วลีวิไล
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
27 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add วลีวิไล's blog to your web]
Links
 

 

ไปเป็นอาสาสู้ไฟที่เชียงใหม่มาคร้าบ


สุขใจที่ได้ทำความดี



ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาครูไปบำเพ็ญประโยชน์ที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นกิจกรรมที่ทำให้สุขใจอย่างมาก ก็เลยคิดว่านำมาเล่าสู่กันฟังอาจจะทำให้ใครอีกหลายคนมองเห็นโอกาสที่จะได้ทำอะไรดีๆ ให้กับตนเองและคนรอบข้าง

เรื่องมันเริ่มมาตั้งแต่เพื่อนครูคนหนึ่งชื่อพี่ตือ ทำงานอยู่ที่โครงการส่งเสริมการให้เพื่อสังคม มูลนิธิกองทุนไทย เรียกสั้นๆ ว่า give2all การทำงานของโครงการนี้ก็คือสนับสนุนให้คนทำความดีครับ เป้าหมายเจ๋งเลยใช่มั้ยล่ะ ฮี่ๆๆ

ได้คุยกันมาตั้งแต่กลางปีที่แล้วว่าจะทำโครงการเพื่อสังคมด้วยกัน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้ทำสักที จะด้วยอะไรก็แล้วแต่แหละเนาะ แต่สุดท้ายมาถึงโครงการนี้ “อาสามาสู้ไฟ” พอพี่ตือโทรมาบอกก็ตั้งใจว่ายังไงก็ต้องทำให้ได้ ทีนี้ก็หาคนที่จะเข้าร่วมโครงการด้วย ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ลูกศิษย์นี่แหละ มีหลายคนที่สนใจจะไปด้วย สุดท้ายท้ายสุดก็ได้ 10 ผู้กล้า เป็นอาสาชุดแรกของสาขาเราที่จะออกไปทำอะไรร่วมกันเพื่อสังคม อันได้แก่ แอ๊บ แมว บัง ชิง หยี เป็น 5 หนุ่ม กับอีก 5 สาว คือ อ้อม จุ ต่าย จ๋า และปอย

เราออกเดินทางกันคืนวันที่ 22 มีนาคมครับ ไปรถตู้แบบใหม่ล่าสุด กว้างขวางสะดวกสบาย ล้อหมุนราวๆ ทุ่มครึ่งซึ่งเป็นช่วงที่คิดว่ากำลังดี ใช้เวลาเดินทาง 8 ชั่วโมงเศษก็ไปถึงที่หมายราวๆ ตี 4 ระหว่างทางนี่ขอบอกว่าสงสารพี่คนขับมากๆ เพราะมันคุยกันฮาเฮเสียงดังตลอดทาง ซึ่งก็ทำให้บรรยากาศการเดินทางสนุกสนานมาก

ระหว่างทางมีใครบางคนสังเกตว่ามีรถตู้อีกคนขับตามเรามา (ตั้งแต่เมื่อไหร่หว่า?) สุดท้ายแวะปั๊มซื้อขนมก็เกิดการพูดคุยกันจนได้ความว่าเป็นคณะจากโรงเรียนสองพี่น้อง สุพรรณบุรี ซึ่งมีที่หมายเดียวกันกับพวกเรา เอิ๊กๆๆ ไม่น่าเชื่อ มาเจอกันกลางทางซะงั้น แล้วก็เลยเกาะกันไปเรื่อยจนถึงจุดนัดพบกับรถตู้อีก 2 คันจาก ม.บูรพา

โอ้เย...นับไปนับมาเรามีสมาชิกที่จะไปทำงานร่วมกันมิใช่น้อยเลยนะนี่

เข้าเมืองเขียงใหม่ ได้ตักบาตร จากนั้นทานโจ๊กแสนอร่อยที่หน้าตลาด แล้วก็ไปไหว้ครูบาศรีวิชัย จากนั้นขึ้นดอยสุเทพเพื่อไหว้ขอพร เป็นบรรยากาศที่ดีนะ เหมือนกับว่าเรากำลังจะมาทำความดีที่นี่ เราก็มาไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้ท่านคุ้มครอง และขอให้งานทุกอย่างผ่านไปอย่างราบรื่น เดินทางปลอดภัยไม่มีปัญหาร้ายแรง


ตักบาตรแต่เช้ามืด




ทานโจ๊กกันจ้า



นมัสการครูบาศรีวิชัย



ไหว้พระธาตุดอยสุเทพ




แล้วเราก็มาถึงจุดนัดพบ (เค้าเรียกอะไรไม่รู้อะครับ) ก็พบกับทีมงานจากพี่ๆ givenorth ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเป็นผู้คิดโครงการนี้ขึ้นมา และมีน้องๆ อาสาจากแม่โจ้กับ มช. มาร่วมด้วย สิริรวมแล้วคณะของเรามีอาสาทั้งหมด 50 คน เป็นกรุ๊ปใหญ่กว่าที่ครูคาดไว้ ดีใจที่มีคนคิดดีทำดีมากขนาดนี้

เรานั่งรถต่อไปตามเส้นทางที่พี่ๆ givenorth ขับรถนำไปให้ แวะซื้อของใช้บางอย่างที่ตลาด ซึ่งครูเองก็ไม่มีสิ่งนี้ เหอๆ มันคือถุงมือและรองเท้าผ้าใบพื้นยางแบบเกาะถนนหนึบหนับอะครับ ถุงมือต้องใช้เพราะเราต้องกำจอบกำพร้าในการถางป่า ส่วนรองเท้านี่ก็จำเป็นมากเพราะต้องขึ้นลงเขา ดันลืมรองเท้าผ้าใบไว้ที่บ้านก็เลยต้องซื้อใหม่ แต่จะบอกให้ว่าคุ้มมากๆ เพราะราคาคู่ละ 99 บาท แต่ใช้งานได้ดีกว่าพวกรองเท้าแพงๆ อีกนะ

จากตลาดของชาวบ้านท้องถิ่น เราก็ขับรถต่อไปอีกจึ๋งนึง แล้วก็ไปถึงจุดที่ต้องจอดเปลี่ยนรถ เป็นปากทางเข้าจากถนนใหญ่เข้าไปที่เขตจัดการต้นน้ำทุ่งจ๊อ ระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตรครับ ฟังดูไม่มากใช่ป่าวล่ะ แต่จะบอกว่าถนนหนทางนั้นสุดยอดมาก ต้องใช้รถกระบะโฟร์วีล หรือไม่ก็รถที่สมบุกสมบันมากๆ ถึงจะเข้าไปได้อ้ะ ทางหน่วยเค้าจัดรถกระบะมาให้ 2 คัน และรถหกล้อ (สีเหลืองๆ) อีก 1 คัน กว่าจะเข้าไปถึงที่พักก็บุกป่าฝ่าดงกันเป็นที่หนุกหนาน เอิ๊กๆๆ ครูนั่งข้างหน้ากับลุงอู๊ดคนขับซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วย ส่วนเด็กๆ 10 ชีวิตและสัมภาระอยู่ที่กระบะหลัง เสียงกิ๊วก๊าวเป็นที่ตื่นเต้นพออกพอใจเวลาที่รถขึ้นเนินสูงๆ หรือไม่ก็เลี้ยวหักศอก เจอหลุมเจอบ่อชนิดที่เรียกว่านั่งๆ ไปนี่ไส้แทบจะขดรวมกันเป็นกองเดียว ฮ่าๆๆ

