ครูแบบ Mr.Holland ใน Mr.Holland's Opus

ด้วยความที่เป็นแฟนบล็อกคุณคนขับช้า ได้มีโอกาสเข้าไปอ่านรีวิวหนังอยู่บ่อยๆ จนเจอรีวิวของ Mr.Holland's Opus ซึ่งมองผ่านๆ ก็เลิกอ่านเพราะ...

อยากดู!!!

เราเลยไม่กล้าอ่านเพราะอยากใช้ความรู้สึกครั้งแรกรู้จักหนังเรื่องนี้ด้วยตัวเอง พอเห็นๆ ว่าเกี่ยวกับครู เลยยิ่งอยากดู คุณคนขับช้าทราบเรื่องเลยกรุณาส่งเรื่องนี้มาให้ขอยืม จึงขอเขียนรีวิวบ้างเพื่อสดุดีความดีของคุณคนขับช้ามา ณ ที่นี้ค่ะ



Mr.Holland เป็นนักดนตรีอาชีพ ที่ฝันจะได้แต่งบทเพลงดีๆ ซักเพลง เพื่อให้เป็นที่ระลึกของชีวิตไว้ในโลกใบนี้ จึงเลิกเล่นดนตรีที่โรงแรม และรับงานสอนเป็นครูดนตรี 4 ปี เพราะคิดว่าจะทำให้มีเวลาว่างมาแต่งเพลง ทั้งๆ ที่ไม่มีประสบการณ์ และแน่นอน สำหรับคนที่เป็นครู มันไม่ใช่เรื่องง่าย

ช่วงเริ่มต้นของชีวิตการเป็นครูนั้น เขาได้พบครูใหญ่ที่พูดจา ห้วน ตรง และเข้มงวด พบรองครูใหญ่ที่ปากเสีย พบเพื่อนครูที่สอนพละ ที่ได้บอกเค้าว่า การเป็นครูไม่เคยว่าง และพบนักเรียนในชั้น ที่ตอนนั้นเค้ามองว่าไม่ตั้งใจ ไม่กระตือรือร้น

เค้ามีเรื่องกลับมาบ่นที่บ้านให้ภรรยาฟัง พร้อมๆ กับที่แต่งเพลงที่เค้าฝัน

เวลาผ่านไป ครูใหญ่ได้บอกว่า ความเป็นครู คือ เป็นผู้สอน และ เป็นเข็มทิศ ของนักเรียน ซึ่งเค้าได้แต่สอน แต่ไม่ใช่เข็มทิศของใคร

เพื่อนครู ขอให้เค้ายื่นมือไปช่วยเหลือนักเรียนที่อาจจะถูกไล่ออกเพราะเรียนไม่ดี โดยการรับให้เข้าไปอยู่ในวงออเคสตร้า เค้าปฏิเสธเพราะเด็กคนนั้นเล่นดนตรีไม่เป็น เพื่อนครูเลยบอกว่าก็สอนสิ เค้าบอกว่าสอนไม่ได้ เพื่อนจึงบอกว่าถ้าอย่างนั้น เค้าก็เป็นครูที่ใช้ไม่ได้

เค้าโกรธมาก และคิดว่าตัวเองไม่เหมาะกับการเป็นครู แต่ด้วยความจำเป็นของครอบครัว เค้าจึงสอนต่อและยังคงแต่งเพลงที่เค้าฝัน

หลังจากนั้น เค้าพบว่าเค้าช่วยนักเรียนได้ เพียงเค้าเปลี่ยนแนวคิด วิธีสอน และให้ใจเด็กๆ เค้าพบว่าครูใหญ่เป็นคนที่ดีขึ้น ห้องเรียนของเค้าสนุกขึ้น นักเรียนตั้งใจเรียนขึ้น

แต่เค้ายังไม่พบตัวเอง

ครอบครัวของเค้าสมบูรณ์ขึ้นเพราะมีลูก ลูกของนักดนตรีอย่างเค้าที่ฟังเพลงตั้งแต่อยู่ในท้อง มีเปียโนตัวเล็กเป็นของเล่น กลายเป็นเด็กหูหนวก

เค้าใจสลาย ในฐานะพ่อที่เป็นนักดนตรีแล้ว มันคงจะเจ็บปวดที่ลูกชายของเค้าเองไม่รู้จักความไพเราะของเสียงดนตรี

เค้าปิดใจตัวเองกับลูกและครอบครัว และยังอยู่ในความฝันเรื่องแต่งเพลงต่อไป

เวลาผ่านไป ฮีโร่ในดวงใจของผู้รักเสียงเพลงหลายคนในโลกจากไป John Lennon ถูกแฟนเพลงทำร้ายจนเสียชีวิต เค้าใจสลายอีกครั้ง

ขณะที่เค้ายังเศร้าอยู่ เค้าได้ทะเลาะกับลูกชายที่โตเป็นหนุ่มวัยรุ่น ในทำนองว่าลูกไม่เข้าใจว่าจอห์น เลนน่อน สำคัญกับเค้า กับดนตรีของโลกยังไง และนั่น คือ วันสุดท้ายของความอดทนของลูกชาย และเป็นวันแรกที่เค้าถูกปลุก ให้พบตัวเอง

ลูกชายบอกว่า การที่เค้าหูหนวก ไม่ได้หมายความว่าเค้าโง่ ไม่ได้หมายความว่าเค้าไม่รู้จักดนตรี แต่พ่อกีดกันเค้าให้ออกจากโลกของตัวเอง

