The Shawshank Redemption หนังสุนทรภู่

เมื่อดู The Shawshank Redemption แล้ว ห้ามใจไม่ได้เลยที่จะคิดถึงสำนวน "รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"



หนังพูดถึงผู้ชาย (Tim Robbins) ที่มีการศึกษา ฉลาด แต่กลับต้องตกอยู่ในความลำบากที่เกินความคาดหมาย นั่นคือ เค้าถูกกล่าวหาว่าฆาตกรรมภรรยา ซึ่งแน่นอนว่าเค้าไม่ได้ทำ

เค้าถูกส่งตัวไปเข้าคุก ด้วยบุคลิกที่ดูเหมือนจะเงียบๆ คิดอะไรอยู่ตลอดเวลา และเก็บตัว ทำให้เพื่อนในคุกทั้งหลายดูไม่ค่อยออกนักว่าเค้าเป็นยังไง มีเพื่อนคนหนึ่ง (Morgan Freeman) แอบสังเกตเค้าเงียบๆ และได้เข้ามาคุยจนเป็นเพื่อนกัน อารมณ์ประมาณพี่เลี้ยงในคุก

เค้าได้รู้จักกับพ่อค้าในคุก ที่ติดคุกอยู่ด้วยกันนี่ล่ะ แต่สามารถหาของที่คุณต้องการให้ได้ สิ่งหนึ่งที่เค้าสั่ง คือ เครื่องมือแกะสลักชิ้นเล็กๆ ที่เค้าใช้แกะหินที่เก็บจากลานออกกำลังกายเป็นรูปต่างๆ เป็นงานอดิเรก เค้าสั่งซื้อโปสเตอร์ดาราสาวสวยเซ็กซี่ ฯลฯ

คนที่อยู่ในคุก ต้องทำงานต่างๆ หลากหลาย และอยู่กับคนคุมทั้งหลายแทบทั้งวันทุกวัน ไม่เหมือนเพื่อนก็เหมือนเพื่อน ใครคุยอะไรกัน ทำอะไรกัน ต่างฝ่ายต่างรู้กันดี

จุดเปลี่ยนสถานภาพของพระเอก เริ่มขึ้นเมื่อเค้าและเพื่อนๆ ถูกให้ทาสีหลังคา ขณะที่กำลังทำอยู่นั้น เค้าได้ยิน 1 ในคนคุมสุดโหด ปรึกษากับเพื่อนเรื่องเสียภาษีที่แพงมาก เค้าเลยลองเสี่ยง โอกาสมาถึงแล้ว และเค้าก็คว้ามา เค้าทำใจกล้า เดินเข้าไปหาและพูดว่า มีวิธีที่จะลดภาษีของคุณได้

เพราะความรู้ของพระเอก เกี่ยวกับเรื่องการเงิน ภาษี ธนาคาร ทำให้คนคุมคล้อยตามและยอมทำตามที่พระเอกแนะนำ โดยจะให้ของตอบแทน พระเอกขอเป็นเบียร์เย็นๆ เลี้ยงเพื่อนของเค้าทุกคนที่เหนื่อยกับการทำงาน พระเอกได้รับการยอมรับจากเพื่อนและคนคุมในบ่ายวันนั้นพร้อมกันอย่างรวดเร็ว

ชื่อเสียงเรื่องความรู้ของพระเอกขจรขจาย จนไปเข้าหูพัสดีที่ใหญ่สุด พระเอกได้เลื่อนขั้น เดินเข้า-ออกห้องพัสดี เพื่อช่วยจัดการเรื่องการเงิน เอกสารส่วนตัวต่างๆ ของพัสดี นอกจากนี้ พระเอกยังได้เข้าไปช่วยเพื่อนชราวัยคุณตาที่ดูแลห้องสมุดในคุก มีส่วนช่วยผลักดันให้มีการเรียนแบบการศึกษานอกโรงเรียน มีส่วนช่วยให้เพื่อนในคุกเรียนจบแบบทางไกล ทำให้ชีวิตของคุณตาในห้องสมุดมีชีวิตชีวาขึ้น ชีวิตในคุกผ่านไปอย่างสุขสงบ

