ทริปชิลๆที่ปากช่อง ตอนที่ 2 Sweety Room @ Belmont Village
ปากช่อง นครราชสีมา
15-16 มกราคม 2555
หลังจากเที่ยว ชม ชิมไวน์กันแล้ว ก็ได้เวลาออกเดินทางเพื่อตามหาที่พัก เนื่องจากวันที่พวกเราไปกันเป็นวันอาทิตย์ ทำให้มีรถขาเข้ากรุงเทพเยอะมากๆ และทางที่เราออกมาจากไร่พีีบีก็ดันเป็นทางขาเข้ากรุงเทพพอดี ทำให้พวกเราต้องไหลไปตามกระแสรถบนถนน กว่าจะแทรกตัวกลับเข้าสู่ทางไปโคราชได้เกือบแย่ เพราะนอกจากจะรถเยอะ ยังไม่รู้ทางกันอีกต่างหาก แต่ในที่สุดก็สามารถกลับสู่เส้นทางมุ่งหน้าไปโคราชจนได้ ถึงแม้จะวนเวียนกันจนเวียนหัวก็ตาม แต่เมื่อมุ่งหน้าสู่โคราชเพื่อไปหาที่พัก นั่นคือ "Belmont Village" แล้วก็ใช่ว่าพวกเราจะไปกันแบบสบายๆ 555 ยังคงต้องจ้องทางกันเป็นว่าเล่น เทียบจากแผนทีที่ปรินท์มาหลายๆอัน และหลายๆที่แล้ว (รีสอร์ทและตามการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว) รู้สึกได้เลยว่าแทบจะทุกอันมีความผิดพลาดด้านสเกล เพราะเปรียบเทียบจากหนึ่งที่ไปหนึ่งที่น่าจะใกล้ไกลต่างกันไม่เท่าไหร่ แต่ปรากฏว่าจริงๆห่างกันเยอะ
หลังจากวนผิดไปผิดมา จากคิดว่าจะไปทางนั้นแต่ดันเข้าผิดเลนส์ กลายเป็นว่าาดีแล้วที่ไม่เข้า เพราะมันผิด มึนกันไป แต่ในที่สุดเราก็เจอเส้นทางที่ถูกต้องโดยอาศัยการไปตามหมายเลขถนน และเริ่มมีป้ายบอกทางไปรีสอร์ทแ้ล้ว แต่เหมือนโชคไม่เข้าข้าง พอเริ่มเข้าทางที่ถูกต้องฝนก็เทลงมาอย่างไม่เกรงใจกันเลย ฝนตกหนักมากๆๆๆๆ ⁞แต่พวกเราทั้งเจ็ดชีวิตก็ค่อยๆเคลื่อนรถไปเรื่อยๆพร้อมเพ่งสายตาค่อยจ้องป้ายบอกทาง และในที่สุดเราก็มาถึง Belmont Village ฝนยังกระหน่ำไม่ยอมเบาเลย ตัวเราเลยฝ่าฝนเพื่อเข้าไปยังล็อบบี้ ลืมเอาร่ม มาอีกต่างหาก เปียกโชกเลย พอเช็คอินเรียบร้อยได้รับกุญแจและคูปองอาหารเช้าทั้ง 3 ห้อง รวมทั้งสเต็ก 3 จานที่ได้เป็นของแถมตามวอชเชอร์แล้ว พนักงานก็เอาร่มคันใหญ่มาพาพวกเราทั้งหมดไปสู่ห้องพัก ฝนขนาดนี้คงได้แต่พักในห้องก่อน เพราะฉะนั้นพาสำรวจห้องก่อนดีกว่า
เริ่มต้นที่ห้องของตัวเองก่อน หมายเลขห้อง 102A เป็นห้องแบบ Dutch Village มีชั้นลอยค่ะ ลวดลายของห้องนี้เป็น ดอกทานตะวัน สีสันในห้องออกโทนร้อนไปนิด แต่สวยมากๆค่ะ เข้าไปแล้วปลื้มเลยค่ะ ในห้องมีเตียงเดียวสองเตียงสะอาดดีมากๆ มีโซฟาตั้งติดกับประตูค่ะ โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะวางทีวีพร้อมสรรพ บนโต๊ะยังคงคอนเซ็ปทานตะวันค่ะ มีลายทานตะวันวาดอยู่อย่างสวยงาม เครื่องใช้สอยก็พร้อมค่ะ ทีวี ตู้เย็น พร้อมไดร์เป่าผมด้วย
