สิงหาคม 2550

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
I met the prince of north!!!
เราเพิ่งกลับจากโครงการหลวงดอยอ่างขาง ขึ้นไปเป็นครั้งที่ 2 และเป็นครั้งที่ประทับใจจัง (อีกแล้ว) ครั้งนี้ไปทำงาน ให้คนของในหลวง ถวายแด่ในหลวง เราขึ้นไปเพื่อจัดอบรมฟรีให้แก่พนักงานของโครงการหลวง โดยหลักสูตรของพี่อ่อนและท่านวิทยากรที่รักทุกท่านและน้องๆ คู่ใจของเรา ร่วมกันไปทำบุญครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียง ไปถึงคืนแรกได้เฝ้าฯ ท่านภี ม.จ.ภีศเดช รัชนี ที่ทรงเป็นที่รู้จักดีว่าทรงเป็น The Prince of North โดยครั้งนี้เป็นครั้งที่สองของเรา ได้พบผอ.โครงการ คณะคนทำงานหน้าเดิมๆ ที่มีใจเกินร้อยในการทำงานถวายในหลวง ครั้งนี้เราจะมีส่วนในการสนับสนุนการทำงานของคนเหล่านี้ให้ดียิ่งขึ้น การทำงานโดยรวมเป็นไปด้วยดี เราคงไม่ได้เห็นห้องประชุมที่ฉากหลังเป็นกำแพงกระจกมองออกไปเห็นสวนดอกไม้กับกะหล่ำประดับที่ไหนอีกแล้ว

การเดินทางเริ่มโดยที่ไฟลท์ถูกแคนเซิลเพราะวันรุ่งขึ้นจะเป็นการใช้สนามบินดอนเมืองครั้งแรก (อินเทรนด์ตลอดอยู่แล้วชีวิตชั้น ไปสุวรรณภูมิกลับดอนเมือง เดิ้นซ้า) เพราะถูกย้ายไปเครื่องการบินไทยจึงทำให้ได้ที่นั่งช่วงท้ายเครื่อง และด้วยความที่ไม่เคยนั่งมาก่อน ทุกคนก็ได้ประสบการณ์การส่ายเครื่องบินโดยถ้วนทั่ว น้องเหมียวเริ่มแสดงอาการเต็มที่คนแรก ตามมาด้วยยายกิ๊ฟ งานนี้กลายเป็นสาวๆ มีปัญหาแต่ผู้อาวุโสสดชื่นรื่นเริงทุกคน!!! น่ากลัวจริงๆ พอขึ้นไปก็ดึกแล้ว เฝ้าฯ ท่านภี ทานข้าวเย็น (ขอแนะนำเมนูของร้านที่สโมสรโครงการ ได้แก่ เห็ดหอมสดทอดกรอบเสิร์ฟกับซอสศรีราชา และผักทอดกรอบเสิร์ฟกับน้ำจิ้มซีฟู้ด แฮ่) จากนั้นก็ไปจัดห้องพัก ซึ่งได้รับอนุญาตให้พักที่ศูนย์ฝึกฯ ของโครงการเป็นกรณีพิเศษ กับบ้านปีกไม้ของสโมสร หลังจากดูๆ แลๆ แล้วก็ขยับขยายได้ว่า 3 สาวอาวุโสต่ำสุด (เราเป็น 1 ในนั้น เย้!) นอนบ้านปีกไม้ที่ดูคับแคบแต่หนาวกว่า ก่อนจะย้ายห้องน้องเหมียวที่ตอนแรกนอนที่ศูนย์ฝึกโทรมาว่าจะมาหาเลยถามทาง ไอ้เราด้วยความที่มันมืด ใช้วิธีจำความรู้สึกตอนอยู่ในรถว่ามันออกมาจากศูนย์ฝึกซักระยะแล้วถึงเลี้ยวขวาไปบ้านพัก ก็บอกเหมียวอย่างมั่นใจว่าเหมียวต้องเดินตรงไปก่อนค่อยเลี้ยวขวา กลายเป็นเราบอกให้มันเดินขึ้นเขาตอนสี่ทุ่มไปซะฉิบ!!! พอออกมาก็เห็นว่ามันไม่ใช่ กำลังกังวลว่าบอกทางน้องผิด มองขึ้นไปก็เจอเหมียวที่ตัวสั่นงันงก ห่อตัวเองในผ้าคลุมไหล่ เดินลงมาจากเขาที่มืดมากๆ มีแต่แสงธรรมชาติ ภาพของมันที่เดินลงเขามากลางดึกตอนอากาศเกือบ 10 องศาสุดยอดจริงๆ งานนี้แซวกันไปได้อีกนาน พอเช้าถึงรู้จากเจ้าหน้าที่ว่าเป็นทางไปหมู่บ้านกะเหรี่ยง เกือบทำให้น้องชั้นย้ายบ้านซะแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้นก็ไปสโมสร พบผู้อาวุโสทั้งหลายนั่งโจ้ข้าวต้มมื้อเช้ามีวิวเขาแบบพาโนรามาเป็นแบ็คกราวนด์ หัวเราะเสียงดังไปถึงหน้าสโมสร โอ๊ย ชื่นใจ คนแก่มีความสุข วันนี้จะมีพี่หนุ่มและจ๊อดกับจอยตามมาสร้างความบันเทิง เนื่องจากเราเคยขึ้นมาแล้วดังนั้นเดี๋ยวต้องจัด วิภาสาทัวร์ แบบย่อยๆ พาทุกคนถ่ายรูปในเวลาจำกัด จากนั้นช่วงบ่ายก็ทำงาน แล้วก็ลงเขาซึ่งต้องไปฟาดฟันกับไฟลท์ที่ถูกแคนเซิลอีกครั้ง เฮ้อ...

