Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2549
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
10 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 
เรื่องเล่า" นกอินทรีย์ "


เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของนกอินทรีย์ ที่ผู้นำเยาวชนค่ายพักแรมมักจะได้ยินเสมอๆ เมื่อมีการอบรมผู้นำเยาวชนของเรา ตำนานนี้ เป็นเรื่องเล่าขานกัน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม… เตรียมความพร้อมของเหล่าผู้นำ เพื่อที่เมื่อถึงเวลา … บรรดาเหล่าผู้นำ ก็ต้องแยกย้ายกันไป ทำงานในค่ายของตนและใช้ความสามารถที่ได้รับการถ่ายทอดหรือฝึกฝนจากค่ายอบรมผู้นำฯ นำไปใช้งานในพื้นที่จริง เรื่องมันเริ่มต้นขึ้นที่…..
โดยปรกติ ธรรมชาติของนกอินทรีย์ที่เราเห็นนั้น มันมักจะอยู่โดดเดี่ยว หรือ เป็นครอบครัวเดี่ยว และมักอาศัยอยู่แถวหน้าผาสูงๆ ริมทะเล มีใครเคยรู้บ้างว่า
กว่าที่นกอินทรีจะโตอย่างที่เราเห็นแต่ละตัวมันมีวิวัฒนาการ การเจริญเติบโตมาอย่างไร…
และการใช้ชีวิตตั้งแต่เกิดจนมันตายไปมีความเป็นมาอย่างไร?
บรรดานักสำรวจต่างๆ ที่ต้องการศึกษาการใช้ชีวิตของพวกนกอินทรีย์ พวกเขาก็จะต้องปีนขึ้นไปบนหน้าผาสูงเหล่านี้ และแอบเฝ้าสังเกตการณ์พฤติกรรมของพวกนกเหล่านี้
พวกเขาเริ่มต้นศึกษาตั้งแต่การเลี้ยงลูกของนกอินทรีย์ เขาสังเกตเห็น พ่อ และแม่นกอินทรีย์ ได้บินออกจากรังของมัน ในครั้งแรกมันบินออกไป และกลับมาพร้อมกับก้อนหินโตๆ จำนวนหนึ่งมาเรียงเป็นฐานของรังมัน ต่อจากนั้นมันก็บินออกไปอีก คราวนี้กลับมาพร้อมกับท่อนไม้ชิ้นใหญ่ๆ แล้วมาเรียงซ้อนด้านบนของก้อนหินที่เอามาแล้วในครั้งแรก ท่าทางของพ่อและแม่นกฯ คงใช้พละกำลังและเหนื่อยไม่น้อยที่เอาก้อนหินและท่อนไม้ใหญ่ จำนวนนั้นกลับมาที่รัง และเมื่อมันหายเหนื่อยมันก็บิน…ออกจากรังไปอีกครั้ง คราวนี้ มันไปคาบเอากิ่งหนามจำนวนหนึ่ง และวางซ้อนไปบนรังของมัน ต่อจากนั้น ทั้งคู่ก็บินออกไป และกลับมาพร้อมกับกิ่งไม้ที่มีขนาดเล็กๆ แล้วมันก็วางเรียงซ้อนขึ้นไปบนรังมัน และมันก็บินออกไปอีกครั้งหนึ่ง แล้วกลับมาพร้อมกับใบไม้แห้งจำนวนหนึ่ง ทั้งคู่ช่วยกันวางและเกลี่ยใบไม้ไปจนทั่วๆรังของมัน ดูเหมือนว่า รังของมันน่าจะเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะหลังจากนั้น แม่นกก็ขึ้นไปยืนบนรังของมัน