ในตู้เย็นมีน้ำเปล่าฟรีอยู่สองขวด ซึ่งจะเป็นขวดแก้วค่ะ แล้วก็มีมินิบาร์ในตู้พร้อมป้ายบอกราคาเรียบร้อย ซึ่งเทียบดูแล้วก็ไม่แพงค่ะ ดูจากที่ด้านนอกรีสอร์ทก็ไม่มีร้านขายของใกล้ๆและราคาที่บวกขึ้นมาไม่มากเกิน นอกจากนี้ยังมีกาต้มน้ำและกาแฟซองไว้ให้ฟรีๆด้วย นอกจากนี้ในห้องพักยังมีรองเท้าใส่ในบ้านใ้ห้ด้วย เป็นลายดอกไม้ อีกเหมือนกัน ถึงจะไม่ใช่ทานตะวันก็เถอะ
ด้านเข้าไปด้านในก็จะเจอห้องน้ำอยู่ข้างบันไดทางขึ้นชั้นลอย ห้องน้ำสีสันผิดโทนไปหน่อย แต่ก็ช่วยให้ความรู้สึกได้ผ่อนคลายสายตาจากสีโทนร้อนในห้องนอนมาเป็นสีโทนเย็นในห้องน้ำบ้างก็ดีเหมือนกัน อุปกรณ์ในห้องน้ำพร้อมทั้งยาสระผม สบู่ทั้งแบบก้อนและแบบเหลว มีคัตตอนบัตและหมวกคลุมผมพร้อม และผ้าเช็ดตัวและผ้าเช็ดหน้าให้อีกอย่างละสามผืน ส่วนเปียกมีม่านกั้นไ้ว้เรียบร้อย อาบน้ำแบบฝักบัวพร้อมเครื่องทำน้ำอุ่น สำรวจห้องน้ำเสร็จก็พุ่งตรงไปสำรวจชั้นลอย บันไดทางขึ้นแคบนิดหน่อยตามขนาดห้อง ด้านบนมีฟูกหนานุ่มอยู่อีก 2 หลัง ปูไว้พร้อมใช้งานแล้ว 1 หลัง มีหมอนและผ้าห่มพร้อม สำหรับคนต้องการใช้บริการเตียงเสริม ข้างบนนี้ก็มีแอร์อีก 1 ตัว รับรองเย็นทั่วถึงแน่ๆ
เมื่อฝนเริ่มซาลงแล้วก็สามารถตามไปดูห้องเพื่อนๆข้างเคียงได้แล้ว จริงๆทั้ง 3 ห้องของเราอยู่ติดกันค่ะ บ้านพักแบบ Dutch Village มี 12 หลัง แยกเป็น 3 แถวๆละ 4 ห้อง โดยแต่ละแถวเรียงกันลึกเข้าไปแบบไล่ระดับค่ะ ระหว่างห้องในแถวเดียวกันจะมี สวนหินเล็กๆกั้นระหว่างห้องที่ 1 กับห้องที่ 2 และห้องที่ 3 กับห้องที่ 4 ส่วนห้องที่ 2 กับ 3 นั้นติดกันค่ะ ด้านหน้าบ้านทุกหลังมีชุดเก้าอี้นั่งเล่นอยู่ค่ะ ไปสำรวจห้อง 101A ก่อน ห้องนี้เป็นห้องกุหลาบ ลวดลายทุกอย่างเป็นกุหลาบหมดเลย สวยแบบหวานๆ ต่างจากห้องทานตะวันที่สวยแบบสดใส มีชั้นลอยเหมือนกัน
จากห้อง 101A ก็ข้ามไป 103 บ้างห้องนี้ไม่มีชั้นลอย ชื่อห้องคือ ลิลลี่ค่ะ ห้องนี้มีดอกลิลลี่หลากหลายสีค่ะ ทั้งสีขาวและชมพู เป็นห้องหวานๆแบบเรียบร้อยๆ นิ่งๆ สีเย็นๆ สิ่งที่ชอบที่สุดในห้องนี้คือ โซฟาสวยที่สุด เป็นหลายดอกไม้หวานๆ
หลังจากฝนหยุดไป ภายนอกห้องพักก็ชื้นแฉะเลยทีเดียว แปลงต้นไม้หน้าห้องพักมีธารน้ำไหลอยู่แรงทีเดียวตอนฝนตกเริ่มหายไปแล้ว พวกเราก็ไปถ่ายรูปเล่นรอเวลาที่นัดทางห้องอาหารของรีสอร์ทไว้ ที่ต้องนัดเวลาไว้ก่อนเพราะทางพนักงานต้อนรับแจ้งไว้ว่าจะได้เตรียมสเต็กเพื่อเสิร์ฟให้ทันตามเวลา เราจะได้ไม่ต้องไปรอนานค่ะ
พอไปถึงด้วยความหิวทุกคนเลยสั่งอาหารกันยกใหญ่ ได้มาอีก 6 จาน ไม่นับสเต็กหมู 3 จานที่ได้ตามวอชเชอร์ แล้วมาแบ่งกันทาน ได้แก่ จานที่ 1 สปาเก็ตตี้ครีมชีสเบคอน จานนี้ทั้งครีมทั้งชีสค่ะ แต่เราชอบมาก จานที่ 2 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ จานนี้หวานไปหน่อย มะเขือเทศเยอะมาก จานที่ 3 สปาเก็ตตี้ซีฟู้ด มีทั้งกุ้ง ทั้งหอย และปลาหมึก มาแบบจัดเต็ม จานที่ 