Group Blog
 
 
ธันวาคม 2547
 
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
30 ธันวาคม 2547
 
All Blogs
 

โลกของผมมีเธอเพียงผู้เดียว

เธอ… เปรียบเสมือนดั่งชีวิต ดั่งดวงใจ ดั่งความฝัน

เธอ... เปรียบเสมือนแสงสว่าง ส่องนำทางชีวิต

เธอ... เปรียบเสมือนดวงตะวัน ส่องประกายความอบอุ่น ให้หัวใจรอดพ้นจากความเหน็บหนาว

เธอ... คนที่เปรียบดั่งลมหายใจ หากชีวิตต้องขาดเธอไป ลมหายใจของผมก็คงจะหยุด

“คุณนริศ ! คุณนริศคะ คุณผู้ชายรออยู่นานแล้วนะคะ”

ผมไม่สนใจเสียงเรียกของยายแก่คนครัวที่ยืนเคาะประตูอยู่ข้างนอก ผมรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเสมอเมื่ออยู่ในโลกของผม โลกภายนอกดูวุ่นวายมีแต่คนคอยกลั่นแกล้งอวดดี ชิงดีชิงเด่น ผมยอมเผยตัวออกไปบ้างเวลาที่จำเป็น แต่เวลารู้สึกกลัวขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมก็จะหลบเข้ามาอยู่ในโลกของผม

โลกของผมที่เคยสงบอบอุ่นและปลอดภัย บางครั้งก็เงียบเหงา แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ก้าวเข้ามาแต่งแต้มสีสันให้โลกใบนี้กลายเป็นโลกอันแสนหวาน

ใบหน้าเธอหวานซึ้งจับจิต ดวงตาหยาดเยิ้ม ริมฝีปากบางเฉียบแดงเรืองได้รูป น่าหลงใหล

ผิวเนื้อเธอดูขาวผ่อง นุ่มนิ่ม เต่งตึง น่าสัมผัสลูบคลำ

เวลาคิดถึงเธอทีไร เลือดหนุ่มในกายของผมมักจะเดือดพล่าน พลังของการให้กำเนิดชีวิตตื่นตัว อยากจะมอบความเป็นชาย ปลดปล่อยความรักอันรุ่มร้อนของผมกับเธอแต่เพียงผู้เดียว

ผมอยากจะพบตัวจริง ๆ ของเธอสักครั้ง อยากบอกกับเธอเหลือเกินว่าผมหลงรักเธอจับจิตมากสักเพียงใด อยากจะบอกเธอว่าโลกของผมมีเธอเพียงผู้เดียว

Angel says: “วันนี้เข้ามาสายจังเลยนะคะ นริศ”

ตัวอักษรนั้นทำให้ผมสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงอันแสนหวานของเธอ

Naris says: “ครับ เมื่อคืนเราคุยกันดึกไปหน่อย ผมเลยตื่นสาย ต้องขอโทษที”

Angel says: “ฟ้าก็เพิ่งตื่นเหมือนกันคะ นี่ก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย ขอโทษนะคะขอไปใส่เสื้อผ้าก่อน”


อ่านประโยคนั้นของเธอ ทำให้เลือดในกายของผมร้อนระอุขึ้นมา เดือดพล่านไปด้วยพลังหนุ่ม มโนภาพของเธอค่อย ๆ ปรากฏชัดขึ้นตรงหน้า ร่างเพรียวบาง ขาวผ่อง นวลเนื้อนุ่มละมุนกำลังห่อหุ้มไปด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ ปกปิดเพียงกลางลำตัว เผยท่อนบนอันเปลือยเปล่า โคนขาขาวนวลเนียน แล้วมือขาว ๆ ของเธอก็ค่อย ๆ ปลดผ้าผืนนั้นร่วงหล่นลงมากองที่ข้อเท้า

โอ..ทรวงอกเธอช่างตูบขาว น่าสัมผัส เม็ดประทุมสีชมพูชูชันเด่นชัด เบื้องล่างอุดมไปด้วย....

“ไอ้นริศ ! ไอ้นริศ !” เสียงนั้นพร้อมกับเสียงประตูที่ถูกผลักออกอย่างแรง

เกลียดนักเชียว ไอ้พวกที่ชอบมาทำให้มโนภาพของเธอตรงหน้าหายไป หากผมฆ่ามันได้ ผมจะฆ่ามันให้หมด ไอ้คนที่มาพรากเอาเธอไปจากผม

“พ่อเรียกตั้งนานสองนาน ทำไมไม่ลงไป วัน ๆ เอาแต่นั่งดูรูปโป๊ในเนต”

มันตรงเข้ามาตะโกนใส่หน้าผม แล้วกระชากลากผมไปที่ประตู

“ไป ! ไป ! ไปหาพ่อ”

ผมสุดจะทน กระชากมือสกปรกของมันออกจากคอเสื้อผมอย่างแรง

“ไอ้นริศ มึงอย่าชั่วนักเลยวะ เกิดมาก็นอกคอก มีแม่เป็นกระหรี่ ยังเสือกทำตัวนอกคอก วันหนึ่งพ่อจะหมดความอดทน แล้วไสหัวมึงไปอยู่ข้างถนน” มันชี้หน้าด่ากราดผม