ที่พักของเราอยู่ที่หน่วยจัดการต้นน้ำทุ่งจ๊อ มีบ้านพัก 4 หลัง นอนได้หลังละ 11-12 คน ครูกับลูกศิษย์ก็เหมาไปเลย 1 หลัง มีที่นอนอยู่ 11 ชุดพอดี ส่วนน้องจากแต่ละสถาบันก็แบ่งๆ กันไป มีหลายคนที่เตรียมเต็นท์มาเองก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ



มาถึงที่พัก...หน่วยจัดการต้นน้ำทุ่งจ๊อ



พี่อ้วนหัวหน้าหน่วยกล่าวต้อนรับ




งานแรกที่เราทำกันในช่วงบ่ายหลังจากที่เก็บของและทานข้าวกลางวันแล้วก็คือการทำปุ๋ยหมักและทำป้ายประชาสัมพันธ์ พี่ๆ เค้าจะให้อิสระกับอาสาทุกคนว่าอยากทำอะไรก็สามารถเลือกได้ ปรากฏว่าส่วนใหญ่เลือกทำปุ๋ยกัน ครูกับลูกศิษย์ก็เลยรับทำงานป้าย มีน้องๆ จากสุพรรณอีกสี่ห้าคนร่วมด้วย

ปุ๋ยที่ทำนี่ก็มีวิทยากรมาช่วยอธิบายวิธีทำก่อนครับ ต้องขุดหลุมลงไปลึก 1.5 เมตร กว้างยาวนี่จำไม่ได้อ้ะ แหะๆ แต่เนื่องจากเรายังมือสมัครเล่นกันอยู่ก็เลยขุดกันที่ความลึกไม่ถึงตามหลักที่กำหนดไว้ (หยวนๆ น่า) ส่วนการทำปุ๋ยพอได้หลุมแล้วเค้าจะเอามูลวัวใส่ลงไปเป็นชั้นที่ 1 สารเคมีชื่ออะไรจำไม่ได้ (อีกแล้ว) เป็นสารที่ใช้ทำปุ๋ยนี่แหละ เป็นชั้นที่ 2 และใส่ใบไม้เป็นชั้นที่ 3 รดน้ำให้ชุ่มๆ แล้วก็หมักเอาไว้ตามเวลาที่กำหนด


น้องๆ สุพรรณขุดหลุมจนมือแตก



เตรียมใบไม้แห้งเพื่อผสมปุ๋ย



ร่วมแรงแข็งขัน


ส่วนงานป้ายประชาสัมพันธ์ พี่ๆ เค้าเตรียมอุปกรณ์ไว้ให้คือฟิวเจอร์บอร์ด 22 บอร์ด (จริงๆ คือซื้อมา 20 อัน แถมอีก 2 อิอิ) แล้วก็มีสีน้ำมันมาให้ 5 สี คือ แดง เหลือง เขียว น้ำเงิน และดำ

โจทย์คือเราต้องทำป้ายเพื่อประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรักป่า ไม่เผาป่า ช่วยกันดูแลป้องกันไฟป่าครับ คำแนะนำของพี่ๆ คือ อย่าเขียนคำว่า “ห้าม” และคำว่า “อย่า” เหตุผลคือ คนเรายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ถ้าเขียนว่าห้ามเค้าจะยิ่งทำ แบบพวกชอบแหกกฎอะเนอะ มิน่า สนามหญ้าที่มีป้าย “อย่าเดินลัดสนาม” คนถึงได้ชอบเดินลัดสนามกันจัง อิอิ

ผลงานที่ออกมาหน้าตาเป็นยังไง ดูรูปกันเลยจ้ะ



พี่เอ๊ดเตรียมสีน้ำมัน



น้องไม้ลูกชายพี่เอ๊ด สมาชิกอายุน้อยที่สุดของค่ายนี้



ลงสีตามสบาย



คุณครูกำลังเขียนข้อความ



หยี-บัง กับรูปที่พวกเราโคตะระภูมิใจ มันวาดได้ยังไง ฮา



เอาผลงานมาเรียงต่อกัน



วาดด้วยใจ...ยังไงก็สวย



วันต่อมาถึงเวลาที่พวกเราจะได้ออกไปลุยถางป่าทำแนวกันไฟป่ากันแล้ว หลังจากที่ทานข้าวเช้าเสร็จก็ออกเดินทางไปยังจุดที่จะทำงาน แบบว่ารู้ซึ้งเลยว่าเส้นทางมันโหดแค่ไหนอ้ะ ตอนเข้ามาที่หน่วยเมื่อวานนี้ว่าทางโหดแล้ว ทางที่เข้าไปในพื้นที่นี่หนักกว่าเป็นสิบเท่า กระแทกกระเทือนแบบสุดๆ ถนนบางช่วงนี่แบบว่ากรุณาอย่ามองด้านข้าง เพราะว่ามันเจี๋ยวววววว อิอิ ลองดูภาพประกอบละกัน


คึกคักก่อนเดินทาง



น้องๆ กับรถเหลืองหกล้อ...ขึ้นย้ากยาก



เส้นทางวิบาก



มองไปข้างหน้า โอ...ยังไม่ถึงจ้า



จุดพักของเรา...บ้านยามไฟ


มาถึงจุดที่เราจะพักรถ เป็นบริเวณที่ “ยามไฟ” เค้าสร้างกระท่อมเอาไว้พักผ่อน ยามไฟคือลูกจ้าของหน่วยที่ทำหน้าที่เฝ้าระวังคอยดูว่ามีไฟป่าเกิดขึ้นหรือเปล่า จุดที่ตั้งของยามไฟนี้ก็อยู่บนเนินเขา ฟากเป็นป่าสน อีกฟากเป็นคล้ายๆ หน้าผา แหงะ เจี๋ยวอีกแล้ว แต่ว่าเป็นจุดที่มองออกไปแล้วสวยมากๆ

อ้ะ ลืมบอกไปว่าพื้นที่ตรงนี้เข้าเขตแม่ฮ่องสอนแล้ว เพราะว่าเขตจัดการต้นน้ำทุ่งจ๊อนี่ครอบคลุมพื้นที่รอยต่อระหว่าง 2 จังหวัดคือเชียงใหม่กับแม่ฮ่องสอนจ้ะ


