บริหาร การจัดการ การตลาด พัฒนาตนเอง พัฒนาความคิด กลยุทธ์ ธรรมะ จักรราศี ฯลฯ
จัดตั้งธุรกิจ ปรับปรุงกิจการ | ไขความลับสมองเงินล้าน | การเขียนแผนธุรกิจ | บริหารคน บริหารงาน | พัฒนาความคิด
พระไตรปิฎกฉบับหลวง | แด่องค์กรที่แสนรัก | สุขใจกับเด็กสมาธิสั้น
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
27 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
...ทำไม่คนเก่งถึงไม่ค่อยมีความสุข...

ถ้าถามว่าใครอยากเป็นคนเก่งบ้าง???
ก็คงมีคนยกมือกันสลอนไปหมด แสดงว่าความเก่งนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์ต้องการ แต่ในความเก่งนั้น ก็ยังมีบางสิ่งบางอย่าง ที่เราคาดไม่ถึงเกิดขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลายๆ คนไม่ชอบ เช่น


เก่งแล้วถูกอิจฉา

เคยมีหมอรุ่นน้องคนหนึ่ง มาปรึกษาและเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนที่เขากลับจากนอกใหม่ๆ เขาเป็นคนเก่งมาก ฉลาดมาก ท่าทางดี บุคลิกดี การพูดจาเฉียบแหลม การเสนอแนวความคิดดีมาก เขากลับมาก็เข้ารับราชการ จากผลงานการทำงาน ที่มาจากสมองและความสามารถของเขา ทำให้เขาประสบความสำเร็จ เจ้านายก็ชอบ ลูกน้องก็ชอบ แต่เพื่อนๆ หมอด้วยกัน ไม่ค่อยชอบเขา เขาถูกโจมตีด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ มีคนคอยจับผิด ขยายความผิดเล็กน้อย ให้กลายเป็นความผิดใหญ่โต ในวงการวิจารณ์และนินทา จะต้องมีชื่อของเขา ถูกเอ่ยถึงบ่อยครั้งมาก หมอรุ่นน้องที่เคยเดินตามหลังเขามา ก็พลอยอิจฉาไปด้วย หมอรุ่นพี่บางคนที่ก้าวร้าวมากหน่อย ถึงกับเคยจับแขนถามว่า เมื่อไรจะลาออกไปเสียที

เขาเคยนึกโกรธและคิดจะลาออก แต่ก็เตือนตัวเองเอาไว้ว่า ไม่ควรจะลาออก ในตอนโกรธ จนสุดท้ายเขาเกิดความรู้สึกว่า เขาน่าจะได้มีโอกาสได้ทำกิจกรรมอะไรๆ ได้อีกมากมาย ถ้าหากลาออกจากราชการ เขาจะลาออกจากราชการด้วยความพร้อม และไม่ได้โกรธบุคคลเหล่านั้น เป็นแค่รู้สึกตัวว่าถูกอิจฉามาก ขณะนี้เขาก็ประสบความสำเร็จ ในอาชีพส่วนตัวของเขามากมาย


เก่งแล้วเหงา

รายนี้เป็นนักบริหารระดับสูง ของบริษัทที่ใหญ่โตแห่งหนึ่ง เขาจบการศึกษาจากต่างประเทศ บุคลิกดี พูดจาคล่องแคล่ว ฉะฉาน ความคิดริเริ่มดีมาก และประสิทธิภาพในการทำงานก็เป็นเยี่ยม เขาเล่าให้ผมฟังว่า เจ้านายชอบเข ามาก เพราะเขามีส่วนช่วยพัฒนาบริษัท ให้เจริญก้าวหน้าและทำกำไรให้ มากกว่าเดิมมากมาย เขาได้รับการสนับสนุนจากนาย ทั้งตำแหน่งและเงินเดือน

ลูกน้องโดยตรง ที่อยู่ระดับล่างๆ จะเกรงใจเขา และพร้อมจะปฏิบัติ ตามคำสั่งของเขาทุกประการ แต่บุคคลที่อยู่ระดับบริหาร ในฐานะที่ใกล้เคียงกับเขา หรือเป็นรองเขาเล็กน้อย จะไม่ค่อยชอบเขา มักจะไม่ให้ความร่วมมือ หรือมักรวมหัวกันประท้วงเงียบบ่อยๆ ทำให้มีอุปสรรคมากขึ้นในการทำงาน

เขาเล่าให้ฟังว่า "งานบางอย่าง ผมทำให้เสร็จได้ภายใน 1 วัน แต่ถ้าให้พวกเขาทำกัน เขาจะเสียเวลาในการประชุมถกเถียง ด้วยวิธีที่เยิ่นเย้อ หรือมีการเสนอแผนงานที่ไม่รัดกุม ทำให้ผมรำคาญ ครั้นพอผมเสนอแผนงานออกไป มันเข้าท่า กะทัดรัดและผลลัพธ์ก็ได้ดี จึงทำให้พวกเขารู้สึกเสียหน้า และไม่ชอบผมเลย"

