The Green Hornet : หน้ากากเเตน อาละวาด , แอ็คชั่น ฮา ความบ้า ต้องยกนิ้ว เเละต้องอวย 3D ที่แปลงได้ดี The Green Hornet (2011) [ไม่เปิดเผยเนื้อเรื่องสำคัญ หรือ ไม่สปอยล์] Rated PG-13 for sequences of violent action, language, sensuality and drug content ได้มีโอกาสดูหนังเรื่องนี้เมื่อวานนี้ครับ เรื่องนี้นั้นจริงๆก็ไม่ได้ค่อยอยากดู 3D สักเท่าไหร่ เหตุเพราะ เเพง เเละ ปวดตา + เรื่องนี้ถ่ายเป็นธรรมดาเเละมาเเปลงเป็น 3D ทีหลังด้วยนะสิ เเต่ว่ารอบมันดันตรงกันซะงั้น เลยต้องยอมเสียเงินไปดูเป็นระบบ 3D ซะหน่อย ส่วนตัวหนังจะเป็นอย่างไร ไปอ่านกันเลยครับ The Green Hornet หนังที่สร้างมาจากการ์ตูนดังเมื่อสมัย Bruce Lee ยังเเสดงอยู่ เรื่องราวของ Britt Reid เจ้าพ่อ เพลย์บอย คนดัง ที่วันๆไม่ทำอะไร เอาเเต่ปาร์ตี้ เมา เละเทะ ไปทั้งวัน จนกระทั่งพ่อสุดโหดที่เขาเคยเกลียดอยู่ตั้งเเต่เด็กนั้น ดันตายเพราะโดน ผึ้งต่อย เขาจึงต้องเป็นคนที่ต้องเเบกรับหน้าที่บริษัท หนังสือพิมพ์ ของพ่อเขาต่อ จนกระทั่ง เขานั้นได้รู้จักคนซ่อมรถของพ่อเขาอย่าง เคโต้ จนสนิทสนมเเละรวมหัวกันว่า พวกเขาอยากจะเป็นฮีโร่ (ซึ่งอยู่ดีๆก็เป็นง่ายๆซะงั้น) เพื่อไปปราบเหล่าร้าย ซึ่งภายหลังนั้น เขาได้ดันไปเจอตัวร้ายตัวพ่ออย่าง ชัดนอฟกี้ ที่พวกเขาต้องโค่นลงให้ได้ The Green Hornet ผลงานกำกับของ ผกก.อินดี้ อย่าง Michel Gondry หลังจากที่เคยฝากความประทับใจไว้ใน Be King Rewind หนังวีดีโอเทป เเละ หนังดราม่าอย่าง Eternal Sunshine of the Spotless Mind เขาขอกลับมารับผลงานหนังเเอ็คชั่นบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ก็เกือบไม่ได้เป็นรูปเป็นร่างตั้งหลายรอบเเล้วหละ เเต่ต้องขอขอบคุณหนุ่มอ้วนตุ้ยอย่าง Seth Rogen ที่ทำให้โปรเจคนี้ขึ้นมาเป็นหนังได้ ซึ่งเรื่องนี้สิ่งที่อยากพูดถึงมากที่สุดตอนนี้คือ 3D ของหนัง ซึ่งต้องขอชมว่า "แปลงมาเป็น 3D ได้ไม่เสียของ" ตามที่ Sony เคยประกาศไว้เลยว่าจะไม่ทำให้เสียของเเน่ๆ ซึ่ง 3D เรื่องนี้นั้นมีมิติที่ชัดเจน (ถึงบางฉากจะไม่ก็ตาม) และ ฉากทะลุจอนั้นก็ทำได้จริงๆ ไม่เหมือน Titans ที 3D เเย่มากจริงๆ และ โดยเฉพาะฉากของ เคโต้ Vision นั้น.. โดยเฉพาะฉากของเคโต้ Vision ซึ่งเป็นมุมมองของ เคโต้ ที่เหมาะสมมากที่จะดูในรูปเเบบ 3D เพราะรู้สึกฉากต่อสู้ของ เคโต้ เนี่ยเเหละทะลุจอที่สุดในเรื่องเเล้ว + ภาพสวยดีด้วย , ส่วนในด้านอื่นๆนั้น อย่าง ฉากเเอ็คชั่น ที่ผมต้องขอบอกว่าไม่ได้ตั้งความหวังไว้มาก เเละนั้นทำให้ผมได้ ความสนุกกลับบ้าน ถึงฉากเเอ็คชั่นมันจะออกเเนวธรรมดาๆ เเต่คงต้องขอบคุณพี่ Seth Rogen ที่ทำให้สนุกไปกับมันได้ + ฉากเเอ็คชั่น Climax ต้องขอยอมรับว่า ทำได้ ฮา เเละ บ้าบอ มากจริงๆครับ , และส่วนในด้านของความตลกโปกฮานั้น เรื่องนี้ไม่ขอรับรองละกันว่า จะผิดหวังหรือไม่ มุขของหนังแนวพูดๆคงจะแล้วเเต่คนชอบมากกว่า มาถึงส่วนในข้อเสียของหนังนั้น ที่หลายคนได้บอกไว้นั้นคือ เรื่องของบท ที่เละเทะ ซึ่งสำหรับพอดูเเล้ว ก็คงต้องบอกยังงั้น เพราะมันออกเเนวเละเทะไปนิด เเบบว่า จะได้อะไรก็ได้ ซะงั้นแต่ว่าถึงจะเละเทะเพียงใด ถ้าเอามาเทียบกับความฮาของหนังก็อาจจะทำให้ลืมเรื่องบทพวกนี้ไปได้ และสิ่งที่ไม่ค่อยชอบอีกอย่างของหนังเรื่องนี้คือ ตัวละครตัวร้าย ของ Christoph Waltz ที่จะร้ายก็ไม่ร้าย จะไร้สาระก็ไม่ไร้สาระ ให้สุด มันไม่สุดในทุกด้าน + การเเสดงของเฮียเเกเรื่องนี้ดูต๊องๆไปนะ เสียลุคจาก Inglorious หมดเลย (ตอนเเรกเห็นในตัวอย่างนึกว่าเฮียเเกจะเท่ซะอีก) ซึ่งโดยรวมเเล้วสิ่งที่ต้องชื่นชมที่สุดในหนังคงจะเป็นการเเปลงฟีลม์ธรรมดาไปเป็นเเบบ 3D ได้อย่างไม่เสียของ (จะว่าไปนั้น ที่เสียของที่สุดคงเป็น The Last Airbender ที่ได้เห็นเเค่ตัวอย่างต้องขอบาย) สรุป หนังเรื่องนี้เป็นหนังเเนวเเอ็คชั่น คอมเมดี้ ที่ดูได้เพลินๆ ถ้าไม่ยึดติดไปกับเรื่องบทของหนัง เเละ ถ้าถามว่าเหมาะสมกับ 3D ไหม ก็แล้วเเต่เลยครับ ถ้าเป็นไปได้ดูธรรมดาก็อาจจะได้มั้ง เพราะหนังก็ไม่ทะลุจอขนาดนั้น เพียงเเต่มันเเปลงมาได้ดีเท่านั้นเองเเหละครับ ถ้าอยากดูหนังสนุกๆสักเรื่อง เรื่องนี้ไม่น่าพลาด เรื่องนี้ผมให้ B+ ครับ (ให้เพราะฟีลม์เเปลงเป็น 3D + ส่วนตัวที่ชอบ Rogen เเละ Chou อยู่เเล้วนะครับ)   Create Date : 06 กุมภาพันธ์ 2554 1 comments Last Update : 6 กุมภาพันธ์ 2554 9:45:22 น. Counter : 2859 Pageviews. Share Tweet

เรื่องนี้ก็เพิ่งดูไปหมาดๆค่ะ ตอนแรกไม่อยากดู แต่แฟนอยากดู ซะงั้น ดูไปก็เพลินๆดีนะคะ เห็นด้วยกับคุณ จขบ เรื่องการแสดงของ Waltz ดูเหมือนเป็นตัวประกอบอย่างไรก็ไม่รู้ แต่ก็พอถูๆไถๆ คลายเครียดได้ค่ะ   โดย: army_wifey 12 กุมภาพันธ์ 2554 9:22:44 น.