|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
โลกของผมมีเธอเพียงผู้เดียว
เธอ
เปรียบเสมือนดั่งชีวิต ดั่งดวงใจ ดั่งความฝัน
เธอ... เปรียบเสมือนแสงสว่าง ส่องนำทางชีวิต
เธอ... เปรียบเสมือนดวงตะวัน ส่องประกายความอบอุ่น ให้หัวใจรอดพ้นจากความเหน็บหนาว
เธอ... คนที่เปรียบดั่งลมหายใจ หากชีวิตต้องขาดเธอไป ลมหายใจของผมก็คงจะหยุด
คุณนริศ ! คุณนริศคะ คุณผู้ชายรออยู่นานแล้วนะคะ
ผมไม่สนใจเสียงเรียกของยายแก่คนครัวที่ยืนเคาะประตูอยู่ข้างนอก ผมรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเสมอเมื่ออยู่ในโลกของผม โลกภายนอกดูวุ่นวายมีแต่คนคอยกลั่นแกล้งอวดดี ชิงดีชิงเด่น ผมยอมเผยตัวออกไปบ้างเวลาที่จำเป็น แต่เวลารู้สึกกลัวขึ้นมาเมื่อไหร่ ผมก็จะหลบเข้ามาอยู่ในโลกของผม
โลกของผมที่เคยสงบอบอุ่นและปลอดภัย บางครั้งก็เงียบเหงา แต่แล้ววันหนึ่งเธอก็ก้าวเข้ามาแต่งแต้มสีสันให้โลกใบนี้กลายเป็นโลกอันแสนหวาน
ใบหน้าเธอหวานซึ้งจับจิต ดวงตาหยาดเยิ้ม ริมฝีปากบางเฉียบแดงเรืองได้รูป น่าหลงใหล
ผิวเนื้อเธอดูขาวผ่อง นุ่มนิ่ม เต่งตึง น่าสัมผัสลูบคลำ
เวลาคิดถึงเธอทีไร เลือดหนุ่มในกายของผมมักจะเดือดพล่าน พลังของการให้กำเนิดชีวิตตื่นตัว อยากจะมอบความเป็นชาย ปลดปล่อยความรักอันรุ่มร้อนของผมกับเธอแต่เพียงผู้เดียว
ผมอยากจะพบตัวจริง ๆ ของเธอสักครั้ง อยากบอกกับเธอเหลือเกินว่าผมหลงรักเธอจับจิตมากสักเพียงใด อยากจะบอกเธอว่าโลกของผมมีเธอเพียงผู้เดียว
Angel says: วันนี้เข้ามาสายจังเลยนะคะ นริศ
ตัวอักษรนั้นทำให้ผมสัมผัสได้ถึงน้ำเสียงอันแสนหวานของเธอ
Naris says: ครับ เมื่อคืนเราคุยกันดึกไปหน่อย ผมเลยตื่นสาย ต้องขอโทษที
Angel says: ฟ้าก็เพิ่งตื่นเหมือนกันคะ นี่ก็เพิ่งอาบน้ำเสร็จยังแต่งตัวไม่เรียบร้อยเลย ขอโทษนะคะขอไปใส่เสื้อผ้าก่อน
อ่านประโยคนั้นของเธอ ทำให้เลือดในกายของผมร้อนระอุขึ้นมา เดือดพล่านไปด้วยพลังหนุ่ม มโนภาพของเธอค่อย ๆ ปรากฏชัดขึ้นตรงหน้า ร่างเพรียวบาง ขาวผ่อง นวลเนื้อนุ่มละมุนกำลังห่อหุ้มไปด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ ปกปิดเพียงกลางลำตัว เผยท่อนบนอันเปลือยเปล่า โคนขาขาวนวลเนียน แล้วมือขาว ๆ ของเธอก็ค่อย ๆ ปลดผ้าผืนนั้นร่วงหล่นลงมากองที่ข้อเท้า
โอ..ทรวงอกเธอช่างตูบขาว น่าสัมผัส เม็ดประทุมสีชมพูชูชันเด่นชัด เบื้องล่างอุดมไปด้วย....