มันมองไปรอบๆรังของมัน และแล้ว… มันก็กางปีกของมันขึ้น แต่คราวนี้มันไม่ได้ออกบินไปหาอะไรมาใส่เพิ่มเติมในรังของมันแล้ว กลับจิกเอาขนอ่อนๆ ที่นิ่มๆ ใต้ปีกของมัน ออกมา แล้วบรรจงปูลงบนรังของมันทับใบไม้แห้งอีกที คราวนี้มันได้รังสมบูรณ์แบบ และพร้อมสำหรับชีวิตใหม่ ที่กำลังจะเกิดมาแล้ว…. นักสำรวจที่เฝ้าดูพวกมันอยู่ เดาไม่ออกเลยว่า สาเหตุอะไรที่พวกพ่อนกและแม่นกเหล่านั้น จำเป็นต้องทำรังให้ยุ่งยากขนาดนั้นด้วย ช่างทำอะไรยุ่งยากเหลือเกิน
แล้ว…. แม่นกก็ขึ้นไปนั่งบนรังของมัน มันก็สัมผัสกับขนนุ่มๆ ของมัน มันนั่งแล้วหลับตาลง โดยมีพ่อนกยืนดูแลอยู่ใกล้ๆ รังนั่นเอง แล้วแม่นก ก็ออกไข่ออกมาจำนวนหนึ่ง แม่นกนั่งกกลูก เพื่อให้ความอบอุ่นกับไข่ของมัน ส่วนพ่อนก ก็บินออกไปเพื่อหาอาหารมาป้อนให้แม่นก เป็นอย่างนี้ไปอยู่หลายวัน แล้ววันหนึ่งไข่ก็เริ่มแตกออก แม่นกก็ทำการจิก เปลือกไข่ออก เพื่อให้ลูกนกตัวน้อยๆ ออกมาดูโลกภายนอก แล้วมันก็กกลูกน้อยของมันต่อไป เพื่อสร้างความอบอุ่นให้กับลูกๆของมัน บนที่นอนนุ่มๆ ลูกนกก็หลับสบาย….
ส่วนพ่อนกนั้น ก็ออกไปหาอาหารมาให้แม่กินทุกๆ วัน แล้วเมื่อเวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ บรรดาลูกนกอินทรีย์ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ พวกมันก็เริ่มร้องและส่งเสียงเรียกร้องขออาหารบ้างจากพ่อนก เพราะพวกมันเริ่มที่จะกินหนอนตัวเล็กๆ ได้บ้างแล้ว และในขณะที่ลูกนกกำลังหลับสบายอยู่บนที่นอนนุ่มๆนั้น แม่นกก็เริ่มจิกขนอ่อนๆ ที่ปกคลุมรังชั้นบนสุดออกไป อ้าว…. ทำไมแม่นกทำเช่นนั้นเล่า บรรดาลูกนกก็ตกใจตื่นขึ้นมา และพบว่าที่นอนนุ่มๆ ที่เคยมีมันหายไป เหลือแต่เพียงใบไม่แห้ง ที่เมื่อพลิกไปทางไหนก็มีเสียงดังกรอบแกรบๆ ไม่สบายตัวเอาเสียเลย และไม่นาน พวกมันก็ปรับตัวได้ และนอนหลับได้สบายขึ้น บนเศษใบไม้แห้งเหล่านั้น เมื่อแม่นกเห็นว่าลูกๆ ปรับตัวได้แล้ว มันก็เริ่มจิกเอาใบไม้แห้งเหล่านั้นออกไปทีละใบๆๆ ลูกนกเริ่มไม่สบายตัวอีกแล้ว อะไรกันเนี่ย เพิ่งจะได้หลับสบายไม่นาน ก็ต้องปรับตัวอีกแล้วหรือเนี่ย คราวนี้ ไม่มีใบไม้แล้วพวกมันก็จะต้องพยายามยืนบนกิ่งไม้เล็กๆ ให้ได้ เวลานอนก็ลำบากขึ้น ถ้ามันไม่พยายามทรงตัว มันก็จะตกจากกิ่งไม้ ฉะนั้น มันก็ต้องพยายามใช้อุ้งเท้าเล็กๆ ของมันยึดกิ่งไม้เหล่านั้นไว้ ระยะนี้เมื่อแม่นกเห็นว่าลูกๆ สามารถยืนบนกิ่งไม่ได้แล้ว และเริ่มที่จะมีขนอ่อนๆขึ้นที่ปีกบ้างแล้ว มันก็ใช้ปากที่แข็งแรงของมันจิกเอาลูกนกทีละตัว แล้วบินออกไปจากรัง พอสูงพอแล้ว มันก็ปล่อยลูกนกจากปากมัน ให้ลูกนกของมันตกลงมาสัมผัสกับอากาศภายนอกรัง พวกลูกนกก็มีสัญชาติญาณของความเป็นนก มันจึงพยายามกางปีกแล้วหัดบิน แต่มันก็ยังไม่มีแรงพอที่จะบินได้ และก่อนที่ลูกนกจะตกถึงพื้น แม่นกก็โฉบลงมา แล้วเอาลูกนกกลับไปที่รัง ทำอย่างนี้สลับกันไปทุกๆวัน ลูกนกก็ค่อยๆ แข็งแรงขึ้นๆ จากวันเป็นสัปดาๆห์ แล้วเมื่อแม่นกเห็นว่าลูกๆ เริ่มมีขนที่ปีกแข็งขึ้นบ้างแล้ว มันก็จิกเอากิ่งไม้เล็กๆ นั้นออก มันก็จะเจอหนามที่วางขดอยู่เป็นชั้นๆ แทนกิ่งไม้เล็กๆ เหล่านั้น เมื่อลูกนกสัมผัสกับหนามแหลมที่แม่เอามาทำรังในครั้งแรก ก็ร้องเอะอะโวยวาย ว่าพวกมันไม่สามารถอยู่และนอนบนหนามแหลมๆ เหล่านี้ได้ แต่แม่มันก็สอนให้ลูกมันรู้ว่า พวกลูกๆ สามารถที่จะใช้อุ้งเท้าที่แข็งแรงของมัน ยึดเกาะบนหนามแหลมๆ เหล่านั้นได้ และถ้าไม่อยากให้หนามทิ่มตำตัว ก็ต้องพยายามทรงตัวให้ได้บนหนามแหลมๆนั้น และทุกๆ วัน แม่มันก็จะพาลูกนกออกไปฝึกบินเสมอๆ แล้วหลังจากนั้น เมื่อลูกนกเริ่มเติบโตและมีอุ้งเล็บเท้าที่แข็งแรงมากขึ้น แม่นกก็จิกเอาหนามแหลมๆออกไป เหล่าลูกนกก็คิดว่าพวกเราคงสบายแล้วที่ไม่มีหนามแหลมๆคอยทิ่มตำตัวแล้ว แต่หาใช่ไม่ เพราะลูกนกจะเจอกับท่อนไม้ท่อนใหญ่ๆ ที่เรียงไว้เป็นชั้นถัดไป พวกมันก็ต้องพยายามที่จะกางอุ้งเล็บเท้าของมันออก เพื่อที่จะยืนบนท่อนไม้ใหญ่ๆ เหล่านั้นให้ได้ เมื่อถึงเวลานี้แล้ว แม่นกก็คิดว่าลูกๆ ของมันคงสามารถที่จะบินและออกหาอาหารเลี้ยงตัวเองได้แล้ว มันจึงเอาท่อนไม่ใหญ่บนรังของมันออก และลูกนกก็รู้แล้วว่า เมื่อถึงเวลานี้ พวกมันจะต้องใช้อุ้งเล็บเท้าที่แข็งแรงของมัน ยึดเกาะเอาก้อนหินกลมๆเกลี้ยงๆ ที่ใหญ่ๆ ในรังนี้ให้ได้ ใหม่ๆ ก็ลื่นและหกล้มบ้าง และแล้วพวกมันก็ทำสำเร็จ พวกมันสามารถยืนบนก้อนหินเหล่านี้ได้ แม่นกจึงบอกลูกๆ ว่า ได้เวลาแล้ว สำหรับพวกเจ้า ที่จะออกไปใช้ชีวิตของตัวเอง และสร้างอาณาจักรของพวกเจ้า แล้วเมื่อเวลามาถึง แม่นกและลูกๆของมัน ก็พากันบินออกไปจากรังพร้อมๆ กัน บินขึ้นไปบนฟ้าในจุดที่สูงที่สุดที่พวกมันจะบินขึ้นไปได้ แล้วต่างก็แยกย้ายจากกันไปเพื่อหาอาณาจักรของตัวเองต่อไป



