|
ประสบการณ์คลอดแอร์ฟอร์ซ ย้อนหลังไปเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 54 (แอร์ฟอร์ซ 40 สัปดาห์ 5 วัน)
07.30 น. ออกจากบ้านหัวหินไปธุระกับคุณสามีที่เพชรบุรี ระหว่างเดินทางรู้สึกท้องแข็งทุกเพลง (ฟังเพลงในรถ)
10.30 น. ทำธุระเรียบร้อย ระหว่างนั้นก็ลุ้นไปด้วย นี่มันเจ็บจริงรึเจ็บเตือนเหมือนทุกทีน๊าาา...คุณสามีถาม "ไป รพ.มั้ยๆ / จะไปทันมั้ยเนี่ย / แวะ รพ.เพชรบุรีก่อนมั้ย? นุ้ยก็บอกสามี "ทนได้ชิลๆ คนอื่นเค้าเจ็บกันเป็นวันๆ กว่าจะคลอด นี่ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินข้าวเลย หาไรกินก่อนน๊าา " แต่คุณสามีไม่ยอมค่ะ บอกว่าให้ไปกินที่ รพ. (ก่อนถึงโรงพยาบาลมีแวะเติมแก๊ซด้วย ข้างปั๊มมีร้านขายก๋วยเตี๋ยว ชวนคุณสามีกินก็ไม่ยอมกิน
11.00 น. เดินทางถึง รพ. นุ้ยเข้าไปที่ฝ่ายสูตินารี อารมณ์จะไปจองคิวไว้ก่อน จะได้ไปกินข้าว ส่วนคุณสามีไปหาที่จอดรถ พยาบาลสอบถามอาการและเรียกรถเข็น นุ้ยบอกไม่เป็นไรค่ะ เดินได้สบาย ไม่เจ็บ (พยาบาลทำหน้างงๆ) พอเข้าห้องตรวจ พยาบาลมาตรวจภายใน (มันเจ็บมากเลยโรบิ้น.. ) แล้วแจ้งว่า "ปากมดลูกยังไม่เปิดเลยค่ะ แต่นุ่มแล้ว อายุครรภ์ขนาดนี้ตรวจสุขภาพเด็กหน่อยนะคะ" ว่าแล้วเค้าก็พาไปตรวจหัวใจและการดิ้นของลูก 1 ชม. ระหว่างนั้นคุณสามีรออยู่หน้าห้อง เค้าไม่ให้เข้า
12.00 น. นุ้ยนอนหิวตาลายอยู่บนเตียง คอยสังเกตการดิ้นของลูกแล้วกดที่เครื่องมือ นอนคิดนั่นคิดนี่ เอ้...ทำไมลูกไม่ดิ้นเลยน๊าาา ตอนอยู่ในรถก็ยังดิ้นอยู่เลย ทำไมพอมานอนกลับไม่ดิ้น พยาบาลคนที่ 1 มาเขย่าพุง....นิ่ง......พยาบาลคนที่ 2 เขย่าแรงขึ้น...ดิ้น 1 ตุ๊บ...พยาบาลทั้งสองคนเรียกพยาบาลอีกคนหนึ่งมา เจ๊มาเขย่าหน่อยไม่ยอมดิ้นเลย...(ใจเริ่มเสียละคราวนี้) คุณพยาบาลชุดสีเหลืองมาเขย่าพุงและกดแรงมากๆ จนจุก ลูกดิ้นอีก 1 ครั้ง "หัวใจก็เต้นดีนะ แต่ราบเรียบมากเลย ขอโทรแจ้งคุณหมอก่อนนะคะ" พยาบาลโทรแจ้งหมอชูเกียรติ คุณหมอบอกให้พยาบาลให้แจ้งคุณสามีเพื่อให้นุ้ยแอดมิท ให้ออกซิเจน น้ำเกลือ ตรวจสอบการดิ้นของแอร์ฟอซ และการเต้นของหัวใจอีกครั้ง ตอนนี้ใจนุ้ยเริ่มเสียแล้ว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยนอน รพ. และให้น้ำเกลือ แต่ไม่เคยต้องได้รับออกซิเจน หมอจะกลับจากกรุงเทพตอนเย็น ๆ จะมาทันมั้ยน๊าาา คิดนั่นคิดนี่มากมาย...