BlogGang.com : : vistapa : ทางแยกวัดใจ

ทางแยกวัดใจ

ในชีวิตของคนเราที่เกิดมา มีเรื่องต่างๆมากมายเกิดขึ้น
ที่เราต้องตัดสินใจเลือกจะไปทางใดทางหนึ่ง
ถ้ามันเป็นทางเลือกที่เราเลือกไว้แล้วก็ไม่มีปัญหา
ถึงจะมีหลายทางให้เลือกก็เถอะ
มันก็เป็นทางที่เราคาดเดาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะไปทางนั้น
พอที่จะประเมินสถานการณ์ไว้ก่อนได้ว่าจะเจออะไรบ้าง

แต่ถ้าเป็นเรื่องอุบัติเหตุในชีวิตที่ไม่สามารถเดินไปทางเดิมได้
แล้วต้องเลือกทางใหม่ โดยไม่รู้ว่าเส้นทางใหม่เป็นยังไง
เราคงจะเกิดความลังเลใจว่า...จะไปทางไหนดี
ไปแล้วจะดีกว่ามั้ย แย่กว่าเดิมหรือเปล่า...
คงเป็นเรื่องที่ยุ่งยากใจมากพอสมควรในการตัดสินใจ
แต่ในชีวิตเราทุกคนต้องเคยผ่านการตัดสินใจ
ครั้งเล็กครั้งใหญ่หลายต่อหลายครั้งมาบ้างแล้ว เช่นว่า...

-จะเลือกเรียนสายไหนดี คณะไหนดี ทำงานอะไร มีอาชีพอะไร

-จะเลือกคบกับใคร เป็นแฟนกับใคร หรือคบกันแค่เพื่อน

-จะทำยังไงกับปัญหาครอบครัว พ่อแม่พี่น้อง สามีภรรยาและลูก

-จะเปลี่ยนงาน เปลี่ยนวิถีชีวิตใหม่ไปทางไหน

-ปัญหาเรื่องเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง เศรษฐกิจการเงิน

-ปัญหาสุขภาพกายและใจที่เรากำลังเผชิญอยู่

-ปัญหาอื่นๆ ที่ยุ่งยากกว่านั้น เช่น มีความสัมพันธ์กับใครคนใหม่
การหย่าร้าง เลิกรา หรือปัญหาโลกแตกทั้งหลายบรรดามีในโลกนี้

ในการตัดสินใจแต่ละครั้งของเรานั้น
ถ้าเป็นปัญหาแค่ตัวเราคนเดียว คงไม่ยากที่จะตัดสินใจ
ไปไหนไปกัน ตัวคนเดียว ...ลุยยยย...อะไรทำนองนั้น
แต่ถ้าปัญหาที่เกิดขึ้น ต้องพ่วงเอาคนอื่นมาเป็นองค์ประกอบด้วย
ผลกระทบต่อตัวเอง และต่อคนอื่นที่จะเกิดขึ้นตามมา
คงจะทำให้การตัดสินใจเหล่านั้น ต้องคิดให้ละเอียดขึ้นไปอีก
แต่สุดท้ายแล้วเราก็ต้องเลือกทางใดทางหนึ่งจนได้

และทางที่จะก้าวต่อไปจากนี้ จะเป็นทางแยกวัดใจของเรา
วัดการกระทำของเราว่า เราได้ใช้วิจารณญาณเพียงพอแล้วหรือยัง
เราใช้สมอง สติ ปัญญา หรืออารมณ์ชั่ววูบกันแน่
ในการตัดสินใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หรือไม่ อย่างไรด้วย
และเมื่อได้เลือกแล้ว หรือถูกบังคับให้ต้องเลือก
ก็คงต้อง keep walking ไปบนเส้นทางนั้นๆ
รวมถึงต้องรับผลของการตัดสินใจนั้นด้วย
จะถูกหรือผิด ดีหรือเลว ก็คือผลของการตัดสินใจของเราเอง
นี่ละ กรรมลิขิต หรือ ชีวิตลิขิตเองของมนุษย์ไงล่ะ

มีคำกล่าวว่า...