ไอ้นริศ ! ไอ้นริศ ! เสียงนั้นพร้อมกับเสียงประตูที่ถูกผลักออกอย่างแรง
เกลียดนักเชียว ไอ้พวกที่ชอบมาทำให้มโนภาพของเธอตรงหน้าหายไป หากผมฆ่ามันได้ ผมจะฆ่ามันให้หมด ไอ้คนที่มาพรากเอาเธอไปจากผม
พ่อเรียกตั้งนานสองนาน ทำไมไม่ลงไป วัน ๆ เอาแต่นั่งดูรูปโป๊ในเนต
มันตรงเข้ามาตะโกนใส่หน้าผม แล้วกระชากลากผมไปที่ประตู
ไป ! ไป ! ไปหาพ่อ
ผมสุดจะทน กระชากมือสกปรกของมันออกจากคอเสื้อผมอย่างแรง
ไอ้นริศ มึงอย่าชั่วนักเลยวะ เกิดมาก็นอกคอก มีแม่เป็นกระหรี่ ยังเสือกทำตัวนอกคอก วันหนึ่งพ่อจะหมดความอดทน แล้วไสหัวมึงไปอยู่ข้างถนน มันชี้หน้าด่ากราดผม
นรินทร์มันเป็นพี่ชายของผม แต่ก็แค่พี่ชายที่ผูกพันกันทางสายเลือดพ่อเท่านั้น เพราะพฤติกรรมกับวาจาที่มันแสดงกับผม ไม่ต่างอะไรไปจากแสดงกับหมาตัวหนึ่ง
คุณนริศคะ เชื่อคุณนรินทร์เถิดคะ ตอนนี้คุณผู้ชายไม่สบายใจมากนะคะที่วัน ๆ คุณก็เอาแต่หลบตัวอยู่แต่ในห้อง ไม่ยอมไปเรียนหนังสือ
ยายแก่คนครัวชอบทำปากดีเที่ยวมาสั่งสอนผม ที่แท้แล้วมันก็เหมือนคนอื่น ๆ คอยด่าคอยซ้ำเติมผมอยู่ตลอดเวลา
ไอ้นรินทร์มันยังคงพยายามเข้ามาลากตัวผมออกไป ในขณะที่ผมดิ้นรนสุดกำลัง
พอ ๆ นรินทร์ปล่อยลูก แล้วพ่อก็เดินขึ้นมาตามผมด้วยตัวเอง คงมาบ่นด่าอีกตามเคย
มันปล่อยผมเหมือนโยนลูกหมาตัวหนึ่ง ผมรีบเอาแขนยันกำแพงไม่ให้เสียหลักล้มลง
พ่อเดินเข้มาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด จ้องผมเขม็ง
นริศ ฉันมานี่จะมาบอกกับแกว่า ฉันกำลังจะหมดความอดทนกับแก การที่ฉันซื้อคอมพิวเตอร์ไว้ให้แกไว้ใช้ส่วนตัว ก็หวังว่าจะเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกในการเรียนของแก ไม่ใช่ให้แกนั่งหมกมุ่นกับมันทั้งวันแบบนี้ ฉันจะให้เวลาแกอีกปีเดียว ถ้าปีหน้าแกยังเรียนไม่จบ ก็ไม่ต้องไปเรียนมันแล้ว ฉันจะไล่แกไปอยู่ข้างถนน ไปเป็นไอ้พวกสะถุนเหมือนแม่ของแก
ผมไม่เถียง พ่อไม่ชอบให้ผมเถียง ตอนเด็ก ๆ ผมเคยเผลอไปเถียง เลยถูกตีด้วยด้ามไม้กวาดตีเสียเกือบตาย
แม่มึงมันชั่วถึงได้หนีตามผู้ชายไป แล้วก็ทิ้งไอ้เลือดชั่ว ๆ อย่างมึงที่ไม่รู้ว่าใช่ลูกกูหรือเปล่าไว้ให้กูเลี้ยง
พ่อมักจะตะโกนประโยคนี้ใส่หน้าผมทุกครั้งที่โกรธจัด ก็แม่ผมมันเป็นแค่คนรับใช้ในบ้านนี่ครับ ไม่ได้มีศักดิ์เป็นคุณนายเหมือนกับแม่ของไอ้นรินทร์กับนังนงนาฎ ถูกไอ้คนสูงศักดิ์พวกนี้กดขี่สับโขกก็คงจะหนีไปเป็นธรรมดา เหมือนความรู้สึกของผมในเวลานี้
ชีวิตที่ผ่านมา ผมเติบโตขึ้นท่ามกลางความรู้สึกต่ำต้อยน้อยวาสนา เหมือนกับขอความเมตตาและเศษทานที่มีคนในบ้านแบ่งปันให้ คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อเจอหน้ากันทีไรก็เป็นอันต้องดุต้องว่า ขณะที่ผมไม่เคยได้อะไรเท่าเทียมกับพี่น้องคนอื่น ๆ ไอ้นรินทร์กับนังนงนาฏมีทุกอย่าง ได้ทุกอย่างที่อยากได้ ได้ทุกอย่างที่ขอ นอกจากคอมพิวเตอร์แล้ว พวกมันก็ยังมีโน๊ตบุ๊คติดตัวอีกคนละเครื่อง ส่วนผมกว่าจะได้คอมฯ เก่า ๆ เครื่องนี้มาก็ต้องกราบกรานขอร้องพ่อเสียเกือบตาย
น้อยครั้งที่พ่อจะตีผม แต่พ่อก็แทบจะไม่เคยห้ามเวลานังคุณนายมันเฆี่ยนตีผม
ผมรู้อยู่เต็มอกว่า พ่อไม่เคยรักผมเลย
