Bloggang.com : วิสกี้โซดา : ถ้าคุณมีแฟนอยู่เมืองไทย

ถ้าคุณมีแฟนอยู่เมืองไทย

วันนี้คัดลอกบทความจากทนายจรินทร ทานัชณาสัย จากหนังสือพิมพ์สยามมีเดียในแอล เอ มานะค๊ะ สําหรับเป็นข้อมูลและความรู้ให้กับผู้อยู่ต่างๆ รัฐ และผู้ที่อยู่เมืองไทยที่จะดําเนินเรื่องมาอยู่ที่อเมริกาค่ะ

quote-
ถ้าคุณเป็นอเมริกันซิติเซ่นและมีแฟนอยู่เมืองไทยคุณสามารถเลือกว่าจะยื่นเรื่องให้แฟนคุณมาอเมริกาด้วยวิธีต่างๆ ดังนี้

1. ยื่นขอวีซ่าคู่หมั้น (K-1) ให้แก่แฟนของคุณ
2. ยื่นขอวีซ่าคู่หมั้น (K-3) ให้แก่แฟนของคุณ ในกรณีที่คุณกับแฟนได้แต่งงานกันแล้ว
3. ยื่นขอวีซ่าถาวร (green card) ให้แก่แฟนของคุณ ในกรณีคุณกับแฟนได้แต่งงานกันแล้ว

1. การยื่นขอวีซ่าคู่หมั้น (K-1)
คุณสามารถยื่นขอคําร้องต่ออิมมิเกรชั่นโดยแสดงหลักฐานว่าคุณเป็นซิติเซ่น คุณและแฟนของคุณทั้งคู่เป็นโสด ซึ่งพร้อมที่จะแต่งงานกันได้ทันที พร้อมทั้งหลักฐานแสดงว่าคุณกับแฟนได้เจอกัน รู้จักชอบพอและติดต่อกัน เมื่ออิมมิเกรชั่นหรือปัจจุบันเรียกว่า USCIS อนุมัติคําร้องก็จะส่งเรื่องไปสถานกงศุลอเมริกันที่กรุงเทพ
แฟนของคุณจะต้องเตรียมเอกสาร เช่น พาสปอร์ต ใบเกิด ใบหย่า(ถ้ามี) ใบตรวจสุขภาพ และใบรับรองจากสถานีตํารวจว่าตนไม่เคยทําผิด เพื่อนําไปแสดงในวันสัมภาษณ์ สถานกงศุลอเมริกันจะออกวีซ่าคู่หมั้นให้เดินทางเข้ามาในอเมริกา คุณและแฟนจะต้องแต่งงานภายใน 90 วันและยื่นเรื่องขอใบเขียวต่อไป

ข้อดี
1. วิธีนี้เป็นวิธีที่เร็วที่สุดทีแฟนของคุณจะสามารถเข้ามาในอเมริกาได้
2. หลังจากที่ยื่นขอใบเขียว แฟนของคุณจะได้รับใบทํางานเพื่อนนําไปทําใบโซเชียล และสามารถทํางานได้
3. วิธีนี้จะเปิดโอกาสให้คุณได้มีเวลาในการตัดสินใจว่า คุณต้องการใช้ชีวิตคู่กับแฟนของคุณจริงหรือไม่ คุณมีเวลา 90 วันที่จะตัดสินใจในเรื่องแต่งงาน

ข้อเสีย
1. หลังจากที่เข้ามาในอเมริกาและแต่งงานกันแล้ว แฟนของคุณจะต้องยื่นใบเขียว และถ้าต้องการกลับประเทศไทยในขณะที่กําลังรอใบเขียว จะต้องขอใบอนุญาติเดินทาง (advance parold) เสียก่อนจึงจะเดินทางได้
2. ถ้าคุณและแฟนทะเลาะกัน และเลิกกันก่อนที่จะได้ใบเขียว แฟนของคุณจะไม่สามารถขอรับใบเขียวจากวิธีอื่นๆ โดยจะต้องกลับเมืองไทยเท่านั้น ถึงแม้แฟนของคุณจะแต่งงานงานใหม่กับซิติเซ่น เขาก็ไม่สามารถขอใบเขียวได้