วันหนึ่ง คุณตาก็ถึงวันได้ออกจากคุก รัฐบาลมีการส่งเสริมด้วยการหางานให้ทำ เป็นพนักงานใส่สินค้าเข้าถุงในซุปเปอร์มาเก็ต และหาห้องพักให้อยู่ คุณตาออกจากคุกมาเพื่อพบว่าชีวิตของตัวเองไม่เหลือใคร ตัวเองต้องอยู่คนเดียว กินคนเดียว และนอนคนเดียว ในที่สุดจึงต้องผูกคอตาย ลาโลกไปในห้องพักของตัวเอง ข่าวไปเข้าหูพระเอกและเพื่อนในคุก ทุกคนเสียใจและบางคนไม่เข้าใจ เพราะสิ่งที่คนในคุกต้องการที่สุด คือ อิสรภาพ...หรือไม่ใช่

พระเอกยังดูเหมือนเดิม คือ เงียบๆ และเหมือนครุ่นคิดอะไรซักอย่าง และแล้วมันก็เกิดขึ้น

พระเอกหายไป!!! ในเช้าวันหนึ่ง ผู้คุมเห็นแต่คุกเปล่าๆ กระบวนการสำรวจห้องขัง สืบหา ตามหา ก็เกิดขึ้นราวพลิกแผ่นดิน

ก่อนไป พระเอกได้บอกเพื่อนไว้ว่า ถ้ามีโอกาสให้ไปสถานที่แห่งหนึ่ง เพื่อนยังจำได้ จนถึงวันที่ออกจากคุก เค้าจึงไปที่นั่น ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่ที่พระเอกบอกจุดไว้ เค้าจึงขุดดิน จนเจอกล่องที่ข้างในมีเงินและแผนที่ ซึ่งแน่นอน สองสิ่งนั้นนำพาเค้าไปเจอพระเอก มีชีวิตอยู่อย่างเรียบง่ายที่บ้านริมทะเล

ตอนที่คุณตาผูกคอตาย สุดแสนจะเศร้ามาก ไม่มีภาพไหนที่น่าเศร้าเท่ากับคนแก่ผมขาวที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวในโลกนี้อีกแล้ว พระเอกรู้เรื่องนี้ดี จึงได้สั่งให้เพื่อนไปหา (เราได้ยินเรื่องทำนองนี้มาก่อนที่คนที่ติดคุกมานานพอออกจากคุกก็ปรับตัวเข้าสังคมไม่ได้ จึงหาเรื่องทำความผิดอีกเพื่อจะได้กลับเข้าไปอยู่ในคุก)

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ทำให้เรานับถือสตีเฟ่น คิง อย่างแท้จริง นอกจากความฉลาดของมนุษย์ที่บันดาลสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้แล้ว กุญแจสำคัญที่ทำให้เกิดขึ้น คือ การไม่ถอดใจ หนังเฉลยให้เห็นว่าพระเอกคิดอยู่ตลอดเวลาว่าทำยังไงถึงจะได้ออกไปจากคุก รอคอย และมองหาจังหวะ ที่ในที่สุดพระเอกก็คว้ามันไว้ จากนั้น จึงใช้ความสามารถและความฉลาดให้เป็นประโยชน์ หนังเฉลยวิธีที่พระเอกหลบหนีออกมา ซึ่งเมื่อดูแล้ว ก็อึ้ง อึ้ง และอึ้ง ทั้งๆ ที่เอาใจช่วยพระเอกมาตลอดเพราะไม่อยากให้รับโทษที่ไม่ได้ทำ แต่ก็อึ้งไปหมดเมื่อเห็นวิธีที่พระเอกหนีออกไป


1 ในฉากสำคัญของเรื่องที่เฉลยวิธีหลบหนี

เราไม่เคยคิดว่าเราโง่ แต่พอดูหนังเรื่องนี้ก็ได้เรียนรู้ว่า เราอาจจะฉลาดแต่ไม่เฉลียว ถึงแม้จะเป็นหนังที่ดูตั้งแต่เด็กๆ และลองดูใหม่เพื่อทดสอบความประทับใจของตนเองที่มีต่อหนังเมื่อเวลาเปลี่ยนไป ก็พบว่าเรายังประทับใจเหมือนเดิม แถมยังเห็นอะไรมากกว่าเดิมซะอีก (หรือว่าเราโง่เท่าเดิม )

เป็นอีก 1 เรื่อง ที่ขอแนะนำอย่างสุดหัวใจว่า ดูเพื่อทดสอบความฉลาดเถอะค่ะ

Create Date : 23 พฤศจิกายน 2550 Last Update : 30 สิงหาคม 2552 3:15:38 น. Counter : 1324 Pageviews.		8 comments
Share Tweet