Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2557
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
5 พฤศจิกายน 2557
 
All Blogs
 
Nainital ณ กาลครั้งหนึ่ง (1)




บันทึกการเดินทางในอินเดีย ครั้งที่ 2 : ตุลาคม 2014

(ได้ทำการเรียบเรียงเนื้อหาใหม่อีกครั้งในปี 2017)




'ไนนิตาล' ชื่อเพราะดีจัง

ฟังแล้วน่าตลกนะ ...จากแรกเริ่มที่บังเอิญเหลือบไปเห็นรายชื่อของเมืองต่าง ๆ 
ที่ส่งผ่านมาทางอีเมล์ หลังจากที่เคยได้ติดต่อพูดคุยถึงเมืองโน้นนี้ในอินเดีย 
กับเจ้าหน้าที่ประสานงานของโครงการหนึ่ง 




ก็ไม่รู้ว่าทำไมกัน ถึงไปสะดุดกับชื่อที่ว่านี้เข้าได้ ?
จากนั้นฉันถึงกับรีบพิมพ์หาชื่อเมืองที่ว่าทันที และภาพแรกที่ได้เห็น
มันคือเมืองเล็ก ๆ บนพื้นที่สูง
ที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่บนภูเขา ส่วนตรงใจกลาง
เป็นทะเลสาบ
และมีภาพของเรือใบกำลังลอยอยู่กลางน้ำ 

ไม่ว่าภาพนั้น
จะถูกตกแต่งผ่านโปรแกรมหรือ เป็นการถ่ายตามจริงก็ตามแต่ 
มันดูสงบและเรียบร้อยมากจนไม่น่าเชื่อว่าจะมีเมืองหน้าตาแบบนี้ในอินเดียด้วย 
แน่นอนเลยว่า มันทำให้ฉันอยากไปเยือนที่นั่นเสียจริง

แผนการคิดหวนกลับไปเยือนประเทศที่ขึ้นชื่อลือชาว่า
หากไม่รักหมดใจ ก็คงเกลียดเข้าไส้  
จึงเริ่มต้นขึ้นเอาดื้อ ๆ แบบนี้อีกครั้ง อย่างหน้ามืดตามัว



ส่วนเรื่องการเดินทางไป ไนนิตาล ฉันได้เริ่มที่ เดลี เช่นเคย
จากสถานีขนส่ง I.S.B.T. Anand Vihar 
ที่ซึ่งไกลโพ้นโลกจนเกือบสุดสายเมโทร
เส้นสีฟ้า 
และที่สำคัญระหว่างที่มองเส้นทางเดินรถผ่านสายตาฉันเห็นชื่อป้าย
สถานีหนึ่ง
ที่ชื่อว่า Yamuna Bank ...ถึงปลายทางที่จะไปไม่ใช่สถานีนี้
แต่มันตั้งพาดผ่านสายน้ำที่สำคัญแห่งหนึ่งของอินเดียก็คือแม่น้ำยมุนาที่คุ้นชื่อ

และนั่นก็ทำให้ฉันต้องคอยจดจ่อกับการมองหาสายน้ำที่ว่านี้ไม่ให้คลาดสายตา
เมื่อรถไฟฟ้าได้เคลื่อนตัวมาจนถึง Yamuna Bank ฉันได้เห็นแม่น้ำยมุนาเข้าจริง ๆ 
แต่กลับเป็นความรู้สึกที่ โอ ...เห็นแล้วแทบอยากจะร้องไห้



ที่มาของภาพ https://indianexpress.com 

เราไม่ได้ถ่ายรูปภาพของแม่น้ำยมุนาเอาไว้ระหว่างอยู่บนรถไฟฟ้า หลังจากที่ลองค้นหาภาพ
จากอินเตอร์เน็ตก็พบรูปแม่น้ำยมุนา (ที่เดลี) ในพิกัดใกล้เคียงและมีสภาพตามที่เห็นแบบนี้




แม่น้ำที่ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งในลำน้ำอันศักดิ์สิทธิ์ ทำไมกลับมีสภาพที่ดูแย่แบบนี้ล่ะ ?
สิ่งที่อยู่รายรอบขอบฝั่ง มันดูรกร้างไร้ชีวิตชีวาและสุมเต็มไปด้วยพงหญ้า มีขยะ
มูลฝอยลอยเกลื่อนอยู่เต็มไปหมด 
และที่แย่ไปกว่านั้นคือกลุ่มก้อนฟองประหลาด
อันหนาเตอะ
ก็น่าจะมาจากน้ำทิ้งของโรงงานอุตสาหกรรมกำลังลอยปกคลุม
ไปทั่วผิวน้ำ 

ฉันจ้องมองอย่างไม่วางตาจนกระทั่งหมดเวลาจอด รถไฟฟ้าเริ่มออกตัวไปยังสถานีข้างหน้าต่อ 
ภาพของแม่น้ำยมุนาก็ได้เคลื่อนหนีจนลับหายไป 




