สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ ชาวบล็อคแก็งค์ทุก ๆ ท่าน พักนี้จิตใจห่อเหี่ยวมาก ๆ ค่ะ ก็เลยอัพบล็อคเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ ใกล้ ๆ ตัวของสตรี (แต่สุภาพบุรุษก็อ่านได้นะคะ เผื่อจะได้เล่าสู่กันฟังกับคนใกล้ตัวได้ค่ะ) เพราะช่วงนี้ได้รับแต่ข่าวไม่ค่อยจะโสภาหูเท่าไหร่ มีแต่โรคภัยไข้เจ็บทั้งนั้น จขบ เองก็ป่วยเกี่ยวกับเรื่องท้อง เฮ้อ...เหนื่อยใจค่ะ ยังไม่พอเพื่อนสนิทที่เคยคบกันตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลายที่เชียงรายก็ยังป่วยด้วยโรคมะเร็งปาดมดลูก ปัจจุบันนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ. สวนดอก(เชียงใหม่) ค่ะ จขบ รู้สึกแย่ ตามกับเขาไปด้วย ระยะที่เราคบกันมาค่อนข้างนานพอดู ถึงแม้ช่วงหลังจะห่างหายกันไปบ้าง เนื่องจากต่างคนก็ต่างไปมีครอบครัว แต่เราก็ติดต่อกันเป็นประจำค่ะ จริง ๆ แล้วเขาป่วยเป็นโรคนี้มาหลายปีแล้ว ได้รับการรักษาจาก รพ ศิริราช โดยการรักษาแบบเคมีบำบัด จนอาการเขาดีขี้นจากการฉายแสง แพทย์บอกว่าไม่พบเชื้อมะเร็งแล้ว แต่ต้องไปพบแพทย์ตามกำหนด ซึ่งอาการเขาก็ดีขึ้นจริง ๆ เขาก็เลยขออนุญาตสามีว่า ขอกลับไปใช้ชีวิตกับพ่อ และ แม่ ที่เชียงราย (เพราะก่อนหน้านั้นอาศัยที่ กทม) เนื่องจากว่า ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเขา(มีอยู่คนเดียว) สอบติดที่คณะวิศวกรรมศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แล้วถ้ากลับไปอยู่ที่เชียงราย ก็จะได้ไปเยี่ยมลูกชายบ่อย ๆ ได้ แต่เพียงได้ไม่กี่เดือน เขากลับล้มป่วยลงอีก จนถึงบัดนี้ แพทย์ที่ รพ สวนดอก เชียงใหม่บอกว่า เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ต้องทำการรักษาด้วยเคมีบำบัดอีก ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อไป จขบ ได้โทรคุยกับเขา เขายังคุยได้อยู่แต่เขาเดินไม่ได้แล้ว นอนตะแคงได้ข้างเดียว เขาบอกเขาปวดมาก ๆ เขาบอกเขาอยากมีชีวิตอยู่อีกอย่างมากที่สุด อีก 5 ปี เพื่ออะไรรู้มั๊ยค่ะ เขาบอกว่า
,,ขอให้ฉันได้เห็นลูกฉันรับปริญญา แล้วพรุ่งนี้ฉันตาย ฉันก็ไม่เสียใจหรอก,,
จขบ ฟังแล้วน้ำตาร่วงเลยค่ะ นี่แหล่ะค่ะ ความรู้สึกของคนเป็นแม่ ความหวังที่เฝ้ารอ คือ วันที่เห็นความสำเร็จของลูก .....เฮ้อ ฟังแล้วจิตใจ จขบ ยิ่งห่อเหี่ยวลงไปอีก จขบ ก็เลยอยากอัพบล็อคครั้งนี้ เกี่ยวกับโรคนี้ แต่ก็คงเป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้นค่ะ .....
จริง ๆ แล้วการประชาสัมพันธ์ของโรคนี้ก็มีค่อนข้างเยอะ แต่ จขบ ก็ยังอยากนำบางส่วนมาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านกันไว้ เป็นความรู้ที่อ่านไว้ไม่เสียหลายค่ะ และเป็นเรื่องที่เราปฏิบัติได้ไม่ยากด้วยค่ะ....
ฉัน ต้องตรวจ "มะเร็งปากมดลูก" หรือเปล่า ...
ผู้หญิงทุกคน (สตรีกลุ่มเป้าหมายอายุ 35-60 ปี) ที่เคยมีเพศสัมพันธ์
ควรต้องทำ Pap Smear ทุก 5 ปี
แม้ว่า คุณจะหมดประจำเดือนไปแล้ว
หรือไม่มีเพศสัมพันธ์มาหลายปีก็ตาม
ทำไม ต้องตรวจมะเร็งปากมดลูก (แป็ปสเมียร์) ?