คุณครูกับบรรดาลูกลิง



มองไปฝั่งแม่ฮ่องสอน...เมืองในหมอก



จากจุดที่ยืนอยู่ถึงยอดเขาคือเป้าหมายแนวกันไฟ



จากจุดที่ยืนถ่ายรูปอยู่นี้ ช่วงเช้าเราจะทำแนวกันไฟไปยังยอดเขาในรูปข้างบน (ลูกที่ใหญ่ที่สุดอ้ะ) ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ความกว้างของแนวตามปกติก็ประมาณ 8-12 เมตร ทีแรกเราคิดกันว่าจะขึ้นไปที่จุดหมายคือยอดเขาทางโน้นก่อนแล้วทำไล่ลงมา แต่พอลงมือทำก็ปรับเปลี่ยนแผนให้เหมาะสมคือ แบ่งออกเป็น 3 ทีม แยกกันทำทีมละส่วน ซึ่งช่วยให้งานเร็วขึ้นมาก

ทุกคนจะมีอาวุธคนละ 1 อย่าง และน้ำคนละขวดตามโควตา ด้วยความจำกัดของการขนย้ายข้าวของขึ้นมากับพวกเราด้วยทำให้น้ำมีจำกัด ตอนที่ถางแนวกันไฟกันนี่รักน้ำมากๆ เลย ไม่กล้าดื่มมากกลัวหมด จะใช้ก็รู้จักประหยัด

การทำงานจะเป็นแบบให้อิสระ เหนื่อยก็พักได้ไม่ใช่ว่าจะต้องเอาเป็นเอาตาย แต่ก็เห็นว่าทุกคนทำกันเต็มที่ มีคุยเล่นบ้าง นั่งพักบ้าง แต่ก็เป็นไปตามธรรมชาติ ทำให้บรรยากาศการทำงานสนุก ไม่น่าเบื่อ แล้วก็ไม่เครียด จากที่เราแหงนหน้ามองจากเชิงเขาขึ้นไปยอดเขา โอ้...หนทางมันช่างยาวไกล ตอนแรกไม่ค่อยจะมั่นใจเท่าไร คือคิดว่าได้เท่าไหนก็เท่านั้น แต่สุดท้ายก็ทำได้จริงๆ ดีใจ ฮี่ๆๆ


ลงมือทำงาน..ทุกคนมีอาวุธเป็นของตัวเอง



เอ้า...ลุย ลุย ลุย



ผลงานที่พวกเราภูมิใจครับ


หมดภารกิจช่วงแรก เรากลับมาที่เดิมก็พบว่ามีชาวบ้านมารออยู่จำนวนหนึ่ง ก็ทำพิธีมอบป้ายประชาสัมพันธ์โดยให้นักเรียนนักศึกษาแต่ละสถาบันมอบส่วนที่ตนเองทำ และให้อธิบายความหมายให้ตัวแทนของชาวบ้าน


น้องๆ จากสุพรรณส่งมอบป้ายให้ชาวบ้าน



หนูต่ายเป็นตัวแทน มธบ.



ป้ายความหมายดีๆ จากน้องๆ ม.บูรพา



น้องๆ จากแม่โจ้+มช. อธิบายเป็นภาษาเหนือ


ช่วงพักกลางวันสำหรับวันนี้เป็นอาหารมื้อที่ปลื้มที่สุดครับ เรานั่งล้อมวงกัน วงเล็กวงใหญ่ก็แล้วแต่ ทุกคนมีข้าวเหนียวคนละ 1 ถุง กับข้าวคือ น้ำพริก ผักกาดดอง แตงกวา แล้วก็ต้มไก่ พอดีเมื่อตอนเช้าที่เราทานข้าวต้มทุกคนจะได้ไข่ต้มคนละฟอง ก็แอบเก็บไว้ครับไม่ทาน เอามาทานมื้อกลางวัน แล้วพี่ๆ ทหารเค้ามีหัวปลี แอ๊บก็ไปขอพี่เค้ามา ฮี่ๆๆ

แล้วก็พิเศษที่มีโค้กแก้กระหายด้วย การดื่มโค้กถ้าไม่ดื่มจากขวด ก็มีแบบวีไอพี คือใส่แก้วซึ่งทำจากการตัดขวดน้ำเปล่านั่นแหละ อิอิ เป็นมื้อที่สนุกมาก ได้นั่งกับพื้นดินให้ตอไม้ทิ่มก้นกันซะงั้น กรักๆๆ แดดเริ่มแรงแต่ว่าลมพัดเย็น ก็เลยไม่รู้สึกว่าร้อนหรือเหนื่อย เป็นมื้อที่ประทับใจมาก


อาหารมื้อกลางวันที่ประทับใจที่สุด



ช่วงบ่ายชาวบ้านมาร่วมงานกับพวกเราด้วย เป็นการทำแนวกันไฟป่าอีกแนวหนึ่งจากจุดที่ยืนอยู่ลงไปข้างล่าง ระยะทางก็หลายกิโลอยู่ คือเส้นนี้จะเป็นเส้นทางที่ลงไปยังปากทางเข้าหมู่บ้าน เพิ่งจะรู้สึกว่าการถางป่าลงเขายากกว่าเดินขึ้นเขา เพราะต้องทรงตัวและรองเท้านี่ต้องติดดิสก์เบรกอยู่ตลอดเวลา ปวดน่องกับปวดนิ้วเท้าอ้ะครับ มันทำงานหนักกว่าแขนที่ใช้ฟันต้นไม้ต้นหญ้าซะอีก

แต่จะว่าไปช่วงบ่ายนี่ไม่ค่อยรู้สึกว่าทำงานหนักเท่าไหร่นะ เพราะว่าชาวบ้านที่มาช่วยเค้าทำกันเร็วมากๆ เลย ฟันฉับๆๆ โอ้...ไปกันถึงไหนๆ แล้ว พวกเราก็ตามเก็บขุดรากถอนโคน เพราะชาวบ้านเค้าไม่ขุดรากถอนโคนมันออกนี่เองต้นหญ้าและพืชที่เป็นเชื้อไฟมันถึงได้งอกเร็ว พอเห็นพวกเราทำเค้าก็บอกว่าพวกนักศึกษาทำแนวกันไฟสวยกว่าที่พวกเขาทำอีกนะ ฮิ้ววววว ปลื้มกันทั้งค่าย

เป็นธรรมดาของการออกไปทำงานภาคสนามที่จะต้องมีคนบาดเจ็บกันบ้าง งานนี้ก็ไม่มียกเว้นครับ จำเพาะเจาะจงจะต้องมาเกิดกับลูกศิษย์ข้าพเจ้า เอิ๊กๆๆ จ๋าเดินอีท่าไหนก็บ่ฮู้ คาดว่าเป็นเพราะเดินลงเขาก็เลยเอาไม่อยู่ วิ่งๆๆๆ แล้วกลายเป็นกลิ้งๆๆ ลงมาชนิดม้วนหน้าลืมเก็บคอซะงั้น ก็เลยเจ็บตัวแขนถลอกปอกเปิก แถมหน้ายังมีแผลที่เหนือคิ้วกับโหนกแก้ม (หรือเปล่า) เป็นที่ฮือฮาของชาวอาสากันไป งานนี้ต้องขอบคุณน้องพล อาสาจาก ม.บูรพา ที่เข้ามาช่วยดูแลเป็นคนแรกขณะที่เพื่อนๆ ของจ๋ายังตะลึงกันอยู่ เราได้เห็นความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน ไม่แบ่งแยกหญิงชายและไม่แบ่งแยกสถาบัน

