(ดูทั้งหมดที่เคยรีวิวได้ที่ หน้าสารบัญ 1-3)

The Dark Knight Rises : แบทแมน อัศวินรัตติกาล ผงาด , ปิดตำนานมนุษย์ค้างคาว

The Dark Knight Rises (2012)



[ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์]

Rated PG-13 for intense sequences of violence and action, some sensuality and language

การกลับมาของหนังที่ทุกคนทั่วโลกตั้งตารอกันมากที่สุด กับ แบทแมน อัศวินรัตติกาล ที่หลังจากในภาคที่แล้วในปี 2008 ได้ทั้งรายได้บนตารางหนังทำเงิน และคำชมจากนักวิจารณ์และคนดู มากเป็นอันดับต้นๆของปีเลยก็ว่าได้ โดยในภาคนี่กลับมาพร้อมกับตัวละครใหม่ แต่ยังคงเป็นผู้กำกับคนเดิมอย่าง โนแลน

“The Dark Knight Rises” บทสรุปอันยิ่งใหญ่ของภาพยนตร์ Batman ไตรภาคของผู้สร้างภาพยนตร์คริสโตเฟอร์ โนแลน และได้ คริสเตียน เบล ผู้คว้ารางวัล Oscar (จาก The Fighter) ที่กลับมารับบทแสดง 2 บทบาททั้ง บรูซ เวย์น/แบทแมน อีกครั้ง ภาพยนตร์ยังแสดงโดย แอน แฮทธะเวย์ ผู้รับบทเป็น เซลิน่า ไคล์ ทอม ฮาร์ดี้ รับบทแสดงเป็น เบน มารีออง โกติยาร์ ผู้คว้ารางวัล Oscar ( จาก La Vie en Rose) รับบทแสดงเป็น มิแรนด้า เทต และ โจเซฟ กอร์ดอน-เลวิตต์ รับบท จอห์น เบลค ที่ในภาคนี่ แบทแมน ต้องสู้กับชายในหน้ากากนามว่า เบน ที่หวังจะทำลายให้ เมืองก๊อธแธม กลายเป็นเถ้าธุลีและประจักรให้ชาวโลกเห็น

The Dark Knight Rises ยังคงได้ผู้กำกับขวัญใจชาวโลกคนเดิมที่ปลุกตำนานแบทแมนมาตั้งแต่ Batman Begins อย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ที่หลังจากในปี 2008 ทำให้ชื่อเสียงของ อัศวินรัตติกาล อย่าง แบทแมน กลับมาคืนชีพได้อย่างสมศักดิ์ศรี และหลบไปทำเรื่องราวเกี่ยวกับการขโมยความคิดของมนุษย์มาพักใหญ่ๆอย่าง Inception ในปีนี่จึงได้ถึงเวลาแล้วที่ คริสโตเฟอร์ โนแลน จะกลับมาปิดตำนานของ มนุษย์ค้างคาว ให้ยิ่งใหญ่และสมการรอคอยของคนทั่วโลก ซึ่งก่อนที่ผมจะมาเขียนรีวิวครั้งนี่ ผมได้รับชม The Dark Knight Rises ไปทั้งหมด 3 รอบเรียบร้อย โดย 2 รอบแรกดูในโรงภาพยนตร์ธรรมดา และอีกรอบดูในระบบ Imax เพราะฉะนั้นอย่างแรกที่ผมอยากจะเขียนถึงเลยคือระบบ Imax ของ แบทแมน ในภาคนี้ ที่หลังจากผมได้เห็นฟุตเทจไปเมื่อปีที่แล้ว

แปะหน้าหนังอย่าง Mission Impossible : Ghost Protocal ก็รู้สึกได้เลยว่า 'หนังเรื่องนี่แหละที่ต้องดูในโรง Imax เท่านั้น' โดย The Dark Knight Rises เป็นภาพยนตร์ที่มีความยาวทั้งหมด 165 นาที และมีฉากที่เป็นจอไอแมกซ์ทั้งหมด 72 นาที โดยเอาเข้าจริงๆความยาวของฉากไอแมกซ์ขนาดนี่มันก็มีทั้งข้อดี และ ข้อเสีย จริงๆ โดยข้อดีของการที่หนังมีฉากไอแมกซ์ยาวขนาดนี้คือ ทั้งฉากแอ็คชั่นของหนัง ผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน ได้จัดฉากไอแมกซ์ขนาดยาวให้เต็มๆแบบไม่มีกั๊ก โดยเฉพาะฉากการขี่มอไซด์ , ยึดเครื่องบิน หรือแม้แต่ฉากไคลแมกซ์อันน่าตื่นเต้น ที่ระบบจอ ไอแมกซ์ ถือว่าค่อนข้างเพิ่มความน่าตื่นตะลึงได้อยู่




