บริหาร การจัดการ การตลาด พัฒนาตนเอง พัฒนาความคิด กลยุทธ์ ธรรมะ จักรราศี ฯลฯ
จัดตั้งธุรกิจ ปรับปรุงกิจการ | ไขความลับสมองเงินล้าน | การเขียนแผนธุรกิจ | บริหารคน บริหารงาน | พัฒนาความคิด
พระไตรปิฎกฉบับหลวง | แด่องค์กรที่แสนรัก | สุขใจกับเด็กสมาธิสั้น
Group Blog
 
 
มกราคม 2548
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 มกราคม 2548
 
All Blogs
 
จดหมายเปิดผนึก ถึง "ท่านผู้ลงคัดเลือกผู้แทนฯ ที่สอบตก"

วันพุธที่ 26 มกราคม 2548

เรียน ท่านผู้ลงคัดเลือกผู้แทนฯที่สอบตก ทุกท่าน...

เนื่องด้วยการเลือกตั้งทุกครั้ง ไม่ว่าปีใดก็ตาม จะเห็นความซ้ำซากจำเจของผู้สมัครคัดเลือกเป็นผู้แทนฯ ได้ใช้วิธีการเก่าๆ ในการโฆษณาตัวเอง ก่อนการเลือกตั้ง ผมอยากจะบอกว่า มันเดือดร้อนมาถึงคนใช้รถใช้ถนน เกี่ยวกับป้ายการหาเสียงของท่านทั้งหลาย ที่ติดกันกระหน่ำ จนไม่รู้ว่านี่คือเสาไฟฟ้า หากไม่ได้มองขึ้นไปข้างบน อีกทั้ง ทุกๆที่ที่ท่านได้ใช้เป็นสถานที่ติดป้ายประกาศของท่าน... ซึ่งป้ายประกาศเหล่านั้นอาจจะนำพาให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ จากทัศนวิสัยที่ไม่ดี โดยเฉพาะการติดป้ายบังทางเลี้ยวเข้าออกซอย อีกทั้ง ยังทำให้ สถานที่ต่างๆ เกิดความไม่งามในสายตาโดยรวมด้วย

จดหมายฉบับนี้ ไม่ได้ต้องการมาต่อว่า หรือ ตอกย้ำความพ่ายแพ้ของท่าน หรือ ต้องการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมก่อนการเลือกตั้งของท่านแต่อย่างใด แต่อยากหาทางเลือกอื่น เพื่อทำให้ท่านได้สอบผ่านในครั้งหน้า และ ทำให้ประชาชนทั้งหลายได้มีสิ่งที่ดีขึ้นในสังคม โดยแนะให้มองถึงความต้องการของกลุ่มเป้าหมายหรือ ประชาชนที่จะเลือกท่านให้ถูกต้อง ว่าเขาต้องการผู้แทนฯอย่างไร ไม่ใช่มาหาเสียงทุ่มเงินโดยเปล่าประโยชน์อีกต่อไป หวังว่า ความคิดเห็นในจดหมายฉบับนี้ อาจจะเป็นประโยชน์กับท่านในการเลือกตั้งครั้งหน้าด้วยนะครับ

โดยธรรมชาติของมนุษย์นั้น ท่าน อาจจะคิดว่าเพราะอยู่พรรคผิด เพราะ กระแสของพรรคไม่แรงพอ หรือ พรรคสนับสนุนเงินน้อย หรือ ท่านไม่ได้ซื้อเสียงก็เลยพ่ายแพ้.. หรือ ประชาชนเลือกคนแบบไม่มีวิสัยทัศน์ หรือ ประชาชนเลือกคนอื่นเพราะโดนซื้อเสียง หรือ ประชาชนเลือกพรรคไม่ได้เลือกคน หลายร้อยเหตุผลต่างๆนาๆ ที่ท่านจะกล่าวอ้าง...