คุณสามีกลับบ้านก่อนเพราะเค้าไม่ให้ญาติเฝ้า นุ้ยไม่มีอะไรติดตัวเลยแม้แต่รองเท้า ชุดชั้นใน และมือถือ ระหว่างรอหมอก็นั่งดูกราฟการเต้นของหัวใจแอร์ฟอซ มันช่างราบเรียบจนเริ่มกลัวแล้วตอนนี้ จู่ๆ คุณพยาบาลก็มาขอจัดการกับนุ้ยน้อยและพุงให้เกลี้ยงเกลา นุ้ยก็ยังงง "ต้องทำแล้วหรอคะ?" คุณพยาบาล "โกนไว้ หมอมาจะได้จัดการเลย" (นึกในใจ...ถ้ามีบริการแวกซ์จะดีกว่ามิใช่น้อย )
ระหว่างนี้ คุณพยาบาลทั้งหลายยย...คุยเสียงดัง นั่งแชท นั่งเปิดเฟสบุ๊ค กินข้าว กินส้มตำ กินขนม (ช้านก็หิวนะเฟร้ยยยย ถามกันบ้างอะไรบ้างงงงง ) ในขณะที่เตียงข้างๆ เริ่มครวญครางดังขึ้นเรื่อยๆ (นุ้ยก็เป็นห่วงเค้าจังอยากไปดูแล อยากไปให้กำลังใจ แต่ก็ไม่กล้า เพราะเราไม่รู้จักกัน)
16.00 น. คุณหมอมาเหมือนเทวดาโปรด คุณหมอหล่อที่สุดในสามโลกละตอนนี้ หมอเข้ามาตรวจภายใน (เอ๊ะ...ไม่เห็นเจ็บเหมือนตอนพยาบาลทำเลยอ่ะ) คุณหมอเอามือออกมาพร้อมกับเลือดสีแดงสด จำนวนมาก (เฮ้ยยยย...อะไรเนี่ย ไหนแม่ๆ ในชานเรือนบอกเป็นมูกเลือด นี่มันเลือดสดๆ ชัดๆ ) หมอบอก "กราฟหัวใจลูกเต้นราบเรียบเกินไปและการตอบสนองของเด็กไม่ค่อยดีแล้ว หมอขอเร่งคลอดนะ" (ม่ายยยย...แม่ๆ ในชานเรือนบอกว่าถ้าเร่งคลอดยังไงก็ต้องโดนจับผ่าอยู่ดีแหละ ช้านก็เจ็บหลายต่อสิ) "หมอคะ...ถ้าหมอคิดว่าเร่งแล้วจะไม่ได้ผล หมอจะผ่าก็ได้นะคะ คือหนูไม่อยากเจ็บหลายต่อน่ะค่ะ" หมอเงียบ...คิด "หมอว่าเร่งคลอดก่อนดีกว่านะ มันจะเจ็บนิดนึงนะ" (โห่...หมออย่ามาหลอก หนูศึกษามาหรอกว่ามันไม่นิดเลย มันเจ็บกว่าปกติอีกหลายเท่า หนูรู้ หนูอ่านมา)
16.30 น. พยาบาลก็มาฉีดยาเร่งลงไปในสายน้ำเกลือ...(มันจะเจ็บขนาดไหนอ่าาา...กลัวจัง คิดถึงคุณสามีมาก แต่หิวข้าววววมากกว่า 555 ) ถามคุณพยาบาล "คุณพยาบาลคะ ขอไปกินข้าวก่อนได้มั้ยคะ หิวมากเลย ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลยค่ะ " คุณพยาบาล "ไม่ได้ค่ะ ถ้าเผื่อฉุกเฉินอาจจะต้องผ่าคลอด กินข้าวไม่ได้นะคะ อันตรายมาก" (หา...