สถานีขนส่ง Anand Vihar ตั้งอยู่ไม่ไกลไปจากเมโทร มันมีสภาพไม่ค่อยดีนัก 
หากจะเทียบกับ I.S.B.T. Maharana Pratap หรือที่เรียกกันว่า Kashmiri Gate 
เนื่องด้วยไม่มีอาคารพักผู้โดยสารที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำแต่กลับเป็นแค่เพิงหลังคาคลุม
และลานจอดรถก็เป็นผืนดินธรรมดา ๆ เวลาที่รถวิ่งผ่านก็จะฟุ้งตลบไปด้วยฝุ่น
ฉันเดินข้ามลานจอดรถไปเรื่อย
ไม่นึกว่าท่ารถแห่งนี้มันจะกันดารเกินคาด
และที่สำคัญไม่มีจุดประชาสัมพันธ์เสียด้วยสิ 
คำชี้บอกของคนแถวนั้นคือตัวเลือกเดียวที่มี
เอาน่า...ป้ายจอดรถก็มีเรียงอยู่ไม่กี่ร้อยป้าย เดี๋ยวก็คลำถูกจนได้แหละ



หมายเลขของท่ารถโดยสารที่จะไปไนนิตาล คือ 160 
ส่วนเรื่องของตั๋วโดยสารที่ต้องจองไว้ล่วงหน้าก็อยู่ตรงซุ้มแถวนั้น

คุณลุงคนออกตั๋วกดหาเที่ยวรถทางออนไลน์อย่างไม่ค่อยคล่องแคล่วนัก
เขาบอกรอบเที่ยวรถสำหรับคืนนี้ให้รู้ว่าจะมีแค่รอบสี่ทุ่มและยังมีที่นั่งเหลืออยู่
ดูเหมือนว่าภาษาอังกฤษของลุงออกแนวตะกุกตะกักนิดหน่อย
หลังจากที่ตั๋วจองรถฉบับ A4 ถูกพิมพ์ออกมา แทนที่ลุงจะส่งยื่นมาให้เมื่อจ่ายเงิน
แกก็ยังมีใจบริการอย่างดีเยี่ยม  เขากลับเรียกให้ฉันเข้ามายังซุ้มด้านใน

ฉันเหลือบไปเห็นโพยกระดาษเล็ก ๆ ที่แปะอยู่ตรงข้างคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ
มันมีประโยคภาษาอังกฤษและฮินดีเขียนไว้ 
ลุงพูดช้า ๆ ตามโพยแต่พอเข้าใจ
ได้ไม่ยาก บอกเวลาโดยชี้ไปยังนาฬิกาว่าให้มารอที่ลาน 160 นี้ 
ตอน 21.45 น.
และเขียนสำทับลงบนกระดาษด้วยคำที่พอรู้ 

ถึงในบางพื้นที่นอกเขตเมืองอาจไม่พบคนพูดอังกฤษได้คล่องปร๋ออย่างที่คาดไว้
แต่ฉันกลับชอบความใส่ใจของลุงพนักงานธรรมดา ๆ คนนี้มากเลยนะ 


เมื่อหมดภาระกิจแรกไปแล้ว การหาที่พักผ่อนหลบร้อนระหว่างนั้นจะว่าไปมันก็คง
ไม่ใช่เรื่องยาก ฉันไม่คิดจะไปเดินเที่ยวเดลีย่านตัวเมืองอีก และไอ้การที่จะมานั่ง
รออยู่ในสถานีรถโดยสารแบบนี้คงเป็นอะไรที่ไม่เข้าท่า มีหวัง
หัวของฉันคงแดง
เป็นสีเดียวกับถนนดินลูกรังแน่ ...

จำได้ว่าก่อนที่จะมาถึง Anand Vihar
มีห้างใหญ่ตั้งอยู่ไม่ไกลถัดจากนี้ไปก็แค่สองสถานีเอง

ว่าแล้วก็ไปหาที่นั่งตากแอร์เย็น ๆ ดีกว่า!  
ฉันแบกเป้เดินฝ่าดงฝุ่นที่มันเริ่มดูไม่
ต่างไปจากดงระเบิดควันจากรถคันแล้วคันเล่าที่วิ่งเข้ามาจอดไม่ก็แล่นสวนกัน
พร้อม ๆ กับเสียงตะโกนเรียกคนขึ้นรถที่คุ้นหู


มัสซูรี่ มัสซูรี่ มัสซูรี่

เดห์ราดูน เดห์ราดู้น เดห์ราดู๊นนนน

จ๊อดปูร์ จ็อดปรู์ จ๊อดปูร์

มันเป็นการแหกปากบอกชื่อเมืองอย่างระรัวที่กระเป๋ารถฯ ในมาตรฐานเดียวกัน
พวกเขาจะไล่เรียกชื่อเมืองไปเรื่อยจนหมดแรง และลากเสียงยาวในพยางค์สุดท้ายจนหมดลม

ถึงจะฟังดูแล้วน่าขำขันก็เถอะ แต่เมื่อถึงเวลาของฉันเมื่อไหร่ 
ก็หวังว่าเสียงตะโกนเรียกบอก "ไนนิตาล ไนนิตาล ไนนิต๊าลลลล" แบบนี้
จะช่วยให้ฉันได้ไหวตัวทันและไม่พลาดเที่ยวรถได้สิน่า






.......