อีกเคสหนึ่ง น้องจากสุพรรณโดนฝุ่น(ซึ่งเยอะมาก) ปลิวเข้าตา ก็มีพี่หยี(ใช่เอ็งป่าววะหยี ครูเป็นพวกปลาทองขนาดชั้นเห็นกับตายังจำไม่แม่นว่าเป็นใคร) เอาเป็นว่าใครสักคนในศิษย์ครู...มีน้ำใจยื่นผ้าเช็ดหน้าให้น้อง ฮิ้ววววว เด็กๆ น่ารักกันจริงๆ น้อ

เราทำแนวกันไฟแนวที่ 2 เสร็จตามเวลา เสียดายที่ไม่มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมในหมู่บ้าน เพราะทราบมาว่าเส้นทางที่จะเข้าไปนั้นยังอีกไกลและค่อนข้างลำบาก (มันยังมีลำบากกว่านี้อีกเหรอ เอิ๊กๆๆ) ได้คุยกับพ่อหลวง (ผู้ใหญ่บ้าน) บอกว่าที่นี่มีเด็กเยอะแต่ขาดโอกาสเนื่องจากอยู่ไกลความเจริญ อย่างวันเด็กนี่ไม่เคยได้เล่นสนุกหรือมีงานฉลองกับใครเขา พี่กิ๊ก givenorth ก็จุดประกายว่าอาจารย์สนใจจะมาไหม แน่นอนล่ะจ้ะเราสนใจ แต่คุยกันไว้คร่าวๆ ก่อน เพราะยังอีกไกล งานนี้ก็คงไม่พ้นพี่ๆ givenorth ที่จะช่วยประสาน คิดว่าจะลองหาสปอนเซอร์เกี่ยวกับอุปกรณ์กีฬา งานศิลปะ(อยากไปสอนน้องวาดรูป อิอิ) และอื่นๆ ที่พอจะทำอะไรกับน้องๆ ในหมู่บ้านได้ อุ๊ย คิดไปไกล...แต่ก็เป็นไปได้มิใช่หรือ เนอะๆๆ



ถางป่าช่วงบ่ายมีชาวบ้านมาร่วมด้วย



อาสาสู้ไฟกับชาวบ้าน


กิจกรรมยามค่ำคืน ก่อนที่เราจะจากกันวันรุ่งขึ้น แต่ละสถาบันคิดเกมมาเล่นเพื่อนกระชับความสัมพันธ์ แล้วก็เปิดใจพูดความรู้สึกของแต่ละคน เป็นบรรยากาศที่ดีมากๆ เสียดายที่เรามีเวลาร่วมกันไม่นาน แต่เชื่อว่าทุกคนจะจดจำทริปนี้เอาไว้ไม่มีวันลืม เพราะสนุกมากและสุขใจมาก


เล่นเกม...รวมตังค์



สาวๆ แด๊นซ์กระจาย



ปิดท้ายด้วยเพลง...พลังใจ


วันสุดท้ายเราทานข้าวแล้วก็ถ่ายรูปร่วมกัน ขอบคุณพี่อ้วนหัวหน้าหน่วยซึ่งดูแลพวกเราดีมาก ขอบคุณแม่ครัวกับข้าวอร่อยโคตรๆ มีน้ำพริกทุกมื้อก็ทานได้ทุกมื้อ แม้จะทานเผ็ดไม่เก่งแต่น้ำพริกอร่อยจริงๆ นะ ยอมเผ็ดไม่ยอมอด ฮี่ๆๆ สโลแกนอะไรของมันวะ

แล้วก็ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกคน ทหารที่มาช่วย ชาวบ้านที่น่ารัก พี่ๆ givenorth เหล่าอาสาจากทุกสถาบัน และที่ลืมไม่ได้คือ give2all

ทุกคนคือหนึ่งในฟันเฟืองที่ทำให้งานนี้ผ่านพ้นไปได้อย่างดีเยี่ยม

อยากจะบอกว่า ไปครั้งนี้นอกจากไปทำแนวกันไฟป่าแล้ว ยังอยากจะให้เด็กๆ ทุกคนได้สร้างแนวกันไฟในหัวใจตัวเองด้วย ทุกครั้งที่คุณคิดจะทำอะไรที่ไม่ดี ทุกครั้งที่มีสิ่งยั่วยวนไปในทางผิดบาป ขอให้นึกถึงความดีที่เราเคยทำ ขอให้ความดีจงเป็นแนวกันความชั่วไม่ให้เข้ามาอยู่ในใจเรา

ไม่รู้จะเขียนอะไรแล้ว จบ...ซะงั้น


แล้วเจอกันใหม่โครงการหน้านะคร้าบ






 

Create Date : 27 มีนาคม 2550
30 comments
Last Update : 27 มีนาคม 2550 23:58:50 น.
Counter : 1903 Pageviews.

 

อยากไปด้วยยยยยยยยย

อิอิ ถ้าหนูไป ก็คงได้ทำปุ๋ย เพราะฝีมือวาดรูป... ห่วยมั่กๆ

ว่าแล้วก็อยากขึ้นดอยอีกครั้งจังเลย
คิดถึงบรรยากาศจริงๆ

 

โดย: สายลมโชยเอื่อย 28 มีนาคม 2550 7:04:31 น.  

 

ดีค่ะ .. ไม่คิดว่าจะได้มาเมนต์เป็นคนต้น ๆ
แต่ก็ช้ากว่าคุณอ้นจันทร์ .. ฮี่ ๆ
อืมม .. เห็นแล้วน่าสนุกนิ (ซะงั้น)

ไว้โครงการหน้า .. มีเมื่อไหร่ บอกนะคะ
เด๋วช่วยหาตังค์สมทบทุน (จิง ๆ นะเอ้อออ)

 

โดย: momo-kiss [ นุ่น ] IP: 58.64.22.66 28 มีนาคม 2550 7:48:22 น.  

 

น่าสนุกจังๆๆๆๆ แต่อย่าให้ทำพวก cut out นะ สีมือวาดรูปไม่มีสักติ๊ดดดดดดดดดด

ว่าแต่คุณครูพี่กี้ขา น้องแมวเหมียวของครูเกิดไรขึ้นค้า ไม่ยอมซื้อน้ำยาล้างตามาล้างซะงั้น

 

โดย: kannasan IP: 58.64.18.186 28 มีนาคม 2550 8:45:38 น.  

