Neverending Story จินตนาการไม่รู้จบ................
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
คลายปม




1.


หนังสือตอบปัญหาธรรมะของท่านชยสาโรภิกขุ
เรื่องการปฏิบัติธรรมและความคิดในทางพุทธศาสนา
ฉันหยิบมาอ่านเพราะนอนไม่หลับเมื่อหลายคืนก่อน
เพราะคิดเรื่องอะไรต่อมิอะไรเยอะแยะ
แล้วก็ทำให้หลับสบายหลังจากอ่านจบ
ไม่ใช่เพราะเข้าใจลึกซึ้งในคำตอบเหล่านั้นหรอก
แต่ทำให้เข้าใจว่า โลกนี้เต็มไปด้วยปัญหา..
ปัญหาหลากหลายเหล่านั้นเกิดจากความคิดของคน
และปัญหาของฉันก็ไม่ต่างอะไรกับคนอื่น
ปัญหาโลกแตก... ที่เกิดจากปมที่ผูกไว้
ปมของใครของมัน ใครเป็นคนผูกคนนั้นก็ต้องเป็นคนแก้


มนุษย์มีทั้งปมเด่นและปมด้อยในตัวเอง
คนที่เรียนเก่ง เกิดมาสวย มีความสามารถ มีพรสวรรค์
หรือมีฐานะดี ถือได้ว่าเป็นคนมีปมเด่นมาตั้งแต่เกิด
แต่บางครั้งสิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้น
เพราะความมีปมด้อยของตัวเองก็ได้
เช่น เกิดมาในฐานะยากจน ก็พยายามสร้างตัวจนร่ำรวย
ไม่มีพรสวรรค์ เรียนไม่เก่ง ก็มีความพยายามขยันหมั่นเพียร
หรือศัลยกรรมพลาสติก ก็สามารถทำคนไม่สวยไม่หล่อ
ให้หล่อและสวยขึ้นได้ไม่ยากด้วยเทคโนโลยีต่างๆ


ปมเด่นอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
และปมด้อยอาจไม่ใช่เรื่องร้ายเสมอไปก็ได้
ตัวอย่างเช่นที่กล่าวข้างต้น
แต่สำหรับปมเด่นที่กลายเป็นสิ่งไม่ดี
มันเกิดขึ้นเพราะการให้ค่าของปมเด่นในตัวเองนั้นมากไป
และการให้ค่านั้น แสดงออกด้วยการไปลดค่าของคนอื่น
ดูถูก เหยียดหยาม หรือพยายามยกตัวเองให้สูง
จึงมีคำกล่าวว่า "อย่ายกตัวเองให้สูงขึ้นด้วยการลดคนอื่นให้ต่ำลง"
เพราะทุกคนย่อมมีค่าเสมอกันในศักดิ์ศรีของความเป็นคน






2.


คนที่มีปมด้อย แต่อยากจะสร้างปมเด่น
ด้วยการแสดงออกในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่ควรจะเป็น
ด้วยความคิดว่า นั่นจะทำให้ตัวเองนั้นเด่นขึ้น มีค่าขึ้น
แต่กลับกลายเป็นว่า กำลังลดค่าของตัวเองลงไปทุกทีๆก็มี


การใช้อำนาจเหนือคนอื่น กดขี่หรือข่มเหงรังแกคนอื่น
เพื่อทำให้รู้สึกว่า ตัวเองมีอำนาจเหนือใคร
แต่ไม่ตระหนักถึงผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นว่ามันอาจเกิดความเสียหาย
กับชีวิตของใครก็ตาม หรือแม้แต่กระทั่งตัวเอง
เพราะการกระทำใดๆ ที่ทำจนฝังรากลึกเข้าไปถึงจิตใต้สำนึกแล้ว
มันจะกลายเป็นอุปนิสัย และติดอยู่ในกมลสันดาน แก้ไม่หาย
กว่าจะรู้ว่าทำผิดพลาดเสียหาย ก็สายเกินแก้เสียแล้ว


ที่พูดมาทั้งหมดนี่ ...
ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านอาจารย์คลายปมเลยสักนิดเดียว
พูดเพ้อเจ้อไปเรื่อยๆอย่างนั้นเอง ...
หนังสือของท่านอาจารย์ ถือเป็นหนังสือโปรดของฉัน
การตอบคำถามชนิดชี้ให้เห็นแบบตรงประเด็นไม่อ้อมค้อม
ไม่เอาใจคนถาม หรือ อ้างคุณวิเศษใดๆ ของพระพุทธเจ้า
นอกไปจากความจริงแท้ ที่ทรงตรัสสอนไว้
เป็นสิ่งที่พุ่งเข้าสู่หัวใจได้ดีกว่า และชัดเจนกว่า
ที่จะเข้าถึงธรรมที่เป็นเนื้อหาล้วนๆ
แต่ทำให้เกิดความประทับใจทุกครั้งที่ได้อ่าน






3.