ห้างอินเดีย จะเรียกว่าคิดถูกหรือผิดคาดดีที่แวะมาเนี่ย ?
หลังจากที่ต้องวางกระเป๋าผ่านเครื่องตรวจระเบิดและสำรวจค้นตามตัวแล้ว
กระเป๋าอันหนักอึ้ง 2 ใบที่ห้อยหน้าสะพายหลังก็ไม่ได้ถูกนำไปฝากเก็บที่ไหนได้ 
สภาพของฉันดูไม่ต่างไปจากตัว Opossum นัก

ในห้างสรรพสินค้าที่ว่า มันมีแอร์เย็นก็จริงแต่ไม่ยักกะมีมุมที่นั่งเยอะแบบบ้านเรา
ลานม้านั่งไม่น่าจะมีเกินสี่ห้าตัวก็ถูกจองเกลี้ยงจนหมด  นโยบายห้างอินเดียคงไม่
ต้องการให้คนมาตากแอร์เล่นโดยไม่คิดซื้อของสินะ

ถ้าไม่นับพวกร้านกาแฟ ไอศกรีม หรือ ฟาสต์ฟู้ด แบรนด์ดัง ๆ 
ที่นั่งพักบริเวณอื่น ๆ ที่ทางห้างมีไว้รองรับก็แทบหาไม่ได้



ปรี๊ดดดดด ...!

เสียงจากนกหวีดที่ยามเป่าไล่กลุ่มคนที่ไปนั่งกันตามริมขอบลานน้ำพุในห้างลั่นขึ้น 
(หนึ่งในนั้นก็มีฉันอยู่ด้วย) ทุก ๆ คนต่างลุกหนีไปว่องไวเหมือนกับนัดกันไว้

โวะ ...
ทำไมไม่ทำที่นั่งให้มันเยอะขึ้นเนี่ย ?  ฉันคิด
และเข้าใจว่ากลุ่มคนพวกนี้ก็คิดเช่นเดียวกัน

หลังจากที่ยามหันกลับไปตรวจตรายังบริเวณพื้นที่อื่น ก็ไม่น่าแปลกใจเลย
ที่พวกเขา
จะพร้อมใจพากันกลับมานั่งกันใหม่ต่อ แล้วเหตุการณ์นี้ก็วนไป
วนมาเป็นลูปเดิมเช่นนี้ทั้งวัน

เล่นอะไรกันนน !!!???



ฉันหาพื้นที่พักนั่งจากศูนย์อาหารด้านบนจนได้ ถึงมันจะไม่ได้เขียนบอกถึงกำหนด
เวลาที่ควรนั่งไว้ชัดเจน 
ข้อจำกัดของการใช้พื้นที่ยังคงมีอยู่ เช่น ห้ามถ่ายรูป ห้ามนั่งเล่น
โทรศัพท์  หรือวางแล็ปท็อป เพื่อพูดคุย
โดยที่ไม่ได้มีอาหารวางอยู่ หรือหากกิน
จนหมดแล้วก็อย่า
มานั่งแช่ ฯลฯ

การกิน Thali ในบ่ายของวันนั้นจึงเป็นอารมณ์ ดม ผสมละเลียดกินอย่างช้าที่สุด 
ก็แหม ...พี่ยาม เขาขยันเดินวนมาดูพฤติกรรมของคนที่มาใช้พื้นที่นี้อยู่ตลอดนี่






นอกพื้นที่ห้างสรรพสินค้าและศูนย์การค้ายามค่ำคืน




กลับมาที่ท่ารถโดยสารเดิมกันอีกครั้ง 
บรรยากาศมันดูคึกคักกว่าตอนกลางวันเสียอีกนะ เวลาที่รถเข้ามาเทียบจุดจอด
ก็จะมีผู้คนรีบมายืนออเตรียมขึ้นรถเยอะไปหมด ก็แหงล่ะ รถบางคันไม่มีหมายเลขที่นั่งให้จอง
หากจะมัวโอ้เอ้ ชักช้า ก็คงเสียที่นั่งดี ๆ ไปแน่




บางคนที่ไม่ได้ซื้อตั๋วล่วงหน้าอย่างฉันก็ต้องมาต่อคิวซื้อกันหน้างาน
ดูเหมือนว่าคุณลุงที่ออกตั๋วให้ฉันในรอบบ่ายจะดูยุ่งมากในตอนนี้



รถโดยสารที่เห็นส่วนมากจะเป็นประเภท Ordinary ที่ไม่มีหมายเลขที่นั่งให้จอง และมีสภาพไม่ดีนัก
นี่ยังแอบคิดอยู่ว่ารถบัสไป ไนนิตาล จะมีสภาพแบบไหน ? แต่คงดูดีกว่านี้แน่เพราะเป็นประเภท AC 




คงเพราะที่นี่เป็นสถานีขนส่งท้องถิ่น เลยทำให้ฉันเริ่มมีปัญหากับป้ายชื่อเมืองทั้งหลาย
ที่
มีแค่ภาษาฮินดีเท่านั้น ฉันจำมันได้เพียงแค่ไม่กี่ตัวและยังอ่านไม่ออก เมื่อใกล้เวลา
กับช่วงที่รถจะมาจอดก็ต้องเริ่มเดินถามคนที่มายืนรอรถอยู่ตรงหมายเลข 160 เช่นเดียวกัน



"ไนนิตาล นะ?"

