|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เบื่อจัง (ความจำเจ)
เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ได้รับโทรศัพท์จากสำนักพิมพ์ใหญ่ที่มีโครงการจัดประกวดงานเขียนทุกปี แจ้งมาให้ฉันทราบว่า เรื่องสั้นที่ส่งเข้าประกวดผ่านรอบคัดสรรแล้วนะ แต่จะติดอันดับหรือไม่ ต้องลุ้นอีกที (แต่จากประสบการณ์ ฉันคิดว่า เขาตัดสินไปเรียบร้อยแล้วล่ะ และฉันคงไม่ได้รับรางวัล ไม่เช่นนั้น เขาคงแจ้งให้ทราบแล้ว)
ความรู้สึกที่ได้ยินครั้งแรกก็คือ ความตื่นเต้น เพราะไม่คิดว่าจะเข้ารอบกับเขาด้วย เนื่องจากเวทีนี้ยิ่งใหญ่มากในความคิดของฉัน แม้ว่าบางปีฉันจะเคยอ่านรวมเรื่องสั้นที่ผ่านเข้ารอบแล้วที่ตีพิมพ์ออกมาจำหน่าย ฉันก็อดตั้งคำถามกับบางเรื่องไม่ได้ว่า ผ่านเข้ารอบมาได้อย่างไร แต่ด้วยความที่พอจะรู้จักแวดวงนี้ดีพอสมควร ทำให้ฉันไม่อยากสงสัยอะไรอีก คิดเสียว่า กรรมการท่านพิจารณาดีแล้ว ก็น่าจะดีล่ะนะ
ก่อนหน้านั้น ฉันเคยส่งเรื่องสั้นไปประกวดเวทีนี้อยู่สองครั้ง เคยนึกเข้าข้างตัวเองอยู่ครั้งเดียวว่า เรื่องของเราน่าจะผ่าน แต่ก็ปิ๋ว ภายหลัง ฉันส่งไปนิตยสารสองฉบับ ปรากฏว่า ได้รับการตีพิมพ์ทั้งคู่ ความจริง เคยได้ยินว่า มีกฏ กติกา มารยาทว่า คนเขียนหนังสือไม่ควรส่งหว่าน แต่ฉันคิด (เอาเอง) ว่า คงไม่มีใครปฏิบัติตามสักเท่าใดนัก ด้วยเหตุผลที่คนเขียนหนังสือเท่านั้นที่รู้ดี
แต่ความตื่นเต้นของฉันก็มีได้ไม่นาน เพราะความรู้สึกเฉย ๆ ก็เข้ามาแทนที่ คล้ายกับว่า เออนะ เราก็ทำได้นี่ แม้จะไม่ได้รางวัล แต่ผ่านเข้ารอบได้พิมพ์รวมเล่มกับเรื่องที่ได้รางวัล สำหรับฉันก็นับว่าเกินความคาดหมายแล้ว เพราะระยะหลัง ฉันไม่เคยเขียนเรื่องสั้นส่งไปตามนิตยสารเลย พอมีประกวดที ก็เขียนที เวทีนี้ตกรอบ ก็เอาเรื่องเดิมมารีไรท์ แล้วส่งไปอีกที่หนึ่ง เรื่องนี้ก็เช่นกัน
ก่อนหน้านั้น ฉันเคยได้รางวัลต้นฉบับนวนิยายยอดเยี่ยมจากเว็บไซต์แห่งหนึ่งซึ่งปิดตัวไปแล้ว เป็นนิยายที่ตกรอบจากสำนักพิมพ์ที่เคยเปิดตัวโครงการประกวดอย่างครึกโครมแล้วแผ่วไปในที่สุด ซึ่งถ้าฉันได้รางวัลชมเชยจากเวทีนั้น (ฉันไม่คิดว่าจะได้รางวัลใหญ่ไปกว่ารางวัลชมเชย) เงินรางวัลจะได้น้อยกว่าที่ได้จากเว็บไซต์นี้หนึ่งหมื่นบาท แต่ข้อดีคือ ผลงานได้รับการตีพิพม์ ทว่า เว็บไซต์แห่งนี้มีแต่เงินรางวัลให้ แล้วบอกว่าไม่มีผลผูกพันทางลิขสิทธิ์ ฉันสามารถนำไปเสนอให้สำนักอื่นตีพิมพ์จำหน่ายได้
มันคงจะดีกว่านี้ ถ้านวนิยายของฉันได้รับการตีพิมพ์จากสำนักพิมพ์ที่ฉันส่งเรื่องไปให้พิจารณา เพราะฉันจะได้เงินค่าต้นฉบับอีกต่อหนึ่ง แถมผลงานได้รับการเผยแพร่ด้วย แต่น่าเสียดาย นวนิยายที่ได้รางวัลของฉัน ไม่ผ่านการพิจารณาให้ได้รับการตีพิมพ์...
บก.แจ้งผ่านมาทางอีเมลว่า เนื้อเรื่องไม่ชวนให้ติดตาม สำนวนไม่ลื่น และอีก 2 ข้อ ซึ่งฉันจำไม่ได้ ฉันตอบขอบคุณไปที่ทางนั้นอุตส่าห์แจ้งผลมาให้ทราบและบอกข้อควรแก้ไข แต่ฉันคงเขียนให้ได้ดีกว่านี้ยาก เพราะฉันไม่ได้ขยันเขียน ด้วยเหตุนี้ ฉันจึงคิดว่า ฉันเป็นนักเขียนไม่ได้หรอก ฉันไม่มีวินัยในการเขียน แต่เขียนตามอารมณ์ของตัวเองเป็นสำคัญ
ถึงเวลานี้ ฉันยิ่งรู้สึกถึงความเฉื่อยชาของตัวเองในแทบทุกเรื่อง ฉันไม่มีความกระตือรือร้นเหมือนแต่ก่อน ไม่อยากโทษว่าเพราะวัยที่สูงขึ้น แต่เป็นเพราะจิตใจของฉันเองมากกว่า
อีกอย่างหนึ่ง ฉันขี้หลงขี้ลืมอยู่เสมอ แม้ในเรื่องที่ไม่น่าลืม อาจเพราะฉันเคยชินกับการเก็บงำเรื่องราวต่าง ๆ ไว้กับตัวเอง ไม่ค่อยเปิดปากเล่าเรื่องหรือพูดคุยกับใครเขา เลยดูเหมือนว่า เรื่องอะไรก็ดูจะไม่ค่อยสำคัญไปเสียสิ้น บางเรื่องอยากจะเล่าก็ลืมเสียสนิท ฉันเป็นเช่นนี้อยู่เสมอแหละ บางคนถึงกับออกปากว่า ฉันเป็นคนเงียบเกินไป นั่นสิ ฉันถึงอยู่ตามลำพังได้เป็นเวลานาน ๆ ไง
ความจริง ฉันเบื่อความซ้ำซากจำเจมากนะ ฉันอยากทำงานที่ไม่ต้องอยู่เป็นที่ อยากไปในสถานที่ที่ไม่รู้จักใครและไม่มีใครรู้จัก ไม่อยากอยู่เจอหน้าผู้คนและเรื่องราวเดิม ๆ แต่ก็นั่นแหละ ฉันก็ยังต้องทนอยู่อย่างนี้ต่อไป
จนกว่าจะปล่อยวางได้ทุกสิ่งจริง ๆ ไม่ใช่เพียงในความคิด
Create Date : 18 สิงหาคม 2555 |
Last Update : 11 ตุลาคม 2555 13:01:21 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1494 Pageviews. |
|
|
|
| |
|
|