อินเทรนด์กับการ์ดเชิญ "หน้าญี่ปุ่น"
ฉันเคยบอกคุณๆ กันหรือยังว่า ไอเดียการ์ดแต่งงานของฉันกับสามีได้มาจากแผ่นพับโฆษณา ประชาสัมพันธ์สินค้าที่ส่งมาทางไปรษณีย์ แผ่นพับโฆษณาพวกนี้มีลักษณะเหมือนการ์ดเชิญ อาจจะมีขนาดใหญ่ หรือเล็กกว่าการ์ดมาตรฐานทั่วไปนิดหน่อย
การ์ดเชิญที่มีรูปแบบดีไซน์สวยๆ เดี๋ยวนี้ราคาไม่ใช่น้อย เดินเข้าไปถามราคาบางร้าน แพงหูฉี่ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่การ์ดที่ออกแบบมาเพื่อลูกค้าคนใดคนหนึ่ง เรียกว่าเป็นการ์ดดีไซน์พิเศษที่สามารถขายใครก็ได้ที่เงินถึง ไม่ต้องพูดถึงการ์ดที่ออกแบบมาแบบเดียวในโลก (หรือเปล่า) ฉันไม่อยากนึกถึงราคาว่ามันจะขนาดไหน แหม เฉพาะค่าการ์ด งบประมาณก็บานเสียแล้ว
แต่เรื่องนี้ก็ต้องทำความเข้าใจกันก่อน เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ว่าจ้างออกแบบ และลูกค้า ค่าออกแบบ หรือค่าดีไซน์ หรือค่าความคิดนี้ มันออกจะประเมินราคากันลำบาก มันเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง บางคนเก่งคอมพิวเตอร์ เก่งโปรแกรม ตัดต่อ แปะ ปรับ ได้สารพัด แต่พอให้ออกแบบ ทำออกมาไม่ได้ซะอย่างนั้น บางคนพอทำได้ แต่ออกมาแข็งๆ บางคนไม่ได้จบงานด้านนี้มาเลย แต่พอให้มาจับงานดีไซน์ ทำออกมาได้ราวกับมืออาชีพ อย่างนี้เขาเรียกคนมีหัว
งานดีไซน์การ์ดบางอัน เราเห็นว่าง่ายๆ ไม่เห็นมีอะไรเลย ที่คิดว่าง่ายก็เพราะเราเห็นของจริงแล้ว เอาง่ายๆ ยกตัวอย่างตัวเองดีกว่า ไม่ต้องให้ดีไซน์หรอก แค่ให้แต้มสีลงวัตถุ ก็ดับสนิท ไอ้เรื่องโทนสี สีใกล้เคียง สีตรงกันข้าม เรื่องพื้นๆ แบบนี้ ฉันยังงมโข่งเลย
ค่าออกแบบจึงเป็นค่าตอบแทนที่เราจ่ายให้กับนักออกแบบเป็นค่าเวลาที่ประเมินค่ามิได้นั่นเอง
เพราะฉะนั้นแล้วคนเงินถึง แต่ใจไม่ถึง (ที่จะจ่าย) จึงมีทางออกง่ายๆ หยิบจับของใกล้ๆ ตัวอย่างที่ฉันกำลังจะนำเสนอมาลองปรับแก้ไข เพื่อประหยัดงบให้งานแต่งของคุณเป็นงานแต่งงบไม่บาน
แผ่นพับโฆษณาพวกนี้มักส่งมาจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ระดับมหาชน การส่งแผ่นพับลักษณะนี้มา แสดงว่ามีอีเวนท์ที่สำคัญ และส่งให้คนหมู่มาก จึงต้องมีการออกแบบให้ลูกค้าสะดุดตาสะดุดใจ ฉันจึงมองว่าต้นทุนถัวเฉลี่ยในการออกแบบน่าจะเป็นเรื่องจิ๊บๆ สำหรับบริษัทระดับบิ๊กๆ แบบนี้ แต่สำหรับคนทั่วไปอย่างเราๆ แล้ว คงต้องเสียเงินหลายหมื่นเพื่อการนี้เป็นแน่
อย่ากระนั้นเลย เรามาแสวงของใกล้ตัวมาดัดแปลงให้กลายมาเป็นการ์ดหรูของเราดีกว่า ลองมาดูแผ่นพับใบนี้กัน แผ่นพับนี้มีขนาด 8 x 7 นิ้ว เป็นของบัตรเครดิต KTC รุ่น JCB
ด้านหน้าของการ์ด รูปภายในวงกลมจึงออกแบบให้ความรู้สึกเป็นญี่ปุ๊นญี่ปุ่น เพราะ JCB เป็นเครือข่ายที่ใช้ได้ดีมาก แต่ดีเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น
ผู้ออกแบบจับด้านปลายของแต่ละด้านมาชนกันพอดี ไดคัทกระดาษให้มีลักษณะเป็นวงกลม และวางภาพให้อยู่บนวงกลม ให้ลวดลายทั้งสองด้านต่อเนื่องกัน