"ถ้าไม่อาจเลือกทางที่ดีที่สุดให้กับตัวเองได้
ก็จงทำให้ดีที่สุดบนทางที่ไม่ได้เลือก"

ถ้าเราคิดได้อย่างนี้ ความรู้สึกกดดัน ลังเลสงสัย ไม่แน่ใจ
ก็จะลดน้อยลง เพราะอย่างน้อยแม้การตัดสินใจ
หรือถูกบังคับให้ต้องเลือกทางนั้นจะเป็นไปอย่างไรก็ตาม
เราก็ต้องมีสติสัมปชัญญะมากพอที่จะทำให้ดีที่สุด
แม้ในสิ่งที่เราไม่ได้เลือก และเมื่อได้ทำดีที่สุดแล้ว
วิกฤตก็จะกลายเป็นโอกาสให้เราจนได้
และบางทีโอกาสที่เราได้เดินมาถึงทางแยกวัดใจของเรา
อาจเป็นทางสายใหม่ที่ทำให้ชีวิตเราก้าวไปในเส้นทางที่ดีกว่า
ที่จะต้องทนอยู่กับเส้นทางเดิมที่เราทิ้งมาก็ได้ ....

ทางแยก..วัดใจ จึงไม่ใช่สิ่งที่เลวร้ายจนเกินไปนัก
ถ้าเรามีมุมมองที่เป็นบวกให้กับทางเลือกใหม่ของเรา
และก็จะเป็นการวัดใจตัวเราเองด้วยว่า...
มีความเข้มแข็งอดทนมากน้อยแค่ไหนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต
ความทุกข์เหล่านี้จะเป็นเหมือนวัคซึนสร้างภูมิคุ้มกันในใจให้เรา
เวลาที่เราต้องตัดสินใจใหม่ครั้งต่อไป อีกครั้ง และอีกครั้ง..
ยังไงๆ ชีวิตก็เริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง...ที่เราคิดได้
จะไปกลัวอะไรกับชีวิตที่หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ล่ะ

จนแม้กระทั่งเส้นทางของการเกิดเป็นมนุษย์อย่างเราๆนี่ก็เหมือนกัน
ถึงเราจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราก็เลือกที่จะมีชีวิตที่ดีได้
และหากเราจะหยุดมองดูคนบนโลกใบนี้ซักนิด
ก็จะเห็นว่า ทุกคนล้วนแล้วแต่มีปัญหา มีความทุกข์ทั้งสิ้น
เพราะทุกข์เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติที่เป็นไปบนโลกใบนี้
และเกิดขึ้นกับมนุษย์และสัตว์ทุกตัวตน

ครั้นพระพุทธองค์ทรงอุบัติขึ้น...
ได้ทรงพบทางแห่งการพ้นทุกข์ที่จริงแท้และทรงประกาศให้โลกรู้
ถึงวันนี้เราจะยังมีสติปัญญาไม่มากพอ
ที่จะมองเห็นทางนั้นได้ตลอดสาย
แต่เราก็รู้ว่า มีคนนับไม่ถ้วนได้เดินไปถึงความพ้นทุกข์นั้นแล้ว
และอีกมากมายที่กำลังเดินอยู่บนเส้นทางสายนั้น
ทางแยกระหว่างโลกที่สวยงามในความคิดของเรา
กับทางที่มองไม่เห็นแต่จะนำเราไปสู่ความสุขได้อย่างแท้จริง
คุณอาจจะต้องตัดสินใจเลือกอีกครั้ง
และมันอาจจะเป็นครั้งเดียวและครั้งสุดท้ายในชีวิตที่ไม่แน่นอนนี้
ว่าคุณจะเลือก ทางแยกวัดใจเส้นทางใด....

เลือกที่จะทุกข์ต่อไป หรือว่า จบทุกข์....

เกิดมาบนโลกที่มีแต่ทุกข์อย่างนี้ ก็มีอะไรดีๆให้เราเลือกเหมือนกันนะ

Create Date : 09 เมษายน 2555

Last Update : 12 เมษายน 2555 18:11:39 น.

1 comments

Counter : 4137 Pageviews.

อนุโมทนาครับ ราตรีสวัสดิ์นะครับ

โดย: eronthai

วันที่: 9 เมษายน 2555 เวลา:1:03:29 น.