ผ่าหรอ นี่วางแผนอะไรกันไว้ป่าวเนี่ย" แอบได้ยินพยาบาลคุยกันกับคุณหมออีกคนหนึ่งที่เหมือนจะมาใหม่ "เตียง 2 เค้าอายุครรภ์เยอะแล้ว นี่โดนยาเร่งอยู่ หมอชูเกียรติบอกให้เตรียมผ่าไว้ด้วย" (เฮ้ยย!! ช้านจะคลอดเอง) "นอกเวลาราชการผ่าไม่ได้ ต้องฉุกเฉินถึงผ่าค่ะ" (อ๋อ...มันเป็นอย่างนี้นี่เอง...หมอจงใจให้นุ้ยฉุกเฉินใช่ป่ะเนี่ย ) ระหว่างนี้ทำใจ เตรียมใจ ยังไงช้านโดนผ่าแน่ๆ เตียงข้างๆ เริ่มกรี๊ด...ร้องไห้ ยัยคุณพยาบาลหน้าสวยคนหนึ่งตะโกนดุ "นี่คุณ ร้องเสียงดังทำไม หายใจดีๆ เดี๋ยวลูกจะไม่ฉลาดนะ คนอื่นเค้าก็เจ็บเหมือนกัน เค้าไม่เห็นจะต้องเสียงดังเลย" แล้ว She ก็ไปเม้าท์แตกต่อ...แง่มๆ ยัยหน้าสวยใจยักษ์ แล้วถ้านุ้ยกรี๊ดเค้าจะด่านุ้ยมั้ยเนี่ย ... "คุณพยาบาลคะ เตียงข้างๆ เค้าโดนยาเร่งป่าวคะ" พยาบาล "ไม่ค่ะ" (โห...ขนาดไม่โดนยาเร่งยังร้องขนาดนี้ แล้วช้านไม่เจ็บจนช็อคตายไปเลยหรอเนี่ย) นอนเบื่อๆ เซ็ง ไปหยิบหนังสือคู่สร้างคู่สมมาอ่าน อ่านไปจนหมดเล่ม เตียงข้าง ๆ พูด "คุณพยาบาลคะน้ำไหล" พยาบาล " อ่าวหรอ ไม่เป็นไร รอแป๊บนึง อ๊าววว...ไปคลอดกัน" (คิดในใจ ดีใจด้วยน๊าาาาา เธอจะพ้นทุกข์แล้ว...เหลือแต่ชั้นนี่แหละ ไม่รู้ต้องนอนแหง่วอีกกี่ชั่วโมง) พยาบาลถาม "เตียง 2 เอายาแก้ปวดมั้ยคะ ขอได้นะ" นุ้ยตอบ "ไม่ล่ะค่ะ ไม่เป็นไร ไม่เจ็บ" พยาบาล "โห...เก่งจังค่ะ แต่ถ้าจะใช้ก็บอกนะคะ" อ่านคู่สร้างคู่สมต่อ 5 นาทีต่อมา
(ระหว่างนี้ เห็นคุณพยาบาลรับโทรศัพท์จากคุณสามีประมาณ 2 ครั้ง แอบดีใจ เค้ายังเป็นห่วงเรา )
17.30 น. (โอ๊ะ..ตายแล้วฉี่ราด พยาบาลด่าตายเล๊ยยยย ...เอ๊ย...ม่ายช่ายแล้ว) "คุณพยาบาลค๊าา น้ำไหลค่ะ" พยาบาลมาตรวจภายใน "ปากมดลูกเปิดแล้ว 1 เซนค่ะ เอ๊ะ...แต่สีน้ำคร่ำแปลกๆ ทำไมเป็นสีแบบนี้" (ดีใจๆ เปิดแล้วตั้ง 1 ซม. แป๊บเดียวเอง ไม่เจ็บเลยซักนิดดดดดด ถ้าเป็นแบบนี้ก็ดีสิ เปิดไปเรื่อยๆ แบบไม่เจ็บ หุหุ (ตอนนั้นลืมเรื่องสีน้ำคร่ำไปสนิท) "คุณพยาบาลคะ ปวดฉี่น่ะค่ะ เข้าห้องน้ำได้มั้ย" อืมได้เดินไปเลยค่ะ ตรงโน้น..." นุ้ยก็เดินไปแบบลื่นๆ ไปด้วยเลือดของตัวเอง (เท่าที่รู้น้ำคร่ำไม่น่าจะมีเลือดเยอะขนาดนี้นะ พื้นเจิ่งนองไปด้วยเลือดและรอยเท้า 3 - 4 ก้าวของนุ้ย) "คุณพยาบาลคะ ไม่กล้าเดินค่ะ กลัวลื่น พื้นจะเลอะมากเลย" พยาบาล "โหยยยยย...