ตรงบริเวณท่าน้ำ ในเมืองพาราณสี
มีคนแต่งกายเหมือนนักบวชให้เห็นอยู่ไม่น้อย
พวกเขามักจะแต่งกายด้วยผ้าสีกรัก บ้างก็ชุดขาว ฯลฯ
ป้ายหน้าผากเป็นสัญลักษณ์ ที่บอกถึงนิกายที่ตนเองนับถือ
บางคนก็นำเอาเถ้ามาละเลงที่ตัวเหมือนกับลงสีที่ผิวหนัง
ไว้หนวดเครายาว ผมยาวเกล้ามวย หรือไม่ก็เป็นเดรทล็อค
ภาพลักษณ์ภายนอกของบางคนดูน่ากลัว เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
แต่ก็ยังมี บาบา สองคนที่ฉันเคยไปพูดคุยด้วย
คนหนึ่งนุ่งขาวห่มขาวและเรียกตัวเองว่า 'white baba'
บุคลิกอย่างกับพระเจ้าตา ที่เห็นกันตามหนังจักร ๆ วงศ์ ๆ
ทุก ๆ บ่ายฉันเห็นเขามักจะมานั่งอยู่ตรงขอบปูน
ที่แยกสามแพร่งก่อนเลี้ยวมาถึงที่พัก
บ่อยครั้งที่เดินผ่าน เขาก็มักจะตะโกนทัก
"เฮ้ เจแปน" อยู่เสมอ
จนวันหนึ่ง เมื่อฉันว่างพักจากการเตร็ดเตร่
ก็เลยลองแวะมานั่งคุยด้วยจนได้
"มา มา ดื่มชัยกัน!"
แกถึงกับดีใจ และสั่งชาจากคนขายหาบเร่
มาเลี้ยงหนึ่งถ้วยและของตัวเองอีกหนึ่ง
เรานั่งสนทนากันแบบขำ ๆ ...
ถามกันแต่เพียงที่มาที่ไป ของแต่ละคนเท่านั้น
บาบา ดูเป็นคนที่ยิ้มแย้มและอารมณ์ดีตลอดเวลา
แต่ก็แอบกระซิบว่านาน ๆ ทีถึงจะมีคนมานั่งจ้อด้วยแบบนี้
และเมื่อเห็นใครเดินผ่านไปมาทีไรฉันก็มักเห็น
แกชอบตะโกนเชิญชวนให้แวะมานั่งดื่มชาด้วยเสมอ
ส่วนนักบวชอีกคนหนึ่ง
ที่ฉันเจอตรงท่าน้ำเขามีชื่อว่า 'ศิวะติลัก'
สาธุท่านนี้จะแต่งชุดสีกรัก สวมแว่นสายตา
ขมวดผมยาวเก็บเป็นปมที่กลางกระหม่อมแบบง่าย ๆ
และมีสร้อยรุดรักษา (rudraksha) ใส่ประดับตัว
เขาเดินเข้ามาทักทายฉันในขณะที่กำลังยืนเหม่อลอย
ไปที่ฟากตรงข้ามแม่น้ำที่ยังไม่เคยคิดข้ามไปสักที
และได้ยินมาว่าพื้นที่นั้นถูกเปรียบเทียบเป็นฝั่งนรก
มันดูแห้งแล้ง มีแต่ผืนทรายไม่มีตึกรามบ้านช่องเหมือนกับตรงนี้
แต่ก็ยังมีเรือรับจ้างพาผู้โดยสารไปชมที่ฝั่งนั้นตลอดทั้งวัน
และนาน ๆ ครั้งก็จะเห็นฝูงควายที่ชาวบ้านพาต้อนลงเล่นน้ำ
ฉันถามถึงที่มาของคำว่า ฝั่งนรก กับบาบา ผู้นี้
ท่านหยุดคิดไปชั่วขณะ ก่อนที่จะให้คำตอบ ....