การทำแป็ปสเมียร์ (Pap Smear) สามารถตรวจพบสิ่งผิดปกติที่ปากมดลูกได้ ซึ่งจะเป็นสัญญาณเตือนให้ทราบว่า เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น ที่ปากมดลูก การเปลี่ยนแปลงนี้ อาจถึงขั้นเป็นมะเร็ง แต่อาจจะกลายเป็นมะเร็งได้ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง การตรวจแป็ปสเมียร์ (Pap Smear) ส่วนมาก ผลการตรวจจะปกติ แต่ถ้าเกิดผิดปกติ หรือสงสัยว่าจะเป็นมะเร็ง จะต้องได้รับการตรวจเพิ่มเติมอีก เพื่อให้ได้การวินิจฉัยโรคที่ถูกต้อง
ถ้าได้รับการตรวจแป็ปสเมียร์ (Pap Smear) อย่างสม่ำเสมอ จะช่วยป้องกันการเกิดมะเร็งปากมดลูก ในระยะลุกลามได้
ปากมดลูก อยู่ที่ไหน ?
ปากมดลูก คือ ส่วนล่างสุดของมดลูก อยู่ติดกับส่วนบนสุดของช่องคลอด ปากมดลูกเปรียบเสมือนประตูทางเข้า-ออก ระหว่างมดลูก และช่องคลอด ปากมดลูกจะต้องปิดเมื่อมีการคลอด การแท้ง
การตรวจแป็ปสเมียร์ (Pap Smear) ทำอย่างไร ?
เป็นการตรวจที่ง่ายมาก และใช้เวลาเพียง 2-3 นาทีเท่านั้น ไม่เจ็บ ไม่ปวด ไม่ใช่การผ่าตัด แพทย์หรือพยาบาลจะสอดเครื่องมือที่เรียกว่า คีมปากเป็ดอันเล็กๆ เข้าไปในช่องคลอด ก็จะเห็นปากมดลูกอย่างง่ายดาย แพทย์จะใช้ไม้บางๆ เพื่อขูด และเก็บเซลล์จากปากมดลูก โดยหมุนไม้ไปให้รอบปากมดลูก เพื่อขูดเอาเซลล์ที่บุปากมดลูก มาป้ายบนแผ่นกระจก และส่งไปยังห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาเซลล์มะเร็ง และเซลล์ที่ผิดปกติ ในระยะก่อนเป็นมะเร็ง
แป็ปสเมียร์ (Pap Smear) ให้ผลถูกต้องมากไหม ?
ปัจจุบัน แป็ปสเมียร์ (Pap Smear) เป็นวิธีการคัดกรองที่ดีที่สุด สำหรับการตรวจหามะเร็งปากมดลูก แต่ไม่ให้ผลถูกต้องร้อยเปอร์เซนต์ บางครั้งอาจจะให้ผลเป็นปกติ ทั้งๆ ที่มีเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูก
แต่ถ้าทำแป็ปสเมียร์ (Pap Smear) อย่างมีคุณภาพ และมารับการตรวจแพทย์แนะนำ จะสามารถวินิจฉัยมะเร็งในระยะเริ่มแรกได้
การทำแป็ปสเมียร์ (Pap Smear) เจ็บไหม ?
การทำ Pap Smear อย่างถูกต้อง ตามวิธีการจะไม่รู้สึกเจ็บ โดยเริ่มตั้งแต่การจัดท่านอนตรวจ ขนาดของเครื่องมือที่ใช้ให้พอเหมาะ ทิศทางการใส่เครื่องมือถูกต้อง การคล้องปากมดลูกให้เห็นชัดเจน ร่วมกับความร่วมมือของผู้รับการตรวจ จะช่วยให้การตรวจทำได้อย่างง่ายดาย การกระทำต่างๆ ที่บริเวณปากมดลูก เช่น การขูด ตัด จี้ ฯลฯ ผู้ถูกกระทำอาจจะรู้สึก แต่ไม่เจ็บ
ฉันยังแข็งแรงอย่างนี้ ต้องตรวจแป็ปสเมียร์ (Pap Smear) ด้วยหรือ ?