ในที่สุด คนเป็นพ่อจึงตื่น และพบตัวเองในฐานะพ่อ เค้าได้วางแผนจัดคอนเสิร์ตให้นักเรียนโรงเรียนคนหูหนวกและคนภายนอก เค้าใช้เทคนิคไฟกะพริบเพื่อให้คนหูหนวกเข้าใจดนตรี และร้องพร้อมใช้ภาษาใบ้ในเพลงที่สวยงามที่สุดในเรื่องนี้ คือ Beautiful Boy (Darling Boy) ของ John Lennon ครอบครัวของเค้ามีความสุขอีกครั้ง แต่เพลงในฝันของเค้าก็ยังไม่เสร็จ

เวลาผ่านไป จนถึงวันที่หายนะมาเยือนโรงเรียนนี้ เมื่อกรรมการสถานศึกษาตัดงบประมาณวิชาดนตรีและการแสดงออก เค้าในวัย 60 ปีโดนให้ออก

เค้าที่เคยจะสอนแค่ 4 ปี แต่กลายเป็น 30 ปี เค้าที่ฝันจะแต่งเพลงของโลก แต่ยังแต่งไม่เสร็จซักเพลงเพราะมัวแต่ดูแลเด็กๆ เค้าที่วันนี้ ได้เป็นเข็มทิศของใครๆ หลายคน ถูกให้เลิกทำสิ่งนั้น เค้าเก็บของ ครอบครัวมารับ ขณะที่กำลังจะออกจากโรงเรียน เค้าได้ยินเสียงจากห้องประชุม

ที่นั่น มีคนมากมายรอให้เกียรติเค้า ผู้ว่าการรัฐมาเป็นตัวแทนทุกคนกล่าวถึงเค้า เธอเคยเป็นอดีตลูกศิษย์ที่ไม่เอาไหนแต่ผ่านไปได้เพราะความช่วยเหลือของเค้า และเธอก็ได้บอกเค้าว่า

ในห้องนี้ ไม่มีชีวิตไหนที่เค้าไม่ได้สัมผัส
พวกเรา คือ โน้ตเพลงในเพลงที่เค้าแต่ง
พวกเรา คือ ดนตรีในชีวิตของเค้า

ในชีวิตหนึ่งของการเป็นครู จะต้องการอะไรมากกว่านี้อีก

ในฐานะของครูคนหนึ่ง ชอบคำพูดของนักเรียนที่เรียนไม่เก่งที่พูดกับครูว่า "ผมเป็นคนขยันและพยายาม เพียงแต่ผมไม่เก่งด้านวิชาการเท่านั้นเอง" คำพูดนี้เป็นตอนที่ Mr.Holland แสดงให้เค้ารู้สึกว่าเค้าน่าจะเรียนดนตรีไม่รอด เค้าเลยพูดประโยคนี้ ซึ่งถูกต้องที่สุด เด็กเรียนไม่เก่งไม่ใช่เด็กไม่ดี เด็กเรียนไม่เก่งไม่ใช่เด็กไม่ขยัน ประโยคนี้ครูควรจะพูดกับเด็ก ไม่ใช่เด็กบอกครู ทุกวันนี้เราบอกนักเรียนเราแบบนี้เสมอ

ยุคสมัยนั้นยังเป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลง เป็นช่วงที่ Rock n' Roll เหมือนมาจากนรกในความคิดของคนรุ่นเก่า แต่อย่างน้อย Mr.Holland ก็เข้าใจว่าถ้าเพื่อให้นักเรียน appreciate ใน music สมชื่อวิชาแล้ว เค้ายินดีใช้เพลงทุกชนิด

เพราะจะเขียนบล็อกนี้ เลยพบข้อมูลโดยบังเอิญว่า มีกองทุนชื่อ The Mr. Holland's Opus Foundation (MHOF) คอยให้ทุนนักเรียนดนตรีที่ขาดทุนทรัพย์ และมีการมอบรางวัลให้ครูดนตรีที่เป็นเข็มทิศให้นักเรียนแบบในหนังด้วย

ถึงประเทศไทยจะไม่มีรางวัลแบบนี้ แต่เราก็จะเป็นครูที่ดีสุดจิตสุดใจ ครูไม่เพียงแต่เป็นเข็มทิศให้เด็กๆ เท่านั้น เด็กๆ ก็เป็นเข็มทิศให้ครูเช่นกัน



ป.ล.ที่โดนใจอาร์ตตัวแม่อย่างเราอีกอย่าง คือ ฉากที่ครูพยายามสอนสาวน้อยผู้ไม่มีพรสวรรค์ด้านดนตรีแต่มาจากครอบครัวดนตรีให้เล่นดนตรี สาวเจ้าไม่สามารถเล่นได้ดีซักที จนในที่สุดครูต้องใช้ image training

ครูถามว่าเธอชอบอะไรในตัวเองมากที่สุด ลูกศิษย์ตอบว่า เส้นผม เพราะแม่บอกว่าสีผมสวยเหมือนพระอาทิตย์ยามเย็น (sunset)

ครูเลยบอกว่าให้หลับตา และ play sunset

โอยยย ได้ใจคนเพ้อเจ้ออย่างเราจริงๆ

Create Date : 18 พฤษภาคม 2552 Last Update : 21 พฤษภาคม 2553 23:51:25 น. Counter : 5946 Pageviews.		1 comments
Share Tweet