ทุกครั้งที่คุณนายโกรธ มันก็จะเฆี่ยนผม ตอนเด็ก ๆ ผมเคยกลัวมาก ไม่กล้าทำอะไรขัดใจมันเลย แต่ตอนนี้ผมโตแล้ว ผมดิ้นรนไม่ยอมให้มันมารังแกอีก มันเคยบอกให้ไอ้มิ่งกับไอ้ชิตคนงานสวนมารุมกระทืบผมถึงขั้นเลือดตกยางออก เรื่องมันก็เลยแดงไปถึงพ่อ โอโห ทะเลาะกันบ้านเกือบแตก มันก็เลยเข็ดไม่กล้าทำแบบนั้นกับผมอีก
ชีวิตที่ต้องยืนอยู่บนความปวดร้าวแสนสาหัส แต่แล้ววันหนึ่งความสดใสก็เริ่มโปรยปรายลงมา เมื่อพ่อซื้อคอมพิวเตอร์เก่าเครื่องนี้มาให้ผม ทำให้ผมได้พบกับเธอ
คอมฯ เครื่องนี้ เป็นของเจ้าของรีสอร์ทที่ระยอง พอภรรยาเขาตายไปเขาก็อยากจะขาย ไม่อยากจะเก็บไว้ให้คิดถึงเธอ
ผมจำได้ว่า ไอ้คนที่มันมาเสนอขายให้พ่อผมมันพูดแบบนี้ รุ่นเครื่องก็ยังไม่ล้าหลังมากนัก ราคามันถูกกว่าท้องตลาดกว่าครึ่ง พ่อเลยยอมซื้อให้ผม คงซื้อให้ด้วยความรำคาญแหละครับ เพราะผมต้องไปขอยืมใช้ของนังนงนาฎมันบ่อย ๆ
พวกนั้นออกจากห้องไปกันหมดแล้ว ผมละความสนใจจากพวกมันทันที เวลานี้เป็นเวลาของผมกับนางฟ้าสุดที่รัก เราจะพูดคุยกันตลอดวันตลอดคืนอย่างไม่รู้จักเบื่อ เธอน่ารักเหลือเกิน
Angel says: นริศคะ ทำไมเงียบไปนานจัง
เธอส่งข้อความนี้มานานแล้ว ผมไม่น่าจะไปเสียเวลากับคนพวกนั้นเลย
Naris says: ขอโทษนะครับฟ้า ก็แค่พวกไร้สาระมันมาหาเรื่อง
เธอหัวเราะ เสียงหัวเราะของเธอคงเหมือนเสียงสวรรค์ เสียงดนตรีอันไพเราะเพราะพริ้ง
ผมพบกับเธอครั้งแรก ในจอสี่เหลี่ยมนี้ ในเว็บบอร์ดหาเพื่อน โลกอินเตอร์เนตการสื่อสารที่ไร้พรมแดน การสื่อสารที่นำพาให้ผมได้มาพบกับเธอ
ชื่อฟ้าคะ อายุ 22 ฟ้าเหงาจัง อยากมีเพื่อนชายคุยด้วยสักคน
ผมอ่านแล้วรีบแอดเข้าไปหาเธอทันที เธอรอผมอยู่จริง ๆ ด้วย เธอมักจะ Online อยู่เกือบตลอดทั้งวันทั้งคืน
ตอนแรกเธอยังลังเล ไม่กล้าโชว์รูปให้ผมดู แต่ช่วงหลัง ๆ เธอคงหลงในคารมของผม จึงยินยอม แล้วผมก็ใช้ไหวพริบส่วนตัวกด Print Sceen แล้ว Save รูปมาเก็บไว้
คุณเชื่อไหมครับ เธอช่างสวยเหลือเกิน
ใบหน้าเรียวยาวรูปไข่ ผิวพรรณขาวผ่อง พวงแก้มเปล่งปลั่ง ดวงตาคม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางแดงเรือง น่าจูบ
ผมจูบเธอ ผมจูบรูปของเธอที่ผมขยายแล้วปริ้นใส่ลงบนกระดาษเอสี่กันน้ำ จูบทุกวันทุกคืน แล้ววันหนึ่งผมคงจะได้ไปจูบตัวจริงของเธอ
เธอยอมบอกผมแล้วครับ ยอมบอกผมว่าเธออยู่ที่ไหน
เธอเป็นคนจังหวัดระยองครับ พักอยู่แถว ๆ ชายหาด ดีแล้ว ผมเคยไปหาดแถวนั้น ตอนที่พวกคนในบ้านนี้สั่งให้ผมไปคอยรับใช้ตอนที่พวกมันไปเที่ยวที่นั่น
ท้องมันร้องเหลือเกิน ผมกำลังเปิดตู้เย็นคุ้ยหาอะไรมายัดใส่ท้อง
อ้อ... พอหิวก็รู้จักออกมาหาอะไรกิน วัน ๆ ไม่คิดที่จะทำอะไร คลุกอยู่แต่ในห้อง เลี้ยงแล้วเสียข้าวสุก คนที่ผมต้องเรียกมันว่าแม่ มักจะคอยด่าทอเหน็บแนมผมเช่นนี้ทุกครั้งที่มีโอกาส
แกไปล้างรถให้ฉัน เดี๋ยวฉันจะไปข้างนอก หัดทำงานตอบแทนข้าวแดงแกงร้อนเสียบ้าง มันเริ่มออกคำสั่งใช้งานผม
ผมหยิบซองมาม่ากับขวดน้ำ แล้วเดินผ่านหน้ามันไปทันที
ไอ้นริศ ! ไอ้นริศ ! ที่ฉันสั่งแก แกไม่ได้ยินเหรอ เลี้ยงเสียข้าวสุก ไอ้สันหลังยาว เสียงของมันตะโกนไล่หลัง
ผมไม่สนใจเสียงด่าทอของมัน ได้ยินบ่อย ๆ จนชินแล้ว ตอนนี้ผมสนใจแต่นางฟ้ากำลังรอผมอยู่ในห้อง
