สีสันของยานยนต์ที่จะเปลี่ยนโลก มอเตอร์โชว์ 2011
งานโตเกียว มอเตอร์โชว์ ปีนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า “ยานยนต์ที่สามารถเปลี่ยนโลก” ซึ่งน่าจะมาจากความเป็นห่วงเรื่องมลพิษจากรถยนต์ที่ส่งผลให้บรรยากาศของโลกนี้เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลงตลอดช่วงร้อยกว่าปีนับตั้งแต่รถยนต์ถูกประดิษฐ์ขึ้นมา ดังนั้นบรรดารถต้นแบบและรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ ที่ค่ายรถทั้งหลายนำมาจัดแสดงในงานนี้ ล้วนแต่เป็นรถที่ปล่อยมลพิษน้อยลง มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีการใช้พลังงานอย่างประหยัดเป็นหลัก
ในการจะสื่อให้ผู้เข้าร่วมชมงานได้รับรู้ถึงแนวคิดในการออกแบบรถนั้น “สีสัน” ของตัวรถก็เป็นส่วนสำคัญอีกอย่างที่บริษัทผู้ผลิตให้ความใส่ใจ โดยจะเห็นได้ว่าปีนี้สีสันที่ผู้ผลิตรถยนต์เลือกมาให้กับรถที่นำมาจัดแสดงนั้น จะมีสีหลัก ๆ อยู่ 3 สีด้วยกัน คือ สีเงิน สีฟ้าและสีขาว
โดย สีเงิน ส่วนใหญ่จะถูกนำไปใช้กับรถต้นแบบที่ทางบริษัทผู้ผลิตต้องการนำเสนอให้เห็นถึงความล้ำสมัยและสไตล์ของอนาคต ซึ่งรถต้นแบบที่ใช้สีเงินในงานครั้งนี้ก็จะมี อาทิ ซูบารุ แอดวานซ์ด ทัวริ่ง คอนเซปต์, ฮอนด้า อีวี-สเตอร์, เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส, บีเอ็ม ดับเบิลยู ไอ3 เป็นต้น
สีฟ้า เป็นตัวแทนของสีเขียว ซึ่งเกือบจะเป็นสีหลักของรถที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในงานครั้งที่แล้ว สำหรับสีฟ้านั้นจะช่วยทำให้รู้สึกปลอดโปร่ง โล่งกว้าง เบา โปร่งใส สะอาด ปลอดภัย ความสว่าง ลมหายใจ ความเป็นอิสระเสรี การช่วยเหลือ แบ่งปัน สำหรับรถที่ใช้สีฟ้าในงานนี้ได้แก่ รถต้นแบบของกลุ่มโตโยต้า อย่าง เอฟซีวี-อาร์, เอฟที-อีวี 3, พรีอุส ปลั๊กอิน ไฮบริด และ อะควา ส่วนรถจากค่ายอื่น ๆ ก็จะมี อาทิ ไดฮัทสุ มิร่า อี:เอส เป็นต้น
สีขาว เป็นอีกสีที่เห็นเยอะมาก โดยเฉพาะรถต้นแบบจากค่ายฮอนด้า สำหรับสีขาวนั้นจะให้ความรู้สึกบริสุทธิ์ สะอาดสดใส เบาบาง อ่อนโยน เปิดเผย รถที่นำมาแสดงในงานที่ใช้สีขาว เช่น ฮอนด้า เอซี-เอ็กซ์, ฮอนด้า ไมโคร คอมมิวเตอร์ คอนเซปต์, ซูซูกิ สวิฟท์ อีวี ไฮบริด, นิสสัน เอสโฟลว์ และนิสสัน ทาว์นพอด
ซูบารุ แอดวานซ์ด ทัวริ่ง คอนเซปต์ รถต้นแบบจากค่ายดาวลูกไก่ ใช้เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรลูกผสมมอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังผ่านชุดเกียร์แปรผันต่อเนื่อง (ซีวีที) พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
ฮอนด้า เอซี-เอ็กซ์ เป็นรถแบบเสียบปลั๊กชาร์จไฟอีกรุ่นที่ออกมาในปีนี้ สามารถวิ่งไกลสูงสุด 50 กม. ด้วยความเร็วไม่เกิน 100 กม./ชม.
ฮอนด้า ไมโครคอมมิวเตอร์ คอนเซปต์ รถไฟฟ้าขนาดเล็กนั่งได้ 2 คน จุดเด่นอยู่ที่แบตเตอรี่ ซึ่งสามารถถอดออกไปใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟแบบอเนกประสงค์ได้
ซูซูกิ สวิฟท์ อีวี ไฮบริด ใช้พื้นฐาน เดียวกับสวิฟท์ตัวที่ขายในบ้านเรา แต่เพิ่มระบบไฮบริดเข้าไป ถ้าใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวจะวิ่งได้ระยะทาง 30 กม.
นิสสัน เอสโฟลว์ สปอร์ตสไตล์โรดสเตอร์ที่ใช้พลังไฟฟ้า หน้าตาดุดันและเน้นอารมณ์การขับขี่ที่สนุกสนาน ฉีกแนวไปจากรถไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ ที่ดูเรียบง่าย วิ่งได้ไกลว่า 240 กม.
ขณะที่ นิสสัน ทาว์นพอด รถต้นแบบ 6 ประตู หน้าตาน่ารักเหมือนตัวการ์ตูน และมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการผลิตออกมาขายช่วงปลายปีหน้า
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาส ซิตี้คาร์สุดหรูจากค่ายดาว 3 แฉกได้รับอิทธิพลจากรุ่นพี่ในกลุ่มสปอร์ต อย่างเอสแอลเอสเอเอ็มจี และ ซีแอลเอส ขุมพลังที่ใช้จะเริ่มต้นที่เครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบชาร์จ ให้พลังสูงสุด 313 แรงม้า
บีเอ็มดับเบิลยู ไอ3 รถต้นแบบ 5 ประตู มีโครงสร้างน้ำหนักเบา ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 170 แรงม้า วิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุด 150 กม./ชม. ได้ระยะทาง 120-160 กม.
สรุปโดยรวมแล้ว แม้ “ยานยนต์ที่สามารถเปลี่ยนโลก” จะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ บนโลกนี้ให้ดีขึ้น แต่จริง ๆ แล้วมนุษย์ได้จัดการเปลี่ยนโลกนี้ไปแล้วตั้งแต่เมื่อร้อยกว่าปีก่อน และตอนนี้เราก็แค่พยายามจะย้อนกลับไปสู่อดีตที่น้ำยังใส อากาศยังสะอาดเท่านั้นเอง.
สมฤกษ์ รื่นสัมฤทธิ์
| Create Date : 12 ธันวาคม 2554 |
| Last Update : 12 ธันวาคม 2554 0:15:08 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 1910 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [