Learn to Live Your Purpose.
|
||||
เคยคิดไหมว่า ไม่ว่าจะประสบความสำเร็จแค่ไหน แต่ถ้า"อ้วน" ก็ถือว่า "ล้มเหลว" ? วันนี้อยู่ๆก็คิดอะไรได้ขึ้นมา ด้วยความที่เป็นคนท้วมอยู่พอสมควร เมื่อก่อนตอนอยู่เมืองไทยรู้สึกตลอดเลยว่า เรามันเป็นคนผิดปกติ ทำให้ไม่กล้าไปไหนมาไหน ไม่กล้านัดเจอเพื่อนเพราะกลัวโดนทักว่าอ้วน แต่พอไปอยู่อเมริกามา รู้สึกว่า self-image ของตัวเองดีขึ้นเยอะมากๆ เพราะพอเราไปอยู่ที่นู่น เรากลายเป็น "คนธรรมดา" ไม่เห็นจะอ้วนอะไรเท่าไหร่ จริงอยู่ที่ไม่ใช่หุ่นนางแบบ แต่ก็ไม่ได้ morbidly obese ก็แล้วกัน อยู่ๆไปก็รู้สึกว่าเราเองก็ดูดีใช้ได้อยู่ ทำให้กล้าแต่งตัวกล้าไปไหนมาไหน รู้สึกenjoyชีวิตเยอะมากๆ แต่พอกลับมาอยู่เมืองไทยไม่นาน ก็รู้สึกเหมือนเดิมอีกแล้ว รู้สึกว่าไม่ว่าจะทำอะไร ประสบความสำเร็จแค่ไหน แต่ถ้าเธอยังอ้วนอยู่ เธอก็failกับชีวิตนะ ไม่อยากจะโทษสังคมไทยหรอกนะคะ แต่มันทำให้เรารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ก็เป็นไปได้ว่า อาจจะเป็นเพราะเราโตมาที่นี่และความรู้สึกที่มันฝังมาตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วัยรุ่น เลยย้อนกลับมาได้ง่าย เมื่อเรากลับมาอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ เพราะสมองคนเรามักจะจำอะไรในcontextอยู่แล้ว คือไม่ได้จำอะไรโดดๆ มันจะมากับสิ่งแวดล้อมที่เกิดสิ่งนั้นๆเสมอ มันก็เป็นไปได้ที่พอกลับมาเจออะไรเดิมๆ ก็เลยทำให้ความรู้สึกเดิมๆกลับมาอีก แต่ที่สงสัยก็เพราะว่า เราเองก็ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร อย่างน้อยก็ได้จบปริญญาโทที่ฮาร์วาร์ด แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ บางทีก็รู้สึกกดดันว่า ทำไมเราถึงไม่ลดน้ำหนักซะที ขีวิตจะได้perfect เรียนก็ดี หน้าตาก็โอเค แต่ดันอ้วน ซะงั้น เคยคุยกับเพื่อนๆที่อเมริกาเหมือนกัน เรื่อง self-image ที่นู่นก็มีปัญหาไม่แพ้กันหรอก เพียงแต่คนที่เขาจะถือว่าอ้วนที่นั่น คือ อ้วนจริงๆ จากการศึกษาก็พบแล้วว่า การที่มีself-imageไม่ดี ยิ่งทำให้อ้วนมากขึ้นไปอีก ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองอ้วน ก็จะลด แต่พอลดไม่ได้ ก็จะเศร้า เศร้าแล้วก็กิน กลายเป็น vicious cycle ไป ยิ่งไปกว่านั้นงานวิจัยสรุปแล้วแน่นอนว่าการdietทำให้น้ำหนักขึ้น ในระยะยาว เราอ่านหนังสือและบทวิจัยเรื่องนี้มาพอสมควรจนเข้าใจว่า จริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องของwill power หรือ discipline อะไรทั้งนั้น คนทั่วไปมักเข้าใจว่า ถ้าแค่หักห้ามใจได้ ควบคุมตัวเองได้ ก็ต้องลดน้ำหนักได้ ที่เป็นอย่างนี้เพราะมันดูเหมือนเ็ป็น common sense แต่จากการศึกษาทางจิตวิทยาพบว่า มีคนที่ประสบความสำเร็จเยอะแยะที่มีปัญหาเรื่องนี้ ทั้งๆที่การที่จะประสบความสำเร็จในสาขานั้นๆ จำเป็นต้องมีdisciplineเป็นอย่างมาก ฉะนั้นมันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คนเหล่านี้จะมีdisciplineไม่พอที่จะลดน้ำหนัก ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคน ลงความเห็นว่า การมีปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวเป็นเพียง "อาการ" ของปัญหาที่อยู่ลึกกว่านั้น เคยอ่านเจอในหนังสือว่า จริงๆคนที่มีปัญหาเรื่องน้ำหนัก ก็เป็นเพราะมีบางอย่างในชีวิตที่มันขาดหายไป เลยพยายามหาอะไรมาทดแทน ซึ่งในบางคนก็อาจจะเป็นดื่มเหล้า สูบบุหรี่ แต่บางคนก็เป็นอาหาร สิ่งที่ทำให้เราไม่ชอบอย่างหนึ่งก็คือ ทำไมการมีปัญหาเรื่องน้ำหนักถึงเป็นที่ "ดูแคลน" ของคนในสังคม มากกว่าการมีปัญหา เรื่องติดเหล้า ติดบุหรี่ หรือ ติดเกมส์ซะอีก ทุกอย่างก็ล้วนแต่เป็น soothing mechanismของคนทั้งนั้น เพียงแต่ว่าเรื่องน้ำหนักมันอาจจะเห็นได้ชัดกว่าเท่านั้นเอง เคยได้คำเตือนมาว่า เวลาที่เราคิดจะลดน้ำหนัก ลองคิดดูก่อนนะว่า จริงๆเรากำลังเจอปัญหาอะไรอื่นในชีวิตอยู่หรือเปล่า เพราะคนที่มีself-imageที่ไม่ดี มักจะใช้ข้ออ้างเรื่องนี้ มาเป็นข้ออ้างเรื่องปัญหาอื่นในชีวิต เช่น เข้ากับเพื่อนไม่ได้ ก็คิดว่าเป็นเพราะเรื่องน้ำหนัก มีปัญหาที่ทำงานก็คิดว่าเพราะเรื่องนี้ด้วย อาจจะไม่ได้คิดว่าเป็นเพราะเรื่องน้ำหนักทั้งหมด แต่คิดว่ามีส่วน แล้วก็คิดที่จะลดน้ำหนัก เพราะเป็นเรื่องที่คุ้นเคยกว่า มันง่ายกว่าที่คิดว่าจะลดน้ำหนัก แทนที่จะคิดแก้ปัญหาเรื่องที่ทำงาน จริงไหมคะ? ตอนนี้ก็เลยพยายามมาคืดดูว่า มีส่วนไหนของชีวิตที่เรารู้สึกไม่พอใจหรือเปล่า เราถึงได้อยากลดน้ำหนัก เราคิดถึงวันที่อยู่ที่อเมริกาอย่างมีความสุขโดยไม่ต้องคืดว่า วันนี้ทำตัวดี เพราะกินน้อย วันนี้ทำตัวแย่เพราะกินเยอะ แต่อยู่อย่างไม่หมกมุ่นเรื่องอาหาร แล้วก็น้ำหนักไม่ขึ้นเลย ตอนนี้ก็ยังคงต้องพยายามคิดต่อไปว่า ชีวิตเรากำลังขาดอะไรอยู่กันแน่ อย่าไปแคร์ค่ะ ทำเท่าที่เราทำได้ เราเองลดน้ำหนักมาหลายพันรอบแล้ว555 ไม่สำเร็จซักที ตอนนี้คือปล่อยไม่ไปซีเรียสมัน หิวก็กินแต่เลือกอาหารนิดนึง ทานอาหารเช้ากลางวันเย็นตามเวลา มื้อเย็นอาจจะทานเร็วขึ้นและเปลี่ยนเป็นผลไม้หรือผัก มีเวลาก็ออกกำลังกาย แปลกตรงที่ว่าเวลาเราเคร่ดเครียดกับการลดน้ำหนัก ทำจริงจังแต่นน.