ซึ่งฉันก็คาดหวังว่า คำตอบที่จะได้ยิน
คงเป็นข้อมูลเฉพาะเจาะลึกแน่นอน
"มันเป็นแค่อีกฟากฝั่งเท่านั้น ไม่มีหรอกฝั่งนรก
นั่นก็เป็นเพียงแค่สิ่งสมมติจากภาพที่เราเห็น"
จะว่าไปก็จริง มันก็แค่เป็นผืนทรายที่ไม่มีสิ่งก่อสร้างโอ่อ่า
เหมือนซีกด้านนี้ แถมบางครั้งก็มีศพที่ถูกน้ำพัดไปเกยติดให้เห็นอีกต่างหาก
แต่มันก็ใช่ว่าจะรกร้างนะ ถัดไปไม่ไกลจากนั้นก็จะมีแนวต้นไม้และบ้านเรือน
ที่มีผู้คนอาศัยอยู่เช่นกัน บาบายังบอกฉันอีกว่า "ทุกสิ่งอย่าง มันอยู่ที่ใจจะคิด"
ไม่นึกฝันว่าจะได้มายืนคุยกับนักบวชที่ริมฝั่งคงคาแบบนี้
ท่านว่าบางครั้งก็จะปลีกตัวไปอยู่ป่า
แต่ก็มีบ้างที่เข้ามาอยู่ในเมืองเหมือนอย่างตอนนี้
เพื่อสอนโยคะ สอนสมาธิ ที่สำนักเล็ก ๆ ของตัวเอง
ครั้นจะแยกตัวไปจากที่ตรงนี้ ฉันเอ่ยปากขอถ่ายรูป
"อย่าเลย..." สาธุ ศิวะติลัก ได้ปฏิเสธ
"ถ่ายภาพเก็บไว้ ไม่นานเดี๋ยวก็ลืม
แต่การรำลึกถึงกัน มันจะจดจำได้นานกว่า"
เกือบจะหกโมงเย็น ที่ลานปูนตรงท่าน้ำมีการตั้งโต๊ะเพื่อเตรียมทำการบางอย่าง
แต่ก็ดูเหมือนจะยังไม่เสร็จสิ้นดี ที่ลานบันไดก็มีการฉีดน้ำเพื่อขัดล้างให้สะอาด
ไม่นานนักก็มีผู้คนบางส่วนมานั่งกันในบริเวณนี้กันอย่างประปราย
ชายวัยรุ่นผิวคล้ำคนหนึ่งเดินเข้ามาทักชื่อ อาชชู
เขาบอกว่าได้เจอฉันที่ท่าน้ำเมื่อเช้านี้ แต่ฉันเองก็จำไม่ได้หรอก
ก็เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักมีแต่คนเข้ามาพูดคุยด้วยตลอดนี่นา
เราเลยได้ทำการแนะนำตัวกันใหม่ อาชชูบอกว่าเคยมาเที่ยวเมืองไทยถึงสามหน
เขาอาสาพาเดินฆ่าเวลาที่กาตอื่น ก่อนถึงเวลาทำพิธีฯ ประมาณหนึ่งทุ่มครึ่ง
มีกลุ่มคนที่พากันออกมาใช้พื้นที่โล่งที่ท่าน้ำบางแห่งทำกิจกรรมยามว่างกัน
อย่างเช่น ตั้งทีมเล่นคริกเก็ต ตีแบต หรือบางทีก็มีการเล่นไพ่อูโน่ซะด้วย
ฉันเห็นธงสามสี ที่มีรูปดอกบัวตรงกลาง พร้อมกับอักษร BJP ปักตามเรือ
ไม่ก็ขึงแขวนในบางจุดของอาคารบ้านเรือน แต่ก็ไม่รู้ว่าหมายถึงอะไรกัน
อาชชู บอกว่าธงนั่นเป็นสัญลักษณ์ของพรรคการเมืองที่ชนะการเลือกตั้ง
หนล่าสุด (2014) พวกเขาจึงพากันติดไว้เพื่อเฉลิมฉลอง
หนึ่งในข้อความบน ทวิตเตอร์ ของโมดี้ กล่าวถึงนโยบายที่จะทำความสะอาดแม่น้ำคงคา
จากนั้น ในวันที่ 17 พ.ค. 2014 นเรนดรา โมดี้ ก็ได้เดินทางมาเยือนพาราณสี หลังจากชนะการเลือกตั้ง
หนึ่งในนโยบายที่โดนใจชาวพาราณสี
ก็เห็นจะเป็นโครงการ Namami Gange หรือ
National Mission for Clean Ganga (NMCG)
ที่ นายนเรนดรา โมดี้ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนใหม่
ได้ให้คำมั่นสัญญาเรื่องการทำความสะอาดแม่น้ำคงคาและอินเดีย
โดยมีหมายกำหนดระยะเวลาการดำเนินการจนถึง ปี ค.ศ. 2020
ซึ่งทำให้ผู้คนในพาราณสี ต่างมีความหวังที่จะเห็นแม่น้ำสายนี้
ถูกชำระให้สะอาดขึ้น ด้วยความที่เป็นศูนย์กลางทางศาสนา
จึงทำให้มีผู้คนแห่แหนกันมาที่นี่อย่างมากมาย
บรรดาขยะและมลภาวะก็ย่อมตามมา
เขาเลยถามฉันว่าไม่มีแผนที่จะลงไปแช่ตัว
ในแม่น้ำคงคาเหมือนกับคนอื่นๆหรือไง?