แต่ท่านที่สอบตก ก็จะมีทั้งคนในพรรคที่มีกระแสแรงๆ และ คนในพรรคที่มีกระแสทางลบ และที่สำคัญ คนในพรรคที่มีกระแสน้อยๆ แต่ทั้งนี้ ทุกพรรค ก็จะมีทั้งคนที่สอบผ่าน และ คนที่สอบตกปนกันไป ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น นี่คือประเด็นที่ผมจะเอามาแจงให้ท่านได้เห็นภาพความเป็นจริง

จากประสบการณ์ที่ผ่านๆมา ผมวิเคราะห์และแจกแจง ประชาชนที่ไปลงคะแนน ดังนี้
1. ประชาชนที่มุ่งจะเลือกพรรค ไม่ได้มองที่ผู้ลงสมัคร
2. ประชาชนที่จะเลือกผู้ลงสมัครที่ทำประโยชน์ให้กับเขตของตน
3. ประชาชนที่จะเลือกตามกระแสของสังคม
4. ประชาชนที่จะไปเลือกฝ่ายตรงข้ามกับกระแสสังคมเพื่อถ่วงดุลอำนาจ
5. ประชาชนที่ไม่คิดจะเลือกใครเลย อาจจะเบื่อเกมการเมือง แต่ไปใช้สิทธิ์
6. ประชาชนที่โอนเอียงไปกับคำโฆษณาอันสวยหรูของพรรค หรือ จากการปราศรัยของผู้ลงสมัคร
7. ประชาชนที่ไปเลือกเพราะหัวคะแนนแนะนำให้ไปเลือก หรืออาจ ถูกบังคับ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมคิดว่า ไม่ว่าเพราะเหตุใด มันก็เกี่ยวกับประชาชนทั้งสิ้น ที่จะเป็นคนตัดสินใจเลือกใคร เข้าไปในสภา และ ไม่ว่าเหตุผลใด การตัดสินใจที่จะกาลงไปในกระดาษในวันเลือกตั้งนั้น จะเป็นการตัดสินใจจากประชาชนด้วยกันทั้งนั้น เพราะ ไม่มีใครจับมือให้เขากาเบอร์นั้นเบอร์นี้ได้ เขาจะต้องเป็นคน เลือกเบอร์ที่เขาต้องการด้วยเหตุผลของเขาเองทั้งนั้น ซึ่งนั่นหมายถึง ประชาชนเป็นคนตัดสินใจ

คำถามที่ท่านควรจะตอบโจทย์ให้ได้ คือ ประชาชนเขาคิดอย่างไร เขาจะตัดสินใจอย่างไร ท่านจะโน้มน้าวให้ประชาชน เลือกท่านเข้าไปเป็นผู้แทนฯได้อย่างไร ไม่ว่าท่านจะอยู่พรรคการเมืองใด ก็ให้เขาเลือกท่านไม่ใช่เลือกพรรค นี่เป็นคำถามที่ท่านควรหาคำตอบ และ ทำให้เป็นรูปธรรม ทำให้เข้าไปในความรู้สึกของประชาชน และ ทำให้ประชาชนของท่านได้จดจำหน้าตาและชื่อของท่าน โดยให้ชื่อและหน้าตาของท่านหยั่งรากความจำให้ฝังลึกเข้าไปสู่ประชาชนของท่าน ผมคิดว่า มันเป็นโอกาสอันดีในช่วงระยะเวลาของการที่ท่านไม่ได้อยู่ในสภา ในวาระนี้...

การตัดสินใจเลือกผู้แทนฯนั้น หากประชาชนคนใด ที่ไม่มุ่งมั่นเลือกเพราะเหตุใดเหตุหนึ่งจริงๆ แล้ว จะสามารถโน้มเอียงให้เลือกท่านได้อย่างแน่นอน สิ่งที่ผมจะเสนอเหล่านี้ เป็นเพียงความคิดเห็นของคนธรรมดาคนหนึ่งที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่ดีขึ้นเท่านั้น... ซึ่งผมขอเสนอแนวทางปฏิบัติดังนี้