อารายเนี่ยยย เขื่อนแตกรึไง ทำไมมันเยอะขนาดนี้ มานี่ ๆ มานั่งบนเตียงก่อน เดี๋ยวเอากระโถนมาให้ค่ะ" (พยาบาลเหลือคนเดียว เพราะที่เหลือไปทำคลอดเตียงข้างๆ มันช่างชุลมุนวุ่นวายมากเลยค่ะ นุ้ยก็ปวดฉี่ น้ำคร่ำก็ไหลไม่หยุด อยากจะฉี่ปนกับน้ำคร่ำก็ไม่กล้า
18.00 น. ความทุกข์เริ่มมาเยือน ปวดท้องมากกกก ปวดเหมือนปวดประจำเดือน+ปวดท้องบิดๆ แบบท้องเสีย+ปวดท้องอึ ทุกอย่างคูณ100 ปวดจนร้องไม่ออก (จริงๆ ไม่กล้าร้องกลัวโดนด่า 555) ได้ยินเสียงกริ๊ดดด...และเสียงร้องของเด็กดังมาก "ผู้หญิง 3,700" (โห...เค้าคลอดแล้ว ช้านยังทรมานอยู่เลย )
19.30 น. "คุณพยาบาลค๊าาา...ไม่ไหวแล้วขอยาแก้ปวดหน่อยค่ะ " พยาบาล "คิดดูดีๆ นะคะ ฉีดได้เข็มเดียวเท่านั้น แล้วถ้าเจ็บมากกว่านี้จะฉีดอีกไม่ได้แล้วนะคะ" (ไหนบอกว่าขอได้ไง แง่มๆ) "งั้นยังไม่เอาก็ได้ค่ะ" (ได้ยินพยาบาลคุยกัน พยาบาล 1"เตียงนั้นของหมอชูเกียรติเค้าสั่งมาแล้วนะว่าอย่าให้คนไข้เจ็บมาก เดี๋ยวก็โดนดุหรอก" พยาบาล 2 "ดูคนไข้ก็ยังไม่เจ็บมากนี่นา" (โหย...หล่อน ช้านเจ็บจะตายอยู่แล้ว แต่ไม่กล้าแหกปาก เพราะไม่อยากโดนด่าเนี่ยแหละ แง่มๆ )
21.20 น. พยาบาลมาตรวจภายใน "ยัง 1 ซม. อยู่เลยนะคะ" (ห๊าาาาา...ม่ายน๊าาา ช้านต้องทนถึงเช้าป่าวเนี่ย) พยาบาลโทรหาคุณหมอชูเกียรติ หมอบอกให้เข้าห้องผ่าตัดได้เลย (บอกตามตรง โล่งอก เพราะจะหายจากความทรมานนี้แล้ว) เข้าห้องผ่าตัดรู้สึกทุลักทุเล เพราะนุ้ยก็เจ็บท้องมากกกก...ต้องย้ายเตียงทั้งหมด 6 เตียงโดยไม่รู้ว่าจะย้ายทำไมกันนักกันหนา ทำไมไม่ใช้เตียงเดียวขนๆ ไปเลยล่ะ พอเข้าห้องผ่าตัดรู้สึกกลัวขึ้นมาจนอยากเดินลงจากเตียง แต่ถูกพยาบาลประมาณ 6 คนมารายล้อมทำนั่นนี่จนหายใจหายคอไม่ทัน แล้วคนหนึ่งก็มาฉีดยาชาและบล็อคหลังให้ (อ่าาา...มันเจ็บปวดแบบนี้นี่เอง แต่ระหว่างฉีดยาจู่ๆ ก็ปวดท้องขึ้นมาอีก...ตอนนี้ไม่รู้อันไหนเจ็บกว่าอันไหนแล้ว ) แล้วหมอก็มา...หมอเหมือนในหนังเลยค่ะ... ปกติเจอแต่หมอที่ลักษณะคล้ายๆ ครู แต่วันนี้หมอดูเป็นหมอเลยอ่าาา อิอิ