4 สปาเก็ตตี้กุ้ง ขอบอกว่ากุ้งเน้นๆ จานที่ 5 ข้าวผัดปู จานนี้สำหรับเด็กน้อยหนึ่งเดียวในทริป แต่ดูเหมือนจะถูกน้าๆแย่งนะ จานที่ 6 ยำทะเล จานนี้เอามาตัดความเลี่ยนของอาหารอิตาเลียนค่ะ อร่อยใช้ได้เลย สำหรับสเต็กซึ่งงานนี้จัดเป็น สเต็กหมูทั้งสามจาน เพราะไม่มีใครทานเนื้อ ขอบอกวาเนื้อนุ่มมากๆค่ะ ผักเคียงก็สด กรอบ หวาน ที่ชอบที่สุดคือ มันฝรั่งที่ย่างมากค่ะ อร่อยมากๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารทานเล่นอย่าง ขนมปังกระเทียมสมุนไพรมารองท้องก่อนด้วย
หลังทานอาหารกันจนอิ่มก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน แล้วออกมารวมตัวทำภารกิจที่สร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อแขนอย่างมาก คืออะไรต้องดูจากภาพ ขอบอกว่าใช้พลังแขนอย่างมากจริงๆ
หลังจากพักผ่อนกันเต็มที่แล้วก็ได้เวลาสำหรับเช้าวันใหม่ อากาศยามเช้าสดชื่นมากๆ ถึงจะไม่ได้หนาว แต่ก็เย็นสบาย พ้นจากช่วงบ้านพักไปทางด้านในของรีสอร์ทที่ต่อกับท้องทุ่งและบึงน้ำจะหนาวเป็นพิเศษ ช่วงเช้ามืดก็มีหมอกลงหนาอยู่ แต่เพราะฟ้ามืดเลยไม่ได้ออกไปชื่นชม ได้แต่เปิดประตูห้องไปดู พอเจ็ดโมงครึ่งก็ได้เวลารวมตัวกันสำหรับอาหารเช้าแล้ว อาหารเช้าเป็นแบบบุฟเฟ่ห์ มีให้เลือกพอประมาณ ทั้งข้าวผัด ไส้กรอก แฮม ขนมปัง ข้าวต้มเครื่อง (หมูเยอะมากๆ) ไข่ดาว ออมเล็ต (จานนี้ต้องไปสั่ง แล้วพ่อครัวจะไปทำมาให้จากครัวด้านใน) สลัดผัก (มีน้ำสลัดให้เลือกหลายแบบ) และผลไม้ เครื่องก็มีน้ำเปล่า น้ำส้ม นมสด และกาแฟ กินกันได้เต็มที่ไม่มีกั๊ก เราก็จัดไปหลายอย่างอยู่ อร่อยทุกอย่างเลย
ถึงแม้วันนี้จะเป็นเช้าวันจันทร์แต่ก็มีนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนอยู่เยอะเหมือนกัน ส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัว อาหารเช้าที่จัดไว้ก็เต็มที่ สังเกตเห็นว่าพนักงานค่อยเติม ค่อยเก็บจานอยู่ตลอดเวลา ตอนที่นั่งทานกันอยู่มีแมวมานั่งอยู่ใต้โต๊ะ ตอนแรกพี่ในกลุ่มก็เล่นๆกับมัน พอทำท่าจะให้อาหาร มีพนักงานเดินมาบอกว่า "อย่าให้นะคะ มันเป็นแมวป่า ดุ" เท่านั้นแหละ กระจัดกระจายทั้งโต๊ะ พนักงานก็รีบมาช่วยไล่ไป
หลังทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาเก็บภาพรอบๆรีสอร์ตในบรรยากาศสดใสยามเช้า ถ่ายกันไปทั่วเลย ที่นี่มีจุดให้ถ่ายรูปเยอะมากๆ คือเดินไปตรงไหนก็มีการจัดสถานที่ไว้พร้อมให้ถ่ายรูป เลยจัดกันไปเต็มที่ ก่อนจะได้เวลาบอกลา "Belmont Village" ไปถ่ายรูปกันต่อที่ "Palio"
Create Date : 24 มกราคม 2555 |
Last Update : 24 มกราคม 2555 19:29:30 น. |
|
3 comments
|
Counter : 2051 Pageviews. |
|
|
ห้องพักน่ารัก พนักงานบริการดี และอาหารอร่อยด้วย