พี่อินเดียที่มารอรถที่ป้ายนี้ ก้มดูตั๋วของฉันและถามย้ำด้วยคำที่คุ้นหูอย่าง 'นะ' ซะด้วย

จำได้ว่า มันเป็นการลงท้ายคำเพื่อยืนยันคำตอบของคนอินเดีย ...
ฉันเคยได้ยินมาก่อนจากเพื่อนชาวนากาแลนด์ที่เคยมาทำงานในเมืองไทย
เขามักพูดคำว่า 'นะ' ซะบ่อย เช่น "โอเค นะ ?"  บ่อยมาก
จนฉันแอบคิดไปเองว่าแอบติดคำพูดมาจากคนไทยรึปล่าวฟระ

ฉันพยักหน้ารับบอกว่าจะไปลงที่ไนนิตาล

"เดี๋ยวรถจะมาจอดที่ป้ายนี้ ผมลงที่เมืองอื่นแต่ก็ไปคันเดียวกันนี่แหละ"

เอาเป็นว่า ถ้าเห็นแกเดินขึ้นรถคันไหนก็ให้ตามไปได้เลย 






ไอความเย็นจากภายนอกที่กำลังส่งลอดมาทางหน้าต่างที่ปิดไม่มิดจากที่นั่งด้านหน้า
และภาพของป่าสนริมทางที่หนาทึบ มันช่างต่างกับบรรยากาศในเดลีเมื่อวานนี้มากมาย



รถจะจอดแวะพักตอนช่วงเจ็ดโมงเช้าให้ได้ลงไปเข้าห้องน้ำ หรือดื่มชา ที่ร้านค้าริมทาง



ฉันตื่นขึ้นมาในยามเช้าเพราะการจังหวะการชะลอรถก่อนทำการเลี้ยวหลายโค้ง
เรากำลังไต่ขึ้นระดับความสูงด้วยเส้นทางถนนที่ตัดแปลก ๆ ที่มันหยักไปหยักมา
และอาการหูดับ ที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ ...
ซึ่งเมืองที่จะไปถึงนั้นมีความสูง 2,084 เมตรจากระดับน้ำทะเล

เมื่อคืนนี้มีผู้โดยสารอยู่เต็มคันรถแต่บางส่วนก็ได้ทยอยลงไปกันบ้างแล้ว
รวมไปถึงคนที่นั่งเบาะริมหน้าต่างข้างฉันก็ด้วย เลยได้โอกาสย้ายที่นั่งไปมอง
ทางขึ้นภูเขายามแรกเช้านี้ผ่านข้างกระจกได้แบบเต็มตาซะที 
ทำให้เพิ่งรู้ว่าเมืองบนภูเขาฝั่ง รัฐอุตตราขัณฑ์ ดูเขียวชอุ่มมากเลย 

รัฐอุตตราขัณฑ์ มีการแบ่งพื้นที่ออกเป็นสองภูมิภาค
Kumaon และ Garhwal โดยจัดแบ่งไปตามวัฒนธรรมและภาษา 
ซึ่งไนนิตาลตั้งอยู่ในภูมิภาค Kumaon 

ตามประวัติศาสตร์ที่นี่เคยเป็นเมืองหลวงภาคฤดูร้อนของ 'United Provinces'
(ปัจจุบันคือ รัฐอุตตรประเทศ) ที่แบ่งตามเขตการปกครองเดิมในยุค British Raj 
นั่นก็แปลว่าจะต้องมีสิ่งก่อสร้างในยุคอาณานิคมหลงเหลือให้เห็นอยู่ไม่มากก็น้อย








รูปปั้นของ มหาตมะ คานธี บริเวณฝั่งตรงข้ามกับท่าจอดรถ




ท่ารถโดยสารสาธารณะ บริเวณ Tallital





ที่ปลายทาง จุดจอดรถตั้งอยู่ที่บริเวณ Tallital ก่อนที่จะต้องเดินขึ้นไปต่อยังถนน
Mall Road หากไม่นับรถส่วนบุคคล มอเตอร์ไซด์ ก็จะมีเพียงแค่รถรับจ้างอย่าง
สามล้อถีบและ 
Taxi วิ่งผ่านเท่านั้น 

สิ่งแรกที่ฉันได้เห็นก็คือรูปปั้นของ มหาตมะ คานธี ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับขนส่งฯ
ตรงฉากด้านหลังเป็นรูปจำลองเรือใบ และที่อยู่ถัดไปก็เป็นทะเลสาบ 'ไนนิ'
อันเป็นที่มาของชื่อเมืองนี้ แต่ก็ใช่ว่ามีทะเลสาบตรงนี้เพียงแค่แห่งเดียวเท่านั้นนะ
ยังมีทะเลสาบเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในละแวกใกล้เคียงถัดไปจากนี้อีก 
ดังนั้นที่นี่จึงได้ชื่อ
ว่าเป็น
Lake District of India



ฉันแบกกระเป๋าลงมาจากรถเตรียมพร้อมตั้งหลักอีกครั้งในดินแดนใหม่ที่ไม่เคยอยู่
ในความคิดมาก่อน 
น่าแปลกดีนะ ไม่เห็นมีใครมารุมล้อมแบบที่อื่น ๆ เลย มันรู้สึก
ปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูก

ฉันหันไปหามองจุดจองตั๋วรถโดยสารและคิดว่าเดี๋ยวจะย้อนกลับมาอีกครั้ง
เพราะยังพอมีเวลาให้คิดเยอะอยู่ว่าจะไปไหนต่อหลังจากนี้  
ว่าแล้วก็แบกเป้ขึ้น
หลังเดินเลียบริมทะเลสาบขึ้นไปยังที่หมาย ที่ตั้งอยู่ไกลจนสุดทางเดิน
ตั้งใจว่าจะไปพักยัง Youth Hostel อันแสนไกล หรือหากยังโชคดีก็อาจ
มีเกสท์เฮาส์ในตำแหน่งใกล้กว่าและมีราคาที่ดีให้พอเอื้อมไหวหลงเหลืออยู่บ้าง










เวลานี้ยังเช้ามากและอากาศก็เย็นสบายสุด ๆ มองไปทางไหนก็ดูร่มไปด้วยต้นไม้
และการจัดระเบียบพื้นที่ที่ดี  
ทะเลสาบในตอนเช้ามีไอหมอกลอยลงมาปกคลุม
ผิวน้ำ เหล่าฝูงเป็ดขาวต่างก็พากันเกาะกลุ่มว่ายน้ำกัน 
เรือพาย เรือรับจ้าง ที่ทาสี
ให้ชวนสะดุดหรือมีรูปทรงแปลก ๆ ยังคงจอดลอยนิ่งบนน้ำอยู่  โดยจุดให้บริการ
เรือเหล่านี้จะมีราคาที่ปรากฏบอกไว้ที่ซุ้มอย่างชัดเจน ...


อยู่ ๆ ก็นึกถึงเรือพายรับจ้างที่เมืองพาราณสีขึ้นมา!
ฉันเคยต่อราคาจาก 400 รูปี ต่อชั่วโมง จนไปแตะที่ราคาจริงคือ 100 รูปี 
อะไรที่มีราคากำหนดไว้ชัดเจนมันย่อมรู้สึกดีกว่า  ดูเหมือนตัวเองจะยังฝังใจ
เกี่ยวกับเรื่องแบบนี้อยู่ลึก ๆ ก็เพราะเราไม่ใช่คนที่ชอบมาเสียเวลากับ
การต่อรองราคาซื้อขายอะไรเก่งนัก ซึ่งพาราณสีได้ให้บทเรียนกับฉันเยอะเลย  

ระหว่างที่ต้องเดินทางไกลด้วยเท้าไปตามเส้นถนน Mall Road ในเช้านี้
ฉันก็มัวแต่เดิน ๆ หยุด ๆ เพื่อถ่ายภาพไนนิตาลยามแรกพบลงมือถือเป็นที่ระลึก 
และเมื่อเจอสัญญาณอินเตอร์เน็ต ในภายหลัง (หลังย้ายเมืองไปแล้ว)
รูปนั่นก็ถูกส่งไปอวดเพื่อนชาวพาราณสีอีตาอาชชูจอมโม้  หลังจากข้อความถูก
เปิดอ่าน 
ไม่เห็นเจ้าตัวจะชมว่าเมืองนี้สวยเลยอ่ะ  ได้แต่ถามคำเดิม ๆ เมื่อรู้ว่า
ฉันกำลังโต๋เต๋อยู่ที่ไหนสักแห่งในประเทศนี้ 

"แล้วจะกลับมาเที่ยวที่พาราณสีไหม ?"

ฮุฮุ ...










"อื่น ๆ" 


21 มีนาคม 2017 
ศาลสูงแห่งรัฐอุตตราขัณฑ์ ประกาศให้ แม่น้ำ คงคา และยมุนา 
มีสถานภาพเป็นบุคคลทางกฏหมายเพื่อมีนัยยะให้ได้รับการปกป้อง
จากการถูกทำลายสิ่งแวดล้อม

ซึ่งแนวความคิดนี้ถูกรับมาจากประเทศนิวซีแลนด์ที่ได้ออกกฏหมาย
คุ้มครองแม่น้ำ Whanganui 
ในบริบทเดียวกันเป็นที่แรกของโลก
(เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2017)



การเดินทางโดยรถไฟ ไม่มีรถไฟเชื่อมต่อมาที่เมืองนี้โดยตรง  
สถานีรถไฟจากเมืองใกล้เคียง  Kathgodam



ระยะทางไกล Delhi - Nainital : 352 กิโลเมตร
ค่าตั๋วรถโดยสารจากเดลี : 460 รูปี (อ้างอิงราคา : 2014)


สถานีขนส่งรถหลักที่วิ่งเชื่อมตรงกับไนนิตาล
เดห์ราดูน, เดลี, หริดวาร์


ท่าอากาศยานใกล้เคียง 
Pantnagar Airport
Jolly Grant Airport (Dehradun)   



### สุดท้ายแล้วเราก็ไม่ได้ไปใช้ชีวิตเป็นชาว wwoof ในอินเดียตามที่คิดวางแผนไว้
เพราะหาเวลาที่ลงตัวไม่ได้ จึงได้แค่กลับไปเที่ยวเท่านั้นค่ะ ###




Create Date : 05 พฤศจิกายน 2557
Last Update : 27 ธันวาคม 2560 10:39:50 น. 29 comments
Counter : 1737 Pageviews.