การ์ดแบบนี้คงจะเหมาะกับคู่บ่าวสาวที่มีรายละเอียดของงานมาก หรือต้องการแสดงเรื่องราวของทั้งคู่ให้แขกได้รับทราบเบื้องต้น หรือต้องการสร้างธีมในกรณีที่จัดงานแต่งงานภายใต้คอนเซ็ปต์ เพราะสามารถหยอดรายละเอียดลงไปทั้งปีกซ้าย และปีกขวาของแผ่นพับ นี่ยังไม่หน้ากระดาษด้านในอีก
ความหนาของกระดาษน่าจะอยู่ที่ราวๆ 140 - 150 แกรม ฉันไม่แนะนำให้ใช้กระดาษหนามากเกินไป เพราะเคยประสบปัญหานี้กับตัวเองมาแล้ว ด้วยกลัวว่าการ์ดจะออกมาดูไม่ดี จึงสั่งกระดาษที่มีความหนาจำนวนแกรมสูงลิ่ว จนพับกระดาษไม่ลงเลย ต้องแก้ปัญหาด้วยการเอาของหนักๆ ไปทับอยู่เป็นสัปดาห์ จึงค่อยยังชั่ว ตัวการ์ดจึงได้หุบลงได้ ไม่อ้าเป็นถั่วปากอ้าเหมือนตอนเอามาใหม่ๆ เล่นเอาลุ้นจนตัวโก่งว่าจะส่งการ์ดทันหรือไม่
ส่วนตัวซองของแผ่นพับโฆษณาอันนี้ มีสีเดียวกันกับตัวแผ่นพับ แปะชื่อผู้รับด้านหน้าด้วยสติกเกอร์ที่ใช้ทั่วๆ ไป สำหรับกรณีการ์ดแต่งงาน การใช้สติกเกอร์แปะดูไม่เหมาะสม ฉันเคยอ่านเจอนักวางแผนแต่งงานมืออาชีพ แนะนำว่าการใช้ลายมือเขียนดูเหมาะสมที่สุด ออกแนวๆ จริงใจ แต่ปัญหาคือลายมือนะสิ จึงทำให้เกิดอาชีพเขียนจ่าหน้าซองขึ้นมาเลยทีเดียว
เมื่อราวๆ 3 ปีที่แล้ว มีงานแต่งงานระดับไฮโซ และหรูหรามาก ถึงกับจ้างคนมาเขียนจ่าหน้าซองการ์ดเชิญด้วยปากกาที่ฉันไม่รู้ว่าเขาเรียกว่าอะไร แต่หัวของมันมีลักษณะคล้ายๆ ปากกาคอแร้งที่เด็กนักเรียนโรงเรียนคอนแวนท์ต้องฝึกใช้เพื่อบังคับให้ลายมือสวย ขอบอกว่าเขียนยากเป็นบ้า และเมื่อยมือชนิดที่ตอนนั้นฉันไม่เข้าใจว่าโรงเรียนจะให้ใช้ปากกาอย่างนี้ทำไม เพราะแพง และพอเขียนไปสักพักต้องดูดหมึก บางทีจดตามคุณครูบอกจดไม่ทัน เซ็งอีก ตอนนี้ถึงได้ทราบวัตถุประสงค์ว่าเพื่อให้ลายมือสวย เพราะการใช้ปากกาแบบนี้ เขียนเร็วๆ หวัดๆ ไม่ได้ เพราะหัวปากกาฟืดมาก เพราะฉะนั้นใครลายมือสวยๆ อาจได้เงินจากการรับจ้างเขียนจ่าหน้าซองการ์ด
ถ้าหากใครสนใจจะใช้แผ่นพับแบบนี้เป็นการ์ดเชิญ ก็อาจจะต้องเสียเงินสักหน่อยเพื่อจ้างกราฟฟิคดีไซเนอร์ออกแบบภาพด้านหน้า ด้านใน และจัดวางประโยคเพื่อให้ดูเป็นการ์ดในแบบฉบับของคุณให้มากที่สุด ค่าใช้จ่ายอาจจะอยู่ที่ราวๆ 3,000 - 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่าย และแน่นอนขึ้นอยู่กับความสนิทสนมระหว่างผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้าง ถ้าหากคุณมีเพื่อนที่เก่งทางด้านนี้ อาจจะขอร้อง แกมบังคับ หรือขู่เข็ญ ขอให้ออกแบบให้หน่อยเพื่อเป็นของขวัญวันแต่งงาน
ถ้าใครใช้วิธีนี้ได้ โอ๊ย ประหยัดไปอีกมากโข อ่า ที่เขียนมาเนี่ย เพราะฉันเองก็ใช้วิธีนี้มาก่อน เพียงแต่ไม่ได้ไปจ้างใครที่ไหน ฉันจ้างเจ้าบ่าวซึ่งก็คือสามีของฉันทำให้นั้นเอง งานนี้เลยจ่ายค่าจ้างด้วยความรักเป็นค่าตอบแทน ใครจะนำวิธีนี้ไปใช้บ้าง ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ทั้งประหยัด ทั้งจิก ทั้งใช้ได้ ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
Create Date : 29 กรกฎาคม 2553 |
|
0 comments |
Last Update : 10 สิงหาคม 2553 21:58:38 น. |
Counter : 4716 Pageviews. |
|
|
|