Global Electronic Commerce...พาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์โลก
การเจริญเติบโตของอินเตอร์เนตมีความสัมพันธ์กับกิจกรรมของมนุษย์ในทุกๆด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการค้า อินเตอร์เนตกลายเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดและมีผู้คนมากมายหลากหลายที่สุด และเนื่องจากการพัฒนาของตลาดออนไลน์นี้เองนำไปสู่การรับ (adopt) ปฏิญญาว่าด้วยพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์โลก หรือ Declaration on global electronic commerce เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม ค.ศ.1988 (พ.ศ.2541) ในการประชุมระดับคณะรัฐมนตรีครั้งที่ 2 ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยยอมรับว่า พาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์โลกกำลังเจริญเติบโตและสร้างโอกาสใหม่ทางการค้า และขอให้คณะมนตรีทั่วไปจัดตั้งคณะทำงาน (Work Programme) ขึ้นมาเพื่อศึกษาประเด็นการค้าที่เกี่ยวกับพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์โลก ประกอบด้วย
1. คณะมนตรีว่าด้วยการค้าสินค้ามีหน้าที่พิจารณาประเด็นความเกี่ยวข้องของพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์กับการค้าสินค้า เช่น การค้าสินค้าที่ผ่านกระบวนการพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์นั้นจะมีการจำแนกพิกัดภาษีศุลกากรสินค้าอย่างไร หรือจะถือว่าสินค้านั้นมีแหล่งกำเนิดมาจากที่ไหน
2. คณะมนตรีว่าด้วยการค้าบริการนั้น พิจารณาความเกี่ยวข้องของพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์กับการค้าบริการ เช่น จะถือว่าการค้าผ่านอิเลคทรอนิกส์เป็นการค้าบริการหรือไม่
3. คณะมนตรีว่าด้วยเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา มีหน้าที่พิจารณาว่าจะคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาต่างๆ ที่ส่งผ่านสื่ออิเลคทรอนิกส์อย่างไร
4. คณะกรรมการว่าด้วยการค้ากับการพัฒนานั้นมีหน้าที่พิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา เช่น ผลกระทบของพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนา
โดยมีการออกกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อใช้สนับสนุนและผลักดันให้เกิดการดำเนินงานในส่วนของพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น กำหนดให้ประเทศสมาชิกละเว้นภาษีศุลกากร มีการยกร่างกฎหมายต้นแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ในขณะเดียวกันกลุ่มความร่วมมือระดับภูมิภาคต่างๆ ก็มีการจัดกิจกรรม การประชุมสัมมนา เพื่อวางกรอบนโยบาย และกำหนดขั้นตอนในการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในแต่ละประเทศ
ปัจจุบันประเทศไทยได้มีการพิจารณาร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อการดำเนินธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนทั้งสิ้น 6 ฉบับ และได้มีการประกาศใช้ พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2544 เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2544 และมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2545 โดยนำรูปแบบมาจาก UNCITRAL Model Law on Electronic Commerce 1996 และ UNCITRAL Model Law on Electronic Signature 2001 มีคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็คทรอนิกส์เป็นผู้ดูแล นอกจากนี้ กำลังดำเนินการจัดทำกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศอีก 4 ฉบับ ได้แก่ กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศ กฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายเกี่ยวกับอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ และกฎหมายเกี่ยวกับการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์
นโยบายการพัฒนาประเทศที่สำคัญอีกด้านหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป คือ การส่งเสริมและให้ความรู้ทางด้านอิเล็คทรอนิกส์ อย่างไรก็ตาม การมีกฎหมายที่สามารถควบคุมดูแลการดำเนินธุรกรรมอิเล็คทรอนิกส์ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะช่วยส่งเสริมการค้าและลงทุนให้กับนักลงทุนบนตลาดไร้พรมแดนนี้อีกทางหนึ่ง
Create Date : 03 พฤษภาคม 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 3 พฤษภาคม 2551 9:11:05 น. |
Counter : 1197 Pageviews. |
|
|
|