Angel says: นริศคะ ฟ้าเหงาจังเลยคะ ที่นี่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้าพอดี แสงสีส้มสวยจัง บรรยากาศโรแมนติกมากเลยคะ
ประโยคนั้นเชิญชวนให้ผมอยากจะเข้าไปสัมผัสแนบชิดกับเธอเสียเหลือเกิน
โอ.. ที่รัก
Naris says: ฟ้าเหงาหรือครับ ถ้าผมจะไปหา คุณจะยอมออกมาพบผมหรือเปล่าครับ
เธอเงียบไป เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ
Angel says: ฟ้ากลัวแต่ว่านริศจะไม่กล้ามาหาฟ้า ในที่ที่ฟ้าอยู่จริง ๆ น่ะสิคะ
โอ.. ที่รัก ทำไมพูดแบบนั้น
Naris says: ผมพร้อมเสมอนะครับที่จะไปหาฟ้า หากฟ้าต้องการ
เธอส่งสัญลักษณ์หัวเราะ เธอหัวเราะอีกแล้ว เสียงหัวเราะของเธอราวกับทำให้ความมัวหมองทั้งหมดในโลกใบนี้จางหายไป
Angel says: อย่าลำบากเลยคะ ฟ้าไปหานริศเองดีกว่า
ประโยคนั้นทำให้ดวงตาของผมเบิกกว้าง กดนิ้วขยับแป้นคีย์บอร์ดถามเธอแทบจะไม่ทัน
Naris says: จริงรือครั ฟ้าจะมากรุงเท จริ ๆ หรือคับ เมื่ไหร่ ที่ไหน ครับ
ความตื่นเต้นดีใจทำให้ผมพิมพ์ผิด ๆ ถูก ๆ
Angel says: คืนนี้ค่ะ คืนนี้ ฟ้าจะไปหาคุณ
หัวใจผมเต้นระทึก นี่เธอกำลังล้อผมเล่นงั้นหรือ
Angel says: ในฝันคะนริศ ในฝัน
ผมอ่านประโยคนั้น ก่อนที่จะถอนหายใจยาวด้วยความผิดหวัง
Naris says: โถ่..ฟ้า หลอกให้ผมดีใจ
Angel says: ไม่ได้หลอกค่ะ ไม่ได้หลอกจริง ๆ
แล้วเธอก็ส่งสัญลักษณ์หัวเราะ เสียงหัวเราะของเธอคงน่าเอ็นดู
วันนั้นเธอออฟเร็วเหลือเกิน มันช่างเป็นคืนที่เงียบเหงา แสงจันทราสาดส่องอาบให้ห้องนอนผมเป็นสีนวลตา บรรยากาศอบอวลไปด้วยอุ่นไอรักชวนให้ผมเฝ้าคิดถึงแต่เธอ ปล่อยความหวังและความฝันอันแสนหวานล่องลอยไปกับแสงจันทร์เพื่อส่องสว่างไปยังสถานที่ที่เธอยืนอยู่
คืนนั้นเหตุใดเปลือกตาของผมจึงเมื่อยล้านัก ทั้ง ๆ ที่บางคืนผมคุยกับเธอเกือบตลอดคืนจนแทบจะไม่ได้หลับได้นอน ความง่วงงุ่นกำลังจะพาให้ผมเข้าสู่นิทรารมย์อันสงบ แต่แล้วกลับมีร่างของใครบางคนปรากฏขึ้นตรงหน้า
เธอ !
ใช่เธอจริง ๆ ด้วย ผมไม่ได้ตาฝาด
เธออยู่ในชุดเบาบางบานพลิ้ว ชายกระโปรงโบกสะบัดไปตามสายลมโชยอ่อน ๆ ที่พัดผ่านเข้ามาทางบานหน้าต่าง เส้นผมของเธอสยายยาวปะบ่ายั่วยวนยิ่งนัก
ฟ้า ! ผมร้องเรียกชื่อเธอด้วยความตกใจ
ยังไม่ทันที่จะตั้งตัว เธอก็เอาปลายนิ้วชี้แตะเบา ๆ ที่ริมฝีปากผม นิ้วมือของเธอเย็นเฉียบแต่นุ่มนวล ชวนให้ผมลูบไล้ตั้งแต่ปลายนิ้วไปจนทั่วฝ่ามือ วงแขนผมเริ่มโอบรัดเอวบางของเธอ แล้วค่อย ๆ ลูบไล้ไปเรื่อย ๆ เนื้อหนังมังสาของเธอช่างนุ่มนิ่มหอมหวนเหมือนดั่งภาพฝัน
ฟ้า คุณจริง ๆ หรือ ผมไม่อยากจะเชื่อเลย
ผมพึมพำเบา ๆ แต่ริมฝีปากยังไม่หยุดที่จะจูบเธอไปทั่วพวกแก้มแล้วต่ำลงมาที่ซอกคอ นิ้วมือผมเริ่มลูบไล้เนื้อนิ่ม ๆ ของเธอทีละส่วน แล้วไปหยุดอยู่ตรงยอดอกอันอวบอูมนุ่มนิ่มเต็มไม้เต็มมือ
ค่ะ คุณเคยบอกที่อยู่ของคุณกับฟ้าแล้ว เธอตอบผสมเสียงคราง อ่อนระทวยอยู่บนตักของผม
พริบตาเดียว ผมก็ถอดชุดนอนบางเบาของเธอทั้งชิ้นในและชิ้นนอกหลุดลงไปกองกับพื้นห้อง เธอดิ้นหลุดออกจากอ้อมแขนของผมลงไปเกลือกกลิ้งอยู่บนเตียงอย่างยั่วยวน แสงจันทร์สลัวที่อาบร่างอันเปลือยเปล่าของเธอทำเอาผมแทบคลั่ง ผมรีบจัดการกับเสื้อผ้าตัวเองถอดมันออกมาทุกชิ้น บัดนี้สัญลักษณ์ความเป็นชายของผมผงาดตื่นตัวเตรียมทำหน้าที่ของมันอย่างเต็มภาคภูมิ