ไม่ลงเลย ตอนนี้ปล่อยๆแล้วทำอย่างที่บอกไป บังเอิญว่าเมื่อวานต้องไปหาหมอที่รพ.ที่เคยไปเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว เทียบน้ำหนักกับวันนี้ น้ำหนักเราหายไป 6 Kg. ค่ะ
ปล.1 ไม่ได้ทานอาหารเสริมหรือเข้าคอร์สใดๆเลย ปล.2 อย่าปล่อยให้ตัวเองหิว เข้านอนเร็ว ตื่นเช้า เลือกทาน อย่าอด อย่างด เลี่ยงได้ก็เลี่ยง เลี่ยงไม่ได้ก็กินไปเลยค่ะ สุดท้ายอย่าไปเครียดถ้าทำไม่ได้ เพราะคุณได้ทำแล้ว เลือกตัวเองและรักตัวเองก็พอแล้วค่ะ หุ่นดีไม่ได้เป็นอะไรที่เป็นที่สุดของโลกนี้ มันมีอย่างอื่นในตัวเราที่ดีๆสามารถทำให้คนอื่นยอมรับได้ สู้ๆค่ะ โดย: CandyBee วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:15:44:12 น.
มาเพิ่มอีกนิดนึง บางทีในอาหารมันมีอะไรซ่อนอยู่ อาหารบางอย่างบางคนทานแล้วอ้วน บางคนทานแล้วน้ำหนักลง
สำหรับเรา ผลิตภัณฑ์นมทุกชนิด ไม่ว่าโยเกิร์ตหรือนมพร่องมันเนย มันทำให้เราอ้วน กินจืดๆก็อ้วน กินน้อยกินมาก อ้วนหมด สูตรโยเกิร์ตช่วยอะไรเราไม่ได้เลย แต่มะม่วงสุก กับกล้วยหอม เรากินเท่าไหร่น้ำหนักก็ไม่ขึ้นแถมลดลงมาอีก หน้ามะม่วงเรากินมะม่วงน้ำดอกไม้สุกวันละ 1 Kg.เป็นอย่างต่ำ ผลคือ น้ำหนักลดลง ในขณะที่เพื่อนเรากินแบบนี้ ไม่ถึงอาทิตย์ตัวหล่อนบานเเฉ่ง ทริคเล็กๆนะคะ อาจจะช่วยคุณได้ โดย: CandyBee วันที่: 25 สิงหาคม 2552 เวลา:15:49:57 น.
อืมมม อะไรบางอย่าง ในชีวิต เราขาดหายไปน๊ออออ คิดๆๆๆๆๆ
โดย: เผ็ดกลาง IP: 61.7.166.156 วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:11:16:56 น.
|
Vinter
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
Group Blog All Blog
Friends Blog Link |
|||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
แล้วแต่ว่า กินน้อยกินมาก
เมื่อก่อนก็จะรู้สึกไม่ค่อยแฮ้ปปี้กับตัวเองนัก เพราะคิดเสมอว่าตัวเองอ้วน(แต่ก็ไม่คิดจะลด หุหุ)
แต่มาตอนนี้รู้สึกสบายใจอยากกินก็กิน รู้สึกอึดอัดก็ลด
แต่ไม่โหมลดมาก
ไงก็เอาใจช่วยคุณ vinter นะคะ ความอ้วนไม่ใช่ปัญหาของชีวิต
แต่อาจจะมีปัญหากับสุขภาพเรา ถ้าอ้วนมากๆ แค่นั้นเองค่ะ
สู้ๆๆๆ จ้า