 


ตามมากระจองอแงอยากไปด้วยเหมือนกันค่า

แต่ถ้าหนูไป เอิ๊กๆๆ เกรงจะไปเสียงดังทำป่าเค้าแตกอ่ะค่ะ

^^"""

ปล. แหม ไม่อยากเปิดเผยความลับว่า ตอนแรกก็อ่านอยู่ดีๆ พอเริ่มมีรูปหนุ่มๆ หนูเริ่มแสกนหาคนหน้าตาดีทันที... เอิ๊ก สรุปได้ว่า น้องไม้น่ารักสุดอ่ะค่ะ มันทำไปด้วยสัญชาตญาณจริงๆนะค้า 5555


 

โดย: p_jung IP: 125.24.41.197 28 มีนาคม 2550 10:26:47 น.  

 

แอบปลื้มกับกิจกรรมดีๆ ของพี่กี้ค่ะ สมเป็นคุณครูผู้น่ารักของน้องๆ หนูๆ จริงๆ เพราะเท่าที่อ่านบล็อคนี้มา ได้เจอสิ่งดีๆ ที่พี่กี้ทำเพื่อแบ่งปันอะไรให้กับสังคมอยู่เรื่อยๆ

 

โดย: อุรัสยา IP: 124.120.100.16 28 มีนาคม 2550 10:50:05 น.  

 

ยอดเยี่ยมเลยคับครู

อยากมีโอกาสไปอาสาแบบนี้บ้างจัง
เฮ้อ....ลาออกจากงานดีมั้ยเนี่ย
อยากเที่ยวอยากไปโน่นนี่จริงๆเล้ย.....

 

โดย: wanwitcha 28 มีนาคม 2550 12:52:54 น.  

 

ดีใจที่มีกิจกรรมดีๆ อย่างนี้เกิดขึ้นค่ะ

แต่ถ้าให้ลี่เขียนป้าย คงต้องโบกมือลา เพราะไม่ได้เรื่องจริงๆ เลย

 

โดย: lily (lovekalo ) 28 มีนาคม 2550 14:35:18 น.  

 

น่าสนุกจังเลย อยากไปบ้างจัง อิอิ
ท่าทางจะเหนื่อยน่าดู
และท่าทางจะมีความสุขมากๆ
เมื่อไหร่จะมีโอกาสได้ไปอย่างนี้บ้างก็ไม่รู้

พี่กี้อ่ะ ไม่เคยชวนกันมั่งเลย...(ล้อเล่นค่ะ แหะๆ)

 

โดย: kikkak_riwkiw IP: 203.113.32.14 28 มีนาคม 2550 14:39:05 น.  

 

ดูเป็นโครงการที่ดีโครงการนึงเลยนะคะ
โหย ได้ไปช่วยกันอาสาสู้ไฟเหนือ (ถ้าสู้ไฟใต้อันนี้จะไปยากหน่อย อิอิ) แต่ดูน่าสนุกนะคะ ไม่ได้น่าเบื่ออย่างที่คิดเลยอ่า อืมๆ มีโครงการดีๆอย่างนี้วันหลังต้องอาสาไปบ้างแล้วค้า (ของมหาลัยน้องก้อมีโครงการเยอะเหมือนกันคะ แต่ม่าปาย เหอๆ)

 

โดย: นรานินี 28 มีนาคม 2550 15:03:57 น.  

 

อ่านแล้วซึ้งใจค่ะ อิงรู้สึกว่าตัวเองอยากไปค่ายอาสาแบบนี้มากๆ
แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความคิด เพราะว่าความเห็นแก่ตัวในการเรียนพิเศษเพื่อการเอ็นสะท้าน มันมีมากกว่า ก็เลยไม่ได้ไปสักที
อยากให้ความคิดไม่เป็นเพียงความคิด อยากให้ตัวเองมีเวลามากกว่านี้ แต่พูดไป ...ความดีจะทำเมื่อไรก็ได้ คิดจะทำสักอย่าง สักวันหนึ่งเมื่ออะไรๆมันเหมาๆก็คงได้ทำความดีอย่างที่หวัง ....อย่างน้อยก็ได้คิดว่าจะทำดี ยังดีกว่าไม่เคยคิดเลย...ใช่ไหมค่ะพี่กี้

 

โดย: อังค์วรา 28 มีนาคม 2550 15:08:16 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่กี้
ขนาดพี่กี้ลงท้ายว่าไม่รู้จะเขียนอะไรแล้วนะค่ะ
โอ๋ยังต้องพักรบอ่านไปหนึ่งรอบ
คือง่วงนอนมากเลยค่ะ เมื่อคืน
ดูทีวีจนถึงเที่ยงคืน อาบน้ำ สระผม ตีหนึ่งถึงจะได้นอน
(เหลวไหลเนอะ)
คราวหน้าถ้าพี่กี้มีกิจกรรมแบบนี้อีกนะค่ะ
ขอได้เลยค่ะ โอ๋ยินดีร่วมมือด้วยคนค่ะ
ประเภทข้าวของเครื่องใช้การศึกษา
ถนัดหาของค่ะ แต่ก็ชอบลุยนะค่ะ
แต่ก็ไม่แน่ใจอีกว่าถ้าจะรับปากว่าไปด้วยนะ
เกิดไปเป็นภาระให้คนอื่นละก็ จะลำบากคนอื่นเปล่าๆ
เพราะเท่าที่อ่านนะค่ะ การเดินทางโหดน่าดู
เป็นพวกเมารถง่ายนะค่ะ แค่นนทบุรี ปากเกร็ดยังเมารถได้เลยนะค่ะ นั่น
ไปเที่ยวที่ไหนไกล ๆ ก็นอนยาวเลยค่ะ เวลาเดินทาง
เพราะซํดยาแก้เมาลูกเดียว

อ่านไปอ่านมา ไอเดียบรรเจิด น่าเขียนนิยายจังแฮะ
พี่กี้ว่ามั๊ยค่ะ แต่คงได้นิยายสองอย่างเท่านั้นหล่ะค่ะ
ประเภทนักศึกษา น่ารักกุ๊กกิ๊ก
หรือไม่ก็แนวผู้ใหญ่ แนวที่พี่กี้ถนัดนั่นหล่ะค่ะ
แต่คงต้องประมาณเกี่ยวกับชาวบ้านกับสาวเมืองกรุง
หรือไม่ก็หนุ่มเมืองกรุงนักพัฒนา กับสาวชาวบ้าน
อะไรเทือก ๆ นั้นหล่ะค่ะ

วุ้ยคิดไปได้ ไกลไปแล้ว กลับมาที่เดิมดีกว่า
ก็แค่คิดสนุก ๆ นะค่ะ เผอิญว่าวิธีเขียนของพี่กี้
มันทำให้คิดตาม ก็เลยนึกถึงนิยายเท่านั้นเองนะค่ะ

เฮ้อ วันนี้ร้อนมาก ๆ เลยค่ะ ถึงขนาดงีบหลับในที่ทำงาน
ปล. กำลังรออยู่เชียวค่ะว่าพี่กี้จะมาเล่าให้ฟังบ้างรึเปล่า
รูปเยอะดีค่ะ แต่เน็ตที่บ้านมัน low speed นะค่ะ เสียดายบางรูปโหลดไม่ขึ้นซะงั้น

 

โดย: oa IP: 202.28.9.80 28 มีนาคม 2550 16:18:46 น.  