อืม... เนื้อหนังเธอช่างนุ่มนิ่มเหลือเกิน พื้นที่สวนดอกไม้ก็เนืองแน่นบดเบียดรัดเกสรตัวผู้ของผมเสียจนมิดชิด เสียงครางงึมงำของเราสองคนประสานกันคละเคล้ากับเสียงสั่นไหวของที่นอนสปริงหนานุ่ม
อา... ผมควบเธอทิ้งน้ำหนักไปในการขับเคลื่อนอย่างเร้าร้อน ดูเธอมีความสุขส่งเสียงร้องระงมจนไม่เป็นภาษา
แรงอัดในกายผมเริ่มจุกแน่นขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดสูงสุด แล้วมันถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มแรง พุ่งตรงสู่เธอผู้เป็นเป้าหมาย แรงอัดแห่งความรักที่มีอยู่เต็มหัวใจถูกปลดปล่อยเข้าไปในร่างของเธออย่างเต็มเปี่ยม
หมดพลังรักผมก็หมดเรี่ยวแรง ไม่เคยออกแรงมากเท่านี้มาก่อน อย่างดีก็ได้แต่มองภาพเปลือยของผู้หญิง แล้วจินตนาการขับเคลื่อนมันด้วยสองมือของตัวเอง
ก่อนหน้านี้ ผมยังไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหน
ผมหมดเรี่ยวแรงจริง ๆ ไม่มีแรงแม้แต่จะเอื้อมแขนเข้าไปโอบกอดเธอ
..............................................
แสงแดดลอดผ่านบานหน้าต่างเข้ามาส่องเปลือกตาที่หลับสนิทของผม ความร้อนระอุทำให้ผมต้องตื่นขึ้นมา ผมพลิกร่างเปลือยของตัวเองคลำหาร่างขาวผ่องข้างกาย
ว่างเปล่า !
บนเตียงผมว่างเปล่า เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำอมฤต
ผมจำได้ว่า ผมปลดปล่อยมันใส่เธออย่างเต็ม ๆ ถึงจะไหลย้อนออกมาอีกครั้ง ก็ไม่น่าจะมากมายถึงเพียงนี้
ผมรีบลุกขึ้นใส่เสื้อผ้า เปิดประตูห้องนอนออกไปเดินตามหาเธอทั่วทุกซอกทุกมุมของบ้าน
ไม่มี.... ไม่มีแม้แต่เงาของเธอ
เหตุการณ์เมื่อคืนผมแน่ใจว่ามันไม่ใช่ความฝัน สัมผัสได้ถึงทุกตารางนิ้วบนเรือนร่างอันเนียนนุ่มหอมรัญจวนอย่างยากที่จะลืมเลือน
ไอ้นริศ ! แกขับรถไปส่งฉันที่บางลำภู ไอ้ไสวมันลาป่วย เร็ว !
นังคุณนายมันมาออกคำสั่งใช้งานผมอีกแล้ว ผมไม่อยากเห็นหน้ามัน
อย่านะ ! แกอย่างเดินหนีฉันเชียว เรื่องเมื่อวานฉันยังไม่ได้สะสางกับแก มันยังตวาดใส่หน้าผมเสียงดัง
ผมเดินผ่านหน้ามันไปอย่างไม่ใส่ใจ ไม่มีอะไรอีกแล้วจะสำคัญไปกว่ายอดรักของผม
ไอ้นริศ ! ไอ้ชั่ว ! เสียงมันยังไล่หลังมา
ผมเข้ามาในห้องนอนตัวเองกดปุ่มเปิดคอมพิวเตอร์ ต่อสายอินเตอร์เนตเปิดโปรแกรม MSN Messenger เธอ On อยู่จริง ๆ ด้วย
Naris says: ฟ้า !
Angel says: นริศคะ เมื่อคืนฟ้าต้องขอโทษนะคะ ที่จากมาโดยไม่ได้ล่ำลา เกรงว่าคนในบ้านของคุณจะมาพบเข้าน่ะคะ เธออธิบาย
ใช่ ๆ จริง ๆ ด้วย มันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ความฝัน
โอ.. ที่รัก ยอดรักของผม
นริศ ! ๆ
มีคนเข้ามาขัดจังหวะเราสองคนอีกแล้ว นงนาฎลูกสาวคนเล็กของคุณนายเดินเข้ามาในห้อง
แย่จริง นี่ผมลืมไม่ได้ลั่นกลอนล็อคประตูไว้ได้ยังไงนี่
เอามือถือแกมาให้ฉันยืมใช้ก่อน ของฉันมันเสีย
พอพูดจบมันก็เข้ามาคว้าโทรศัพท์มือถือเครื่องแรกและเครื่องเดียวในชีวิตผม เครื่องที่ผมกว่าจะได้มาต้องใช้ความเพียรพยายามขอร้องพ่ออยู่นาน
ผมรีบคว้าไว้ก่อนที่มือมันจะสาวถึง
โธ่เอ่ย ! งกไปได้ วัน ๆ แกนั่งหน้าจอทั้งวัน จะไปใช้อะไร เอามา
มันเงื้อมือเข้ามาแย่ง ผมผลักมันกระเด็นหลังชนประตูดัง โคร่ม !
