|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Tsuki no koibito : เพราะ ความรักนั้นธรรมดา และ สามัญ
ชีวิตตอนที่เป็นผู้ใหญ่กับชีวิตสมัยเด็กนั้นแสนต่าง ครั้งเป็นเด็กไม่เคยเห็นข้อดีของการได้เป็นเด็กตลอดไป อย่างที่ผู้ใหญ่หลายคนเขารำพึงกัน กระทั่งโตขึ้นและทำงานจึงรู้สึกว่าเป็นเด็กนั้นแสนสุข ตอนเป็นเด็กนั้นเราก็อยากเหลือเกินที่จะเป็นผู้ใหญ่ ไม่คิดอะไรมากมายแค่คิดว่าเป็นผู้ใหญ่นั้น คือ คนทำงานหาเงินได้ มีโอกาสแต่งชุดทำงานใส่รองเท้าส้นสูงถือกระเป๋าเอกสารไม่เคยนึกว่าการเป็นผู้ใหญ่นั้นจะตามมาด้วยเรื่องราวซับซ้อนวุ่นวาย และ ยุ่งยาก ยิ่งอายุมากขึ้นความซับซ้อนยุ่งยากก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว เรื่องง่ายๆ รายละเอียดเล็กๆ ที่ธรรมดาสามัญจะเหลือไว้ก็เพียงในความทรงจำ บางครั้งก็เลือนหายไปจากความทรงจำหากเวลานั้นต้องวิ่งหน้าตั้งรีบทำงานรีบตื่นรีบหลับแล้วก็รีบตื่นอีกทีไปทำงาน
ก็แปลกดีที่ความรู้สึกเช่นว่านี้ผุดขึ้นมา ณ ซอกมุมเล็ก ๆ ของความคิดเมื่อได้รับชม Tsuki no koibito ซึ่งปะหน้าว่าเป็นละครโรแมนติค ตอนแรกคิดว่าจะเป็นละครแนวเดียวกับที่ทาคุยะเคยเล่นเมื่อสมัยซักเกือบ 10 ปีที่แล้วประมาณ Beautiful life Pride ทำนองนั้น กลายเป็นว่าละครเรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของสิ่งที่น่าจะเป็นเรื่องธรรมดาสามัญอย่าง "ความรัก" ที่กลายเป็นว่าไม่ธรรมดาสามัญเสียเลยเมื่อเกิดขึ้นกับผู้คนที่เลยวัยจะสวมแว่นตาสีกุหลาบเสียแล้ว คนที่ "รู้" ว่าโลกนี้ไม่ใช่สีชมพ แต่มีหลากหลายสี ด้วยเหตุว่าคนเหล่านั้นมีอารมณ์ ความคิด ความปรารถนา ที่บ่มเพาะมาจากประสบการณ์ชีวิตอันซับซ้อน หรือ เรียกกันสั้น ๆ ง่าย ๆ ว่าเป็น "ผู้ใหญ่" กันแล้ว ซึ่งนอกจะทำให้รักเป็นเรื่องไม่ธรรมดาแล้วก็พลอยทำให้สิ่งอื่น ๆ ที่ควรจะเป็นเรื่องธรรมดากลับเป็นเรื่องยากไปเสียอีกด้วย
เธอหรือคือพระจันทร์
Tsuki no Koibito นั้นหมายความว่า คนรักของดวงจันทร์ แต่ก่อนจะถามว่าใครเป็นคนรักของดวงจันทร์ต้องถามก่อนว่า "พระจันทร์" น่ะคือใคร พูดถึงพระจันทร์สิ่งแรกที่เตะตาในละครเรื่องนี้ คือ งานออกแบบของบริษัทเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายในชื่อ Regolith ซึ่งเป็นชื่อทางวิทยาศาสตร์ของสสารชนิดหนึ่งลักษณะคล้ายฝุ่นผงบนดวงจันทร์ หรือ ที่เขาเรียก ๆ กันว่า "ดินบนดวงจันทร์" นั่นเองนอกจากนั้นเครื่องหมายการค้า ถ้าเรียกให้ทันสมัยหน่อยก็ต้องบอกว่า "โลโก้" ของ Regolith นั้นได้แก่ จันทร์เสี้ยว ซึ่งผู้ที่ว่าราชการงานเมืองในบริษัทนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนประธาน ฮาสีกิ เรนสึเกะ นั่นเอง