นรินทร์มันเป็นพี่ชายของผม แต่ก็แค่พี่ชายที่ผูกพันกันทางสายเลือดพ่อเท่านั้น เพราะพฤติกรรมกับวาจาที่มันแสดงกับผม ไม่ต่างอะไรไปจากแสดงกับหมาตัวหนึ่ง

“คุณนริศคะ เชื่อคุณนรินทร์เถิดคะ ตอนนี้คุณผู้ชายไม่สบายใจมากนะคะที่วัน ๆ คุณก็เอาแต่หลบตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมไปเรียนหนังสือ”

ยายแก่คนครัวชอบทำปากดีเที่ยวมาสั่งสอนผม ที่แท้แล้วมันก็เหมือนคนอื่น ๆ คอยด่าคอยซ้ำเติมผมอยู่ตลอดเวลา

ไอ้นรินทร์มันยังคงพยายามเข้ามาลากตัวผมออกไป ในขณะที่ผมดิ้นรนสุดกำลัง

“พอ ๆ นรินทร์ปล่อยลูก” แล้วพ่อก็เดินขึ้นมาตามผมด้วยตัวเอง คงมาบ่นด่าอีกตามเคย

มันปล่อยผมเหมือนโยนลูกหมาตัวหนึ่ง ผมรีบเอาแขนยันกำแพงไม่ให้เสียหลักล้มลง

พ่อเดินเข้มาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จ้องผมเขม็ง

“นริศ ฉันมานี่จะมาบอกกับแกว่า ฉันกำลังจะหมดความอดทนกับแก การที่ฉันซื้อคอมพิวเตอร์ไว้ให้แกไว้ใช้ส่วนตัว ก็หวังว่าจะเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการเรียนของแก ไม่ใช่ให้แกนั่งหมกมุ่นกับมันทั้งวันแบบนี้ ฉันจะให้เวลาแกอีกปีเดียว ถ้าปีหน้าแกยังเรียนไม่จบ ก็ไม่ต้องไปเรียนมันแล้ว ฉันจะไล่แกไปอยู่ข้างถนน ไปเป็นไอ้พวกสะถุนเหมือนแม่ของแก”

ผมไม่เถียง พ่อไม่ชอบให้ผมเถียง ตอนเด็ก ๆ ผมเคยเผลอไปเถียง เลยถูกตีด้วยด้ามไม้กวาดตีเสียเกือบตาย

“แม่มึงมันชั่วถึงได้หนีตามผู้ชายไป แล้วก็ทิ้งไอ้เลือดชั่ว ๆ อย่างมึงที่ไม่รู้ว่าใช่ลูกกูหรือเปล่าไว้ให้กูเลี้ยง”

พ่อมักจะตะโกนประโยคนี้ใส่หน้าผมทุกครั้งที่โกรธจัด ก็แม่ผมมันเป็นแค่คนรับใช้ในบ้านนี่ครับ ไม่ได้มีศักดิ์เป็นคุณนายเหมือนกับแม่ของไอ้นรินทร์กับนังนงนาฎ ถูกไอ้คนสูงศักดิ์พวกนี้กดขี่สับโขกก็คงจะหนีไปเป็นธรรมดา เหมือนความรู้สึกของผมในเวลานี้

ชีวิตที่ผ่านมา ผมเติบโตขึ้นท่ามกลางความรู้สึกต่ำต้อยน้อยวาสนา เหมือนกับขอความเมตตาและเศษทานที่มีคนในบ้านแบ่งปันให้ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเจอหน้ากันทีไรก็เป็นอันต้องดุต้องว่า ขณะที่ผมไม่เคยได้อะไรเท่าเทียมกับพี่น้องคนอื่น ๆ ไอ้นรินทร์กับนังนงนาฏมีทุกอย่าง ได้ทุกอย่างที่อยากได้ ได้ทุกอย่างที่ขอ นอกจากคอมพิวเตอร์แล้ว พวกมันก็ยังมีโน๊ตบุ๊คติดตัวอีกคนละเครื่อง ส่วนผมกว่าจะได้คอมฯ เก่า ๆ เครื่องนี้มาก็ต้องกราบกรานขอร้องพ่อเสียเกือบตาย

น้อยครั้งที่พ่อจะตีผม แต่พ่อก็แทบจะไม่เคยห้ามเวลานังคุณนายมันเฆี่ยนตีผม

ผมรู้อยู่เต็มอกว่า พ่อไม่เคยรักผมเลย

ทุกครั้งที่คุณนายโกรธ มันก็จะเฆี่ยนผม ตอนเด็ก ๆ ผมเคยกลัวมาก ไม่กล้าทำอะไรขัดใจมันเลย แต่ตอนนี้ผมโตแล้ว ผมดิ้นรนไม่ยอมให้มันมารังแกอีก มันเคยบอกให้ไอ้มิ่งกับไอ้ชิตคนงานสวนมารุมกระทืบผมถึงขั้นเลือดตกยางออก เรื่องมันก็เลยแดงไปถึงพ่อ โอโห ทะเลาะกันบ้านเกือบแตก มันก็เลยเข็ดไม่กล้าทำแบบนั้นกับผมอีก

ชีวิตที่ต้องยืนอยู่บนความปวดร้าวแสนสาหัส แต่แล้ววันหนึ่งความสดใสก็เริ่มโปรยปรายลงมา เมื่อพ่อซื้อคอมพิวเตอร์เก่าเครื่องนี้มาให้ผม ทำให้ผมได้พบกับเธอ