ไอ้นริศ ไอ้ลูกนอกคอก แกกล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้
มันตรงเข้ามาตบหน้าผมเข้าฉาดใหญ่ ความเจ็บปวดผสมกับแรงโมโหที่มันเข้ามาขัดจังหวะคุยกับยอดรัก ทำให้ผมโต้ตอบมันกลับอย่างรวดเร็ว แรงกระแทกจากหมัดของผมทำเอาตัวมันลอยละลิ่วกระเด็นซบลงไปนอนบนเตียงนอน
มันลุกขึ้นมาอย่างงุนงง ฝ่ามือกุมปากที่มีเลือดไหลออกมาเป็นทาง โอดครวญความเจ็บปวดอยู่ได้ไม่นาน ก็รู้สึกตัวว่าแขนทั้งแถบของมันเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำทิพย์แห่งเพศผู้ที่ผมปลดปล่อยไว้เมื่อคืน
กรี๊ด !ๆๆๆๆ ไอ้นริศ ไอ้บ้ากาม! มันกรีดร้องเสียงดัง แล้ววิ่งออกไปจากห้อง ผมตามเข้าไปลั่นกลอนประตูล็อกลูกบิดอย่างมิดชิด
Angel says: นริศคะ ฟ้าคิดถึงคุณจังเลย
ประโยคอันหวานรัญจวนนั้น ทำให้เลือดหนุ่มของผมเริ่มเดือดพล่านขึ้นมาอีกครั้ง
Naris says: ฟ้าครับ ผมจะมีโอกาสแบบเมื่อคืนนี้อีกไหม
ใจจริงผมอยากจะกระซิบประโยคนั้นข้างหูเธอ มากกว่าบอกผ่านตัวอักษรแบบนี้
Angel says: มีสิคะ ถ้ามีโอกาสฟ้าจะไปหาคุณอีก
อ่านประโยคนั้นแล้วเลือดหนุ่มของผมยิ่งร้อนผ่าวมากขึ้น
Naris says: ผมไปหาฟ้าดีกว่านะครับ ผมรู้จักแถวนั้นผมเคยไป
ผมกดแป้นคีย์บอร์ดบอกเธอรัวแทบจะไม่ทัน
Angel says: อย่าเลยคะ ฟ้าเกรงว่า หากคุณรุ้ว่าฟ้าอยู่ที่ไหน คุณจะไม่กล้ามาหาสิคะ
โอ... ยอดรัก ทำไมพูดเช่นนั้น
ไอ้นริศ ! ไอ้นริศ ! เสียงตะโกนของอีคุณนายพร้อมกับเสียงของแข็งกระแทกประตูอย่างแรงจนบานประตูเปิดผงาดออก
ผมรีบคว้าเอารูปนางฟ้ายอดรักของผมที่ปริ้นใส่กระดาษเอสี่ไว้นานแล้วมาพับใส่ลงในกระเป๋ากางเกง
คนที่เดินนำเข้ามาคือ ไอ้มิ่งกับไอ้ชิต คนงานทำสวน ไอ้สองคนนี่แหละที่นังคุณนายมันเคยใช้ให้พวกมันซ้อมผม
ผัวะ !
นังคุณนายมันตรงเข้ามาตบผมเต็มกกหู
แกกล้าดียังไงไอ้นริศ มาชกหน้าลูกสาวฉัน ไอ้ตัวซวย
มันบอกให้ไอ้มิ่งกระชากคอเสื้อผมให้ลุกขึ้น ตะโกนใส่หน้าเสียงดัง กลิ่นเหม็นเน่าของน้ำลายมันสาดกระเด็นเต็มหน้า
วันนี้ฉันเอาแกตายแน่ไอ้นริศ ลูกฉันเลี้ยงมาไม่เคยตีสักแปะ แล้วแกคิดจะทำอะไรของแก คิดจะบ้ากามกับลูกสาวฉันเหรอ ไอ้ชั่ว
มันตบหน้าผมเข้าอีกฉาดใหญ่
ซ้อมมัน ! แล้วมันหันไปออกคำสั่งกับไอ้ชิต
สิ้นเสียงของมันผมก็ดิ้นรนสุดแรง ไม่ยอมให้พวกมันรุมกระทืบอีกเด็ดขาด ผมชกไอ้มิ่งกระเด็นหลังกระแทกผนัง แล้วรีบกระโดดออกทางหน้าต่าง โชคดีที่ห้องนอนผมอยู่ชั้นล่าง
ผมวิ่งไปที่ประตูรั้ว ออกวิ่งอย่างเต็มแรง พวกมันกำลังตามมา
ผมจะไปหาเธอ นางฟ้าของผม ไปตามที่หัวใจเรียกร้อง พอกันทีไม่อยู่แล้วไอ้บ้านบ้า ๆ หลังนี้
พวกมันไล่ตามผมมา ผมวิ่งมาที่ประตูกระโดดปีนรั้วลงมายังพื้นถนน โบกรถมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างแล้วกระโดดขึ้นไป ผมหนีมันพ้นแล้ว พวกมันตามมาไม่ทัน ฮ่า ๆ
ผมกำลังจะไปหาคุณ นางฟ้าที่รัก มีคุณคนเดียวที่รักและเข้าใจผม
....................................
