เกรงใจ มาจากยัยตาลฝ่ายประสานงา(น)ตัวแสบ ผู้ไม่เคยอยากให้ใครได้ดี นี่คงแอบมองสอดตลอดเลยซิท่า

บ่อยครั้งที่การทำงานหนักของฉันไม่มีใครเห็นคุณค่า ซ้ำยังเป็นผลร้ายใส่ตัวก็เพราะฝีปากของแม่เจ้าประคุณลูกตาล ประโยคหยาบคายทำฉันกับวรรณซึ่งกำลังจะออกข้างนอกชะงัก อาจเพื่อให้เราตกเป็นเป้าสายตาต่อทุกคน และอาจเพื่อตอกย้ำข่าวลือที่ฉันคั่วอยู่กับวรรณของนักข่าวตาลคนเก่งให้มีน้ำหนัก แต่ไม่เป็นไร วรรณน่ะไม่ใช่กระจอก

“คะ.. คุณตาลอยากออกไปพบลูกค้าด้วยเหรอคะ ดีค่า ไปกันเยอะๆ ลูกค้าคงดีใจที่เราให้ความสำคัญ..” น้ำเสียงหวานแหววคลอเสียงหัวเราะระรื่น สยบคู่ต่อสู้ให้ค้อนคืนสามตลบ วรรณหัวเราะสูงลงคออย่างชอบใจ

“ไปค่ะคุณขา เร็วๆ เร๊ว” สาวหวานอมเปรี้ยวปรี๊ด เต็มไปด้วยชั้นเชิงทรงเสน่ห์ รีบจูงมือฉันออกจากห้อง

ลึกๆ แล้วเธอเป็นคนใช้ได้ สามารถใช้งานคนทุกคนที่เธอต้องการ ความสามารถของคนซึ่งรายล้อมตัวเธอๆ เรียกมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองได้ก็แล้วกัน ชัยชนะยังเตือนฉันว่าอย่าไปยอมเธอบ่อยๆ ความจริงก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไรนัก แต่สำหรับยัยลูกตาลนั่น ไม่เล่นใครต่อหน้า หากพร้อมจ้วงแทงคนลับหลังได้ทุกเมื่อ คงเตรียมฟ้องหัวหน้าฉันแล้ว ให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ ซวยแน่..!! ฉันต้องถูกด่า กับเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกกับเออี เรื่องไม่เป็นเรื่อง ซวยทั้งขึ้นทั้งล่องเกิดขึ้นเป็นประจำกับฉันอยู่เสมอ

เราเดินหัวเราะกันออกมาหลังแกล้งยัยตาลพอหอมปากหอมคอ กดลิฟท์เพื่อลงไปยังชั้นจอดรถ หวั่นๆ จะเจอเธอคนนั้นเข้ามาในลิฟท์ช่วงขณะผ่านชั้นที่เธอทำงานอยู่ การปะทะกันในช่องแคบๆ และการแอบมองกันเป็นความสุขระคนทุกข์ กับความรักที่ใกล้ขนาดจ่ออยู่ตรงหน้าแต่คว้ามาครอบครองไม่ได้ อะไรจะทุกข์เท่านี้ล่ะ โชคดีลิฟท์เดินทางสู่จุดหมายโดยไม่สะดุด ไม่มีใครแวะเข้ามา น่าโล่งใจพิลึก..

แต่โชคคงไม่ล้มเลิกในการเพียรช่วยเหลือฉันง่ายๆ เจอเธอของฉันเข้าจนได้ที่ลานจอดรถ ช่างประจวบเหมาะพอดีที่วรรณเออีคนสวยดันมาจอดรถติดกับยอดยาหยีนี่ให้ ไม่รู้ตัวเองยังหายใจดีอยู่หรือเปล่า เมื่อเห็นแม่ยอดขมองอิ่มนั่งอยู่หน้ารถ เคร่งเครียดกับการโทรศัพท์ คงเคลียร์เรื่องแฟนหลายๆ คนของเธออยู่เป็นแน่แท้

เฮ้อ.. ให้ฉันหลงใหลเธอแต่เพียงในฝันเถอนะ ..ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่ายชอบกล ขอบตาฉันคงไม่ร้อน สีหน้าคงไม่ผิดสำแดง หลายคนมักทักว่าฉันมีหน้าตาไร้ความรู้สึก และเดาไม่เคยออกว่าฉันคิดอะไรอยู่

วรรณถอยรถออกจากลานจอด กำลังจะเคลื่อนจากบริษัทฯ..เพื่อออกไปพบลูกค้า ฉันคงมีเวลาอยู่ในโลกส่วนตัวอีกแป๊บ.. มองสถานที่ที่ตัวเองทำงานและตึกสูงตระหง่านที่บริษัทฯเช่าทำกิจการอยู่ เหมือนอยากเอ่ยคำร่ำลากับมัน รวมถึงแม่สาวคนนั้นของฉันด้วย

ฉันหลับตาลง เพื่อหนีใครๆ เข้าสู่โลกของตัวเองสักพัก…







Create Date : 09 มีนาคม 2551
Last Update : 11 มิถุนายน 2551 19:06:33 น. 0 comments
Counter : 453 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.