ประธาน ฮาสึกิ หรือ ถ้าจะเรียกกันตามแบบญี่ปุ่นก็ต้องเรียกว่า ฮาสึกิฉะโจว แต่เป็นท่านประธานที่ไม่ชอบให้ใครเรียกว่าท่านประธาน ฮาสึกิเป็นผู้ชายที่ดูแล้วเอาแต่ใจติดจะเย็นชา และ ต้องการความเพอเฟ็คในชิ้นงานที่ทำ ฮาสึกิตั้งบริษัทเล็ก ๆ ขึ้นมาในตอนต้นโดยมีสโลแกนว่า The finest furniture for you มุ่งมั่นที่ส่งเฟอร์นิเจอร์ดี ๆ เพื่อคนทั่วไปได้ใช้ ด้วยฝีมือและความละเอียดละออ Regolith เติบโตอย่างรวดเร็ว และ ใหญ่โตเกินความคาดหมาย จนกลายเป็นเบอร์สองของวงการในเวลาไม่นาน
ระหว่างการเดินทางขึ้นมาถึงอันดับสองนี้ ทำให้ชายหนุ่มคนหนึ่งที่พูดไม่ค่อยเก่ง สานสัมพันธ์กับคนอื่นไม่ค่อยเป็น แต่มีฝีมือดี กลายเป็นคนที่เลือดเย็นไร้น้ำใจ เมื่อต้องทำงานกับคนมาก ๆ เมื่อต้องเจอเล่ห์เหลี่ยมชั้นเชิงทางธุรกิจที่สุดแล้วเนื้อที่สมองก็คงไม่เหลืออะไรให้ต้องคิดมากไปกว่าจะทำอย่างไรจึงจะพาบริษัท และ องค์กรให้ไปรอด ซึ่งมีทั้งตรงไปตรงมา มีทั้งใช้ชั้นเชิง รวมถึงการเล่มเกมส์ใต้โต๊ะ แต่ละวันที่ต้องแย่่งชิงและแข่งขันก็ผันผ่านไปเรื่อย ๆ จนท้ายที่สุดกลายเป็นความชินชา ... ไม่มีใครเข้าใจก็ไม่เป็นไร จะถูกเกลียดก็ไม่รู้สึก อย่างไรก็ได้ที่ทำให้ Regolith เติบโต
ฮาสึกิจึงเดียวดายเหมือนดวงจันทร์บนฟ้ากว้างยามค่ำคืน ดวงจันทร์ที่ไม่มีชั้นบรรยากาศ ไม่มีสิ่งมีชีวิตใด ๆ อยู่รอด แต่มองภายนอกแล้วสวยเย็นตาเพราะแสงอันนุ่มนวล คนจึงมองข้ามรอยแผลแห่งการเวลา หลุมบ่อขรุขระ บนดวงจันทร์ไปเสียสิ้น งดงาม อันตราย และ เงียบเหงาจับใจ
ฤาดวงจันทร์จะมีรัก
ในขณะที่ชีวิตของฮาสึกิกำลังดำเนินไปตามรูปรอยที่เคยเป็นมา เครียดเคร่งกับการบริหารบริษัทให้รุดหน้า จัดการปัญหาอุปสรรคข้อขัดข้องต่าง ๆ ตามวิถีเพื่อมุ่งสู่จุดหมายที่ตั้งใจอย่างไม่เลือกวิธี แต่กำลังเล่นตามเกมส์ของตัวเองอยู่ดี ๆ เส้นทางทั้งหมดทั้งมวลของฮาสึกิก็พลิกผันเมื่อชะตาของเขาได้โยงใยเข้ากับผู้หญิงสามคนซึ่งผ่านเข้ามาในชีวิต และ เธอทั้งสามก็ได้มอบ "ความรัก" ต่างรูปแบบให้ฮาสึกิได้เรียนรู้ และ เข้าใจ รักที่มิได้จบลงแค่เอ่ยปากบอกรักเพียงเท่านั้น
คนหนึ่งคือสาวใสผู้มีความคิดความอ่านบริสุทธิ์ผุดผ่อง และ จริงใจ เปิดเผยมุมมองสดใหม่ให้ฮาสึกิได้เห็น ซูเหม่ยเหมือนแหล่งน้ำบริสุทธิ์สะอาดชุ่มชื่นให้ตักตวงดื่มกิน เธอคือตัวแทนของความสดใสร่าเริงเหมือนน้ำฝนสะอาดใสผ่องแผ้ว ตัวแทนของอดีตที่ฮาสึกิโหยหา ในช่วงชีวิตของเขาก่อนจะกระโจนเข้าสู่วังวนแห่งการคร่ำเคร่งแข่งขัน ฮาสึกิก็เคยมีวันเรียบง่าย ผ่อนคลายกับสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เมื่อซูเหม่ยเดินเข้ามาในชีวิตหัวใจดวงเดิมของฮาสึกิก็คล้ายจะเต้นขึ้นมาใหม่ และ .... อะไร ๆ รอบตัวก็เริ่มเคลื่อนไหวหลังจากที่หยุดนิ่งมานาน