“คอมฯ เครื่องนี้ เป็นของเจ้าของรีสอร์ทที่ระยอง พอภรรยาเขาตายไปเขาก็อยากจะขาย ไม่อยากจะเก็บไว้ให้คิดถึงเธอ”

ผมจำได้ว่า ไอ้คนที่มันมาเสนอขายให้พ่อผมมันพูดแบบนี้ รุ่นเครื่องก็ยังไม่ล้าหลังมากนัก ราคามันถูกกว่าท้องตลาดกว่าครึ่ง พ่อเลยยอมซื้อให้ผม คงซื้อให้ด้วยความรำคาญแหละครับ เพราะผมต้องไปขอยืมใช้ของนังนงนาฎมันบ่อย ๆ

พวกนั้นออกจากห้องไปกันหมดแล้ว ผมละความสนใจจากพวกมันทันที เวลานี้เป็นเวลาของผมกับนางฟ้าสุดที่รัก เราจะพูดคุยกันตลอดวันตลอดคืนอย่างไม่รู้จักเบื่อ เธอน่ารักเหลือเกิน

Angel says: “นริศคะ ทำไมเงียบไปนานจัง”

เธอส่งข้อความนี้มานานแล้ว ผมไม่น่าจะไปเสียเวลากับคนพวกนั้นเลย

Naris says: “ขอโทษนะครับฟ้า ก็แค่พวกไร้สาระมันมาหาเรื่อง”

เธอหัวเราะ เสียงหัวเราะของเธอคงเหมือนเสียงสวรรค์ เสียงดนตรีอันไพเราะเพราะพริ้ง

ผมพบกับเธอครั้งแรก ในจอสี่เหลี่ยมนี้ ในเว็บบอร์ดหาเพื่อน โลกอินเตอร์เนตการสื่อสารที่ไร้พรมแดน การสื่อสารที่นำพาให้ผมได้มาพบกับเธอ

“ชื่อฟ้าคะ อายุ 22 ฟ้าเหงาจัง อยากมีเพื่อนชายคุยด้วยสักคน”

ผมอ่านแล้วรีบแอดเข้าไปหาเธอทันที เธอรอผมอยู่จริง ๆ ด้วย เธอมักจะ Online อยู่เกือบตลอดทั้งวันทั้งคืน

ตอนแรกเธอยังลังเล ไม่กล้าโชว์รูปให้ผมดู แต่ช่วงหลัง ๆ เธอคงหลงในคารมของผม จึงยินยอม แล้วผมก็ใช้ไหวพริบส่วนตัวกด Print Sceen แล้ว Save รูปมาเก็บไว้

คุณเชื่อไหมครับ เธอช่างสวยเหลือเกิน

ใบหน้าเรียวยาวรูปไข่ ผิวพรรณขาวผ่อง พวงแก้มเปล่งปลั่ง ดวงตาคม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางแดงเรือง น่าจูบ

ผมจูบเธอ ผมจูบรูปของเธอที่ผมขยายแล้วปริ้นใส่ลงบนกระดาษเอสี่กันน้ำ จูบทุกวันทุกคืน แล้ววันหนึ่งผมคงจะได้ไปจูบตัวจริงของเธอ

เธอยอมบอกผมแล้วครับ ยอมบอกผมว่าเธออยู่ที่ไหน

เธอเป็นคนจังหวัดระยองครับ พักอยู่แถว ๆ ชายหาด ดีแล้ว ผมเคยไปหาดแถวนั้น ตอนที่พวกคนในบ้านนี้สั่งให้ผมไปคอยรับใช้ตอนที่พวกมันไปเที่ยวที่นั่น

ท้องมันร้องเหลือเกิน ผมกำลังเปิดตู้เย็นคุ้ยหาอะไรมายัดใส่ท้อง

“อ้อ... พอหิวก็รู้จักออกมาหาอะไรกิน วัน ๆ ไม่คิดที่จะทำอะไร คลุกอยู่แต่ในห้อง เลี้ยงแล้วเสียข้าวสุก” คนที่ผมต้องเรียกมันว่าแม่ มักจะคอยด่าทอเหน็บแนมผมเช่นนี้ทุกครั้งที่มีโอกาส

“แกไปล้างรถให้ฉัน เดี๋ยวฉันจะไปข้างนอก หัดทำงานตอบแทนข้าวแดงแกงร้อนเสียบ้าง” มันเริ่มออกคำสั่งใช้งานผม

ผมหยิบซองมาม่ากับขวดน้ำ แล้วเดินผ่านหน้ามันไปทันที

“ไอ้นริศ ! ไอ้นริศ ! ที่ฉันสั่งแก แกไม่ได้ยินเหรอ เลี้ยงเสียข้าวสุก ไอ้สันหลังยาว” เสียงของมันตะโกนไล่หลัง

ผมไม่สนใจเสียงด่าทอของมัน ได้ยินบ่อย ๆ จนชินแล้ว ตอนนี้ผมสนใจแต่นางฟ้ากำลังรอผมอยู่ในห้อง

Angel says: “นริศคะ ฟ้าเหงาจังเลยคะ ที่นี่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าพอดี แสงสีส้มสวยจัง บรรยากาศโรแมนติกมากเลยคะ”