"ฉันเคยลงเล่นที่ริชชิเกชมาแล้ว" การที่ไปแช่น้ำที่ต้นสาย ก็น่าจะดีกว่านะ
"ดีแล้ว ที่นั่นสะอาดกว่าตั้งเยอะ" อาชชู ให้ความเห็น
ในเวลาพลบค่ำประมาณหนึ่งทุ่ม เราเดินย้อนกลับมาที่ท่าน้ำ 'ทศาศวเมธ'
(Dashashwamedh)สถานที่ประกอบพิธีหลักซึ่งดูใหญ่โตพอควร
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ระหว่างที่เดินผ่านท่าน้ำอื่น ๆ อาชชูยังชี้ให้เห็น
แท่นพิธีเล็ก ๆ สำหรับอารตีที่ยังมีนอกเหนือไปจากตรงท่าน้ำหลักที่ว่าด้วย
อย่างในบางจุดก็อาจมีพราหมณ์มาดำเนินพิธีเพียงไม่กี่คน หรือไม่ก็โดยลำพัง
ฉันกำลังนึกภาพของความเรียบง่ายที่ผู้ทำการบูชากลุ่มย่อยเหล่านี้ กำลังจะร่าย
สวดอุทิศและถวายไฟต่อพระแม่คงคาของพวกเขาอย่างสงบเงียบในยามพลบค่ำ
นี่ถ้าหากย้อนเวลาไปได้
ฉันเองก็คงอยากจะมานั่งมองภาพจากที่ตรงนั้นมากกว่านะ
ที่ท่าน้ำ ทศาศวเมธ
เมื่อเดินมาถึงที่หมายแทนที่ฉันจะได้ไปหาที่นั่งตรงทางบันไดอย่างเดิม
อาชชู กลับบอกให้มายืนที่หน้าแท่นปูนด้านล่างแทนเพราะจะได้ตำแหน่ง
ถ่ายรูปที่ดีกว่า
บางคนก็ลงไปนั่งดูบนเรือที่จอดติดกับท่าน้ำหรือถ้าจะดีกว่านั้น หากการที่ได้ล่อง
แม่น้ำในยามค่ำคืนก็คงจะเป็นภาพที่สวยดีเหมือนกัน ที่จริงอาชชูก็เคยชวนไปนั่ง
ดูพิธีฯ จากบนเรือนะแต่ฉันยังไม่กล้าไปกับเขาสักเท่าไหร่
กลุ่มพราหมณ์ได้พาคนกลุ่มหนึ่งมายังริมน้ำเพื่อทำการขอพร
ให้กับคนเหล่านี้ก่อนเริ่มงาน ซึ่งดูเหมือนกับว่าพวกเขาเป็นเจ้าภาพ
ในการจัดพิธีฯ ในค่ำคืนนี้
"มีเงินก็ทำได้ทุกอย่างแหละ" อาชชู บอกเป็นนัย ๆ ว่าพวกคนรวยเนี่ย
จะล้างบาปสักกี่หนก็ได้ พร้อมกับย้ำวลีเด็ดที่ฉันมักจะได้ยินมาเสมอ
"ซับ กุช มีเลก้า ... ทุกสิ่งเป็นไปได้! เธอเข้าใจคำนี้ใช่ไหมล่ะ"
เมื่อถึงเวลากำหนด ปัณฑิตเหล่านี้ก็กลับมาอยู่บนแท่นพิธีของตน
พวกเขาเริ่มยกสังข์ขึ้นมาเป่านำ เพลงสวดเริ่มดังขึ้นจากเครื่องขยายเสียง
นอกจากตรงนี้แล้วยังมีอีกลานพิธีใหญ่ที่ตั้งอยู่แทบจะใกล้กันนั้น
ต่างก็มีช่วงเวลาดำเนินการที่ไล่เลี่ยกันเล็กน้อย และเต็มไปด้วยผู้คนเช่นกัน
ในแต่ละช่วงจังหวะ ที่ถูกลำดับไปตามแบบแผนของระเบียบพิธี
พวกเขาต่างหยิบนำเครื่องประกอบมายกถือวนไปมา
มีทั้งดอกดาวเรือง ธูป พัดหางนกยูง หม้อใส่กำยาน พู่ ฯลฯ
ตลอดไปจนถึงตะเกียงที่จุดไฟอารตี ...ที่สุดท้ายแล้วเมื่อพิธีใกล้จบ
ก็จะทำการส่งไฟอารตีไปยังผู้คนที่นั่งอยู่เพื่อให้ทำการแตะไฟรับพร
เป็นพิธีที่ดูขึงขังอาจเพราะด้วยความเก่าแก่และเรื่องราวของสถานที่ด้วย
ไม่ไกลจากตรงนี้ มีการขายกระทงดอกไม้สำหรับลอยในแม่น้ำระหว่างนี้
มีคนที่มาเดินเร่ขายให้กับสาวจีนคนหนึ่งที่นั่งอยู่เพียงลำพัง
ได้ยินว่าจ่ายไปตั้ง 50 รูปีแน่ะ...ทำให้อาชชูถึงกับอุทานเบา ๆ
"นั่นไง! โดนเข้าแล้ว จริง ๆ มันก็แค่ 10 รูปีเอง"
เขาบอกว่า สมัยนี้พอมีเรื่องการค้าเข้ามาเอี่ยว
ความขลังของงานฯ มันเลยดูลดลง
เพราะกลุ่มคนที่เข้ามาสวมรอยหากินระหว่างพิธีเสมอ
ทุกอย่างก็เลยดูไม่เหมือนเดิมจากที่ควรจะเป็น
ในชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้จากสภาพที่เป็นอยู่ ไม่แปลกนักที่หลายคนมักจะแสวงหา
ผ่านทางรูปแบบพิธีกรรมต่าง ๆ มากมายเพื่อหวังให้พันธนาการทางใจหลุดพ้นไป
แม้อาจไม่สมหวังในตอนนี้ แต่ก็อาจทำเพื่อภพภูมิที่ดีในชีวิตหน้า
....
