BlogGang.com : : sirivinit : ลูกไม้หล่นไกลต้น ปริญญ์ ทายาท"ศุภชัย พานิชภักดิ์" กับธุรกิจ เสิร์ฟเป็ด"โฟร์ซีซั่น"จากลอนดอน

ลูกไม้หล่นไกลต้น ปริญญ์ ทายาท"ศุภชัย พานิชภักดิ์" กับธุรกิจ เสิร์ฟเป็ด"โฟร์ซีซั่น"จากลอนดอน

ปริญญ์ พานิชภักดิ์

คอลัมน์ เฉลียงไอเดีย
โดย นันทนา แสงมิตร
มติชน 20 พ.ย.2554

ด้วยนิสัยส่วนตัวเป็นคนชอบทานและชอบชิมอาหาร กอปรกับเมื่อครั้งเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษยังได้รู้จักและสนิทสนมกับ ปีเตอร์ แลม ลูกชายเจ้าของร้านอาหารชื่อดัง เป็นที่รู้จักของคนไทยผู้พิศมัยการเดินทางไปท่องเที่ยวกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เป็นอย่างดี อย่างร้านเป็ดย่าง Four Season (โฟร์ ซีซั่น)

ปริญญ์ พานิชภักดิ์ และปีเตอร์ จึงฝันมาตลอดว่า วันหนึ่งจะนำร้านชื่อดังแห่งนี้มาเปิดตลาดในเมืองไทย

เพราะเห็นว่าเป็นที่ชื่นชอบของคนไทย ทุกครั้งที่ได้มีโอกาสเดินทางไปท่องเที่ยวลอนดอน ของฝากติดไม้ติดมือที่มีให้กับคนทางบ้านแบบขาดไม่ได้คือ เป็ดย่าง จากร้านอาหารชื่อดังแห่งนี้

และความฝัน ความตั้งใจของปริญญ์ก็เป็นจริง

เมื่อทุกอย่างพร้อมทั้งสถานการณ์ทางการเมืองที่เริ่มมีเสถียรภาพและสามารถหาพื้นที่ ซึ่งเป็นศูนย์การค้าทำเลดี อยู่ใจกลางเมืองอย่างศูนย์การค้าสยามพารากอน ร้านอาหารจีนชื่อดัง "โฟร์ ซีซั่น" จากลอนดอน ประเทศอังกฤษ จึงได้ฤกษ์เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

"ผมกับปีเตอร์คุยเรื่องโปรเจ็กต์ร้านอาหารโฟร์ ซีซั่น ในเมืองไทยร่วมกัน ตั้งแต่เมื่อ 5-6 ปีก่อนหน้านี้แล้ว แต่ตอนนั้นเรายังหาสถานที่สำหรับเปิดร้านไม่ได้

"และตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 เป็นต้นมา ในเมืองไทยเริ่มมีปัญหาเสถียรภาพทางการเมือง มีการประท้วง ทางหุ้นส่วนคือปีเตอร์ ซึ่งเป็นคนฮ่องกง เริ่มกังวลและเห็นว่าให้หยุดโปรเจ็กต์นี้ไว้ก่อน

"กระทั่งสถานการณ์ทางการเมืองไทยเริ่มมีเสถียร ภาพและเราสามารถตกลงเรื่องพื้นที่กับศูนย์การค้า สยามพารากอน จึงได้เปิดร้านนี้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีหุ้นส่วนหลัก คือผม ปีเตอร์ และเพื่อนคนไทยอีกหนึ่งคน"

กล่าวสำหรับปริญญ์ เป็นบุตรชายของ นางศสัย และ นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ อังค์ถัด (UNCTAD) และอดีตผูู้อำนวยการองค์การค้าโลก (ดับบลิวทีโอ)

ปริญญ์เดินทางไปใช้ชีวิตในต่างประเทศตอนอายุ 12 ปี ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้น ม.2 โรงเรียนเซนต์คาเบรียล ไปเรียนต่อที่โรงเรียน Charterhouse School (ชาร์เตอร์เฮ้าส์ สคูล) ในเมือง Surrey ประเทศอังกฤษ จากนั้นเรียนต่อปริญญาตรีทางด้านเศรษฐศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ London School of Economics (LSE)

หลังเรียนจบ ปริญญ์ทำงานในลอนดอนโดย เข้าทำงานกับธนาคารเมอร์ริลลินซ์ ย้ายมาทำงานกับธนาคารเอบีเอ็น แอมโร ด้านวานิชธนกิจอีก 3 ปี

แล้วจึงกลับมาเมืองไทยมาทำงานที่ดอยซ์แบงก์ ใน ตำแหน่งรองประธานจากนั้นย้ายไปทำงานในตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายตลาดเครดิต ลียองเนส์ ประเทศไทย ก่อนที่จะโยกไปทำงานที่เครดิต ลียองเนส์ (ฮ่องกง) ในตำแหน่ง ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการลงทุนภูมิภาคเอเชีย บริษัทเครดิต ลียองเนส์ (ฮ่องกง)

ปริญญ์เล่าให้ฟังว่า ความที่ได้ไปใช้ชีวิตในต่างประเทศตั้งแต่เยาว์วัย ทำให้เขาได้เดินทางท่องเที่ยวทั่วยุโรป พร้อมกับชิมอาหาร และความที่เป็นนักชิมชอบทานของอร่อย ช่วงเรียนมหาวิทยาลัยยังเคยฝึกงานหาประสบการณ์ กับร้านอาหารดัง "บลู เอ-เลเฟ่น" ที่ลอนดอน ในช่วงปิดเทอม

เรียนจบแล้วยังเคยไปทำงานด้านการบริหารให้กับไทยสแควร์ เครือข่ายร้านอาหารไทยที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอยู่ระยะหนึ่ง

และจุดสำคัญที่ทำให้นักชิมอย่างเขามีความใฝ่ฝันอยากมีร้านอาหารของตัวเอง คือการได้รู้จักสนิทสนมกับปีเตอร์ แลม เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยเดียวกันนั่นเอง

ปริญญ์บอกว่า ร้านอาหารจีนโฟร์ ซีซั่น ถือเป็นธุรกิจในเมืองไทยลำดับแรก ซึ่งทำควบคู่ไปกับงานประจำในตำแหน่ง ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการลงทุนภูมิภาคเอเชีย บริษัทเครดิต ลียองเนส์ (ฮ่องกง)

หน้าที่หลักของเขาในร้านโฟร์ ซีซั่น คือดูแลด้านการเงินและด้านการตลาด

โดยปริญญ์จะบินจากฮ่องกงมาดูแลร้านทุกอาทิตย์ ส่วนปีเตอร์ดูแลทางด้านโนฮาว การทำอาหารในร้าน หุ้นส่วนคนไทยอีกคนดูแลเรื่องการบริหารจัดการร้าน

แม้จะเป็นร้านสาขาโฟร์ ซีซั่น นอกอังกฤษในเมือง ไทยที่แรก แต่ปริญญ์บอกว่า ทุกอย่างได้ยึดมาตรฐานของโฟร์ ซีซั่น ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ทั้งเรื่องรสชาติ เมนู พ่อครัว และที่สำคัญคือเรื่องราคากำหนดราคาจำหน่ายสินค้าในราคาเดียวกับประเทศอังกฤษ

... ผ่านกลยุทธ์หลัก 4 อย่างที่ได้วางไว้คือ

1.สินค้าดี อาหารถูกปาก ใช้พ่อครัวซึ่งเป็นเชฟจากร้านโฟร์ ซีซั่น ประเทศอังกฤษ เป็นการเฉพาะ

2.ร้านอยู่ในทำเลดี สามารถเดินทางได้สะดวก และสื่อของศูนย์การค้าสยามพารากอนจะช่วยสร้างการรับรู้กับกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี

3.เน้นเรื่องการบริการ สร้างความแตกต่างจากร้านโฟร์ ซีซั่น ลอนดอน ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องการบริการจากค่าแรงที่สูงกว่าเมืองไทยหลายเท่าตัว

4.ราคาอาหารมีความสมเหตุสมผล สามารถเข้าถึงได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่เฉพาะลูกค้าในกลุ่มระดับบน เช่น ข้าวหน้าเป็ดจำหน่ายในราคาจานละประมาณ 200 บาท เป็ดย่างราคาตัวละประมาณ 1,100 บาท เท่ากับราคาที่จำหน่ายในร้านอาหารโฟร์ ซีซั่น ลอนดอน

นอกจากนี้ เมนูอาหารที่เป็นเมนูหลัก ยังคงมีให้บริการเหมือนกับลอนดอน ไม่ว่าจะเป็น กุ้งอบวุ้นเส้น, บะหมี่ผัด ราคาอาหารเฉลี่ยอยู่ที่ จานละ 150-200 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าร้านในลอนดอน

"ร้านของเราจะใช้มาตรฐานเดียวกับร้านโฟร์ ซีซั่น ในลอนดอนทุกอย่างโดยการนำเชฟมาจาก ลอนดอนเป็นการเฉพาะ น้ำซอสสูตรเดียวกับลอนดอน ที่สำคัญคือการย่างเป็ด โดยย่างให้ เนื้อนุ่ม หนังกรอบ

"แต่ได้มีการปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทย ให้มีความมันน้อยลง และให้เน้นเรื่องงานบริการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ คนไทยให้ความสำคัญเพื่อให้เกิดการบอกต่อแบบปากต่อปาก"

ก่อนจะมาเปิดร้านอาหารจีน โฟร์ ซีซั่น เป็นธุรกิจแรกในเมืองไทย ปริญญ์มีธุรกิจส่วนตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว เป็นงานทางด้านการจัดงานสัมมนา จัดอีเวนต์ เคยทำงานอีเวนต์ด้านจัดงานเทศกาลภาพยนตร์ให้กับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติ หรือไทยฟิล์ม เฟสติวัล ที่ประเทศอังกฤษ มาก่อน

เขาบอกว่า ตอนนี้ขอทดสอบตลาดก่อนว่า ร้านอาหารจีนแนวนี้จะได้รับการตอบรับจากตลาดดีแค่ไหน แต่ด้วยราคาที่เข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย และ 4 กลยุทธ์ที่วางไว้ ปริญญ์เชื่อว่า ร้านโฟร์ ซีซั่น สาขาแรก ในเมืองไทยจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เพราะ คนไทยรู้จักและคุ้นเคยกับร้านอาหารนี้อยู่แล้ว

ส่วนเป้าหมายธุรกิจต่อจากนี้ ปริญญ์วางเป้า เรื่องเน้นให้ความรู้ เกี่ยวกับการออม ทำให้คนไทยรู้จักการออม รู้จักการลงทุนในระยะยาว ทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และการลงทุนใน พันธบัตรรัฐบาลเพราะการออมจะเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศระยะยาว

ขอบคุณ
มติชนออนไลน์
คอลัมน์ เฉลียงไอเดีย
คุณนันทนา แสงมิตร

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2554

Last Update : 21 พฤศจิกายน 2554 8:19:15 น.

0 comments

Counter : 6570 Pageviews.