ในช่วงเวลาที่ท่านจะไม่ได้เข้าไปเป็นผู้แทนฯนั้น จะมีเวลามากที่สุด 4 ปี ก็ประมาณ 209 สัปดาห์ ซึ่งเป็นเวลาที่มากพอ ผมขอเพียง สัปดาห์ละวัน ก็จะได้อย่างน้อย 200 วัน จากท่านที่จะลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลจริงๆ ช่วยเหลือประชาชนจริงๆ ส่วนเวลาที่เหลือ ท่านก็ใช้เวลาในการทำมาหากินของท่าน ใช้ชีวิตของท่านปกติ แต่หากท่านมีเวลามากกว่า อาจจะใช้เวลามากขึ้น หรือ หากท่านมีเลขา หรือ ทีมงานก็จะยิ่งดีในการทำสิ่งต่างๆ ที่ผมจะแนะนำเหล่านี้ครับ...

สิ่งแรกที่ผมอยากให้ท่านทำในครั้งแรก คือ การพิมพ์นามบัตรใหม่ เป็นชื่อของท่าน และ ลงรูปของท่านเอาไว้ในนามบัตร ไม่ต้องหรู แต่อย่างน้อยต้องเป็นสีสรร และ ต้องมีเบอร์โทรฯ ของท่านหรือทีมงานเพื่อรับเรื่องร้องทุกข์ต่างๆ

จากนั้น เริ่ม การลงพื้นที่เพื่อพบปะประชาชนของท่าน หลังจากท่านไม่ได้รับการเลือกตั้ง ควรจะไปให้ทั่วเขตที่ท่านจะลง อาจจะใช้เวลาสัก 8 สัปดาห์ มันเหมือนจะเจ็บปวดจากการโดนตอกย้ำว่า “สอบตกแล้วมาทำไม” แต่ไม่ใช่ทุกคนที่คิดอย่างนั้น ในใจของเขาจะมองท่านว่า เป็นคนที่กล้าและยอมรับความเป็นจริง มันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ จากความพ่ายแพ้ คนไทยมักจะตอกย้ำคนแพ้และคนผิด แต่ถ้าคนนั้นมายอมรับ หรือ ยังทำดีเสมอต้นเสมอปลาย คนไทยจะให้โอกาส และ เริ่มที่จะยอมรับคนที่มายอมรับมากขึ้นด้วยซ้ำ

มันเป็นโอกาสดีที่จะศึกษาว่า ประชาชนของท่าน เลือกผู้แทนในเขตของท่าน เพราะอะไร และ หาคำถามที่ท่านน่าจะรู้ไว้เกี่ยวกับประชาชนของท่าน สักสองสามข้อ อันนี้แล้วแต่ว่าท่านกับทีมงานของท่านแข็งแกร่งเพียงใด เป็นการเก็บข้อมูลเบื้องต้นเพื่อใช้ในการวิเคราะห์ต่อไป แต่ที่ขาดไม่ได้คือ การถามถึงปัญหาต่างๆที่เขาต้องการให้ช่วยแก้ไข กับทุกๆคนที่ท่านได้เข้าพูดคุย และ ช่วยเหลือเขาหากท่านสามารถช่วยเหลือได้เลย และ เมื่อช่วยเหลือแล้ว ต้องแจ้งให้เขารับทราบว่าท่านได้ทำอะไรเพื่อเขาอย่างไร

ทุกครั้งที่ไปแต่ละบ้านให้ท่านแจกนามบัตรของท่าน และจดบันทึกบ้านเลขที่ หรือ ที่อยู่ของบ้านที่ท่านไปเยี่ยม หากเขามีเรื่องเดือดร้อนใดๆ เรื่องรายละเอียดปลีกย่อย ต้องวางโครงให้ดี และปล่อยให้ทีมงานของท่านเป็นผู้บันทึกข้อมูลทั้งหมด หรือ รับเรื่องต่างๆ ทำให้เป็นระบบ...