อีกสาวหนึ่งเป็นนางแบบนามไพเพราะ เปรี้ยวเฉี่ยวไฉไลแบบลูกคนรวย มั่นใจเกิน 100 % เพราะ ความสวยและชื่อเสียง โอนุกิ ยูสึกิ คิดเสมอว่าดวงจันทร์ดวงนี้หรือดวงไหน ถ้าเธอคิดจะสอยจะคว้าไม่มีทางที่จะไม่ได้มา ด้วยความสาวความสวย ด้วยความรวยและเด่น มีหรือที่จะพลาดเป้า แม้วันนี้ฮาสึกิจะยังไม่มีทีท่าใด ๆ กับเธอ นอกจากความนิ่งเฉย แต่เมื่อไม่เย็นชา แต่เมื่อไม่ปฏิเสธ แปลว่าเธอยังมีหนทาง โอนุกิไม่ใช่น้ำใสไหลเย็น แต่เธอก็มีเสน่ห์น่ารักดื้อรั้นในแบบของเธอ เปรี้ยวเชิดแบบโก๊ะกัง แต่อีกทางหนึ่งก็ไร้เดียงสาคล้ายเข้ารบรากับเด็กแสนงอน น่ารำคาญแต่ก็อดไม่ได้ที่จะเอ็นดู
สาวรายสุดท้ายเธอแกร่งงานเยี่ยงชายอกสามศอก เป็นผู้ใหญ่ และ มีเหตุผล ไม่เคยฉุดรั้ง และ ดึงดัน ไม่เคยแทรกแซงชีวิตส่วนตัวของใคร แต่ถึงเวลามีปัญหาเธอจะยืดหยัดอยู่ข้าง ๆ ฮาสึกิเป็นคนสุดท้าย เป็นคนหนึ่งคนที่พร้อมให้ฮาสึกิวิ่งมาหาเพื่อปรับทุกข์ และ เมื่อขาวิ่งจากไปเมื่อสบายหายดีแล้วเธอก็คงยังอยู่ตรงนั้น เหมือนสายลมอยู่ข้าง ๆ กัน เมื่อไหร่ที่ร้อนใจมองไม่เห็นใครแต่ นิโนมิยะ มาเอมิ จะอยู่ตรงนั้นเสมอ อยู่ด้วยอารมณ์รักเล็ก ๆ ช้ำนิด ๆ กับความรู้สึกของ "เพื่อนรักที่รักเพื่อน" โดยที่ตัวต้นเหตุก็ช่างไม่รู้อะไรเสียบ้างเลย
ความรักแสนกล
เมื่อความรักเข้ามาชะตาก็แปรเปลี่ยน การตัดสินใจรุกคืบทางการค้าของเรนสึเกะพาให้อะไรต่าง ๆ มากมายในชีวิตได้พลิกผัน ในขณะที่เจ้าตัวหัวหมุนกับเรื่องรักลุ้น ๆ สีซ้าห้าเส้า กลเกมส์ทางธุรกิจก็ปั่นป่วนเช่นคลื่นใต้น้ำ สิ่งละเอียดอ่อนเยี่ยงความรักกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือที่ใช้ในการชิงชัย
ฮาสึกิจัดการชักใยซูเหม่ยให้เล่นตามเกมส์ โดยไม่คิดว่าโยงใยเหล่านั้นจะมัดตัวเขาจนดิ้นไม่หลุด จากสาวน้อยซื่อใสซูเหม่ยจำต้องลุกขึ้นสู้เพื่อไม่ให้ล้มคว่ำแต่ก็กังขา และ สับสนกับความรู้สึกของเรนสึเกะที่มีให้ สิ่งที่เรียกว่า "ความรัก" มันคืออะไรกันหรือ สาวน้อยสงสัย สิ่งที่ควรธรรมดาสามัญอย่างประโยค "ฉันรักเธอ" ทำไมมันถึงได้ซับซ้อน และ ยากที่จะเข้าใจ ในยามที่คิดว่าเข้าใจแล้ว และ ส่งผ่านความรู้สึกที่สำคัญไป ทำไมจึงไม่ได้กลับมาเท่ากัน