แต่ในขณะเดียวกัน การที่หนังได้มีฉากไอแมกซ์ยาวขนาดนี้ก็ถือว่ามีข้อเสียมากพอสมควร เพราะเอาเข้าจริงๆผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน กลับไม่ได้ใช้ฉากไอแมกซ์แค่เฉพาะฉากแอ็คชั่นเท่านั้น แต่ฉากการพูดคุยธรรมดาที่ไม่จำเป็นเช่น ฉากจิบกาแฟ , ฉากตื่นนอน หรือแม้แต่ฉากขับรถวิ่งๆเดินๆ ผกก.โนแลนก็ยังดันถ่ายทำเป็นระบบ ไอแมกซ์ ไปด้วย จึงทำให้เอาเข้าจริงๆพอถึงฉากแอ็คชั่นใหญ่ๆ จึงทำให้คนดูไม่ได้รู้ตื่นเต้น หรือ ตื่นตะลึง ไปกับฉากแอ็คชั่นเหล่านั้นเท่าที่ควร ไม่เหมือนกับ Mission Impossible 4 ที่รายนั้นเขาแยกไว้เลยว่า ฉากไอแมกซ์ ต้องเป็นฉากแอ็คชั่นใหญ่ๆเท่านั้น จึงทำให้หนังใช้ประสิทธิภาพของระบบนั้นได้อย่างเต็มที่ แต่อย่างไรก็ตามถ้าหากใครที่มีโอกาสได้ดูในระบบ Imax ผมก็ถือว่าไม่ได้เสียหายสักเท่าไหร่ แต่มันกลับไม่ได้เท่าที่ควรเท่านั้นเองครับ

โดยคราวนี่มาพูดถึงด้านของตัวหนังของภาคปิดตำนานแบทแมน ซึ่งหลังจากในภาคแรกอย่าง Batman Begins ได้พูดถึงเรื่องราวของการเอาชนะตัวเอง , ใน The Dark Knight พูดถึงเรื่องราวของสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ และ เรื่องราวของ ความเชื่อ ก็ดูเหมือนว่า The Dark Knight Rises จะไม่ได้มีประเด็นใหม่ๆมาเสนอกับคนดูสักเท่าไหร่นัก แต่กลับเลือกที่จะ ขยี้ประเด็นเดิมๆ ที่ทิ้งไว้ใน The Dark Knight ให้แรงกว่าเท่านั้น เพราะสิ่งที่ The Dark Knight Rises นำมาเลือกใช้มากที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องราวของ ความหวัง และ ความศรัทธา ที่หนังเลือกที่จะพูดถึงแบบหักจุดที่เคยปูใน The Dark Knight ว่าคนเราต้องมีที่พึ่งจิตใจ




ให้กลายเป็นว่า 'สิ่งที่คนเราควรจะเชื่อมั่นมากที่สุด และควรจะยึดเหนี่ยวในยามที่ใจเราสั่นคลอนมากที่สุดคือ ตัวเอง' โดยการบอกตรงๆเลยว่า 'เราทุกคนสามารถเป็นฮีโร่ได้' ผสมไปกับเรื่องราวของ 'ความเท่าเทียมกันของมนุษย์' โดยการมีฉากตั้งคำถามว่า 'จะเป็นอย่างไรถ้าหาก คนรวย และ คนจน มีความเสมอภาคกัน' และคำตอบของคำถามนั่นก็คงหนีไม่พ้นว่า จะเกิดการจราจลของคนที่มีสถานะถูกสังคมกดขี่ครั้งยิ่งใหญ่ เพราะฉะนั้นความเป็นจริงที่เรายังคงหนีไม่พ้น และหนังยังตอกย้ำให้เห็นอยู่คงเป็นการที่ 'โลกนี่ยังไงก็ยังไม่สามารถมีความเท่าเทียมกันได้' แต่สิ่งเดียวที่คนเรายังสามารถทำได้คือ หยุดการกดขี่คนที่มีฐานะด้อยกว่าเรา เพราะสิ่งที่เราทุกคนยังพึงมีอยู่คือ สิทธิของความเป็นมนุษย์ ที่ถึงแม้ว่าหลายคนจะมีฐานะที่แตกต่าง แต่เราทุกคนก็ยังเป็น เพื่อนร่วมโลก