 
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog

จ้า ครั้งหน้าก็จะมาเที่ยวต่อ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 พฤศจิกายน 2557 เวลา:15:53:34 น.  

 
โหวต Travel Blog ให้เลยครับน้องฟ้า

แต่ละทริปของน้องฟ้า
เจาะลึกมากๆเลยครับ

หาประสบการณ์แบบนี้จากการเที่ยวจากทัวร์ไม่ได้แน่ๆครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 5 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:21:26 น.  

 
ตามมาเที่ยวค่ะ
Vote เต็มแล้ว
ไว้มาใหม่
อ่านใหม่


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2557 เวลา:22:17:19 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog

ถูกใจจริงๆ ชอบมากเลย เดี๋ยวจะโชว์รูปให้มิเชลดู เราสองคนชอบเดินทางแบบนี้มากเลยค่ะ แม่บุญจะแวะมาเก็บข้อมูลบ่อยๆ อย่าลืมไปเคาะประตูนะคะ เวลาเขียนบล็อคใหม่ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


โดย: Maeboon วันที่: 6 พฤศจิกายน 2557 เวลา:1:25:19 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2557 เวลา:7:12:46 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตนะครับน้องฟ้า

พี่ก๋าไม่ได้วาดพู่กันเดียวมานานมาก
โจทย์นี้เลยได้ฤกษ์กลับมาวาดอีกครั้งครับ



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:54:55 น.  

 
ว๊าว สวยค่ะ น่าไปเที่ยวมั่งจัง


โดย: นิชา (สมาชิกหมายเลข 799066 ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2557 เวลา:12:44:14 น.  

 
ชื่อที่นี่ฟังแล้วเพราะนะครับ นายนิทาน 555++ อ่านตามภาษาอังกฤษแบบงูๆปลาๆน่ะครับ ^^

เป็นพื่้นที่สูงมากๆนะครับ 2 พันกว่าเมตร ผมเคยอ่านมาว่าทุก 1 พันเมตรอากาศจะมีอุณหภูมิลดลง 5 องศา นี่ลดลงไปสิบองศาเลยสุดยอดครับผม

มองไปแล้วเขียวขจีดีจังเลยครับ คงเป็นที่ที่ท่านมหาตมะคานธีอยู่นะครับเลยมีรูปปั้นของท่านด้วย

........

ครับผม ศรัทธาและความเชื่อ ที่คนปัจจุบันเห็นว่าไม่ค่อยสำคัญ

อาจเป็นสิ่งที่คุ้มครองเราจากสิ่งที่สมควรกลัวก็ได้

ยิ่งกลัวในสิ่งที่ดีแล้วถือว่าเป็นกุศโลบายที่ดีเยี่ยมจริงๆเลยครับ

เช่นป่าไม้นี่สำคัญมากๆเลยครับ เราไม่กลัว เราตัดกันจนเหี้ยนไปเลย แหะๆ

โห ไปมาเป็นรอบสอง เร็วจริงๆนะครับเนี่ย สุดยอดครับผม ^^


โดย: วนารักษ์ วันที่: 6 พฤศจิกายน 2557 เวลา:18:09:24 น.  

 
thx u crab


โดย: Kavanich96 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:3:48:17 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับน้องฟ้า



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:6:11:12 น.  

 
ระยะทางสามร้อยกว่ากิโลเมตรใช้เวลาร่วมสิบชั่วโมงเลยนะครับ
ถึงจุดหมายแล้วก็หายเหนื่อย

ไปเมื่อไหรครับน้องฟ้า


โดย: สำรวจฟ้า IP: 58.137.161.226 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:11:25:35 น.  

 
๑สำรวจฟ้า : ต้นตุลา นี่แหละพี่โต้ง ทางขึ้นภูเขามันเป็นเส้นทางคดไปมา เลยวิ่งรถนาน

เขาว่าอากาศยังไม่หนาวโหดเท่าไหร่
เห็นว่าฤดูหนาวมีหิมะด้วยค่ะ


โดย: กาบริเอล วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:11:58:18 น.  

 
กาบริเอลผจญภัยสุดขอบฟ้าอินตระเดียอีกแว้ววววว


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:12:25:31 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กาบริเอล Travel Blog ดู Blog


โดย: น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:12:25:45 น.  

 
พี่ก๋าอัพบล็อกได้ทุกวันอยู่ครับ
ปีนี้ไม่ค่อยได้เดินทางไปไหนด้วย

ใหม่ๆบล็อกพี่ก๋าก็แทบไม่มีคนดูคนเม้นท์ครับ 555
บางคนบอกว่าอ่านเนื้อหาในบล็อกแล้วไม่กล้าเม้นท์อีกต่างหาก
บางเรื่องเป็นธรรมะที่อ่านข้าใจยาก 555

แต่พี่ก๋าก็เลือกที่จะเขียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเขียน
และคิดว่าเป็นประโยชน์กับคนอ่านนะครับ

บล็อกน้องฟ้าเป็นบล็อกการเดินทางที่อ่านสนุกครับ
ไม่เหมือนทัวร์ทั่วๆไป
มีเรื่องราวที่น่าสนใจมากเลย





โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:14:42:01 น.  