เขาก็รู้สึกเหงา ทั้งที่ทำงานได้ผลดี แต่รู้สึกว่าไม่มีเพื่อน

"บางครั้งผมรู้สึกว้าเหว่ และชักไม่แน่ใจว่า ตัวเองจะทำงานไปเพื่ออะไร ทำไมผมจึงไม่มีเพื่อน ทั้งๆ ที่คิดว่าตัวเองอยากได้เพื่อน และพยายามทำดีกับเขา แต่เขาก็ไม่ยอมรับให้ผมเป็นเพื่อน ผมรู้ดีว่าความสำเร็จในขั้นสูงสุดต่อไปนั้น ต้องอาศัยแรงผลักดันจากเพื่อนร่วมงาน ที่พร้อมจะร่วมมือด้วย ผมจึงกังวลกับความรู้สึกว้าเหว่ ในที่ทำงานของผม" เขากล่าวในตอนท้าย


เก่งแล้วระวังตัว

คนเก่งรายนี้จบปริญญาเอก มาเล่าให้ฟังว่า ด้วยความรู้สึกที่ว่าเขาเป็นคนเก่ง ทำงานเก่ง ประสบความสำเร็จมาก ผู้คนรอบข้างก็คอยดูว่า เขาจะทำอะไรต่อไป และอีกหลายๆ คน ก็พร้อมจะเยาะเย้ยทันที ที่เขาทำอะไรพลาด

เขากล่าวว่า "ผมเลยต้องคอยระวังตัวในการทำงานอยู่เสมอๆ เพราะกลัวว่าถ้าพลาดลงมา จะมีคนพร้อมจะกระทืบซ้ำทันที"

แน่นอน มนุษย์อิจฉาคนเก่ง
แน่นอนที่สุด ที่คำกล่าวนี้เป็นจริง
เพราะมนุษย์อยากมีความเก่ง
แต่มนุษย์ก็ไม่ค่อยมีความเก่งกันหรอก


ความเก่งจึงเป็น 'ของหายาก' ที่ใครๆ ก็อยากได้มีไว้ในครอบครอง เมื่อตัวเราไม่สามารถมีไว้ได้ ก็เลยอิจฉาคนอื่นที่เขามีอยู่ และไม่อยากให้เขามีไว้ ในครอบครองด้วย

โดยเฉพาะคนเก่งที่เป็นผู้ชาย เขาจะถูกอิจฉาโดยผู้ชายด้วยกันมากมาย แม้ว่าต่อหน้าเขาจะทำท่าทีชื่นชมกันก็ตาม เพราะผู้ชายเป็นเพศที่อยากได้อำนาจ และอยากได้ความตื่นเต้นมากๆ ความเก่งจะทำให้เขาได้อำนาจ และสร้างความตื่นเต้นของชีวิต ในรูปแบบต่างๆ ได้ ผู้ชายจึงพร้อมจะเลียนแบบคนเก่งได้ดี และก็พร้อมจะโค่นคนเก่งลงได้ดีเช่นกัน เพราะความอิจฉา

โดยเฉพาะในกลุ่มคน ที่มีศักยภาพใกล้เคียง จะอิจฉากันมาก ถ้าหากมีสถานภาพหรือศักยภาพ แตกต่างกันมากๆ จะไม่อิจฉากันมากหรอก เช่น ขอทาน หรือภารโรง มักไม่อิจฉานายกรัฐมนตรีหรอก!

ผู้หญิงจะชื่นชมคนเก่ง ได้ดีกว่าผู้ชาย

ใช่ ถ้าคนเก่งนั้นเป็นผู้ชาย ผู้หญิงจะเป็นพวกที่ชื่นชมคนเก่ง ที่เป็นผู้ชาย ได้อย่างมั่นคง และอย่างออกหน้าออกตา และในความหมายของคนเก่งนั้น เราก็มักนึกถึงผู้ชายกัน มากกว่าผู้หญิง

ผู้ชายเก่งทั้ง 3 รายที่กล่าวมาแล้วนั้น พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาไม่มีปัญหากับผู้หญิงเลย และผู้หญิงเป็นกลุ่มที่ชื่นชมเขา อย่างออกหน้าออกตาด้วย เป็นไปได้ว่า ในสภาพจิตใจของผู้หญิงนั้น พวกเธอต้องการความปลอดภัย และความมั่นคงในชีวิต ไม่ชอบเสี่ยงโลดโผนอะไรมากนัก ฉะนั้นการรู้จักคนเก่ง จึงทำให้เธอรู้สึกปลอดภัย และอยากอยู่ใกล้ อยากเก็บเอาไว้นานๆ มากกว่าอยากจะแข่งขัน หรือทำลายเสีย