 

แวะมาเยี่ยมนะครับ

ดีจังครับ นอกจากจะได้ทำบุญ ได้บำเพ็ญประโยชน์ ได้คืนสิ่งที่ดี ๆ ในแก่ธรรมชาติและสังคมแล้ว ยังได้เที่ยวและได้ความสนุกสนานกลับมาด้วยใช่ไหมครับ?

น่าสนุกจังนะครับ อย่างไปทำกิจกรรมแบบนี้บางจังเลยครับ

อิอิ

 

โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) 28 มีนาคม 2550 17:57:38 น.  

 

กำลังคิดว่า ถ้าให้แอนไปทำป้าย
สงสัยจะได้ออกมาเป็น abstract แหะๆ

อ่านแล้วรู้สึกว่าเป็นโครงการที่ดีจังเลยค่ะ ^^

 

โดย: Andra 28 มีนาคม 2550 19:36:30 น.  

 

อ่านแล้วซึ้งจังค่ะพี่กี้
มิตรภาพดีดีเกิดขึ้นได้เสมอเนอะ
คุณครูหน้าใสมั่ก ๆ ค่ะ สงสัยอิ่มบุญ อิอิ

อึ้งกับป้ายคัทเอาต์จริง ๆ ค่ะ
รูปตัวแทนมธบ.อะค่ะ โอ้ววว เลิศ ยังกับใช้คอมทำ

อยากทำกิจกรรมอย่างนี้บ้างจัง ไม่นานแล้วค่ะ เฟรชชี่ เอิ๊กกก

 

โดย: NuenG (blue_diamond ) 28 มีนาคม 2550 22:37:37 น.  

 

ปล.พี่กี้คะ หนูรู้สึกผิดอย่างรุนแรงที่แท็กคนน่ารักให้อะค่ะ
ข้าน้อยผิดไปแล้วก๊า *-* -/\\-
เอาเป็นว่า กระซิบมา หนูจะช่วยสุดฤทธิ์ค่ะ ^^

 

โดย: NuenG (blue_diamond ) 28 มีนาคม 2550 22:40:34 น.  

 

กิจกรรมเพื่อสังคมดีจังเลยพี่กี้อยากมีโอกาสไปบ้างจังทำดีๆเราจะได้รู้สึกดีเนอะๆเสียดายอดเจอพี่กี้ในงานหนังสือเยยเศร้า

 

โดย: ปะการัง IP: 202.57.150.209 29 มีนาคม 2550 12:21:06 น.  

 

ดีค่ะ .. ครูพี่กี้
" นุ่น " เองค่ะ วันนี้แวะมาทักทาย ..
เขินจัง .. จะบอกว่า ลองมั่วทำบล็อคที่นี่อ่ะคะ

เลยมาทดลองกับบล็อคครูพี่กี้ซะเลย 555

 

โดย: http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=bewitched (bewitched ) 29 มีนาคม 2550 14:24:20 น.  

 

คิดถึงจังเลยค่ะ คุณแม่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ งานหนังสือเลี้ยงติม ลูกด้วยนะค่ะ

 

โดย: กุ๊กไก่ (kaijunk ) 29 มีนาคม 2550 20:05:09 น.  

 

สวัสดีน้องๆ ทุกคนจ้า

ขอโทษทีที่เปิดบล็อกนี้ไว้แล้วก็ไม่ได้มาตอบเมื่อวาน แบบว่ากว่าจะถึงบ้าน กว่าจะทานข้าวก็ดึกมากแล้วอะครับ เหนื่อยด้วย ง่วงด้วย เลยเบี้ยวซะงั้น อิอิ


สายลมโชยอ้น
พวกที่ทำป้ายกันนั่นส่วนใหญ่ก็ไม่เคยทำกันทั้งนั้นเลยฮับ อาศัยใช้ใจวาด อิอิ บรรยากาศบนดอยนี่เย็นใจจริงๆ เนาะ ขนาดแดดเปรี้ยงๆ แต่ไม่รู้สึกว่าร้อนเหมือนในกรุงเทพเลยอ้ะ อยากไปอยู่แถวนั้นจัง


momo-kiss
ขอบคุณและอนุโมทนาล่วงหน้าเลยจ้าหนูนุ่น โครงการต่อไปจะจัดประมาณเดือนพฤษภาคมครับ เอาไว้ใกล้ๆ ก่อนนะ พี่กี้จะมาแปะประกาศเชิญชวนสำหรับน้องที่จะร่วมทำบุญ ดีจังๆ


kannasan
น้องแมวเหมียวของพี่กี้เจออีตาคานยาสอีกแล้ว สงกะสัยจะไม่ชอบตีกับพวกอาเจนไตน์ ประมาณว่าแพ้ทางอะครับ แต่คราวนี้ก็สูสีมาก เดี๋ยวคราวหน้าคงแก้ทางได้เหมือนที่เล่นกับนาดาลอะครับ แปลกที่คราวนี้พี่กี้ไม่เศร้าเลยแฮะ เริ่มรู้สึกว่าท่านเทพก็เป็นคนเหมือนกัน แพ้เป็นเหมือนกันนิ อิอิ แต่สำหรับคานยาส ฮึ่ม แกทำน้องเหมียวชั้นเสียประวัติ โป้งงงงงงงง


p_jung
ฮ่าๆๆ พี่กี้นึกภาพป่าแตกแล้วต้องพยักหน้าหงึกๆๆ อึม ใช่เลยหนูปุ๊กปิ๊ก ป่าแตกแน่ๆ กร๊ากกก ส่วนคนหล่อๆ เนี่ยมีเหมือนกันครับ แต่เป็น้อง ม.อื่น พี่กี้เลยไม่ค่อยกล้าเอารูปเค้ามาลง อิอิ เก็บไว้ดูเอง ซะง้านนนน