 







. . . ยินดีในสิ่งที่ตนได้ . . .

. . . พอใจในสิ่งที่ตนมี . . .

. . . เป็นคนโชคดีที่สุดในโลก . . .


*~*~*~*..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..*~*~*~*


*~ต้นกล้า...ของหัวใจ~*




โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:16:46:04 น.  

 
อ่ะโห ขาเที่ยวออกเที่ยวอีกแล้วดีจัง เก็บเกี่ยวประสพการณ์ ความแปลกใหม่ในชีวิตเป็นกำไรชีวิตเนอะ แล้วพี่จะติดตามอ่านนะจ้ะ แอบอิจฉาน้องเล็กๆ


โดย: มิลเม วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:17:30:04 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณฟ้า
นับถือจริง ๆ ค่ะ ไปเที่ยวอินเดียคนเดียวครั้งที่สอง
จากสำนวนการเขียน อยากเชียร์ให้เขียนหนังสือท่องเที่ยวจังเลยค่ะ
อ่านสนุก ไม่น่าเบื่อ แถมได้ประสบการณ์ตรงด้วยค่ะ


โดย: Close To Heaven วันที่: 7 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:02:40 น.  

 
สวยครับ แอบตามไปเที่ยวอีกแล้ว..


โดย: cacaross วันที่: 8 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:59:02 น.  

 
กลับมาอ่านตอนแรกค่ะ ^^


โดย: Nepster วันที่: 9 พฤศจิกายน 2557 เวลา:21:19:50 น.  

 
ถึงขนาดไปครั้งที่สอง แสดงว่าหลงเสน่ห์แล้วแน่ๆ ของผมกลับเป็นที่ประเทศจีนมากกว่า อยากกลับไปสัมผัสเสน่ห์ของมันอีกครั้ง


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 13 พฤศจิกายน 2557 เวลา:23:48:38 น.  

 
มาปักหมุดไว้ก่อนค่ะคุณฟ้า
หนึ่งเพิ่งเดินทางกลับมา คุณฟ้าลงไป 4 ตอนแล้ว
วันนี้ขออ่านตอนแรกไปก่อนนะคะ เดี๋ยวตามอ่านตอนต่อไป ^_^


โดย: AdrenalineRush วันที่: 17 พฤศจิกายน 2557 เวลา:23:46:21 น.  

 
กำลังจะไปอินเดียเลยค่ะ (แต่คนละซีกกัน)
ขอติดตามอ่านด้วยคนนะคะ


โดย: honeynut วันที่: 30 ธันวาคม 2557 เวลา:21:12:13 น.  

 
ไปครั้งที่สองแล้ว

ขอพูดเชยๆ นะคะ เก่งจัง


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 7 มกราคม 2558 เวลา:16:40:55 น.  

 
ในนิทาน ชื่อเพราะจัง ^^ ....//ไนนิตาล!!
แม่น้ำยมุนา.... อีฟองๆนั่นน่าเกลียดมาก -*- คิดซะว่ามีป้ามาซักผ้าเพิ่งเสร็จละกัน
นึกภาพฟ้าแบกสารพัดกระเป๋าแล้วผมรีบเสิร์ชดูรูปตัว Opossum เลย....พรืดดดด
ลงจากรถปุ๊บ เจอรูปคานธีปั๊บ คนของประชาชนจริงๆ เมื่อไหร่บ้านเราจะมีคนของประชาชนแบบมาด้วยวีรกรรมไม่ต้องกระหน่ำ PR บ้างนะ?
เมืองนี้ดูบรรยากาศดีผิดกับที่อื่นๆที่ไปเจอมานะเนี่ย สงสัยมาผิดประเทศ 555



ป.ล. อย่าตั้งหน้าหลักเป็นหมวดที่ยังไม่เปิดสิเธอ
ป.ล.2 อยากไปใช้ชีวิตปลูกผักที่อินเดียจริงง่ะ?


โดย: ชีริว วันที่: 5 มิถุนายน 2560 เวลา:21:39:59 น.  

 
ปล.
ลุงแอ็ดแปลกใจ อย่างที่สุด ทำไม?หนอ ผู้เขียนนามนี้ จึงมีความสามารถมากมายเช่นนั้น "ลุงแอ็ดเดาว่า"อายุคงอ่อนกว่าลูกลุงแน่นวล"
แต่ทำไม?หลานเธอ จึงสนใจวงดลตรี Beatles และรู้เรื่อง มือหนึ่งของ วง? ตายลง แล้วรู้เรื่อง ที่พวกเขาก็เคยค้นหาตัวเอง อย่างยิ่งยวด จึงไปจบที่ ประเทศอินตระเดีย,...ฯลฯ...

แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็น คือ ทำไม?จึงบันทึกเรื่องฯลฯ และภาพประกอบได้ยอดเยี่ยมเช่นนั้น,

กรอปลุงแอ็ด ได้ส่งเรื่องของเพลง...ฯลฯ...หนึ่ง ที่ วง เดอะบีเทิลส์ ตนหนึ่งตาย (ลุงไม่ใช่แฟนคลับของพวกเขา)แล้วก็มีการจัดงานให้ฯลฯ.....