เมื่อได้ข้อมูลมา ก็เอามาทำการวิเคราะห์ถึงความต้องการของประชาชน เพื่อเอาไว้ใช้ตรวจสอบถึงผู้แทนฯคนปัจจุบัน ทำอะไรให้กับประชาชนบ้าง หรือ บางเรื่องที่ท่านทำให้กับประชาชน ก็ต้องจดบันทึกเอาไว้ด้วย ว่าท่านได้ทำให้ประชาชนในเขตของท่านอะไรอย่างไร ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์ ก็จะต้องหาสาเหตุต่างๆว่าเกิดจากอะไร เพื่อให้ใช้เป็นการกำหนดนโยบายการหาเสียงในครั้งต่อไป...

ในระหว่างการเยี่ยมประชาชน ท่านก็ควรเข้าเยี่ยมตั้งแต่ระดับ ผู้ใหญ่บ้านขึ้นไป โดยใช้หลักการเยี่ยมเดียวกัน ผมมั่นใจว่า หากท่านอยากจะเป็นผู้แทนฯ ท่านต้องมีอะไรดีเป็นแน่ อย่างน้อยก็ความสัมพันธ์กับผู้ที่มีอำนาจบางกลุ่ม การเข้าเยี่ยมลักษณะนี้ ก็เหมือนกับการสร้างสายสัมพันธ์อันดี และ การช่วยเหลือที่ท่านยื่นให้ จะทำให้เขาจดจำคุณได้ อย่าติดสินบน หรือ ให้อย่างพร่ำเพรื่อนะ มันจะเป็นสิ่งอันเลวร้ายย้อนกลับมาภายหลังได้.. อีกอย่าง คุณต้องทำให้เขาจำคุณได้ ต้องแจกนามบัตรพร้อมรูปถ่าย ถึงแม้นแจกแล้ว ก็แจกอีกในรอบต่อๆไป ต้องเผื่อว่าเขาทำหายด้วยนะครับ ถ้ายิ่งเขารับมาก ก็ยิ่งตอกย้ำถึงความเป็นตัวตนของท่าน ความเอื้อเฟื้อของท่าน ความช่วยเหลือ ที่ท่านมีให้กับคนทุกหมู่เหล่า... เป็นการสร้างบารมีให้กับตัวท่านเอง และ ประชาชนก็จะได้รับความช่วยเหลือที่ตรงกับความต้องการเช่นกัน....

แน่นอน ท่านยังมีเวลาอีกมากในการทำงานเพื่อประชาชน การทำให้เขาเห็นท่านเพียงครั้งเดียว คงไม่พอเมื่อวิเคราะห์เสร็จ ทีมของท่านต้องหาทางแก้ปัญหา ปัญหาเล็กๆที่แก้ได้ก็แก้กันไป ปัญหาใหญ่ๆ เอาไว้ตรวจสอบผู้แทนฯที่เข้าสภาไป ว่าเขาทำตรงตามความต้องการของประชาชนในพื้นที่หรือไม่อย่างไร... แล้วท่านต้องลงพื้นที่ทุกๆ ปี เพื่อตอกย้ำให้ประชาชนเห็นถึงความสำคัญของท่าน เห็นถึงความเอาใจใส่ดูแลของท่านที่มีต่อประชาชน แต่หากท่านมีทีมงานช่วย ก็ต้องให้ทีมงานเป็นตัวแทนท่าน ในการออกเยี่ยมประชาชน เพื่อเก็บข้อมุล ระหว่างปี ทำให้ประชาชนเข้าใจในสิ่งที่ท่านได้ทำลงไป และ แจกนามบัตรเพิ่ม เพื่อตอกย้ำ เสนอ จุดช่วยเหลือใหม่ในสังคมในเขตที่ท่านอยู่...

เมื่อท่านเข้าไปอยู่ในใจของประชาชน ก็จะเริ่มมีการเชื้อเชิญมากขึ้น อย่าขัดศรัทธา งานศพต้องมีพวงหรีด งานแต่งต้องเข้าไปร่วมเพื่อเป็นเกรียติ ทำเหมือนท่านเป็นผู้แทนฯของเขาแล้ว สร้างความศรัทธาในบางกลุ่มยังดีกว่าสร้างศตรูเพียงคนเดียว...