อุรัสยา
พี่กี้ชอบกิจกรรมแบบนี้เพราะทำแล้วเรามีโอกาสเป็นผู้ให้ แต่ขณะเดียวกันก็เป็นผู้รับด้วย อย่างน้อยก็ทำให้สุขใจอะครับ ได้ให้และรับความสุขนี่ ดีที่สุดเลยเนาะ


wanwitcha
ฮา คิดเหมือนพี่เลยหนูวรรณ อยากลาออกจากงานอย่างแรง ยิ่งไปเจอบรรยากาศบนยอดดอยแล้วไม่อยากอยู่ในเมืองเลยอ้ะ แต่สำหรับงานอาสานี่ไม่ต้องออกจากงานก็ทำได้ครับ เลือกไปแบบ 3-4 วัน ไม่ต้องลางานมาก เดี๋ยวถึงโครงการหน้าพี่จะเอามาป่าวประกาศก่อนไปนะครับ


lily (lovekalo)
เป็นเพราะช่าวค่ายส่วนใหญ่โบกมือลาการเขียนป้าย เลยทำให้พี่กี้กับลูกศิษย์บรรเลงกันสนุกสนานมาก อิอิ


kikkak_riwkiw
ไปคราวนี้พี่ไม่ค่อยรู้สึกว่าเหนื่อยอะครับ ทำงานตามกำลังที่มีก็เลยไม่หักโหม เป็นนโยบายการทำงานที่ดีมากเลย งานนี้เลยรู้สึกสนุกแต่ไม่เหนื่อย เอาไว้คราวหน้าจะไปล่ะก้ พี่กี้จะมาบอกน้องๆ ทุกคนในนี้เลยน้า ใครอยากช่วยเรื่องไหนก็สามารถช่วยได้เลยจ้า


นรานินี
ฮ่าๆๆ นั่นสิครับ ถ้าเป็นไฟใต้นี่คงยากน่าดู ถ้าที่มหาวิทยาลัยมีโครงการแบบนี้ น้องฮุ้งมีโอกาสเข้าร่วมเลยครับ ได้บุญด้วย สนุกด้วย ได้ทำประโยชน์ให้คนอื่นแล้วเราจะสุขใจครับ


อังค์วรา
ใช่แล้วจ้ะน้องอิง แม้ว่าจะยังไม่ได้ลงมือ แค่เรามีใจคิดจะช่วยคิดอยากจะทำก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีแล้ว ตอนนี้หนูยังมีภาระเรื่องการเตรียมสอบอยู่ ไม่ได้ไปแบบนี้ถือว่าไม่ได้แย่อะไร เอาไว้เรามีความพร้อมแล้วค่อยทำก้ไม่สายฮับ ยังมีเวลาอีกเยอะ ดูพี่กี้สิ แก่ป่านนี้แล้วยังออกไปได้เลย อิอิ


oa
พี่กี้อนุโมทนาและขอบคุณล่วงหนาเลยจ้าน้องโอ๋ ค่ายต่อไปที่จะจัดเดือนพฤษภาคมนี้ยังต้องการความช่วยเหลืออีกหลายอย่าง โดยเฉพาะปูนซิเมนต์ที่ต้องใช้ในการทำฝาย พี่กี้ก็ว่าจะช่วยทีมงานเค้าหาสปอนเซอร์เรื่องนี้อยู่เหมือนกัน นอกจากนี้เรื่องอาหารและอุปกรณ์ต่างๆ ก็ยังขาดอยู่ครับ เอาไว้พี่เช็คข้อมูลแล้วจะเปิดรับบริจาคเป็นเรื่องเป็นราวเลยดีกว่าเนาะ ดีจังๆ จะได้ทำบุญร่วมกัน

ส่วนไอเดียนิยายที่น้องโอ๋เขียนมานั้น พี่กี้มีพล็อตเรียบร้อยก่อนไปทริปนี้แล้วครับ การไปครั้งนี้เลยเป็นผลพลอยได้ คือได้ฉากบางฉากกลับมาด้วย เป็นความบังเอิญที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ สงสัยผลบุญหนุนนำ แฮ่ม!


อาคุงกล่อง
ใช่เลยครับอาคุงกล่อง ทั้งสุขและสนุก เอาไว้ไปคราวหน้าจะชวนทำบุญร่วมกันนะครับ


Andra
ฮ่าๆๆ เด็กๆ หลายคนที่ไม่ถนัดวาดรูปก็ใช้วิธีเขียนให้ตัวอักษรโตๆ ครับ จะได้วาดรูปน้อยๆ บางคนก็ไม่วาดรูปเองแต่แบ่งหน้าที่ให้เพื่อนวาด สรุปแล้วยังไงๆ ก็สามารถออกมาเป็นชิ้นงานได้ครับ ช่วยๆ กัน สนุกดี


NuenG (blue_diamond)
ป้ายที่หนูต่ายถืออยู่นั้น เด็กๆ ตั้งใจทำกันมาก พอดีเป็นชิ้นงานของผู้หญิงเลยออกมาเรียบร้อยหน่อย ลองดูความภูมิใจของ หยีกับบังสิครับ เอิ๊กๆๆ เป็นผลงานอันลือลั่น มันช่างกล้าวาดออกมาได้ แต่สุดท้ายก็สวยแบบแปลกๆ

เรื่อง tag หนูหนึ่งอย่ารู้สึกผิดสิครับ ถึงจะยากแต่คุณครูทำได้จริงๆ น้า ขอเวลาศึกษานิดนึงตามประสาคนไม่เก่งคอมพิวเตอร์ เดี๋ยวจะหลังไมค์ไปขอความรู้นะฮ้าบ


ปะการัง
พี่กี้ไม่ได้ออกหนังสือในงานมา 3 ครั้งติดกันแล้วอ้ะ เริ่มจะชิน อิอิ ไม่เจอกันงานนี้เราก็ค่อยนัดกันงานต่อไปฮับ กลางปีมีงานหนังสือเด็ก เดี๋ยวก้เจอกันได้ ฮี่ๆๆ


bewitched
โอ้...หนูนุ่น มีบล็อกที่นี่แล้ว ดีจังๆ จะได้เข้าไปทักทายพูดคุยกัน แล้วพี่กี้จะเข้าไปเยี่ยมที่บล็อกน้า


กุ๊กไก่ (kaijunk)
สงกะสัยจะไม่ได้เจอกันอะสิครับคุณลูกครับ คุณแม่จะไปวันธรรมดาแบบแน่ๆ แต่วันหยุดนี่อาจจะไปวันไหนยังไม่แน่ใจเลยอ้ะ แง้วววววว

 

โดย: วลีวิไล 30 มีนาคม 2550 0:14:55 น.  

 

ดีค่า .. ครูพี่กี้
วันนี้ตะลุยทำบล็อค .. งง อย่างแรง
มั่ว ๆ กันไป มันคงไม่ออกมา .. นักหรอกนะ

สำหรับทริปหน้า .. มีอารายบอกได้เลยฮับ
เด๋วจะไปรีดไถ พี่ ๆ น้อง ๆ แฟนหนังสือที่ออฟฟิศ
555

 

โดย: นุ่น (bewitched ) 30 มีนาคม 2550 14:09:39 น.  

 

พี่กี้ขรา


สุดยอดเลย!!!!