ผมไปตามหาเธอที่ระยอง เงินที่ติดมาในกระเป๋ายังมีเหลืออีกนิดหน่อยคงจะพอมีเหลือเป็นค่าเดินทาง
พอถึงที่นั่น ผมนั่งรถสองแถวจากขนส่งไปลงที่ชายหาด แถบที่เธอเคยบอกว่าพักอยู่แถวนั้น รูปเหมือนที่ปริ้นออกมาในมือ กับชื่อของเธอคงพอจะถามชาวบ้านในละแวกนั้นได้
อ๋อ ! ผู้หญิงคนนี้เหรอ รู้จัก เคยเป็นผู้จัดการรีสอร์ทหลังคาสีเทานั่น แล้วยายขายข้าวแกงชี้ไปทางรีสอร์ทแห่งหนึ่ง อยู่ห่างออกไปอีกไม่ไกลนัก
ขอบคุณครับ ขอบคุณมากเลยครับยาย ผมดึงรูปกลับมาแล้วรีบวิ่งตรงไปทันที โดยไม่ฟังเสียงใด ๆ อีก
เฮ้ย ! เดี๋ยว ! เดี๋ยวสิ ไม่ฟังเสียงเอาสะเลย
เจ้าของรีสอร์ทแห่งนั้น เป็นชายวัย 40 ปีเศษ เขาขมวดคิ้วเพ่งมองรูปที่ผมส่งให้อยู่นาน
ตกลงน้ารู้จักผู้หญิงในรูปนี้ไหมครับ ผมร้อนใจถามย้ำอีกครั้ง
เขาพยักหน้า หัวใจของผมลิงโลดด้วยความดีใจ
จริงหรือครับ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนครับ ผมถามเสียงรัวจนฟังแทบไม่ได้ศัพท์
เขาจ้องหน้าผมด้วยแววตาประหลาดใจ ก่อนที่จะพูดขึ้น
พ่อหนุ่ม ผู้หญิงคนนี้เป็นภรรยาเจ้าของเดิมที่นี่
ผมเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ภรรยาเจ้าของเดิมที่นี่
เธอมีสามีแล้วหรือนี่ !
และประโยคต่อมาที่เขาบอกก็ทำหัวใจของผมแทบหยุดเต้น
แต่เธอตายไปหลายปีแล้วนะ มีคนพบศพเธอลอยมาเกยหาด ตำรวจสันนิษฐานว่าเธอถูกคนร้ายหลายคนรุมข่มขืนแล้วฆ่า ก่อนที่จะโยนศพลงทะเล สามีเธอทำใจไม่ได้ที่จะอยู่ที่เดิมต่อไป เลยบอกขายต่อให้ผมนี่แหละ
เขาส่งรูปในหนังสือพิมพ์ฉบับที่ทำข่าวของเธอให้ผมดู ใบหน้าของศพนั้นแม้จะอืดบวมแต่ผมก็จำได้แม่นว่าเป็นเธอ
นี่ไง หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ผมยังเก็บเอาไว้อยู่เลย
คำอธิบายของเขาทำให้ทุกสิ่งรอบกายของผมหยุดหมุน ผมลอยเคว้งคว้างอยู่ท่ามกลางดงหมอกอันมืดมิด ความทรงจำเกี่ยวกับตัวเธอหมุนวนสับสนไปหมด
เธอตายแล้ว !
ถูกข่มขืนแล้วฆ่าตาย !
แล้วผมพูดคุยกับใคร !
แล้วผมนอนกับใคร !
สิ่งที่ผมกอดจูบและสัมผัส แท้จริงแล้วมันคืออะไรกันแน่ !
เธอหลอกผม !
เธอตายแล้ว เธอมาหลอกให้ผมรักทำไม เธอตายไปแล้วเราจะอยู่ด้วยกันได้ยังไง
ท่ามกลางชีวิตที่ลอยเคว้งคว้างอยู่บนหนทางอันมืดมน แล้วเธอก็เข้ามายึดเหนี่ยวให้ผมยืนหยัดอบอุ่นหัวใจ แต่แล้วมันกลับกลายเป็นความหลอกลวง หลอกลวงอย่างเยือกเย็น
ผมถูกผีหลอก !
หลอกให้ผมจมปลักอยู่กับภาพหลอนของเธอ
จนบัดนี้... ที่ต้องจมปลักอยู่กับความปวดร้าว
ผมไม่ยอมแพ้....
ผมจะไปหาเธอ....