ประโยคนั้นเชิญชวนให้ผมอยากจะเข้าไปสัมผัสแนบชิดกับเธอเสียเหลือเกิน

โอ.. ที่รัก

Naris says: “ฟ้าเหงาหรือครับ ถ้าผมจะไปหา คุณจะยอมออกมาพบผมหรือเปล่าครับ”

เธอเงียบไป เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ

Angel says: “ฟ้ากลัวแต่ว่านริศจะไม่กล้ามาหาฟ้า ในที่ที่ฟ้าอยู่จริง ๆ น่ะสิคะ”

โอ.. ที่รัก ทำไมพูดแบบนั้น

Naris says: “ผมพร้อมเสมอนะครับที่จะไปหาฟ้า หากฟ้าต้องการ”

เธอส่งสัญลักษณ์หัวเราะ เธอหัวเราะอีกแล้ว เสียงหัวเราะของเธอราวกับทำให้ความมัวหมองทั้งหมดในโลกใบนี้จางหายไป

Angel says: “อย่าลำบากเลยคะ ฟ้าไปหานริศเองดีกว่า”

ประโยคนั้นทำให้ดวงตาของผมเบิกกว้าง กดนิ้วขยับแป้นคีย์บอร์ดถามเธอแทบจะไม่ทัน

Naris says: “จริงรือครั ฟ้าจะมากรุงเท จริ ๆ หรือคับ เมื่ไหร่ ที่ไหน ครับ”

ความตื่นเต้นดีใจทำให้ผมพิมพ์ผิด ๆ ถูก ๆ

Angel says: “คืนนี้ค่ะ คืนนี้ ฟ้าจะไปหาคุณ”

หัวใจผมเต้นระทึก นี่เธอกำลังล้อผมเล่นงั้นหรือ

Angel says: “ในฝันคะนริศ ในฝัน”

ผมอ่านประโยคนั้น ก่อนที่จะถอนหายใจยาวด้วยความผิดหวัง

Naris says: “โถ่..ฟ้า หลอกให้ผมดีใจ”

Angel says: “ไม่ได้หลอกค่ะ ไม่ได้หลอกจริง ๆ”


แล้วเธอก็ส่งสัญลักษณ์หัวเราะ เสียงหัวเราะของเธอคงน่าเอ็นดู

วันนั้นเธอออฟเร็วเหลือเกิน มันช่างเป็นคืนที่เงียบเหงา แสงจันทราสาดส่องอาบให้ห้องนอนผมเป็นสีนวลตา บรรยากาศอบอวลไปด้วยอุ่นไอรักชวนให้ผมเฝ้าคิดถึงแต่เธอ ปล่อยความหวังและความฝันอันแสนหวานล่องลอยไปกับแสงจันทร์เพื่อส่องสว่างไปยังสถานที่ที่เธอยืนอยู่

คืนนั้นเหตุใดเปลือกตาของผมจึงเมื่อยล้านัก ทั้ง ๆ ที่บางคืนผมคุยกับเธอเกือบตลอดคืนจนแทบจะไม่ได้หลับได้นอน ความง่วงงุ่นกำลังจะพาให้ผมเข้าสู่นิทรารมย์อันสงบ แต่แล้วกลับมีร่างของใครบางคนปรากฏขึ้นตรงหน้า

เธอ !

ใช่เธอจริง ๆ ด้วย ผมไม่ได้ตาฝาด

เธออยู่ในชุดเบาบางบานพลิ้ว ชายกระโปรงโบกสะบัดไปตามสายลมโชยอ่อน ๆ ที่พัดผ่านเข้ามาทางบานหน้าต่าง เส้นผมของเธอสยายยาวปะบ่ายั่วยวนยิ่งนัก

“ฟ้า !” ผมร้องเรียกชื่อเธอด้วยความตกใจ

ยังไม่ทันที่จะตั้งตัว เธอก็เอาปลายนิ้วชี้แตะเบา ๆ ที่ริมฝีปากผม นิ้วมือของเธอเย็นเฉียบแต่นุ่มนวล ชวนให้ผมลูบไล้ตั้งแต่ปลายนิ้วไปจนทั่วฝ่ามือ วงแขนผมเริ่มโอบรัดเอวบางของเธอ แล้วค่อย ๆ ลูบไล้ไปเรื่อย ๆ เนื้อหนังมังสาของเธอช่างนุ่มนิ่มหอมหวนเหมือนดั่งภาพฝัน

“ฟ้า คุณจริง ๆ หรือ ผมไม่อยากจะเชื่อเลย”

ผมพึมพำเบา ๆ แต่ริมฝีปากยังไม่หยุดที่จะจูบเธอไปทั่วพวกแก้มแล้วต่ำลงมาที่ซอกคอ นิ้วมือผมเริ่มลูบไล้เนื้อนิ่ม ๆ ของเธอทีละส่วน แล้วไปหยุดอยู่ตรงยอดอกอันอวบอูมนุ่มนิ่มเต็มไม้เต็มมือ

“ค่ะ คุณเคยบอกที่อยู่ของคุณกับฟ้าแล้ว” เธอตอบผสมเสียงคราง อ่อนระทวยอยู่บนตักของผม