ถ้าเป็นผู้หญิงเก่งเล่า ใคร จะอิจฉา

ดูออกจะเสียเปรียบสักหน่อย ที่ถ้าผู้หญิงนั้นเก่งเท่าๆ
กับผู้ชาย ผู้หญิงด้วยกันก็จะอิจฉา และผู้ชายก็จะยอมรับได้ยาก แต่ถ้าหากเก่งเกินชายไปเลย ก็จะเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งจากชายและหญิง ก็ดูอย่าง อินทิรา คานธี หรือ มาร์กาเร็ต แทตเชอร์ เป็นไร

เก่งแล้วให้สบายใจด้วย ทำอย่างไรดี

นั่นคือคำถามที่ผมได้รับ จากคนเก่งอยู่เรื่อยๆ
ก็เลยอยากแนะนำว่า

1. ต้องรู้จักถ่อมตัวให้เป็น อย่ายกตัวนัก คนเขาไม่ชอบ จงให้โอกาสคนอื่นเขาเก่งบ้าง สนับสนุนหรือให้โอกาสคนอื่นเขาพูด ถึงความสำเร็จของเขาบ้าง ชมเขาด้วย และต้องชมด้วยความจริงใจ

2. ทักทายคนอื่นก่อนเสมอๆ จับไม้จับมือลูกน้องบ้างเมื่อมีโอกาส (เพศเดียวกัน) ถ้าไปงาน ชุมนุมศิษย์เก่าของสถาบัน คุณก็ต้องเป็นฝ่ายไปทักทายเพื่อน ฝูงก่อนเสมอ อย่ารอให้เขามาทักทายเรา เพราะจะมีอีกเป็นจำนวนมาก ที่ไม่กล้าหรือไม่ยอมเข้ามาทัก แต่จะไปนินทาลับหลังว่า หยิ่ง ...ยโส จงยิ้มแย้มแจ่มใสต่อคนอื่นเสมอๆ เมื่อมีโอกาสก็ให้วานลูกน้องหรือคนอื่น ทำอะไรให้ตัวเองเสียบ้าง ก็คือทำตัวเป็นคนไม่เก่ง หรือเป็นคนอ่อนแอเสียบ้าง คนที่เขาได้ทำอะไรให้เราได้บ้าง เขาจะได้ชื่นใจ

3. มีความคงเส้นคงวา รักษาความเก่งให้คงที่ เพราะคนเก่งนั้นคนเขาคาดหวังสูง ถ้าทำอะไรเหมือนคนทั่วๆ ไป คนอื่นเขาก็จะแลดูว่า ธรรมดาหรือไม่เข้าท่า ฉะนั้น ขั้นตอนการทำงานและประสิทธิภาพ ในการทำงานของคนเก่ง จะต้องดีกว่าคนอื่นๆ

4. มีโลกส่วนตัวของตัวเอง จงคบกับเพื่อนสนิทๆ ที่จะได้บ่น หรือแสดงความอ่อนแอได้บ้าง ฝึกหัดจิตใจของตัวเอง ให้ยอมรับความพ่ายแพ้ ที่จะเกิดขึ้นในวันใดวันหนึ่งแน่ๆ เพราะแม้ว่าเราจะเก่งแค่ไหน แต่เราก็ต้องแก่ลงๆ จะมีคนอื่นที่เก่งกว่า เข้ามาแทนที่ เราจะได้ไม่เสียใจมากขึ้นเมื่อถึงเวลานั้น

5. คนเก่งทั้งหลายมักมีเงื่อนไขมาก ต้องลดเงื่อนไขในชีวิตของตนเอง และกับคนอื่นลงด้วย ต้องฝึกใจให้มีความรัก อย่างไม่มีเงื่อนไข (Unconditioned Love) กับบุคคลทั่วๆ ไป รักในความเป็นเพื่อนมนุษย์ ของเขาเท่านั้นก็พอ ใจจะกว้างขึ้น

6. ต้องมีการรู้ระวังตัวเอง (Self Awareness) อยู่ตลอดเวลา รู้ว่าตอนไหน ควรทำอะไรและอย่างไร จึงจะเหมาะสม ความเหมาะสมเป็นสิ่งที่ คนเก่งมองข้ามเสมอ เพราะมักจะมองแค่ความถูกต้องเรื่อยๆ

7. ช่วยพัฒนาลูกน้อง หรือคนข้างเคียงไปด้วย เขาจะได้ไม่รู้สึกถูกทอดทิ้ง

ก็ขอให้คนเก่งทั้งหลายจงโชคดี อย่าเก่งแล้วโชคร้าย โดยมีคนเกลียด รอบข้างมากมายเลย

เรียบเรียงโดย : ศ.ดร.น.พ.วิทยา นาควัชระ (จิตแพทย์)


Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2550 21:14:29 น. 7 comments
Counter : 2012 Pageviews.