เกลียวคลื่นสีน้ำเงินม้วนตัวขึ้นสูงตามกระแสลมแรง สาดซัดเป็นละอองฟองขาวกระทบร่างอันอ่อนแรง ผมยืนหยัดต้านแรงกระแทกของน้ำได้ไม่นาน มันก็ท้วมท้นขึ้นมาเรื่อย ๆ จนค่อย ๆ มืดมัวลงตรงหน้า แรงกระหน่ำของแรงอัดในน้ำ ราวกับเข็มเป็นพัน ๆ เล่มทิ่มแทงลงบนร่างจนแทบจะแหลกละเอียด
นั่นไง ! เสียงคุ้น ๆ หูดังแว่ว ๆ มาจากข้างหลัง
นั่น ! ๆ โว้ย เห็นหัวดำ ๆ ผุด ๆ ตรงนั้น ว่ายเข้าไปดู ว่ายเข้าไป
เสียงคุ้นหูนั้นเริ่มจางหายไป มโนภาพของเธอล่องลอยอยู่ตรงหน้า สัมผัสความรู้สึกเริ่มชาด้านไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดอีก ก่อนทุกอย่างตรงหน้าจะพลันดับลง
นริศ ๆ นี่พ่อนะลูก กลับมา กลับบ้านเราเถิดลูก
เสียงนั้นล่อยลอยผ่านเข้ามาในการรับรู้ แต่คงมิใช่คลื่นเสียงที่ผ่านเข้าไปในประสาทสัมผัสทั้งห้า
คอมพิวเตอร์เครื่องเดิมในห้องนอนเล็ก ๆ สว่างวาบขึ้น เว็บบอร์ดหาเพื่อนชื่อดังฉายแสงขึ้นมา ลำแสงสว่างเป็นแถบสีน้ำเงินจัด
ชื่อฟ้าคะ อายุ 22 ฟ้าเหงาจัง อยากมีเพื่อนชายคุยด้วยสักคน
.........................จบ...........................
คนที่หลงทางอยู่ในโลกส่วนตัวหาทางออกไม่ได้ ก็เหมือนผีร้ายเกาะกินใจจนตาย
Create Date : 30 ธันวาคม 2547 |
|
2 comments |
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2548 9:53:13 น. |
Counter : 740 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ฉี่เย่ IP: 125.25.59.105 30 กันยายน 2550 15:29:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: วังวน 20 มิถุนายน 2551 11:54:10 น. |
|
|
|
|
|
|
|
นาราหญิงสาวที่มีความฝันว่าเขาจะต้องเป็นเจ้าสาวของจินหนุ่มหล่อ เก่งเรียนดีก็ตั้งแต่ที่เธอเจอจินตอนนั้นเธออายุ5ขวบจินอายุ8ขวบเป็นครั้งแรกที่เธอได้เจอเขาเพราะตอนนั้นคุณพ่อเชิญเพื่อนรักมาเลี้ยงข้าวที่บ้านเธอก็เลยได้เจอเขาและก็ได้สารภาพรักไปแล้วจินเองก็บอกว่าไว้ให้เธอโตอายุ18แล้วเขาจะรับพิจารณานาราก็เลยตั้งใจที่จะเป็นเจ้าสาวของเขาเธอทำทุกอย่างทั้งเรื่องเรียนและรูปร่างของเธอที่จะต้องโตน่ามองให้ได้
หลังจากที่เจอกันตอนเป็นเด็กเธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลยเพราะเธอต้องย้ายตามพ่อกับแม่ไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่เด็กแต่ว่าเธอก็ยังจำจินได้ไม่มีวันลืมรักแรกของเธอถึงจะอยู่ที่เมืองนอกเธอก็ตั้งใจเรียนและทำตัวดีดีส่วนเรื่องของจินเธอก็ให้คุณแม่คอยโทรถามกับเพื่อนคุณแม่(ก็แม่จินนั้นแหละ)ให้ว่าเขาอยู่ยังไงเป็นยังไง แต่ว่าตอนนี้เธออยู่ที่เมืองไทยแล้วเพราะเธอขอพ่อกับแม่ว่าอยากมาเรียนม.ปลายที่เมืองไทยตอนแรกพ่อกับแม่ก็ไม่เห็นด้วยแต่เธอก็ยืนยันว่ายังไงเธอก็จะมาที่เมืองไทยให้ได้ถ้าไม่อนุญาตเธอก็จะหนีไปอยู่ที่อื่นและคงไม่ใช่เมืองไทยเธอจะไปที่ที่พ่อกับแม่จะไม่มีวันเจอเธอเมื่อพ่อกับแม่โดนขู่แบบนี้ด้วยความรักลูกพวกท่านอนุญาตให้เธอมาอยู่ที่เมืองไทยและพักอยู่กับครอบครัวเพื่อนรักของพ่อนั้นก็คือบ้านจินนั้นเองภารกิจพิชิดใจของจินก็จะเริ่มขึ้นที่เธอตัดสินใจมาที่เมืองไทยเพราะเธออยากอยู่ใกล้จิน อยากรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นคนยังไงและเขายังจะจำคำพูดที่เขาเลยพูดไว้ได้หรือเปล่าว่าถ้าเธอโตอายุ18เขาจะรับรักเธอถึงจะต้องใช้เวลาสามปีที่อยู่ที่บ้านจินเธอจะทำให้เขารักเธอให้ได้ถึงจินจะมีผู้หญิงที่เขาชอบหรือคบอยู่ก็ตามเธอก็จะไม่มีวันยอมแพ้เป็นอันขาด
เรื่องรักวุ่นๆจึงเกิดขึ้นและเธอก็ประกาศให้เพื่อนๆได้รู้ว่าเธอรักจินมากแค่ไหนขนาดเจ็บปวดเธอก็ยังจะรักเขาต่อไปแต่สุดท้ายแล้วความรักของพวกเขาจะเป็นยังไงก็คงจะต้องติดตามดู ลุ้นหัวใจให้ลงล็อก
เขียนโดย
กิ่งแสงราตรี
11/08/2007
สงวนลิขสิทธิ์