ฮาสึกิเองก็ไม่ต่างด้วยปัจจัยเหตุผลนานัปการ ด้วยฐานะประธานเรื่องที่ควรจะง่ายกลับยากเย็น เรื่องที่ควรจะธรรมดาสามัญกลับยากเย็นเกินจะให้คนอื่นทำความเข้าใจ ยิ่งไขว่ขว้าเท่าไหร่ก็ยิ่งล่องลอยออกไปไกลเท่านั้นสุดท้ายความสัมพันธ์ก็แตกร้าวรวมทั้งยังพาให้อย่างอื่นพังทลายไปกับตาด้วย
ยูสึกิเปิดเกมส์รุกกับฮาสึกิด้วยความสาวสวยรวยเด่นแต่ไม่เคยได้ผล ฮาสึกิเพียงต้องการจะใช้เธอเป็นทางผ่าน และ เป็นการโฆษณาในฐานะคนมีความสัมพันธ์คลุมเครือกับลูกสาวประธานบริษัทอันดับหนึ่งในวงการเฟอร์นิเจอร์ หลงลืมไปแล้วกับวันวานที่เคยต่อโต๊ะเก้าอี้ให้สาวน้อยได้ประทับใจ แต่ความอ่อนหวานอันนั้นยังคงจับใจยูสึกิเธอจึงวิ่งไล่คว้าเงา และ มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ฮาสึกิเสมอมา เธอให้ "ความรัก" ในแบบของเธอ ตามตื๊อให้กำลังใจแบบโหวกเหวกวีน ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ทุกอย่างที่ฮาสึกิทำนั้นก่อเกิดความกังวลอยู่ในใจมาเอมิอย่างเงียบ ๆ แต่เธอก็ไม่มีความคิดที่จะเข้าไปแทรกแซง ไม่ใช่เพราะไม่กล้า แต่เพราะว่าไม่ว่าจะห่วงขนาดไหน คนเราย่อมตัดสินใจด้วยตัวเองและรับผลของตัวเองก็เป็นผู้ใหญ่ผู้โตกันแล้ว ทุกวันก็ได้แต่เฝ้ามองอย่างเป็นห่วงแล้วก็เตือนอ้อม ๆ แบบที่เล่นที่จริง
ตัวจริง
ในขณะที่ฮาสึกิชักนำใคร ๆ เข้าสู่กลเกมส์แห่งการชิงชัยทั้งในแง่ความรัก และ ธุรกิจการงาน ก็มีอยู่หนึ่งคนที่ฮาสึกิไม่ยอมให้เข้ามาแปดเปื้อน ทำโดยที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ตัวว่าได้ทำลงไปแล้ว นั่นก็คือ มาเอมิ แม้จะใช้งานหนักเยี่ยงทาส ต่อล้อต่อเถียง ไม่เคยที่จะคิดในเชิงชู้สาวอย่างใคร ๆ ไม่เคยกระทั้งหึงหวงหรือคิดเป็นอื่นไกล แต่ฮาสึกิไม่เคยนำมาเอมิเข้าสู่วังวนการต่อสู้ ไม่เคยใช้เป็นเครื่องมือเพื่อหาชื่อเสียง มากสุดที่หาประโยชน์คือฝีมือ ไม่มีการเขี่ยทิ้ง ไม่มีการใช้กลโกง ตรงไปตรงมาพอใจหรือไม่พอใจก็เปิดอกคุยกันได้ตรง ๆ โดยไม่มีอารมณ์อื่นมาเกี่ยว
ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไร และ ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นความจริงข้อนี้ซักคนนอกจากมือขวาอย่างคาซามิ ที่มองขาดผ่านตลอดว่าอดีตเจ้านายนั้นมีแก่ใจกับคน ๆ นี้ อยู่นานแล้วแต่ไม่รู้ตัว อาจจะเป็นเพราะว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันมีรสหวานแหลมอย่างความรักที่เขามักจะเป็นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างกันและกันเป็นสิ่งแสนธรรมดาเหมือนที่หัวใจเต้น เหมือนการหายใจของคน สำคัญอย่างยิ่งแต่ก็ธรรมดาอย่างยิ่งเช่นเดียวกัน ดังนั้นเมื่อเวลาผ่านไปอย่างธรรมดา