ผมว่า ปัญหาที่ตามมาคือ ปัญหาจากประชาชนของท่านล้นมือ เมื่อถึงขั้นนั้น การสร้างระบบการจัดการแก้ปัญหาเบื้องต้นควรจะมีได้แล้ว แต่นั่นแหละ เมื่อคนรู้จักมาก ก็ต้องใช้จ่ายมาก อาจจะมีคนมาของเงินมากขึ้นด้วย อย่าให้เงินเขา แต่จงช่วยให้เขาทำงาน สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน หรือ ให้กับคนที่มาขอเงินครับ ถึงจะได้สร้างให้เขาได้อยู่ในโลกได้อย่างยั่งยืน ให้เงินเขาก็เอาไปใช้ หมดไป ก็กลับมาขอใหม่ อีกอย่าง เป็นการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งด้วยครับ... คนที่มาขอเงินคือคนที่ขาดเงิน ต้องสร้างให้เขาหาเงินได้เอง มันคือจุดที่ท่านควรทำมากที่สุด

ปัญหาอีกอย่างคือ ทีมงาน กร่างทำนอกเหนือจากที่ให้ทำ รู้ว่าทำงานให้ท่าน ก็จะสร้างอำนาจบารมีขึ้นมาเอง อาจจะเริ่มมีการหาเงินกับการช่วยแก้ปัญหาที่ท่านได้ลงแรงไป การที่ผมแนะนำให้ท่านได้ไปเยี่ยมประชาชน ทุกบ้านปีละครั้งนั้น จะช่วยลดเรื่องนี้ แต่ถึงอย่างไร ท่านก็ควรหาหัวหน้าทีมงานที่เชื่อใจและไว้ใจได้ในการควบคุมคุณภาพของทีมงานท่านด้วยนะครับ

ปัญหาหนึ่งที่อาจจะหนักอกท่านมากที่สุด คือ ผู้แทนฯตัวจริง อาจจะทำเช่นท่าน เขาจะมีแรงมากกว่าท่านมากมายนัก แต่นั่นแหละ หากเขาทำเช่นท่าน มันก็ต้องดูกันแล้วครับว่า ใครช่วยเหลือประชาชนได้มากน้อยกว่ากัน

ครั้งเมื่อถึงเวลาหาเสียงในคราวหน้า ท่านจะพบว่า ท่านไม่ต้องเหนื่อยหาเสียงทั้งวันทั้งคืน ไม่ต้องติดป้ายประกาศมากเกิดควร เข้าไปเยี่ยมเยือนรอบสุดท้าย หรือ เพียงตั้งแท่นปราศรัย บอกถึงผลงาน บอกถึงสิ่งที่ท่านจะทำเมื่อท่านได้เป็นผู้แทนฯ เท่านั้น มันตรงเป้าหมาย และ ตรงประเด็นมากที่สุดแล้ว หากข้อมูลของท่านแน่นจริงๆ และ ใช้เงินในการหาเสียงในช่วงเวลาหาเสียงน้อยกว่าเดิมด้วย

แต่เมื่อท่านได้เป็นผู้แทนฯ ในเขตของท่าน ก็อย่าละทิ้งการกระทำเหล่านี้ เพราะเมื่อใดที่ท่านละทิ้งประชาชนของท่าน ก็เท่ากับ ท่านได้ละทิ้งตัวตนของท่านเอง ละทิ้งฐานเสียงที่สนับสนุนท่านเข้าไปในสภา คนไทยเราหากใครทอดทิ้ง เราทุกคนก็พร้อมที่จะทอดทิ้งเขาเช่นกัน อีกอย่าง หากท่านได้เป็นผู้แทน ก็อยากให้เป็นผู้แทนราษฎร เพื่อทำงานให้กับราษฎรจริงๆ การกอบโกยเพื่อถอนทุนนั้น เท่ากับท่านเข้าไปเพื่อเอาเปรียบราษฎรจากบารมีที่ท่านสร้าง หากทำเช่นนี้ บารมีจะเสื่อมเร็วกว่าท่านละทิ้งประชาชนหลายเท่านัก