นักสำรวจ ฯ ทึ่งกับการฝึกฝนนี้ของแม่นกอินทรีย์นี้มาก และรู้คำตอบในทันทีว่า สาเหตุที่แม่นก และพ่อนกคาบอะไรหลายๆ อย่างมาไว้บนรังของมัน เพื่ออะไร และนี่ก็คือที่มาของเรื่องเล่า” นกอินทรีย์ “ ของชาวค่าย นั่นก็คือ ภายหลังที่พวกเราได้รับการฝึกอบรมและฝึกฝนทักษะอะไรต่างๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พวกเราก็ต้องแยกย้ายกันไปทำงานในค่ายของแต่ละคน ไปสร้างอาณาจักรค่ายพักแรมของตัวเอง และถ่านทอดประสบการณ์ต่างๆ ให้กับเด็กๆ เยาวชนกันต่อไป


สำหรับเพื่อนๆ ที่เข้ามาอ่านเรื่องนี้ แล้วเคยเป็นหนึ่งในนกอินทรีย์ที่มีแม่นกตัวเดียวกัน ก็เขียนมาบอกเล่าเรื่องราวของแต่ละคน ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง และอาณาจักรใหม่ที่อยู่ของแต่ละคนเป็นอย่างไร คงจะมีความสุขไม่น้อยถ้าเราได้แบ่งปันประสบการณ์ต่างๆ ให้กันบ้าง เผื่อว่า… สักวันหนึ่ง เราอาจได้กลับมาได้ทำงานร่วมกันหรือได้พบปะหน้ากันอีกครั้งก็เป็นได้
ด้วยความคารวะแด่…
ปู่เกื้อ แก้วเกตุ ผู้สอนให้ฉันได้หัดบิน และได้มาสร้างอาณาจักรของตัวเอง
พร้อมๆ กับพี่ๆ สต๊าฟ ( พี่นาถ,พี่สุรัตน์, พี่เนี้ยว, พี่ตุ๊, พี่กรี,พี่อ้น และอีกหลายๆคนที่ไม่ได้เอ่ยชื่อมาทั้งหมด ที่เราได้มีโอกาสร่วมงานกันในค่าย วายพีดีซี ที่มอบความรัก ความไว้ใจและให้ความรู้กับฉันอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ )
ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพแข็งแรงและเป็นที่รักของบรรดาเหล่าผู้นำฯ อย่างนี้ตลอดไป

ผู้นำค่ายหาดทรายทอง เมษา, 2530









Create Date : 10 กรกฎาคม 2549
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2551 17:34:35 น. 10 comments
Counter : 1821 Pageviews.

 
ความจำดีมากเลยนะเพื่อน....คิดถึงเพื่อนๆ ทุกคนที่เข้าอบรมผู้นำค่ายเยาวชนYPDC ณ หาดทรายทอง เมื่อเดือน เมษายน 2530 ขอให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
เพราะตอนนี้อายุก็ประมาณ 38 - 40 กันแล้ว สมัยนั้นประมาณ 18 -20 กันก็ได้ทำงานร่วมกัน ตอนนี้ไม่รู้ว่าเป็นยังงัยกันบ้าง
คิดถึงเพื่อนทุก ๆ คนเสมอ
ติ้ง หาดทรายทอง 2530


โดย: ติ้ง IP: 124.121.80.252 วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:06:19 น.  

 
คิดถึงเพื่อนๆพี่ๆชาววายพีดีซีมากเลยโดยเฉพาะเพื่อนๆที่อบรมด้วยกันในปี2539-2541ที่ได้มากินปลาแรดที่อุทัยธานีมีอะไรติดต่อกลับมาที่089-5634425 ,081-9624251นะครับยังคิดถึงเพื่อนๆทุกคนเหมือนเดิม


โดย: นายอาร์ต(ห้อย)อุทัย IP: 125.27.242.102 วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:14:31:27 น.  

 
เราผู้นำค่ายชายทะเล ซัมเมอร์ 46 จ้า


โดย: น้องเป็ด IP: 61.19.26.5 วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:15:10:36 น.  

 

ลืม taotoe@hotmail.com


โดย: น้องเป็ด IP: 61.19.26.5 วันที่: 15 สิงหาคม 2550 เวลา:15:12:02 น.  

 
นานมากแล้วที่ห่างหายจากวายพีดีซีมายังคิดถึงเพื่อนๆชาวค่ายทุกคนเราชาวหาดทรายทอง คิดถึงวันสัญญา สัญญา จะรักกัน รักกัน มั่นมิคลาย


โดย: เปิ้ล..วายพีค่ายชายทะเล 1 ปี 40 IP: 203.172.199.254 วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:14:29:22 น.  

 
ว้าว...ไม่รู้เลยว่ามีเพื่อนๆชาววายพีดีซี แวะเข้ามาดูบล็อคเราด้วย ยินดีที่ได้พบเจอเพื่อนชาวค่ายเดียวกันค่ะ
ว่าแต่..นายอาร์ต กะน้องเป็ดและน้องเปิ้ล ทำค่ายไหนค่ะเนี่ย อย่างไรแวะไปหาปู่เกื้อ ฝากสวัสดีท่านด้วยนะคะ แวะมาหากันบ่อยๆนะคะ ส่งข่าวกันบ้าง "อย่าตัดรอนสายสวาทหาดทรายทอง"


โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 31 สิงหาคม 2550 เวลา:14:54:46 น.  

 
สวัสดีค่ะ ได้อ่านเรื่องการฝึกค่ายเยาวชนแล้วคิดถึงพี่เลี้ยงทุกๆคนเลย เอสเป็นคนนึงที่มีรูปอยู่ในนั้น ซึ่งเป็นเด็กที่เข้าค่ายที่หาดทรายทอง จำไม่ได้แล้วว่าตอนนั้นอายุประมาณเท่าไหร่ น่าจะ9-10 ปีมั้ง คิดถึงพี่เลี้ยงทุกคน ยังจำความประทับใจนี้ไม่เคยลืม จนตอนนี้ก็นึกถึงอยู่ตลอดเป็นความสุข ความทรงจำที่ไม่เคยลืม พอจะจำได้ว่าชื่อบ้านคือดอกหญ้านะ พี่อาจจะจำไม่ได้ เอสเป็นน้องเล็กที่สุดในค่าย และเป็นคนที่เดินทางไกลไม่ไหว พี่เลี้ยงจึงให้ขี่คอจนไปถึงที่พักแรมนอกค่าย คิดถึงพี่ๆทุกคน
น้องเอส (เด็กเยาวชนยางสยาม)
kwt_s@yahoo.com


โดย: น้องเอส IP: 124.122.169.245 วันที่: 22 มกราคม 2554 เวลา:23:10:22 น.  

 
คิดถึงเช่นเดียวกันคะ น่าจะเป็นรุ่นประมาณต้นๆ ปีนี้ 41 ขวบ แล้วคะ ยังจำ อินทรีคืนรัก ได้คะ ที่หาดทรายแก้ว ใครเคยไปร่วมฝึกอบรมที่เซ็นทรัลบัญทิตน้อย ก็็น่าจะเป็นรุ่นเดียวกันคะ


โดย: จิตตินันทน์ ลิ้มไพบูรณ์ IP: 115.87.234.102 วันที่: 6 มกราคม 2556 เวลา:23:23:41 น.  

 
ยินดีที่ได้รู้จักเพื่อนนกอินทรีย์เพิ่งขึ้นอีกคนนึงแล้ว.....ไม่ทราบว่าคุณจิตตินันทน์ได้ทำค่ายด้วยไหมค่ะ ค่ายเซนทรัลหรือเปล่าค่ะ ผอ.ใช่พี่จาไหมเอ่ย? ถ้าใช้อาจจะเคยเจอกันนะคะ


โดย: นักเดินทางพเนจร (นักเดินทางพเนจร ) วันที่: 7 มกราคม 2556 เวลา:10:58:33 น.  

 
จำไม่ได้ค่ะ นานมากเลยคะ น่าจะเป็นรุ่นแรกของซ็ลทรัลเลยค่ะ จำได้ว่าปุ๊ดูและเด็กอายุ 3-5 ปีคะ


โดย: จิตตินันทน์ ลิ้มไพบูรณ์ IP: 180.180.41.247 วันที่: 26 เมษายน 2556 เวลา:15:15:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

นักเดินทางพเนจร
Location :
เชียงราย Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]





New Comments
Friends' blogs
[Add นักเดินทางพเนจร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.