สิ่งรอบตัวก็ผ่านไปอย่างธรรมดา เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าคนทึ่มทื่อทักษะด้านอารมณ์อย่างฮาสึกิจะมองไม่เห็นสิ่งที่ก่อตัวมากว่า 15 ปีระหว่างคนสองคน เพริดไปกับรสหวานซ่านร้อนแรงกับความรู้สึกที่มีต่อซูเหม่ย แน่นอนว่านั่นก็ถือเป็นรักจริง เป็นอารมณ์ที่แท้จริง แต่หวานง่ายก็เมาง่ายเมื่อความรู้สึกที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากฐานที่เรียกว่าความเข้าใจเมื่อเหตุพลิกผันพายุแห่งชีวิตพัดผ่านเข้ามาให้เซซังคนที่เขารับไม่ได้ และ ไม่เข้าใจก็จากไป
เหลือแต่ "ตัวจริง" ที่อยู่เคียงใกล้ให้ฮาสึกิได้เปิดตา และ เปิดใจมองสิ่งธรรมดาสามัญที่อยู่ใกล้ตัว เลือกจะเดินทางชีวิตที่เหมาะสมกับตัวเอง เลือกในสิ่งที่เป็นตัวต้น ย้อนกลับไปตรงจุดเริ่มต้นเพื่อวกเลี้ยวไปในทางที่ถูกที่ควร
รักของดวงจันทร์
ฮาสึกิเปรียบตัวเองเสมือนดวงจันทร์ มีแสงนวลพอเห็นได้ แต่ก็สังเกตยากเหลือเกินว่าเมื่อใดจะปรากฎบนท้องฟ้า และ พอหันไปหันมาก็ไม่รู้ว่าลับหายไปเมื่อไหร่ นอกจากนั้นพระจันทร์ยังขรุขระ พระจันทร์ยังเว้าแหว่ง ไม่สมบูรณ์อีกต่างหาก น่าเสียดาย .... ฮาสึกิ เรนสึเกะ บอกไว้เช่นนี้ ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ มาเอมิว่า พระจันทร์น่ะ .... ไม่ว่าอย่างไร (จะเต็มดวง จะครึ่งเสี้ยว จะขรุขระ จะขึ้นหรือตกแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้)ก็สวยอย่างที่มันเป็นอยู่ดี
นั้นสินะไม่ว่าสรรพสิ่งใด ๆ ก็ไม่สมบูรณ์แบบหรอก อาจจะมีบาดแผล มีจุดอ่อน มีข้อตำหนิมากมายหลายหลาก แต่นั้นก็เป็นส่วนประกอบหนึ่งของความสวยงามของสรรพสิ่งไม่ใช่หรือ imperfection is a beauty ที่เขาว่า เมื่อความไม่สมบูรณ์เป็นของธรรมดา จะรักในใครซักคนที่มีข้อตำหนิ .... ก็ไม่แปลกนินา เป็นแค่เรื่องธรรมดา และ สามัญ เฉกเช่นเดียวกัน
Create Date : 11 สิงหาคม 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 11 สิงหาคม 2553 16:37:09 น. |
Counter : 977 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: poongie 11 สิงหาคม 2553 20:01:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: หน่อยอิง 11 สิงหาคม 2553 21:01:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: มะนาวเพคะ IP: 125.24.22.8 11 สิงหาคม 2553 23:06:09 น. |
|
|
|
| |
โดย: prysang 11 สิงหาคม 2553 23:49:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: sakura IP: 124.122.23.154 15 สิงหาคม 2553 20:21:01 น. |
|
|
|
|
|
|
|