เส้นทางไปสุดทรหด แต่กำลังใจเกินร้อย


ตอนออกค่าย ตองก้อรู้สึกดีๆอย่างนี้เหมือนกัน ได้ทำงานร่วมกับชาวบ้าน พัฒนาชุมชน อย่างน้อยๆ ก็มีได้ทำประโยชน์ให้สังคมบ้าง



และอยากบอกว่าชอบคำพูดคำนี้ของพี่กี้มากมายค่ะ

ยังอยากจะให้เด็กๆ ทุกคนได้สร้างแนวกันไฟในหัวใจตัวเองด้วย ทุกครั้งที่คุณคิดจะทำอะไรที่ไม่ดี ทุกครั้งที่มีสิ่งยั่วยวนไปในทางผิดบาป ขอให้นึกถึงความดีที่เราเคยทำ ขอให้ความดีจงเป็นแนวกันความชั่วไม่ให้เข้ามาอยู่ในใจเรา

นู๋จะสร้างแนวกันไฟในหัวใจล่ะนะ ฮี่ๆ

 

โดย: ตอง (Kazalong ) 30 มีนาคม 2550 18:34:34 น.  

 

งืม ๆ .. ว่าแต่ครูพี่กี้จะไปงานหนังสือป่าว
แล้วไปวันไหนอ่ะคะ
ครูพี่กี้บอกว่าจะไปนี่ ห้ามเบี้ยว

 

โดย: นุ่น (bewitched ) 31 มีนาคม 2550 8:03:54 น.  

 

พี่กี้จ๋า น่าไปมากเลยนะคะ หากมีโอกาสหนูคงได้ไปออกค่ายกับเขามั่งน๊อะ ก่อนจบคะ

 

โดย: ชาจัง (สุรัสวดี) IP: 202.44.70.52 31 มีนาคม 2550 14:08:41 น.  

 

นุ่น (bewitched)
ขอบคุณมากๆ ครับ
เดี๋ยวใกล้วันที่จะเดินทางพี่กี้จะแจ้งให้ทราบนะฮับ
ส่วนงานสัปดาห์หนังสือ พี่จะไปวันที่ 4 เมษาครับ
ไม่ได้ไปแจกลายเซ็นที่บูธ แต่ไปซื้อหนังสือ+ฟังสัมมนาจ้า


ตอง (Kazalong)
ใช่เลยฮับน้องตอง รู้สึกดีมากๆๆๆ จริงๆ
เรามาสร้างแนวกันไฟในหัวใจด้วยกันเนอะ


ชาจัง (สุรัสวดี)
ถ้ามีโอกาสรีบไปเลยครับ พี่กี้สนับสนุนเต็มที่
การให้ คือการแสดงความรักที่ยิ่งใหญ่ จริงๆ

 

โดย: วลีวิไล(บ่ได้ล็อกอินเน้อ) IP: 124.121.83.142 31 มีนาคม 2550 20:03:31 น.  

 

เชื่อไหมเข้ามาที่บ๊อกคุณครูมา 7 รอบ
แต่ไม่ว่างเม้นท์บอกสักที
ตั้งแต่คุณครูอัพบ๊อกใหม่ๆ แหละ
เห็นแล้วชื่นชมในการทำความดีจังเลย
นี่สิลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดง
สุดยอด

 

โดย: อุ้มสี 1 เมษายน 2550 16:26:19 น.  

 

อิอิ ดีจังเลยนะคะ ได้ทั้งอิ่มใจ ได้ทั้งออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่แข็ง ดูเป็นกิจกรรมที่น่าสนุกจังเลยนะคะ

เมื่อวันที่30ไปงานหนังสือมาคะ เอ๋อมากๆ เค้าให้เข้าตอน5โมงเย็น ดั๊นไปตั้งแต่บ่าย2ครึ่ง นั่งรอจนเกือบหลับแหนะคะ ได้เข้าจริงๆก็ตอน6โมงเย็นนู่นแหนะ แต่เข้าไปครึ่งชั้วโมงก็ออกมาแล้วคะ เพราะต้องรีบกลับมาจัดกระเป๋าเลยได้หนังสือมาไว้อ่านเล่นแค่6เล่ม แต่แค่นี้ก็ทำให้กระเป๋าหนักขึ้นตั้งเยอะแหนะคะ แล้วพี่กี้ได้ไปรึยังคะ คนเยอะมากๆ โดยเฉพาะ แจ่มใส มองไม่เห็นหนังสือที่เค้าวางเลยอ่ะค่ะ เห็นแต่คนเต็มไปหมด

 

โดย: houngho 1 เมษายน 2550 18:40:57 น.  

 

พี่กี้หน้าตาเหมือนเด็กมหาวิทยาลัยเลยค่ะ ถ้าไม่บอกว่าเป็นอาจารย์ไม่ทราบเลยนะคะ

เห็นแล้วนึกถึงอดีตตอนสมัยออกค่ายจัง

 

โดย: เด็กทะเล (ลิปิการ์ ) 1 เมษายน 2550 18:57:40 น.  

 

น่าสนุกจังครับครู
ครั้งหน้าถ้าไป ขอสมัครไปด้วยนะครับ ถ้าไปได้
เอาลูกไปด้วยได้ไหม เด็กๆ จะได้รักป่า
อนุโมทนา สาธุ ในการทำความดีครั้งนี้ด้วยครับ

 

โดย: คนขับช้า 1 เมษายน 2550 23:06:00 น.  

 

อุ้มสี
ขอบคุณมากคร้าบ เอาไว้ถ้ามีโอกาสไปอีก จะแวะไปบอกบุญนะครับ
จะได้ทำดีร่วมกัน


houngho
ได้หนังสือไป 6 เล่มก็คงได้อ่านแก้เซ็งช่วงแรกๆ เนาะ
พี่กี้จะไปวันที่ 4 ครับ น้องฮวง
ไปวันธรรมดา หวังว่าคนคงไม่มากเท่าวันหยุด เดินทางปลอดภัยนะคร้าบ


เด็กทะเล (ลิปิการ์)
เหมือนกันเลยหนูอ้อม ไปคราวนี้ทำให้พี่นึกถึงสมัยเรียน
แบบว่าตอนนั้นบ้าได้ใจอย่างมาก
ยังแอบคิดเลยว่า เด็กรุ่นใหม่นี้เค้าไม่ค่อยจะอึดกันเลย เหอๆๆ


คนขับช้า
ด้วยความยินดีเลยครับคุณคนขับช้า
เอาไว้ทริปหน้ากำหนดวันเมื่อไหร่จะแจ้งให้ทราบนะครับ
ส่วนลูกสาวคิดว่าไม่น่ามีปัญหานะครับ
น้องไม้วัย 7 ขวบ ลูกชายพี่เอ๊ดที่อยู่ในภาพข้างบน
คุณพ่อเค้าก็พาไปด้วยเพราะอยากปลูกฝังลูกให้รักป่าครับ
เพียงแต่ว่าเลือกทริปที่น้องไม่ต้องเดินทางหนักมากก็น่าจะโอเค

 

โดย: วลีวิไล 2 เมษายน 2550 0:00:49 น.  

 

อิอิ มาอ่านช้าไปหน่อยแต่น่าดีใจที่มีโอกาสไปทำค่ะพี่

 

โดย: NtG IP: 58.8.162.164 8 มิถุนายน 2550 18:46:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.