พริบตาเดียว ผมก็ถอดชุดนอนบางเบาของเธอทั้งชิ้นในและชิ้นนอกหลุดลงไปกองกับพื้นห้อง เธอดิ้นหลุดออกจากอ้อมแขนของผมลงไปเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงอย่างยั่วยวน แสงจันทร์สลัวที่อาบร่างอันเปลือยเปล่าของเธอทำเอาผมแทบคลั่ง ผมรีบจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองถอดมันออกมาทุกชิ้น บัดนี้สัญลักษณ์ความเป็นชายของผมผงาดตื่นตัวเตรียมทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มภาคภูมิ

อืม... เนื้อหนังเธอช่างนุ่มนิ่มเหลือเกิน พื้นที่สวนดอกไม้ก็เนืองแน่นบดเบียดรัดเกสรตัวผู้ของผมเสียจนมิดชิด เสียงครางงึมงำของเราสองคนประสานกันคละเคล้ากับเสียงสั่นไหวของที่นอนสปริงหนานุ่ม

อา... ผมควบเธอทิ้งน้ำหนักไปในการขับเคลื่อนอย่างเร้าร้อน ดูเธอมีความสุขส่งเสียงร้องระงมจนไม่เป็นภาษา

แรงอัดในกายผมเริ่มจุกแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดสูงสุด แล้วมันถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มแรง พุ่งตรงสู่เธอผู้เป็นเป้าหมาย แรงอัดแห่งความรักที่มีอยู่เต็มหัวใจถูกปลดปล่อยเข้าไปในร่างของเธออย่างเต็มเปี่ยม

หมดพลังรักผมก็หมดเรี่ยวแรง ไม่เคยออกแรงมากเท่านี้มาก่อน อย่างดีก็ได้แต่มองภาพเปลือยของผู้หญิง แล้วจินตนาการขับเคลื่อนมันด้วยสองมือของตัวเอง

ก่อนหน้านี้ ผมยังไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหน

ผมหมดเรี่ยวแรงจริง ๆ ไม่มีแรงแม้แต่จะเอื้อมแขนเข้าไปโอบกอดเธอ

..............................................

แสงแดดลอดผ่านบานหน้าต่างเข้ามาส่องเปลือกตาที่หลับสนิทของผม ความร้อนระอุทำให้ผมต้องตื่นขึ้นมา ผมพลิกร่างเปลือยของตัวเองคลำหาร่างขาวผ่องข้างกาย

ว่างเปล่า !

บนเตียงผมว่างเปล่า เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำอมฤต

ผมจำได้ว่า ผมปลดปล่อยมันใส่เธออย่างเต็ม ๆ ถึงจะไหลย้อนออกมาอีกครั้ง ก็ไม่น่าจะมากมายถึงเพียงนี้

ผมรีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า เปิดประตูห้องนอนออกไปเดินตามหาเธอทั่วทุกซอกทุกมุมของบ้าน

ไม่มี.... ไม่มีแม้แต่เงาของเธอ

เหตุการณ์เมื่อคืนผมแน่ใจว่ามันไม่ใช่ความฝัน สัมผัสได้ถึงทุกตารางนิ้วบนเรือนร่างอันเนียนนุ่มหอมรัญจวนอย่างยากที่จะลืมเลือน

“ไอ้นริศ ! แกขับรถไปส่งฉันที่บางลำภู ไอ้ไสวมันลาป่วย เร็ว !”

นังคุณนายมันมาออกคำสั่งใช้งานผมอีกแล้ว ผมไม่อยากเห็นหน้ามัน

“อย่านะ ! แกอย่างเดินหนีฉันเชียว เรื่องเมื่อวานฉันยังไม่ได้สะสางกับแก” มันยังตวาดใส่หน้าผมเสียงดัง

ผมเดินผ่านหน้ามันไปอย่างไม่ใส่ใจ ไม่มีอะไรอีกแล้วจะสำคัญไปกว่ายอดรักของผม

“ไอ้นริศ ! ไอ้ชั่ว !” เสียงมันยังไล่หลังมา

ผมเข้ามาในห้องนอนตัวเองกดปุ่มเปิดคอมพิวเตอร์ ต่อสายอินเตอร์เนตเปิดโปรแกรม MSN Messenger เธอ On อยู่จริง ๆ ด้วย

Naris says: “ฟ้า !”

Angel says: “นริศคะ เมื่อคืนฟ้าต้องขอโทษนะคะ ที่จากมาโดยไม่ได้ล่ำลา เกรงว่าคนในบ้านของคุณจะมาพบเข้าน่ะคะ” เธออธิบาย


ใช่ ๆ จริง ๆ ด้วย มันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝัน

โอ.. ที่รัก ยอดรักของผม

“นริศ ! ๆ”

มีคนเข้ามาขัดจังหวะเราสองคนอีกแล้ว นงนาฎลูกสาวคนเล็กของคุณนายเดินเข้ามาในห้อง

แย่จริง นี่ผมลืมไม่ได้ลั่นกลอนล็อคประตูไว้ได้ยังไงนี่

“เอามือถือแกมาให้ฉันยืมใช้ก่อน ของฉันมันเสีย”

พอพูดจบมันก็เข้ามาคว้าโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกและเครื่องเดียวในชีวิตผม เครื่องที่ผมกว่าจะได้มาต้องใช้ความเพียรพยายามขอร้องพ่ออยู่นาน

ผมรีบคว้าไว้ก่อนที่มือมันจะสาวถึง

“โธ่เอ่ย ! งกไปได้ วัน ๆ แกนั่งหน้าจอทั้งวัน จะไปใช้อะไร เอามา”

มันเงื้อมือเข้ามาแย่ง ผมผลักมันกระเด็นหลังชนประตูดัง โคร่ม !