ประมาณสองทุ่มเศษ อาชชูได้หนีกลับบ้านไปนานแล้ว
แต่ฉันยังคงไล่เก็บภาพไปอย่างเรื่อย ๆ รวมไปถึงกาตที่อยู่ถัดไปจากตรงนี้ด้วย
หลังสิ้นเสียงที่ทุกคนต่างร้องรับฉลองชัย แห่งการบูชาในค่ำคืนนี้
บ่งบอกถึงการจบพิธีฯ ... เสียงจอแจที่ผู้ร่วมงานกำลังแยกย้ายกันกลับ
จากทั้งสองลานพิธีก็เริ่มขึ้น เมื่อรวมจำนวนคนที่มากมายขนาดนั้นแล้ว
ต่างดูวุ่นวายเล็กน้อยเพราะพวกเขากำลังเดินมุ่งตรงไปยังทางเดียวกัน
ระหว่างที่ฉันยืนรอจังหวะให้คนเริ่มซาลงก่อนที่จะออกไปจากที่นี่
ก็ได้ยินเสียงเรียกของใครบางคนร้องขอให้ช่วยเหลืออะไรบางอย่าง
มีเด็กสองคนกำลังร้องไห้กระจองอแงอยู่ทางด้านหลัง
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกัน ?
"รบกวนช่วยถ่ายรูปเด็ก ๆ ให้หน่อยได้ไหมครับ"
คุณพ่อของน้องทั้งสองพยายามกล่อมลูกของเขาให้เลิกร้องไห้
โดยไม่รู้ว่าจะทำยังไงได้เลยต้องใช้ไม้ตายแปลก ๆ มาเกลี้ยกล่อม
และกล้องที่ให้บันทึกภาพเนี่ย ก็คือกล้องของฉันนั่นแหละ
ถึงแม้ตัวเองจะไม่เข้าใจกับสิ่งที่ว่า แต่ก็ตอบตกลงที่จะให้ความร่วมมือไป
ฉันส่งสัญญาณให้เจ้าตัวเล็กทั้งสองยืนนิ่ง ๆ พร้อมกดบันทึกภาพตามคำขอ
หลังจากที่พวกเด็กเห็นรูปภาพในนั้น พวกเขาอารมณ์ดีขึ้นและเลิกร้องโยเย
คุณพ่อหันมาขอบคุณ ก่อนที่จะพวกเขาจะเดินออกไปจากพื้นที่นี้ด้วยรอยยิ้ม
ไม่รู้ว่า การถ่ายรูปนั่นจะช่วยอะไรได้กัน?
หากสิ่งที่คุณพ่อออกกลอุบายนี้จะเปรียบคล้ายกับพิธีกรรม
ถ้าอย่างนั้น ฉันก็คงเป็นคนที่เสกคาถาและร่ายเวทย์ได้สิเนี่ย
ขอปิดท้ายด้วยภาพนายแบบกิตติมศักดิ์ทั้งสองในค่ำคืนนี้นะคะ
ปล. พี่อาดี้ หายตัวไปอย่างลึกลับ หลังนัดเจอกันอีกทีตอนหกโมงเย็น
อุ๊ย ..
ไปเที่ยว คนเดียว เหมือนกัน เลย ..
ได้ล่อง แม่น้ำคงคา ภาคค่ำ ดู เขาแสดง ที่ริมฝั่ง คงคา มหานที เหมือนกันค่ะ ..
เป็นประสบการณ์ที่ไม่ลืมเลย ..
อืมม .. โหวต Travel หมด ค่ะ ..
พรุ่งนี้ มาใหม่เนาะ ..