กิจกรรมการฆ่าคนแห่งโลก การฆ่าคนที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรมอย่างหนึ่งคือ การก่อสงคราม น่าแปลกที่มนุษย์ทำสงครามกันมานานนับศตวรรษ บาดเจ็บล้มตาย สูญเสียไป มากมาย แต่ดูเหมือนว่า มนุษย์จะไม่เคยเข็ดขามกับการเข่นฆ่ากัน ไม่ว่าจะฝ่าย ตรงข้ามจะเป็นคนชาติเดียวกันหรือคนต่างชาติต่างศาสนา . . อย่าเอ่ยถามถึงเหตุที่ก่อเกิด เพราะไม่มีเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้นนอกเหนือจากความ กระหายอย่างสัตว์ของมนุษย์ ความหลงในอำนาจและตัวตน เป็นทั้งความไร้สาระ และความเปล่ากลวงอย่างถึงที่สุดของการดำรงอยู่ เพราะมนุษย์ทุกคนต่างก็ลึกซึ้ง อยู่แก่ใจดีว่า ผลแห่งสงครามนั้นเป็นเยี่ยงใด แต่กระนั้น ไฟสงครามก็ยังลุกลาม ไปทั่วทุกมุมโลก . . คนบางกลุ่มเอ่ยอ้างนามของพระเจ้าในมูลเหตุแห่งสงคราม ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง พระ เจ้าของท่านคงเลวทรามต่ำช้ากว่าสัตว์ป่าแน่นอน เพราะสัตว์ป่าออกล่าเพื่อยังชีพ แต่พระเจ้าสั่งให้ท่านไปฆ่าคนเพียงเพื่อสิ่งใดกันเล่า . . คนบางพวกเอ่ยอ้างเหตุในการก่อสงครามในนามของแผ่นดินเกิด เรามีสิทธิ์ใน การถือครองโลกใบนี้เพียงใด อาณาเขตเป็นเพียงเส้นสมมุติ และเราก็ยึดติดอยู่กับ มายาภาพนั้น ช่างโง่เขลาไม่ผิดกับมดที่ยกฝูงทำลายกันจนตายสิ้นทั้งรัง เพียง เพราะมีการล้ำแดน ถ้าเช่นนั้น สมองเราก็มีค่าเท่าสมองมดตัวหนึ่งเท่านั้นเอง . . คนบางคนยกเรื่องความแตกต่างด้านเชื้อชาติมาเป็นข้ออ้างในการฆ่าคน มนุษย์เรา ต่างถือกำเนิดมาพร้อมความเปลือยเปล่า ไม่ว่าจะมีสีผิวใด ล้วนแล้วแต่เป็นมนุษย์ ที่มีความต้องการพื้นฐานเช่นเดียวกันทั้งสิ้น รู้จักรัก รู้จักกลัว มีความหิวกระหาย ไม่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะสีตาหรือสีผมเช่นไร จงอย่าเอาเหตุแห่งเชื้อชาติมาเป็นข้อ อ้างในการก่อสงครามเลย . . มนุษย์บางจำพวกยิ่งแย่ไปกว่านั้น เพียงเพราะความแตกต่างทางความคิดก็ สามารถ"ฆ่า" กันได้ แม้กระทั่งชาติพันธุ์เดียวกัน มนุษย์เราไม่มีสิทธิ์ในการเลือกที่ จะ "เชื่อ" ในสิ่งที่ตนศรัทธาบ้างเชียวหรือ หรือว่า มนุษย์จะต้องเชื่อไปในทิศทาง เดียวกันหมด ถ้าเช่นนั้น เราจะแสวงหาความแตกต่างในหมู่มนุษย์ไปใยเล่า . . นิยามของสงครามที่แท้จริงก็คือ "กิจกรรมที่คนต้องฆ่าคนที่ไม่เคยรู้จัก เกี่ยวพัน ในสิ่งที่ไม่เคยเกี่ยวข้อง แย่งชิงในสิ่งไร้สาระ ล้มตายในดินแดนที่ไม่เคยรู้จัก ทำ ตามคำสั่งของคนที่ไม่ใช่คนใกล้ชิด และสูญเสียในสิ่งที่เคยมีอยู่" . . แท้จริงแล้ว ในสงคราม ทุกคนล้วนพ่ายแพ้ ความปวดร้าวได้แผ่พิษออกโอบคลุม ดวงใจมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้รุกรานหรือผู้ถูกรุกราน . . ในสงคราม นอกเหนือจากซากปรักหักพัง หัวใจมนุษย์ยังขาดวิ่น มีเพียงความเคว้ง คว้างว่างเปล่าในดวงตาเท่านั้นที่ดำรงอยู่เป็นนิรันดร์ ซากมนุษย์ที่เคลื่อนไหวไปมา อย่างไร้วิญญาณยังคงเป็นอนุสาวรีย์แห่งสงคราม และลึกเร้นลงไปในซากร่างเหล่า นี้ ใครเล่าจะรับผิดชอบต่อวิญญาณที่ป่วยไข้ ............... ตีพิมพ์ครั้งแรก คอลัมน์ "ดอกไม้ในความคิด" นสพ วัฏจักรรายวัน 2540 ตีพิมพ์ครั้งที่สอง หนังสือ "ดอกไม้ในความคิด" 2544   Create Date : 02 กุมภาพันธ์ 2551 3 comments Last Update : 11 กรกฎาคม 2551 3:01:18 น. Counter : 950 Pageviews. Share Tweet

สงครามเป็นเรื่องน่าเศร้าเสมอค่ะ T^T   โดย: Clear Ice 2 กุมภาพันธ์ 2551 11:14:54 น.

เมื่อวันก่อนต้องแปลการบ้าน มีประโยคนึงจับใจมากครับ "The war is pleasant for the inexperienced."   โดย: Mint@da{-"-} 2 กุมภาพันธ์ 2551 15:48:05 น.

จากความคิดตอนนี้ของผม ผมสงสัยหลายอย่างกับ สังคมปัจจุบัน วัยรุ่นสมัยนี้ที่เห็นในส่วนมากคือพวก<อยากเด่น>ในสายตาเพื่อนฝูงและเพศตรงข้ามซึ่งการทะเลาะในเรื่องไม่เป็นเรื่องUpยา กินเหล้าโดดเรียน สูบบุหรี่ ทำตัวเป็นคนที่สังคม ไม่อยากเข้าใกล้ บางคนถึงกับทำตัวเป็นนักเลง เพราะอยากโช เพศตรงข้ามว่า"กูใหญ่นะกูเจ๋งสุดกูเก่งสุด~"เลยทำให้ผมเริ่มเข้าใจของสาเหตุการตายในหลายเรื่อง พวกนี้อยู่ไปก็ไม่เกิด ประโยชน์ ทุกคนล้วนมีจิตใต้สำนึกแล้วมีความคิด เป็นของตนเอง มีชีวิต ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนประเทศไหน ทุกคนได้ยืนอยู่บนโลกที่ทุกคนสร้างและทำร้าย จาก TheOne   โดย: TheOne IP: 124.120.224.138 26 พฤษภาคม 2551 19:23:43 น.