“ไอ้นริศ ไอ้ลูกนอกคอก แกกล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้”

มันตรงเข้ามาตบหน้าผมเข้าฉาดใหญ่ ความเจ็บปวดผสมกับแรงโมโหที่มันเข้ามาขัดจังหวะคุยกับยอดรัก ทำให้ผมโต้ตอบมันกลับอย่างรวดเร็ว แรงกระแทกจากหมัดของผมทำเอาตัวมันลอยละลิ่วกระเด็นซบลงไปนอนบนเตียงนอน

มันลุกขึ้นมาอย่างงุนงง ฝ่ามือกุมปากที่มีเลือดไหลออกมาเป็นทาง โอดครวญความเจ็บปวดอยู่ได้ไม่นาน ก็รู้สึกตัวว่าแขนทั้งแถบของมันเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำทิพย์แห่งเพศผู้ที่ผมปลดปล่อยไว้เมื่อคืน

“กรี๊ด !ๆๆๆๆ ไอ้นริศ ไอ้บ้ากาม!” มันกรีดร้องเสียงดัง แล้ววิ่งออกไปจากห้อง ผมตามเข้าไปลั่นกลอนประตูล็อกลูกบิดอย่างมิดชิด

Angel says: “นริศคะ ฟ้าคิดถึงคุณจังเลย”

ประโยคอันหวานรัญจวนนั้น ทำให้เลือดหนุ่มของผมเริ่มเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง

Naris says: “ฟ้าครับ ผมจะมีโอกาสแบบเมื่อคืนนี้อีกไหม”

ใจจริงผมอยากจะกระซิบประโยคนั้นข้างหูเธอ มากกว่าบอกผ่านตัวอักษรแบบนี้

Angel says: “มีสิคะ ถ้ามีโอกาสฟ้าจะไปหาคุณอีก”

อ่านประโยคนั้นแล้วเลือดหนุ่มของผมยิ่งร้อนผ่าวมากขึ้น

Naris says: “ผมไปหาฟ้าดีกว่านะครับ ผมรู้จักแถวนั้นผมเคยไป”

ผมกดแป้นคีย์บอร์ดบอกเธอรัวแทบจะไม่ทัน

Angel says: “อย่าเลยคะ ฟ้าเกรงว่า หากคุณรุ้ว่าฟ้าอยู่ที่ไหน คุณจะไม่กล้ามาหาสิคะ”

โอ... ยอดรัก ทำไมพูดเช่นนั้น

“ไอ้นริศ ! ไอ้นริศ !” เสียงตะโกนของอีคุณนายพร้อมกับเสียงของแข็งกระแทกประตูอย่างแรงจนบานประตูเปิดผงาดออก

ผมรีบคว้าเอารูปนางฟ้ายอดรักของผมที่ปริ้นใส่กระดาษเอสี่ไว้นานแล้วมาพับใส่ลงในกระเป๋ากางเกง

คนที่เดินนำเข้ามาคือ ไอ้มิ่งกับไอ้ชิต คนงานทำสวน ไอ้สองคนนี่แหละที่นังคุณนายมันเคยใช้ให้พวกมันซ้อมผม

ผัวะ !

นังคุณนายมันตรงเข้ามาตบผมเต็มกกหู

“แกกล้าดียังไงไอ้นริศ มาชกหน้าลูกสาวฉัน ไอ้ตัวซวย”

มันบอกให้ไอ้มิ่งกระชากคอเสื้อผมให้ลุกขึ้น ตะโกนใส่หน้าเสียงดัง กลิ่นเหม็นเน่าของน้ำลายมันสาดกระเด็นเต็มหน้า

“วันนี้ฉันเอาแกตายแน่ไอ้นริศ ลูกฉันเลี้ยงมาไม่เคยตีสักแปะ แล้วแกคิดจะทำอะไรของแก คิดจะบ้ากามกับลูกสาวฉันเหรอ ไอ้ชั่ว”

มันตบหน้าผมเข้าอีกฉาดใหญ่

“ซ้อมมัน !” แล้วมันหันไปออกคำสั่งกับไอ้ชิต

สิ้นเสียงของมันผมก็ดิ้นรนสุดแรง ไม่ยอมให้พวกมันรุมกระทืบอีกเด็ดขาด ผมชกไอ้มิ่งกระเด็นหลังกระแทกผนัง แล้วรีบกระโดดออกทางหน้าต่าง โชคดีที่ห้องนอนผมอยู่ชั้นล่าง

ผมวิ่งไปที่ประตูรั้ว ออกวิ่งอย่างเต็มแรง พวกมันกำลังตามมา

ผมจะไปหาเธอ นางฟ้าของผม ไปตามที่หัวใจเรียกร้อง พอกันทีไม่อยู่แล้วไอ้บ้านบ้า ๆ หลังนี้

พวกมันไล่ตามผมมา ผมวิ่งมาที่ประตูกระโดดปีนรั้วลงมายังพื้นถนน โบกรถมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างแล้วกระโดดขึ้นไป ผมหนีมันพ้นแล้ว พวกมันตามมาไม่ทัน ฮ่า ๆ

ผมกำลังจะไปหาคุณ นางฟ้าที่รัก มีคุณคนเดียวที่รักและเข้าใจผม

....................................