ซึ่งสิ่งที่ดูเหมือนจะสามารถทำให้ The Dark Knight Rises ดูดี และสามารถกระจายประเด็นเหล่านี้มาได้ค่อนข้างโอเคในระดับนึงคงไม่พ้นการที่ผู้กำกับ คริสโตเฟอร์ โนแลน หันไปเอาใจคอหนังตลาดมากขึ้น โดยการที่เพิ่มฉากแอ็คชั่นอลังการ และ ยิ่งใหญ่ ให้มากกว่า The Dark Knight อยู่หลายเท่า โดยเฉพาะฉากการกลับมาของแบทแมนบน แบทพ๊อต หรือแม้แต่ฉากไคลแมกซ์ระยะเวลา 40 นาทีสุดท้ายของหนัง ที่สามารถทำให้แฟนๆการ์ตูน และ คนดูทั่วไปสามารถลืมหายใจไปกับความยิ่งใหญ่อลังการเลยทีเดียว โดยถึงแม้ว่า The Dark Knight Rises อาจจะมีข้อผิดพลาดที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับหนังของ โนแลน อยู่มาก




ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการตัดต่อแบบที่พยายามจะไม่ทำให้หนังผลาญทุนสร้างไปมากกว่า 250 ล้านดอลล่าในช่วงแรก หรือแม้แต่การที่หนังพยายามจะรีบจบในช่วงหลัง จนทำให้แฟนๆพันธุ์แท้ของ คริสโตเฟอร์ โนแลน อาจจะมีอารมณ์เสียกันมากพอสมควร เพราะ The Dark Knight Rises กลับหันไปเน้นเรื่อง ฉากแอ็คชั่น มากกว่าจะกลับมาทำหนังให้อารมณ์เคร่งเครียดแบบ The Dark Knight และก็น่าติดตามไปในเวลาเดียวกันแบบ Inception แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในฐานะนักดูหนังธรรมดาคนนึง และไม่ได้มีความคาดหวังอะไรมากมายกับ The Dark Knight Rises อยู่แล้ว สำหรับผม การปิดตำนาน แบทแมน ในภาคนี่จึงถือว่าสามารถทำออกมาได้ดูสนุกเกินคาด ถึงแม้ว่าตัวร้ายอาจจะไม่ได้เด็ดดวงเท่าภาคก่อน และอารมณ์ความเครียดอาจจะไม่ได้ดีกว่าก็ตามที

ซึ่งด้านการแสดงของ The Dark Knight Rises ที่ในภาคนี่ได้เพิ่มตัวละครหลักๆมา 3 ตัว อันประกอบไปด้วย ตัวร้ายอย่าง เบน , ตำรวจใหม่ไฟแรงอย่าง จอห์น เบลค และ แคทวูเม่น ที่คนที่รับหน้าที่ได้ดีที่สุดใน 3 ตัวละครหลักที่เพิ่มเข้ามาเห็นจะเป็น แอนน์ แฮทาเวย์ ในบทของ แคทวูเม่น ที่สามารถถ่ายทอดทั้งอารมณ์ของความเซ็กซี่ และ เจ้าเล่ห์ ออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ แต่ในขณะเดียวกันตัวละครที่น่าผิดหวังที่สุดใน 3 เจ้าคงหนีไม่พ้น เบน ที่รับบทโดย ทอม ฮาร์ดี้ ที่เปิดตัวมาอย่างยิ่งใหญ่ แต่กลางเรื่องจนถึงท้ายเรื่อง กลับแผ่วความน่าเกรงขามลงไปมาก จนพาลทำให้หลายๆคนไปเปรียบเทียบกับ โจ๊กเกอร์ อยู่มากพอสมควร

แต่อย่างไรก็ตามสำหรับ The Dark Knight Rises อาจจะไม่ได้ออกมาดีตามมาตรฐานของ โนแลน ที่เคยสร้างไว้ใน Inception และ The Dark Knight แต่ถ้าหากมองในด้านของความบันเทิง และ การกลับมาของแบทแมน ก็ถือว่าเป็นอีกภาคนึงที่เราทุกคนสมควรที่จะเสียเงินอย่างน้อย 2 รอบเพื่อไปปิดความยิ่งใหญ่




เรื่องนี้ผมให้ A+ ครับ




 

Create Date : 21 กรกฎาคม 2555
2 comments
Last Update : 21 กรกฎาคม 2555 22:05:47 น.
Counter : 7275 Pageviews.

 

ยอดเยี่ยมมากครับโนแลนและคริสเตียนเบล^^

 

โดย: เพื่อนที่ดีที่สุด 22 กรกฎาคม 2555 15:36:38 น.  