อีกประเด็น ลุงแอ็ด ก็เพิ่ง บ้าตามอ่าน ชนิดเข้าถึงเนื้อหา จริงๆ และตัดตอนลัดอ่าน ตอนใกล้จบ, และไม่ชำนาญในการดูวันบันทึกเรื่อง แต่ละตอนลงวันเริ่มอัฟเรื่องลงบล๊อก จึงอ่านข้ามไป แล้วลุงแอ็ด ก็ต้องค้นหา(มันหายไปใหน?ว่ะ)ไอ้สี่เต่าทองอ่ะน่ะ ที่ตรูหมายตาไว้"จะมาแอบอ่านต่อ,

ลุงแอ็ดเพิ่งเข้าใจ? ว่า, ลุงจะต้องไล่เดือนเอา แล้วจึงจะพบอ่ะจิ ตาแก่โง่....

กาลเป็นว่า เรื่อง The Beatles จะต้องกำหนดวันเวลามาอ่าน ในภาคกลางวันเริ่มแต่ตอนที่5พย.57 ซึ่งเวลาจะตรงตอนอ่าน ในเวลาภาคกลางคืน,

ทำไม?จะต้องมาบอกด้วยเล่า...แฮ่ๆๆๆ.....พวกบ้าข้อมูล และพวกบ้าอดีต ทั้งหวานและขม อ่ะจิ....
ไอพวกสี่เต่าทอง กับลุงมันมีเรื่องที่จะต้อง รื้อฟื้นกันยาว,

ปล.สำคัญที่สุด,
ลุงแอ็ดจะต้องขออภัยแด่หลานฟ้ายิ่งนัก ที่ลุงมาบ่นบอกมา


โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:4:45:16 น.  

 
จำแค่ชื่อกลุ่มบล็อกนั้น ๆ ไว้ก็พอค่า
ฟ้าจะจัดกลุ่มเพื่อแยกการบันทึกแบบนี้
โดยแต่ละเอนทรี่(เรื่อง) ของชื่อหมวดนั้น ๆ
สมมติ ว่าลุงแอ็ดกดที่ group blog (กลุ่มบล็อก)
ที่ชื่อ INDIA 2/2014 มันก็จะแสดงจำนวนหัวข้อ
ย่อยทั้ง 12 เรื่องให้ดูว่ามีอะไรบ้าง (เห็นได้จาก
ทางซ้ายมือถ้าอ่านจากคอมฯ) หากจะไล่หาตอน
แรกของหมวดนี้แต่แรก ลำดับการเรียงเรื่องก็จะ
ต้องดูจากล่างขึ้นบนค่าา (ไปไล่ดูจากวันที่อาจหา
ยากกว่านี้น้อ)


โดย: กาบริเอล วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:7:52:32 น.  

 
อ้อๆๆๆ.....โง่อยู่ตั้งนานนนนนน.....



โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:13:19:14 น.  

 
ประเทศอินเดีย เป็นเจ้าอารยะธรรม แห่งโลก กลุ่มหนึ่งจริงแท้ ที่ก่อเกิดสังคม"ฅน"

เมื่อลุงแอ็ดอ่านมา ถึง ท่องอินเดียตอนที่2 นี่แล้ว ถ้าหลานฟ้าเกิดชวนลุงแอ็ด"ฝันกลางวันตอนบ่ายๆ"ไปท่องชายแดนอินเดียกันมะ ที่ติดเขาชาวธิเบตน่ะ โดยนั่งรถไฟ จากจีนเข้าไป"ไม่รู้มีป่ะน่ะมีแต่ข่าวว่าจีนสร้างถึงแล้ว?" ลุงแอ็ดจะรีบตอนรับ ว่า "โอเครหลานฟ้ากาบริเอล" แล้วเกิด สติแตกอะไร?ล่ะ? ที่นึกอยากไป"ทั้งที่เคยบอกไม่เคยฝันไปอินเดีย" เพราะได้ผู้นำทางชั้นยอดอ่ะจิ....


โดย: ธนู ลุงแอ็ดชวนเที่ยว (สมาชิกหมายเลข 4365762 ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:14:19:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กาบริเอล
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]




ชอบต้นไม้, แมว, หนังสือ
และออกเดินทางท่องเที่ยวบ้าง

ไม่ชอบพบปะผู้คนมากนัก
เป็นมนุษย์จำพวก introvert

การเขียนบล็อก
คืออีกพื้นที่บอกเล่าผ่านตัวอักษร
และตัวตนของเราก็อยู่ในสิ่งที่เขียนค่ะ

ขอบคุณ Bloggang
สำหรับพื้นที่แบ่งปันตรงนี้

....

เริ่มต้นลงบันทึกอย่างเป็นทางการ
ณ วันที่ 16 ม.ค. 2014


###ไม่สะดวกพูดคุยหลังไมค์นะคะ###

© ขอสงวนลิขสิทธิ์ ภาพถ่าย 
ห้ามนำไปใช้ ดัดแปลง แก้ไข 
โดยไม่แจ้งที่มา ก่อนได้รับอนุญาต


New Comments
Friends' blogs
[Add กาบริเอล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.