 
ไม่ต้องเก่งมากก็ได้ แต่มีความสุขกับการใช้ชีวิตแบบ
กลาง ๆ ก็พอ ไม่หรูหรา แต่ก็ไม่ด้อยค่านัก
เก่งในการดำรงชีวิตจะดีกว่าหรือป่าว คิดแบบนั้น


โดย: nakwan6 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:25:11 น.  

 
ชอบบทความนี้ครับ.. แต่โชคดีไม่ใช่คนเก่ง...รอดตัวไป...

แต่ก็เหงานะ...


โดย: ทีเจ (tismarketing ) วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:27:27 น.  

 

เข้ามาอ่านครับ


โดย: Elrond วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:51:11 น.  

 
ฮะๆ ไม่ได้เป็นคนเก่งอะไร แต่อ่านบล็อกนี้แล้วรู้สึกเข้าใจยังไงไม่รู้ ^^

กิกิ สำหรับคำแนะนำนั้น ข้ออื่นนี่จิ๊บๆ แต่ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานว่า ไม่สามารถลดความคาดหวังและเงื่อนในชีวิตได้ค่ะ เหอๆๆๆ อาจจะเป็นสาเหตุหลักที่รู้สึกว่า ความแฮปปี้มันน้อยๆ ยังไงไม่รู้ แหะๆๆๆ


โดย: Clear Ice วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:39:30 น.  

 
ได้ข้อคิดดีมากครับ

"... เขาจะเสียเวลาในการประชุมถกเถียง ด้วยวิธีที่เยิ่นเย้อ หรือมีการเสนอแผนงานที่ไม่รัดกุม ทำให้ผมรำคาญ ..."
เห็นประโยคนี้แล้วก็รู้เลยว่าทำไมถึงเป็นปัญหา เราไม่จำเป็นต้องเอาความดีความชอบในที่ประชุมเสมอไป ควรให้โอกาสผู้อื่นตามสมควรถ้าไม่ได้ทำให้เสียต่อเรา การเสนอความคิดเห็นนั้นนอกรอบก็ทำได้ ทำหน้าที่ของเราเองให้ดีที่สุด คนอื่นเขาก็เรารักศักดิ์ศรี ถ่อมตัวอย่างคุณวิบูลย์ว่า พร้อมอัทธยาศัยที่ดีแล้วก็ไปได้สวยแน่นอน


โดย: spectralwit วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:5:31:08 น.  

 
เข้ามาเยี่ยมค่ะ ไม่ได้มาเสียนาน
สงกรานต์ไม่ไปไหนเลยเข้า blog อ่านไปเรื่อยๆ ช่วงนี้จิตใจล่องลอย ไม่ค่อยมีที่ยึดเหนี่ยว เครียดเรื่องงาน ไม่มั่นใจในความสามารถและศักยภาพของตัวเอง

เข้ามา blog คุณจุงอ่านโน่นอ่านนี่แล้วรู้สึกดีขึ้น ที่นี่มีหลักการคิดดีๆในยึดถือปฏิบัติเยอะแยะเลยค่ะ

ขอบคุณค่ะ


โดย: ladybear วันที่: 16 เมษายน 2550 เวลา:0:10:06 น.  

 
อืมมม จะนำเอาไปใช้ครับ

( เพราะคิดว่าตัวเองเก่ง อิอิ )


โดย: benzmkt วันที่: 29 มกราคม 2551 เวลา:0:09:56 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

wbj
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [?]




ต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com หรือ 062 641 5992, 062 826 1544

วิทยากรเชิงกิจกรรม

วิทยากรกระบวนการ

ที่ปรึกษาธุรกิจ

ด้านการบริหารจัดการ

การตลาดและการประชาสัมพันธ์

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนกลยุทธ์

วิจัยธุรกิจ

IT Dashboard



ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้...
ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย
และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด



<< Main Menu >>



ดวงถาวร


ดวงตามวันเกิด



ดวงตามปีเกิด






;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ c:j06'

ต้องการสอบถาม โทร 062-641-5992, 062-826-1544
ติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com
Line ID : wbjoong

ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และ การวางแผนกลยุทธ์ วิทยากรเชิงกิจกรรม, วิทยากรกระบวนการ นักวิจัยการดำเนินงานธุรกิจ Executive & Management Coach

ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้... ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
Friends' blogs
[Add wbj's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friends


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.