 

พอดูเรื่องนี้ ต้องไปตามเก็บหนังที่ คริสเตียน เบลเล่นไว้เลย เจ๋งโครต

 

โดย: popkopo IP: 183.89.67.220 23 พฤศจิกายน 2555 22:37:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลูกอบรสเขียด
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




FRIEND LINKS



MY LAST SCENE




Thanks to




MY LAST MoVIE REVIEW



























จันดารา ปัจฉิมบท : สกปรกล้างอุบาทว์


 photo POSTER-FAC_IFnCcXbFri40616_zpse5ff0536.jpg

ทองสุก 13 : ผีสาง หนังคัลท์ และ การคารวะ


 photo hansel_and_D835rF8Mon102653_zps28168f1a.jpg

Hansel & Gretel : Witch Hunters : นักล่าแม่มดพันธุ์ดิบ , เถื่อนๆ บ้าๆ ล่าแม่มด


 photo last1_iTCSXyfWed113150_zpsdc2c94f3.jpg

The Last Stand : นายอำเภอคนพันธุ์เหล็ก , ด่านสุดท้าย พ่ายทุกราย


Photobucket

The Man with the Iron Fists : วีรบุรุษหมัดเหล็ก , เพื่อกังฟู กูสู้ตาย


Photobucket

Gangster Squad : หน่วยกุดหัวแก๊งสเตอร์ , ตำรวจเก่า เก๋าเจ้าพ่อ


Photobucket

Texas Chainsaw 3D : สิงหาต้องสับ , สานต่อตำนาน ไอ้หน้ากากมนุษย์


Photobucket

Upside Down : นิยามรักปฎิวัติ 2 โลก , ความรักคู่ขนาน และ ชนชั้นที่ถูกขวาง


Photobucket

The Guillotines : พยัคฆ์ร้ายกิโยติน , คนเบี้ยล่าง ปะทะ คนที่พยายามไม่เป็น


Photobucket

The Bay : 24 ชม. แพร่พันธุ์สยอง , โฆษณาเสียดสีสันดาน และ สถานการณ์


Photobucket

Jack Reacher : ยอดคนสืบระห่ำ , ต่อจิ๊กซอว์มหาสนุก กับนักสืบสุดระห่ำ


Photobucket

Wreck-It Ralph : ราล์ฟ วายร้ายหัวใจฮีโร่ , เราทุกคนต่างมีความหมาย


Photobucket

Playing for Keeps : กระตุกหัวใจ ให้กลับมาปิ๊ง , ชีวิตนี้ มีโอกาสแค่เพียงครั้ง


Photobucket

Chinese Zodiac : วิ่ง ปล้น ฟัด , ลุยๆ ฟัดๆ หวนคืนสู่แบบฉบับของ เฉินหลง


Photobucket

Deadfall : คู่โจรกรรมมหาประลัย , เราทุกคนมีความผิด เราทุกคนมีกิเลส


Photobucket

Pitch Perfect : ชมรมเสียงใส ถือไมค์ตามฝัน , หลักสูตรอาหารที่ทำตามหนังสือ


Photobucket

Life of Pi : ชีวิตอัศจรรย์ของพาย , มีวันนี้เพราะพี่(พระเจ้า)ให้


Photobucket

เคาท์ดาวน์ : วันนี้วันดีปีใหม่ ท้องฟ้าแจ่มใส พาใจสุขสันต์


Photobucket

The Hobbit : An Unexpected Journey เดอะ ฮอบบิท : การผจญภัยสุดคาดคิด , การเดินทางดัด


Photobucket

สามวัน สองคืน รัก.เลิก.เลย : ผู้ชายดีๆคงมีแต่ในนิยาย


Photobucket

Hotel Transylvania : โรงแรมผี หนีไปพักร้อน , นวัตกรรมโลกที่แตกต่าง


Photobucket

Tai Chi Hero : ไทเก๊ก หมัดเล็กเหล็กตัน 2 , อาหารจานเดิม ที่รสชาติจางหายไป


Photobucket

ยอดมนุษย์เงินเดือน : ชีวิตวัยทำงาน กับครั้งนึง Once in a Lifetime


Photobucket

Now is Good : ขอบคุณวันนี้ที่เรายังมีเรา , ความรักชนะทุกสิ่ง พิชิตทุกอย่าง


Photobucket

Cloud Atlas : หยุดโลกข้ามเวลา , ลำดับชีวิตที่มิอาจก้าวข้าม กรรมชีวิตที่มิอาจหนี


Photobucket

The Paperboy : พลิกปมซ่อน... ซ้อนแผนฆ่า , ความโสมมที่สวยงามกว่าชีวิตคน


Photobucket

Rise of the Guardians : ห้าเทพผู้พิทักษ์ , ความศรัทธาอันน้อยนิด ที่สร้างพลังพิชิตอันยิ่งใหญ่


Photobucket

The Impossible : 2004 สึนามิ ภูเก็ต , เจ็บทุกข์ยามยาก ลำบากเพราะมหันตภัย


Photobucket

The Master : บารมีสมองเพชร , มนุษย์เป็นเพียงสัตว์เดรัจฉาน ที่พยายามฉลาดเหนือตัวอื่นเท่านั้นเอง
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
21 กรกฏาคม 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ลูกอบรสเขียด's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.