การตรวจแป็ปสเมียร์ (Pap Smear) อย่างสม่ำเสมอ ยังมีความจำเป็น แม้ว่าคุณจะมีสุขภาพแข็งแรง เพราะการที่ปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลง ไปเป็นมะเร็ง ในระยะเริ่มแรก จะไม่เจ็บปวด หรือมีอาการใดๆ เลย การผิดปกติในระยะก่อนเกิดเป็นมะเร็ง จำเป็นต้องรักษา ก่อนที่จะกลายไปเป็นมะเร็ง สตรีมีเลือดออกทางช่องคลอด หรือตกขาวผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน แม้ว่า ผลการตรวจมะเร็งปากมดลูกจะปกติก็ตาม
ฉันจะต้องเตรียมตัวก่อนตรวจ Pap Smear อย่างไรบ้าง ?
1.ต้องไม่มีการตรวจภายในมาก่อน 24 ชั่วโมง
2.ห้ามล้างหรือทำความสะอาดภายในช่องคลอด มาก่อน 24 ชั่วโมง
3.เว้นการเหน็บยา ในช่องคลอดมาก่อน 24 ชั่วโมง
4.เว้นการมีเพศสัมพันธ์คือก่อนมารับการตรวจ
ฉันต้องเตรียมตัวก่อนตรวจ Pap Smear หรือเปล่า ถ้าเคยตัดมดลูก และปากมดลูกออกไปแล้ว ?
ถ้าก่อนผ่าตัดเคยได้รับการตรวจมาก่อนแล้ว และการผ่าตัดไม่เกี่ยวกับโรคมะเร็ง อาจเว้นระยะการตรวจให้ห่างออกไปได้ หรือตรวจซ้ำ เมื่อมีอาการผิดปกติ แต่ถ้าเป็นการผ่าตัดรักษามะเร็ง คุณก็ยังต้องตรวจ Pap Smear อย่างสม่ำเสมอตามแพทย์แนะนำ
ช่วงเวลาไหนที่เหมาะสมที่จะตรวจมะเร็งปากมดลูก (Pap Smear) ?
- ผู้ที่ยังมีประจำเดือนมาตามปกติ ระยะเวลาที่เหมาะสมในการตรวจ คือ สัปดาห์ที่ 3 ต้นสัปดาห์ที่ 4 ของรอบเดือน
- ในขณะรับยาคุมกำเนิดด้วยฮอร์โมน สามารถตรวจได้ทุกเวลา
- ในวัยสูงอายุ หมดประจำเดือนแล้ว ตรวจได้ทุกเวลา ถ้าหมดไปนานแล้ว อาจต้องให้ฮอร์โมนก่อนสักระยะหนึ่ง เพื่อแก้ไขในเรื่องสภาพเซลล์เสื่อม (Atrophy)
- ในรายหลังคลอด ควรได้รับการตรวจในสัปดาห์ที่ 8-10 หลังคลอด
ฉันไปตรวจมะเร็งปากมดลูกได้ที่ไหนบ้าง ?
- โรงพยาบาลรัฐ และเอกชน และเครือข่ายในโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าทุกแห่ง จำนวน 47 แห่ง
- ศูนย์บริการสาธารณสุข กทม. ทุกแห่ง จำนวน 65 แห่ง
- คลินิกชุมชนอบอุ่น จำนวน 57 แห่ง
- โรงพยาบาลเอกชน และคลินิกเอกชนที่มีคุณสมบัติที่กำหนด และขอสมัครเข้าร่วมอีก 9 แห่ง
ใช้เวลานานเท่าไหร่ จะรู้ผลการตรวจ ?
ประมาณ 1-4 สัปดาห์
ควรตรวจ Pap Smear เมื่ออายุเท่าไหร่ ?
สตรีที่มีเพศสัมพันธ์แล้วทุกคน ควรตรวจทุกปี หรือ 2 ปี หากได้ผลปกติ 2-3 ครั้ง ก็สามารถจะเว้นระยะห่างออกไปได้ แต่ถ้าหากไม่สามารถจะทำได้ตลอด อย่างน้อยก็ควรตรวจเมื่ออายุ 35 ปี และตรวจทุก 5 ปี จนอายุ 60 ปี
จะปลอดภัย ต้องตรวจมะเร็งปากมดลูกอย่างสม่ำเสมอ ?
ส่วนใหญ่ที่ตรวจมะเร็งปากมดลูก ผลจะปกติ มีบางคนเท่านั้นจะมีผลผิดปกติ โปรดจำไว้ว่า หากผลการตรวจผิดปกติ ต้องรีบพบสูตินรีแพทย์ทันที เพื่อจะตรวจและรักษา หากปล่อยทิ้งไว้ จะกลายเป็นมะเร็งระยะลุกลาม รักษาลำบาก และเสียชีวิตได้
Create Date : 06 ธันวาคม 2552 |
|
13 comments |
Last Update : 6 ธันวาคม 2552 18:18:04 น. |
Counter : 11178 Pageviews. |
|
|