ผมไปตามหาเธอที่ระยอง เงินที่ติดมาในกระเป๋ายังมีเหลืออีกนิดหน่อยคงจะพอมีเหลือเป็นค่าเดินทาง

พอถึงที่นั่น ผมนั่งรถสองแถวจากขนส่งไปลงที่ชายหาด แถบที่เธอเคยบอกว่าพักอยู่แถวนั้น รูปเหมือนที่ปริ้นออกมาในมือ กับชื่อของเธอคงพอจะถามชาวบ้านในละแวกนั้นได้

“อ๋อ ! ผู้หญิงคนนี้เหรอ รู้จัก เคยเป็นผู้จัดการรีสอร์ทหลังคาสีเทานั่น” แล้วยายขายข้าวแกงชี้ไปทางรีสอร์ทแห่งหนึ่ง อยู่ห่างออกไปอีกไม่ไกลนัก

“ขอบคุณครับ ขอบคุณมากเลยครับยาย” ผมดึงรูปกลับมาแล้วรีบวิ่งตรงไปทันที โดยไม่ฟังเสียงใด ๆ อีก

“เฮ้ย ! เดี๋ยว ! เดี๋ยวสิ ไม่ฟังเสียงเอาสะเลย”

เจ้าของรีสอร์ทแห่งนั้น เป็นชายวัย 40 ปีเศษ เขาขมวดคิ้วเพ่งมองรูปที่ผมส่งให้อยู่นาน

“ตกลงน้ารู้จักผู้หญิงในรูปนี้ไหมครับ” ผมร้อนใจถามย้ำอีกครั้ง

เขาพยักหน้า หัวใจของผมลิงโลดด้วยความดีใจ

“จริงหรือครับ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนครับ” ผมถามเสียงรัวจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์

เขาจ้องหน้าผมด้วยแววตาประหลาดใจ ก่อนที่จะพูดขึ้น

“พ่อหนุ่ม ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาเจ้าของเดิมที่นี่”

ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “ภรรยาเจ้าของเดิมที่นี่”

เธอมีสามีแล้วหรือนี่ !

และประโยคต่อมาที่เขาบอกก็ทำหัวใจของผมแทบหยุดเต้น

“แต่เธอตายไปหลายปีแล้วนะ มีคนพบศพเธอลอยมาเกยหาด ตำรวจสันนิษฐานว่าเธอถูกคนร้ายหลายคนรุมข่มขืนแล้วฆ่า ก่อนที่จะโยนศพลงทะเล สามีเธอทำใจไม่ได้ที่จะอยู่ที่เดิมต่อไป เลยบอกขายต่อให้ผมนี่แหละ”

เขาส่งรูปในหนังสือพิมพ์ฉบับที่ทำข่าวของเธอให้ผมดู ใบหน้าของศพนั้นแม้จะอืดบวมแต่ผมก็จำได้แม่นว่าเป็นเธอ

“นี่ไง หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ผมยังเก็บเอาไว้อยู่เลย”

คำอธิบายของเขาทำให้ทุกสิ่งรอบกายของผมหยุดหมุน ผมลอยเคว้งคว้างอยู่ท่ามกลางดงหมอกอันมืดมิด ความทรงจำเกี่ยวกับตัวเธอหมุนวนสับสนไปหมด

เธอตายแล้ว !

ถูกข่มขืนแล้วฆ่าตาย !

แล้วผมพูดคุยกับใคร !

แล้วผมนอนกับใคร !

สิ่งที่ผมกอดจูบและสัมผัส แท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ !

เธอหลอกผม !

เธอตายแล้ว เธอมาหลอกให้ผมรักทำไม เธอตายไปแล้วเราจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง

ท่ามกลางชีวิตที่ลอยเคว้งคว้างอยู่บนหนทางอันมืดมน แล้วเธอก็เข้ามายึดเหนี่ยวให้ผมยืนหยัดอบอุ่นหัวใจ แต่แล้วมันกลับกลายเป็นความหลอกลวง หลอกลวงอย่างเยือกเย็น

ผมถูกผีหลอก !

หลอกให้ผมจมปลักอยู่กับภาพหลอนของเธอ

จนบัดนี้... ที่ต้องจมปลักอยู่กับความปวดร้าว

ผมไม่ยอมแพ้....

ผมจะไปหาเธอ....

เกลียวคลื่นสีน้ำเงินม้วนตัวขึ้นสูงตามกระแสลมแรง สาดซัดเป็นละอองฟองขาวกระทบร่างอันอ่อนแรง ผมยืนหยัดต้านแรงกระแทกของน้ำได้ไม่นาน มันก็ท้วมท้นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนค่อย ๆ มืดมัวลงตรงหน้า แรงกระหน่ำของแรงอัดในน้ำ ราวกับเข็มเป็นพัน ๆ เล่มทิ่มแทงลงบนร่างจนแทบจะแหลกละเอียด

“นั่นไง !” เสียงคุ้น ๆ หูดังแว่ว ๆ มาจากข้างหลัง

“นั่น ! ๆ โว้ย เห็นหัวดำ ๆ ผุด ๆ ตรงนั้น ว่ายเข้าไปดู ว่ายเข้าไป”