2. การยื่นขอวีซ่าคู่หมั้นให้แก่คู่สมรส (K-3)

ในกรณีที่คุณได้แต่งงานกับสามีหรือภรรยาแล้ว คุณสามารถยื่นขอวีซ่าคู่หมั้นให้แก่คู่สมรสของคุณได้ โดยมี 2 ขั้นตอน ขั้นตอนที่หนึ่งคือ ยื่นคําร้องขอใบเขียวให้แก่คู่สมรส (I-130) เมื่อ USCIS ส่งจดหมายตอบรับว่าได้รับเรื่องแล้ว คุณก็สามารถดําเนินการในขั้นตอนที่สอง คือปฎิบัติเช่นเดียวกับการขอวีซ่าคู่หมัน K-1 ข้างต้น

สถานกงศุลอเมริกันจะออกวีซ่า K-3 ซึ่งมีอายุ 2 ปีให้แก่คู่สมรสของคุณ หลังจากที่คู่สมรสเข้ามาในอเมริกาแล้ว เขาก็จะต้องยื่นขอรับใบเขียว (adjust status) เช่นเดียวกับวิธีที่ 1

ข้อดี
1. คู่สมรสสามารถเข้ามาในอเมริกาได้เร็ว
2. สามารถทํางานได้หลังจากได้รับใบทํางานและใบโซเชียล
3. ไม่จําเป็นต้องขอใบอนุญาตเดินทาง เนื่องจากวีซ่ามีกําหนด 2 ปี และสามารถใช้เดินทางเข้า ออก ได้โดยไม่จํากัด
4. วีซ่า K-3 สามารถขอต่ออายุได้หลังจากที่ครบ 2 ปีแล้ว

ข้อเสีย
1. คู่สมรสของคุณต้องยื่นขอรับใบเขียว (adjust status)
2. คู่สมรสของคุณจะต้องได้รับใบเขียวจากการแต่งงานกับคุณเท่านั้น ถ้าเลิกกันก่อนเขาก็จะไม่สามารถขอใบเขียวจากวิธีอื่น

3. การยื่นขอวีซ่าถาวร (ใบเขียว) ใก้แก่คู่สมรส

ถ้าคุณแต่งงานกับแฟนของคุณแล้วและแฟนของคุณอยู่เมืองไทย คุณสามารถยื่นขอใบเขียว (I-130) ให้แก่คู่สมรส เมื่อ USCIS อนุมัติคําร้อง ก็จะส่งเรื่องไปสถานกงศุลอเมริกัน เพื่อออกวีซ่าถาวรให้แก่คู่สมรสของคุณ

เมื่อหลายปีก่อน USCIS ใช้เวลาในการอนุมัติคําร้อง I-130 เป็นเวลา 1-2 ปี ดั้งนั้นรัฐจึงได้ออกวีซ่า K-3 เพื่อให้คู่สมรสของซิติเซ่นเข้ามาในอเมริกาได้ก่อน
ในปัจจุบัน USCIS สามารถอนุมัติ I-130 ได้ในเวลาประมาณ 6 เดือนเท่านั้น ดั้งนั้นวิธีนี้อาจจะดีกว่า K-3

ข้อดี
1. คู่สมรสของคุณจะได้วีซ่าถาวร เพื่อเดินทางเข้ามาในอเมริกาเพื่อรับใบเขียวได้เลย
2. ไม่ต้องขอใบอนุญาตเดินทาง (advance parol)

ข้อเสีย
ถ้า USCIS ดําเนินการล่าช้าในการอนุมัติ I-130 คู่สมรสของคุณอาจจะต้องรอเป็นเวลานานกว่าจะสามารถเข้ามาในอเมริกา

quote -