ผมเข้าใจครับว่า สิ่งที่ผมเสนอ มันทำยาก และต้องใช้เวลานาน และเสียเงินมากกว่าการติดป้ายประกาศในช่วงวันหาเสียง แต่หากท่านต้องการเข้าไปเพื่อพัฒนาประเทศ สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่ท่านต้องเสียสละ ต้องทำอย่างต่อเนื่อง และ เป็นหลักให้กับประชาชนของท่านอย่างจริงจัง

การเมือง กับ อิทธิพล มันมักไปด้วยกัน หากท่านไม่หวั่นเกรง ยึดมั่นในการสร้างความดี สร้างสิ่งที่ดีให้กับประชาชน อิทธิพล อาจจะไม่สามารถทำอะไรท่านได้ แต่ ลูกปืนมันราคาถูก ก็ต้องระวังบ้าง ผูกความสัมพันธ์กับตำรวจให้มากๆเข้าไว้ เพราะคุณต้องติดต่อ หรืออาจจะต้องขอความช่วยเหลืออยู่เป็นนิจ หากทำตามคำแนะนำของผม...

ถึงแม้นสิ่งที่ผมเสนอนั้น แท้จริงคือการสร้างบารมีให้กับท่าน แต่ก็อยากให้การเสนอการสร้างบารมีเหล่านี้ เพื่อให้ท่านทำประโยชน์ให้กับประชาชนจริงๆ ท่านที่ทำแล้วก็ขอให้ตั้งมั่นในการทำต่อไป ท่านที่ไม่ได้ทำก็ขอให้เอาคำแนะนำของผมไปคิดทบทวนสักนิด ผมไม่หวังว่าท่านทุกคน จะเอาไปปฏิบัติ เพียงแต่เสนอเป็นแนวทางให้เห็นเท่านั้น...

และทั้งหมดนี้ ก็หวังว่าคงสามารถช่วยท่านให้ได้เข้าไปอยู่ในสภาฯสมัยหน้าได้อย่างมั่นใจ ประชาชนคนธรรมดาอย่างผมจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งในช่วงเวลาปกติ และ ช่วงการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในครั้งหน้า

ด้วยความหวังดี
วิบูลย์ จุง
Wiboon Joong (wbj)



Create Date : 29 มกราคม 2548
Last Update : 4 มกราคม 2549 11:29:52 น. 0 comments
Counter : 1157 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

wbj
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 210 คน [?]




ต้องการสอบถาม กรุณาติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com หรือ 062 641 5992, 062 826 1544

วิทยากรเชิงกิจกรรม

วิทยากรกระบวนการ

ที่ปรึกษาธุรกิจ

ด้านการบริหารจัดการ

การตลาดและการประชาสัมพันธ์

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

การวางแผนกลยุทธ์

วิจัยธุรกิจ

IT Dashboard



ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้...
ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย
และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด



<< Main Menu >>



ดวงถาวร


ดวงตามวันเกิด



ดวงตามปีเกิด






;b[^]pN 06' ไรินนื ่นนืเ "รินนื ๋นนืเ c:j06'

ต้องการสอบถาม โทร 062-641-5992, 062-826-1544
ติดต่อทางเมล์ที่ wbjoong@gmail.com
Line ID : wbjoong

ที่ปรึกษาธุรกิจ ด้านการบริหารจัดการ การตลาดและการประชาสัมพันธ์ การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และ การวางแผนกลยุทธ์ วิทยากรเชิงกิจกรรม, วิทยากรกระบวนการ นักวิจัยการดำเนินงานธุรกิจ Executive & Management Coach

ไม่ได้ ไม่มี ไม่ดี ไม่ได้... ต้องได้ ต้องดี ต้องมี ต้องง่าย และ ทำให้ดีกว่าดีที่สุด
<< Main Menu >>
Friends' blogs
[Add wbj's blog to your web]
Links
 
MY VIP Friends


 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.