เสียงคุ้นหูนั้นเริ่มจางหายไป มโนภาพของเธอล่องลอยอยู่ตรงหน้า สัมผัสความรู้สึกเริ่มชาด้านไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดอีก ก่อนทุกอย่างตรงหน้าจะพลันดับลง

“นริศ ๆ นี่พ่อนะลูก กลับมา กลับบ้านเราเถิดลูก”

เสียงนั้นล่อยลอยผ่านเข้ามาในการรับรู้ แต่คงมิใช่คลื่นเสียงที่ผ่านเข้าไปในประสาทสัมผัสทั้งห้า

คอมพิวเตอร์เครื่องเดิมในห้องนอนเล็ก ๆ สว่างวาบขึ้น เว็บบอร์ดหาเพื่อนชื่อดังฉายแสงขึ้นมา ลำแสงสว่างเป็นแถบสีน้ำเงินจัด

“ชื่อฟ้าคะ อายุ 22 ฟ้าเหงาจัง อยากมีเพื่อนชายคุยด้วยสักคน”

.........................จบ...........................


คนที่หลงทางอยู่ในโลกส่วนตัวหาทางออกไม่ได้ ก็เหมือนผีร้ายเกาะกินใจจนตาย




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2547
2 comments
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2548 9:53:13 น.
Counter : 740 Pageviews.

 

เรื่องลุ้นหัวใจให้ลงล็อก

นาราหญิงสาวที่มีความฝันว่าเขาจะต้องเป็นเจ้าสาวของจินหนุ่มหล่อ เก่งเรียนดีก็ตั้งแต่ที่เธอเจอจินตอนนั้นเธออายุ5ขวบจินอายุ8ขวบเป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอเขาเพราะตอนนั้นคุณพ่อเชิญเพื่อนรักมาเลี้ยงข้าวที่บ้านเธอก็เลยได้เจอเขาและก็ได้สารภาพรักไปแล้วจินเองก็บอกว่าไว้ให้เธอโตอายุ18แล้วเขาจะรับพิจารณานาราก็เลยตั้งใจที่จะเป็นเจ้าสาวของเขาเธอทำทุกอย่างทั้งเรื่องเรียนและรูปร่างของเธอที่จะต้องโตน่ามองให้ได้
หลังจากที่เจอกันตอนเป็นเด็กเธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลยเพราะเธอต้องย้ายตามพ่อกับแม่ไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่เด็กแต่ว่าเธอก็ยังจำจินได้ไม่มีวันลืมรักแรกของเธอถึงจะอยู่ที่เมืองนอกเธอก็ตั้งใจเรียนและทำตัวดีดีส่วนเรื่องของจินเธอก็ให้คุณแม่คอยโทรถามกับเพื่อนคุณแม่(ก็แม่จินนั้นแหละ)ให้ว่าเขาอยู่ยังไงเป็นยังไง แต่ว่าตอนนี้เธออยู่ที่เมืองไทยแล้วเพราะเธอขอพ่อกับแม่ว่าอยากมาเรียนม.ปลายที่เมืองไทยตอนแรกพ่อกับแม่ก็ไม่เห็นด้วยแต่เธอก็ยืนยันว่ายังไงเธอก็จะมาที่เมืองไทยให้ได้ถ้าไม่อนุญาตเธอก็จะหนีไปอยู่ที่อื่นและคงไม่ใช่เมืองไทยเธอจะไปที่ที่พ่อกับแม่จะไม่มีวันเจอเธอเมื่อพ่อกับแม่โดนขู่แบบนี้ด้วยความรักลูกพวกท่านอนุญาตให้เธอมาอยู่ที่เมืองไทยและพักอยู่กับครอบครัวเพื่อนรักของพ่อนั้นก็คือบ้านจินนั้นเองภารกิจพิชิดใจของจินก็จะเริ่มขึ้นที่เธอตัดสินใจมาที่เมืองไทยเพราะเธออยากอยู่ใกล้จิน อยากรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนยังไงและเขายังจะจำคำพูดที่เขาเลยพูดไว้ได้หรือเปล่าว่าถ้าเธอโตอายุ18เขาจะรับรักเธอถึงจะต้องใช้เวลาสามปีที่อยู่ที่บ้านจินเธอจะทำให้เขารักเธอให้ได้ถึงจินจะมีผู้หญิงที่เขาชอบหรือคบอยู่ก็ตามเธอก็จะไม่มีวันยอมแพ้เป็นอันขาด
เรื่องรักวุ่นๆจึงเกิดขึ้นและเธอก็ประกาศให้เพื่อนๆได้รู้ว่าเธอรักจินมากแค่ไหนขนาดเจ็บปวดเธอก็ยังจะรักเขาต่อไปแต่สุดท้ายแล้วความรักของพวกเขาจะเป็นยังไงก็คงจะต้องติดตามดู ลุ้นหัวใจให้ลงล็อก


เขียนโดย
กิ่งแสงราตรี
11/08/2007
สงวนลิขสิทธิ์

 

โดย: ฉี่เย่ IP: 125.25.59.105 30 กันยายน 2550 15:29:52 น.  

 

คุณฉี่เย่
เป็นพล็อตเรื่องที่น่าสนใจนะคะ
น่าจะเอาไปเขียนเป็นนิยาย
ลองเขียนดูนะคะ เป็นกำลังใจ

 

โดย: วังวน 20 มิถุนายน 2551 11:54:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


วังวน
Location :
สมุทรปราการ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add วังวน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.