พี่อ่อนเล่าว่าผอ.โครงการให้มาถามว่าท่านภีอยากรู้ว่าทำไมพี่อ่อนถึงจัดอบรมฟรีนี้ ถึงขนาดสอบประวัติพวกเราก่อนไปว่าเป็นใคร เข้าไปเพื่อวัตถุประสงค์อะไร พี่อ่อนเลยตอบว่าไปซื้อกุหลาบที่โครงการหลวงสาขา ม.เกษตรแล้วเจอพนักงานพูดจาไม่ดี ด้วยความรักในหลวง กอปรกับเลือดอบรมพลุ่งพล่าน เลยติดต่อ สนง.ใหญ่นึกว่าจะได้จัดในกทม. ทางเค้าเลยให้มาจัดบนนี้ซะเลย งานนี้เลยมีสมาชิกโครงการหลวงภาคเหนือจากที่อื่นมาร่วมด้วย จากความเห็นที่พวกเขาเขียนก่อนจบงาน ทำให้รู้ว่าความเหนื่อยของเราไม่สูญเปล่า หากจะมีความดีใดๆ เกิดขึ้นจากการทำงานครั้งนี้ ขอยกให้พี่สาวและครอบครัวสุดที่รักของเรา และสุดยอดทีมงานที่อยู่กันมาเกือบสิบปี และเหนืออื่นใด

ขอถวายเป็นพระราชกุศลค่ะ



Create Date : 29 สิงหาคม 2550
Last Update : 29 สิงหาคม 2550 1:44:18 น.
Counter : 345 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

ViPaSa
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



รักครอบครัวเป็นชีวิตจิตใจ
ชอบดูหนังเป็นชีวิต
ชอบการ์ตูนเป็นจิตใจ
มีเพื่อนดีๆ มากมายช่วยสร้างชีวิต
มี Dark Chocolate ชิ้นนิดๆ สร้างความสุขให้จิตใจ
มีการท่องเที่ยวเพิ่มประสบการณ์ชีวิต
มีความรักที่ดีขึ้นทุกครั้งเพิ่มประสบการณ์จิตใจ มี...