ระหว่างนั้น...หมอก็ถามว่าเจ็บมั้ย นุ้ยบอกหมอ ไม่เจ็บค่ะ ตอนนั้นเหมือนเป็นเหน็บชาๆ ตั้งแต่หน้าอกลงไปถึงปลายเท้า นอนมองหน้าพยาบาล คิดถึงคุณสามี เค้าจะรู้มั้ยนะว่านุ้ยถูกจับผ่าแบบนี้ จะมีใครบอกเค้ามั้ย เค้าจะมาเมื่อไหร่ คิดสารพัด
21.44 น. ได้ยินเสียงเด็กร้อง อ๊าว...แอร์ฟอร์ซของแม่เกิดแล้วววว และได้ยินเสียงพยาบาลพูด "เกิด ผู้ชาย 3,045" (อ่าาา..เสียงดังดีจังลูกช้านนนน...แต่ทำไมน้ำหนักเหลือ 3,045 นะ ไหนหมอบอก 3,200 อัพ แต่ไม่เป็นไร ลูกแข็งแรงปลอดภัยเป็นพอ พยาบาลเอาลูกมาให้ดูหน้า..."คุณแม่คะ ได้ลูกชายนะคะ นี่นะคะหน้าตาของลูก"... นุ้ยมองหน้าลูก น้ำตาไหลพรากๆ (แต่ในใจคิด...โหจมูกแม่ชัดๆ เลย ทำไมปากกว้างแดงแป๊ดงี้เนี่ย ตัวม่วงๆ ย่นๆ ด้วย แต่ก็น่าร๊ากกกก) พยาบาล "อ่ะ...ให้หอมทีนึงค่ะ" นุ้ยหอมลูกเบา ๆ กลิ่นเด็กนี่หอมจริงๆ แก้มลูกอุ่นมากๆ ตัวลูกเป็นสีม่วงๆ นุ้ยเลยถามพยาบาลว่า คุณพยาบาลคะ ทำไมลูกหนูตัวม่วงๆ ล่ะคะ คุณพยาบาลตอบว่า "เด็กๆ ก็ตัวแดงๆ แบบนี้แหละค่ะ คุณแม่คงจะมึนยาเลยเห็นเป็นสีอื่นน่ะค่ะ"
22.00 น. นุ้ยถูกย้ายมาไว้ที่ห้องรวมแล้วเรียบร้อย เพราะไม่มีห้องพิเศษว่าง พยาบาลเดินเข้ามาบอก เจอลูกได้ตอน 8 โมงเช้านะ (โห...อยากเห็นหน้าลูกจังเลย) นอนไม่หลับ เพราะได้ยินเสียงเด็กร้องตลอดเวลา...เสียงนี้จะเป็นของลูกเรามั้ยน๊าา..เสียงโน้นจะเป็นของลูกเรามั้ยน๊าา...ทำไมเค้าปล่อยให้ร้องขนาดนี้น๊าาาา...เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้จนกระทั่งเช้า... เจ้าหนูน้อยมหัศจรรย์ของแม่ นามว่าแอร์ฟอร์ซ 555 อ่านแล้วสนุกดีอ่ะ อยากเห็นหน้าพยาบาลนั้นมากกก
โดย: sindy_pv11 วันที่: 8 กันยายน 2555 เวลา:2:06:24 น.
คุณแม่เขียนได้สนุกมาก อ่านแล้วลุ้นตามเลยค่ะ เราก็ตั้งใจจะคลอดเอง จะเป็นแบบนี้ไม๊เนี้ยยย >_<
โดย: I-Yung วันที่: 8 กันยายน 2555 เวลา:12:29:36 น.
ยินดีด้วยคะ ลูกสาวเราชื่อ "แอร์บัด" คะ
โดย: air IP: 183.89.96.134 วันที่: 21 กันยายน 2555 เวลา:17:22:32 น.
|
ดอกไม้สีน้ำผึ้ง
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] Friends Blog
Link |