ปมที่เกิดขึ้นจากความคิดของคน
หรือทัศนคติในแต่ละบุคคล ที่พระท่านเรียกว่า ทิฐิ
เป็นความแตกต่างในตัวมนุษย์ ที่ไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร
ต่างคนต่างมีทิฐิ เป็นของตัวเอง กว้างหรือแคบ หยาบหรือละเอียด
สุดแท้แต่ความละเอียดอ่อนในจิตใจของคนๆนั้น
รวมถึงพื้นฐานจิตใจที่ถูกหล่อหลอมมาจากกรรมเก่า
จากการเลี้ยงดู สิ่งแวดล้อม การศึกษา และสันดานของตัวเอง
ใครที่มีความคิดเห็นที่ถูกต้องตามธรรม ก็เรียกว่าสัมมาทิฐิ
ใครที่มีความเห็นที่หยาบกระด้าง ผิดความจริงก็เรียกว่ามิจฉาทิฐิ
สิ่งเหล่านี้จะหล่อหลอมคนให้มีชีวิตไปในทางที่ได้ผูกปมไว้


การผูกปมที่เกิดขึ้นเพราะคนอื่น จากการเลี้ยงดู การศึกษา
อาจเป็นปมที่สวยงาม เกิดสิ่งที่มีประโยชน์ได้
ปมเหล่านั้นจะต่อยอดสร้างชีวิตให้กับคนๆนั้นต่อไป
แต่ในทางพุทธศาสนา ปมเหล่านี้ก็ทำให้คนมีอัตตาตัวตน
ที่จะผูกพันมนุษย์ไว้กับโลก ท่านจึงสอนให้ละเสีย
พยายามหาทางคลายปมเหล่านั้นออก ไม่ให้ติดอยู่
แต่ให้มองเห็นความจริงว่า ไม่ว่าสิ่งที่ดีหรือเลว
ก็สามารถผูกคนให้วนเวียนว่ายอยู่ในวัฎฎะได้ไม่ต่างกัน
การคลายปมจึงต้องค่อยพิจารณาแกะปมเหล่านั้นไปทีละเปลาะๆ
ให้การยึดมั่นถือมั่นทั้งหลาย ไม่ว่าดีหรือชั่วค่อยๆคลายไปหลุดไป


ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
เพราะถ้าง่าย ใครๆ ก็ทำได้กันหมดแล้ว
แต่ถ้ายาก ก็คงไม่มีใครบรรลุเป็นพระอริยเจ้าได้เยอะแยะน่ะซิ
การคลายปมที่ท่านอาจารย์อธิบายให้ฟังในหนังสือ
คลายทั้งปมหยาบ ปมละเอียด ตามแต่ภูมิธรรมของแต่ละคนจะเข้าถึง
มีสติปัญญาพินิจพิจารณามองเห็นได้ลึกซึ้งขนาดไหน
ก็จะแก้ปมในใจได้เพียงนั้น






4.


อย่างที่เกริ่นไว้ข้างต้นว่าปมเด่นที่ใครบางคนมีและเป็น
บางทีอาจไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป
ถ้าใช้ปมเด่นของตัวไปในทางที่ผิด
ด้วยการหลงติดในปม ด้วยการลุแก่อำนาจวาสนาที่มี
มองเห็นชีวิตไม่ใช่ชีวิต คนไม่ใช่คน
ปมเด่นที่มีทั้งฐานะ อำนาจ วาสนา ที่ควรจะเป็นสิ่งช่วยส่งเสริมความดี
กลับกลายเป็นส่งเสริมกิเลส ตัณหา อุปาทานให้มากขึ้น
อาศัยปมเหล่านั้นเป็นเครื่องมือฆ่าตัวตายทั้งเป็น
อาศัยปมเหล่านั้นสร้างบาปกรรมอย่างชนิดลบล้างไม่หมด
ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ไม่ว่าจะทำด้วยความตั้งใจหรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์
แต่มันเป็นการผูกเงื่อนตายให้กับชีวิตไปชั่วกัปชั่วกัลป์
และผลลัพธ์ของมัน ไม่ได้ทำลายชีวิตของตัวเองเท่านั้น
แต่มันทำลายทุกอย่างที่อยู่รอบๆตัว หมดสิ้น ...
ไม่เหลือแม้แต่พื้นฐานจิตใจของความเป็นคน..ที่ควรจะมี


ปมเหล่านี้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เพราะเหตุปัจจัย
แต่การจะพ้นจากโลกนี้ได้ ต้องเข้าใจที่มาของเหตุปัจจัยเหล่านี้ก่อน
และพยายามคลายปมนี้ให้หมดไป
วันหนึ่ง จะไม่มีปมในใจเหลือให้ต้องมาตั้งคำถามอีก..


ปล. นอกจากชื่อหนังสือแล้ว ที่เขียนมาทั้งหมดนี้
ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องที่ท่านอาจารย์สอนเลย
ใครอยากรู้วิธีคลายปม ไปหาอ่านเอาเองก็แล้วกัน ...









Create Date : 05 ธันวาคม 2554
Last Update : 6 ธันวาคม 2554 16:37:16 น. 1 comments
Counter : 1567 Pageviews.

 


โดย: เชิญจุติ วันที่: 6 ธันวาคม 2554 เวลา:1:17:36 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

vistapa
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]











ปีใหม่นี้ไม่มีของขวัญมาให้
มีก็แต่หัวใจดวงนี้
มามอบให้แด่เพื่อน..ที่แสนดี
ด้วยรักและหวังดีอย่างจริงใจ


ให้ร่ำรวยสวยฉลาดสมปรารถนา
ให้ชีวิตมีคุณค่าดังฝันใฝ่
ให้พ้นทุกข์พ้นโศกไร้โรคภัย
ตั้งแต่นี้ตลอดไปทุกท่านเทอญ...




Friends' blogs
[Add vistapa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.